สวัสดีค่ะ เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเช้าค่ะ เรานอนเล่นกับน้องอยู่ในห้อง สักพักอาเข้ามาถามน้องว่าเงินที่ฝากไว้ในกระเป๋าหายไปไหน น้องบอกไม่รู้ ้ราเลยถามว่าเงินอะไร เท่าไหร่ เขาไม่ตอบ แล้วอาก็เดินออกไปจากห้อง เราก็เลยชวนน้องให้ออกไปข้างนอก เพื่อที่จะได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พอ้ราออกไปเขาก็บ่นเอาแต่พูดว่าเงินหายไป3000 ซึ่งเขาใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อที่แขวนไว้อีกที ย้อนกลับไปเมื่อหลายวันก่อน อาเราสั่งพัสดุมาเก็บปลายทาง 93.- ซึ่งเราไม่ได้อ่านชื่อ และไม่ได้ถามขนส่งว่าขิงใคร เพราะเราคิดว่าเป็นของเรา เพราะหนูเองก็สั่งของไปราคาใกล้เคียงกัน(94.-) เราเลยไม่เอ้ะใจ เลยรับและจ่ายเงินไป พอกละบเข้ามาในบ้านเราจะเเกะพัสดุ ไปอ่านชื่อสินค้าซึ่งไม่ใช่สินค้าที้ราสั่ง เราเลยไปดูชื่อผู้รับ สรุปเป็นชื่ออา เราก็เลยก็ให้น้องเราโทรหาอา(น้อง=หลานเป็นลูกของอา)เพื่อที่จะให้อาโอนค่าของให้เรา น้องก็บอกว่าอาฝากไว้เเล้วอยู่ในกระเป๋าเสื้อที่แขวนไว้ น้องก็ไปค้นในกระเป๋าแต่ไม่เจอ เราก็บอกว่าไม่เป็นไรรออากลับจากทำงานก็ได้ แล้วปู่กับย่าก็กลับมาบ้าน จังหวะน้องกำลังหาเงินพอดี น้องก็ควักกระเป๋าสีชมพูตัวต้นเรื่องวางลงพื้น เราก็ถามว่าเงินของใคร น้องก็บอกว่าเงินของปู่ เราก็ไม่ทราบเรื่องนี้ แล้วก็ไม่ทราบว่าค่าอะไร แถมปู่เองก็งงว่าค่าอะไร ซึ่งตอนนั้นหนูกับน้องก็เห็นเป็นอย่างเดียวกันว่า เงินในกระเป๋ามีแค่ 1000.- แล้วน้องก็เจอเงิน100.-ที่อาฝากไว้เป็นค่าของ ซึ่งน้องมีพฤติกรรมที่เหมือนไม่อยากให้เงินเรา เราก็เลยแซวกับย่าว่าน้องตุกติกไม่อยากให้เงิน แล้วกลังจาดนี้ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นค่ะ กลับมา ณ ปัจจุบัน หนูก็พึ่งมาทราบว่าเงิน3000.-คือค่าพรบ.ประกันรถ เขาจะเอาไปต่อประกัน ซึ่งอาเขาก็เล็งเป้ามาที่หนู เพราะหนูเองก็มีประวัติเรื่องขโมยเงิน แต่หนูก็สัญญาว่าจะไม่ทำอีกแล้ว แล้วซึ่งครั่งนี้หนูก็ไม่ได้ทำจริงๆ แต่พูดไปใครก็ไม่เชื่อ เขาก็ด่าหนูสารพัด บอกแต่หนูเอาไป หนูก็อธิบายไปแล้ว ว่าหนูอยู่แต่ในห้องแทบจะไม่ได้ออกไปข้างนอกเลย จนตอนนี้เขาก็ยังหาหลักฐาน เพราะว่าไม่ใช่แค่เงินที่หาย แต่มีกระเป๋าที่ใส่เงินก็หายไป เขาก็บอกว่ามันต้องซุกอยู่แถวนี้ เขาก็บอกว่าจะขึ้นไปหาบนห้องหนู หนูก็บริสุทธิ์ใจ เขาก็ขึ้นไปหาไม่เจอ แต่เขาก็ปักใจเชื่อไปแล้วว่าหนูขโทยไปจริงๆ เขาก็บอกว่าหนูอ่ะไม่ยอมรับหรอก หนูจะไปยอมรับทำไมในเมื่อหนูไม่ได้ขโมยไป จนตอนนี้ทุกคนในบ้านไม่มีใครเชื่อใจหนูแล้วค่ะ