สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
ข้อแรกเลย
- ขอให้เป็นข้อคิดแทนกำลังใจแล้วกันนะคะ บอกตรงๆ ว่าอ่านแล้วไม่รู้สึก positve
สิ่งที่กำลังจะพิมพ์ต่อจากนี้ เราพยายาม empathy ที่สุดแล้ว เราเห็นกระทู้คุณตั้งแต่ก่อนออกจากห้อง ขึ้น MRT มานั่งอ่านอีกรอบ นั่งรอข้าวพิมพ์ดราฟไว้ แล้วก็มาอ่านอีกรอบหลังกินเสร็จ เพราะเราไม่อยากทำร้ายจิตใจ เรา Empathy ที่สุดแล้วค่ะ โดยอยากให้มองในแง่ของโลกความจริงด้วย
ขอถามนะคะ
แล้วไอ้ที่เค้าว่าทำอะไรก็เจ๊ง มันจริงไหม? [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
คือพี่ต้องมองในแง่ความจริงด้วย ว่าพี่อายุตั้งเท่าไหร่ อายุ27 ใกล้จะ 30ปีแล้ว แต่ยังตั้งหลักชีวิตไม่ได้เลย กี่อย่างที่ทำมา มันล้มหมดเลยใช่ไหมคะ
แล้วพอเงินทุนพี่กระทบ มันเดือดร้อนใครคนแรก ก็คือ ผัว ใช่ไหมคะที่ใกล้ตัวที่สุด
ถามว่าพี่จะไปรู้สึกแย่กับเขามันถูกเหรอ เขาให้พี่ลอง แล้วล้ม ลองแล้วก็ล้มอีก แบบนี้ซ้ำๆ มันกระทบเขาจนเขาพูดความในใจไปไงว่าทำไรก็ไม่รุ่ง แล้วมันกระทบขนาดนั้น พี่ไม่ได้รู้สึกผิดต่อเขาเหรอคะ แต่สิ่งที่รู้สึกคือดันไปรู้สึกว่าผัวทำร้ายจิตใจ (ถ้ามันคือความจริงแล้วเขายังอุตส่าห์จะขอโทษทั้งที่ทำเงินเขาล้มไปด้วย นั่นเป็นผัวที่ดีแล้วนะ)
และถ้าพี่บอกว่ารู้สึกเสียใจที่สามีไม่ยอมร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วย อันนี้หนูถามซ้ำก่อนว่า แล้วที่ผ่านมาเคยร่วมแล้วใช่ไหม มันทุกข์มากกว่าสุข
ข้อต่อมามองในมุมพ่อแม่
อันนี้พี่ลองคิดนะ ลูกสะใภ้อายุจะ 30 แล้ว ลำพังแค่ล้มลุกคลุกคลานไม่ยืนขึ้นมาซักที ก็น่าห่วงแล้วเพราะมันเกี่ยวกับชีวิตลูกเขาด้วย ถูกไหมคะ? แล้วให้ยืมไปสามรอบ ยังจะไม่ประสบความสำเร็จอีก เจ้าของเงินเขาก็เลยถามเตือนสติ ว่าจะจบสิ้นเมื่อไหร่กัน จะต้องใช้เงินอีกกี่รอบถึงจะใช้ชีวิตได้
การที่เขามองว่าเอาลูกเขามาช่วยงานที่บ้าน พี่จะไปทำไรก็ไป เพราะเขามองว่าเขาลองปล่อยแล้ว แล้วพี่พาล้มมากี่รอบแล้ว เขาเป็นห่วงลูกเขามากกว่า พี่ไม่ลองคิดในแง่นี้เหรอคะ แล้วดันไปว่าเขางก เขาเคี่ยว ว่าเขายังไม่หย่านมแม่อีก
นี่คือเหตุผลที่เขียนๆลบๆหลายดราฟ เพราะไม่อยากทำร้ายจิตใจ แต่พิมพ์ยังไงมันก็ความรู้สึกนี้ จริงๆเราไม่ได้รู้จักกัน หนูข้ามไปก็ได้ แต่อ่านแล้วสงสาร พี่ไม่ได้มองมุมตัวเองเลย โทษฝั่งผัวไว้ก่อนเลย
แล้วที่บอกว่าคำนวณให้ดูว่ามันติดลบนู่นนี่นั่นแล้วสามีไม่อิน นั่นเพราะเค้ารู้สึกว่าบ้านเค้าคือคอมฟอร์ทโซนรึเปล่า เค้ารู้สึกว่าที่มันติดลบก็เพราะความอยากแต่ไม่สามารถพอของเราหรือเปล่า ถ้าเค้าอยู่บ้านเค้าไม่รู้สึกติดลบ แบบนี้หรือเปล่าคะ
ส่วนที่แม่เค้าช่วยมานี่มองว่า เค้าเวทนาในฐานะเมียลูกมั้ย หรือลูกเค้าไม่ได้อยากทำธุรกิจนั้นด้วย เค้าจะเอาแค่ลูกเค้าด้วยซ้ำ พอเห็นดิ้นรนแบบนั้นก็เลยเป็นลักษณะให้ยืมไหม ที่เข้าไปช่วยงานเขาอาจจะไม่ได้ต้องการ พี่บอกเองว่าเขามองว่าพี่จะไปหาไรทำก็หาไป ที่ออกทุนให้สามรอบเพราะเวทนาเมียลูกหรือเปล่า แต่ให้ยืมก็ไปไม่รอดอีก แล้วที่เอ่ยคำนั้นไปแปลว่าจะไปยืมอีกหรือเปล่า เขาเลยรู้สึกว่ามันจะจบสิ้นกันตอนไหน
ถามว่าหย่าดีไหม ก็ถ้าพี่ยังเป็นแบบนี้ ถ้าหนูเป็นแม่ผัวหนูก็คงอยากได้ยินคำนี้นะ นอกจากไม่ลุกแล้วยังไม่คิดในมุมที่ควรคิดอีก แต่ถ้าเป็นพี่ ตัดสินใจอีกทีก็ได้ค่ะ คิดว่าจะทำได้ไหม จะหาความรู้และสะสมเงินเพื่อลงทุนด้วยตัวเอง ไม่เดือดร้อนคนที่บ้านผัวได้มั้ย คิดว่าจะมีความรู้แน่นๆก่อนลงทุนเพื่อมันจะไม่เจ๊งอีกครั้ง อีกครั้ง อีกครั้ง อีกครั้ง และอีกครั้ง ฯลฯ ได้ไหม ไม่มีใครต้องแบกรับผลจากการตัดสินใจครั้งนี้นอกจากตัวพี่กับคนรอบข้าง
ถามว่าทำธุรกิจอะไรดีที่ไม่ล้ม
หนูว่าวัยนี้นะ หางานประจำทำก่อนไหม เก็บเงินเดือนก่อน ไว้มีความรู้ความสามารถมากพอ เงินทุนที่พอลงทุนเองได้ ค่อยไปหาทำธุรกิจเถอะนะ
ขอโทษถ้าบางคำพูดทำร้ายจิตใจนะคะ อย่างที่บอกเราไม่รู้จักกันมาก่อน ไม่ได้ใส่อารมณ์อะไรเลย แต่ก็สงสารเกินกว่าจะข้าม ไม่มีคนพูดแบบนี้พี่ก็จะโทษผัวโทษแม่ผัว แล้วก็ทำธุรกิจต่อ แล้วก็เจ๊งอีก แล้วคนรอบตัวก็ลำบากใจเป็นครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้ สงสารจริงๆ ขอให้พ้นสภาวะนี้ทั้งพี่ทั้งครอบครัวสามีนะคะ
- ขอให้เป็นข้อคิดแทนกำลังใจแล้วกันนะคะ บอกตรงๆ ว่าอ่านแล้วไม่รู้สึก positve
สิ่งที่กำลังจะพิมพ์ต่อจากนี้ เราพยายาม empathy ที่สุดแล้ว เราเห็นกระทู้คุณตั้งแต่ก่อนออกจากห้อง ขึ้น MRT มานั่งอ่านอีกรอบ นั่งรอข้าวพิมพ์ดราฟไว้ แล้วก็มาอ่านอีกรอบหลังกินเสร็จ เพราะเราไม่อยากทำร้ายจิตใจ เรา Empathy ที่สุดแล้วค่ะ โดยอยากให้มองในแง่ของโลกความจริงด้วย
ขอถามนะคะ
แล้วไอ้ที่เค้าว่าทำอะไรก็เจ๊ง มันจริงไหม? [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
คือพี่ต้องมองในแง่ความจริงด้วย ว่าพี่อายุตั้งเท่าไหร่ อายุ27 ใกล้จะ 30ปีแล้ว แต่ยังตั้งหลักชีวิตไม่ได้เลย กี่อย่างที่ทำมา มันล้มหมดเลยใช่ไหมคะ
แล้วพอเงินทุนพี่กระทบ มันเดือดร้อนใครคนแรก ก็คือ ผัว ใช่ไหมคะที่ใกล้ตัวที่สุด
ถามว่าพี่จะไปรู้สึกแย่กับเขามันถูกเหรอ เขาให้พี่ลอง แล้วล้ม ลองแล้วก็ล้มอีก แบบนี้ซ้ำๆ มันกระทบเขาจนเขาพูดความในใจไปไงว่าทำไรก็ไม่รุ่ง แล้วมันกระทบขนาดนั้น พี่ไม่ได้รู้สึกผิดต่อเขาเหรอคะ แต่สิ่งที่รู้สึกคือดันไปรู้สึกว่าผัวทำร้ายจิตใจ (ถ้ามันคือความจริงแล้วเขายังอุตส่าห์จะขอโทษทั้งที่ทำเงินเขาล้มไปด้วย นั่นเป็นผัวที่ดีแล้วนะ)
และถ้าพี่บอกว่ารู้สึกเสียใจที่สามีไม่ยอมร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วย อันนี้หนูถามซ้ำก่อนว่า แล้วที่ผ่านมาเคยร่วมแล้วใช่ไหม มันทุกข์มากกว่าสุข
ข้อต่อมามองในมุมพ่อแม่
อันนี้พี่ลองคิดนะ ลูกสะใภ้อายุจะ 30 แล้ว ลำพังแค่ล้มลุกคลุกคลานไม่ยืนขึ้นมาซักที ก็น่าห่วงแล้วเพราะมันเกี่ยวกับชีวิตลูกเขาด้วย ถูกไหมคะ? แล้วให้ยืมไปสามรอบ ยังจะไม่ประสบความสำเร็จอีก เจ้าของเงินเขาก็เลยถามเตือนสติ ว่าจะจบสิ้นเมื่อไหร่กัน จะต้องใช้เงินอีกกี่รอบถึงจะใช้ชีวิตได้
การที่เขามองว่าเอาลูกเขามาช่วยงานที่บ้าน พี่จะไปทำไรก็ไป เพราะเขามองว่าเขาลองปล่อยแล้ว แล้วพี่พาล้มมากี่รอบแล้ว เขาเป็นห่วงลูกเขามากกว่า พี่ไม่ลองคิดในแง่นี้เหรอคะ แล้วดันไปว่าเขางก เขาเคี่ยว ว่าเขายังไม่หย่านมแม่อีก
นี่คือเหตุผลที่เขียนๆลบๆหลายดราฟ เพราะไม่อยากทำร้ายจิตใจ แต่พิมพ์ยังไงมันก็ความรู้สึกนี้ จริงๆเราไม่ได้รู้จักกัน หนูข้ามไปก็ได้ แต่อ่านแล้วสงสาร พี่ไม่ได้มองมุมตัวเองเลย โทษฝั่งผัวไว้ก่อนเลย
แล้วที่บอกว่าคำนวณให้ดูว่ามันติดลบนู่นนี่นั่นแล้วสามีไม่อิน นั่นเพราะเค้ารู้สึกว่าบ้านเค้าคือคอมฟอร์ทโซนรึเปล่า เค้ารู้สึกว่าที่มันติดลบก็เพราะความอยากแต่ไม่สามารถพอของเราหรือเปล่า ถ้าเค้าอยู่บ้านเค้าไม่รู้สึกติดลบ แบบนี้หรือเปล่าคะ
ส่วนที่แม่เค้าช่วยมานี่มองว่า เค้าเวทนาในฐานะเมียลูกมั้ย หรือลูกเค้าไม่ได้อยากทำธุรกิจนั้นด้วย เค้าจะเอาแค่ลูกเค้าด้วยซ้ำ พอเห็นดิ้นรนแบบนั้นก็เลยเป็นลักษณะให้ยืมไหม ที่เข้าไปช่วยงานเขาอาจจะไม่ได้ต้องการ พี่บอกเองว่าเขามองว่าพี่จะไปหาไรทำก็หาไป ที่ออกทุนให้สามรอบเพราะเวทนาเมียลูกหรือเปล่า แต่ให้ยืมก็ไปไม่รอดอีก แล้วที่เอ่ยคำนั้นไปแปลว่าจะไปยืมอีกหรือเปล่า เขาเลยรู้สึกว่ามันจะจบสิ้นกันตอนไหน
ถามว่าหย่าดีไหม ก็ถ้าพี่ยังเป็นแบบนี้ ถ้าหนูเป็นแม่ผัวหนูก็คงอยากได้ยินคำนี้นะ นอกจากไม่ลุกแล้วยังไม่คิดในมุมที่ควรคิดอีก แต่ถ้าเป็นพี่ ตัดสินใจอีกทีก็ได้ค่ะ คิดว่าจะทำได้ไหม จะหาความรู้และสะสมเงินเพื่อลงทุนด้วยตัวเอง ไม่เดือดร้อนคนที่บ้านผัวได้มั้ย คิดว่าจะมีความรู้แน่นๆก่อนลงทุนเพื่อมันจะไม่เจ๊งอีกครั้ง อีกครั้ง อีกครั้ง อีกครั้ง และอีกครั้ง ฯลฯ ได้ไหม ไม่มีใครต้องแบกรับผลจากการตัดสินใจครั้งนี้นอกจากตัวพี่กับคนรอบข้าง
ถามว่าทำธุรกิจอะไรดีที่ไม่ล้ม
หนูว่าวัยนี้นะ หางานประจำทำก่อนไหม เก็บเงินเดือนก่อน ไว้มีความรู้ความสามารถมากพอ เงินทุนที่พอลงทุนเองได้ ค่อยไปหาทำธุรกิจเถอะนะ
ขอโทษถ้าบางคำพูดทำร้ายจิตใจนะคะ อย่างที่บอกเราไม่รู้จักกันมาก่อน ไม่ได้ใส่อารมณ์อะไรเลย แต่ก็สงสารเกินกว่าจะข้าม ไม่มีคนพูดแบบนี้พี่ก็จะโทษผัวโทษแม่ผัว แล้วก็ทำธุรกิจต่อ แล้วก็เจ๊งอีก แล้วคนรอบตัวก็ลำบากใจเป็นครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้ สงสารจริงๆ ขอให้พ้นสภาวะนี้ทั้งพี่ทั้งครอบครัวสามีนะคะ
แสดงความคิดเห็น
ปัญหาครอบครัวและความกลัวที่จะลงทุน (สามียังไม่หย่านมจากแม่เขา)
- อาจเป็นเพราะเงินทุนน้อย ถ้าหมดนี้อาจจะหมดเลย
- เจอสามีพูดที่แบบทำอะไรก็เจ้ง (เขาขอโทษแล้วแต่แผลในใจเราไม่หายมันยึดติดกับคำด่านี้มาก เสียใจไม่หาย)
-ปัญหาครอบครัวสามีอยากให้เขาช่วยกิจการขายของแม่เขา (เหมือนเอาความกตัญญูมาค้ำคอไว้ ค่าแรงเท่าไหร่ไม่สนขอแค่ได้อยู่กับแม่กับน้องเขา) แล้วเราไปหางานทำไหนก็แล้วแต่ ส่วนลูกก็ให้แม่เราเลี้ยง (พ่อแม่ลูกแตกกันไปคนละที่)
-เราอยากเริ่มทำธุรกิจอีกครั้งกับสามี แต่เหมือนสามีโดนกดดันจากทางบ้านเขาให้ทำธุรกิจที่บ้าน ทั้งที่ก่อนนั้น3-4ปีก็อยู่ที่นั่นและช่วยมาตลอด จนตอนเราท้องเรา สามีก็ช่วยแม่เขาทำงานเต็มที่ ไม่ได้ไปช่วยเราทำงานอื่นเลยแต่ไม่เคยได้เงินเดือนเลยและไม่เคยเรียกร้องที่จะเอา ได้อยู่บ้านฟรี กินข้าวฟรีตอนทำงาน ได้เงินเข้า7หลังเลิกงาน แค่นั้น
-เราคุยกันเข้าใจว่าแบบนี้เราไม่ไหวนะ มันไม่พอที่จะเลี้ยงครอบครัวเลย
-เราตกลงว่าจะไปขายของที่พัแถมทยา ลงมาดูที่ทาง เช่าหอเรียบร้อย สุดท้ายไม่ได้มากเพราะแม่ย่าขอให้อยู่ช่วยก่อนอีกหนึ่งเดือนรอนอกสาวออกจากงานมาช่วยแม่ เดี๋ยวค่าใช้จ่ายที่เสียไปจะคืนให้
-เราอยู่ต่อช่วยแก สุดท้ายเลยได้ลงทุนขายของและใช้ชีวิตอยู่นั่นต่อในเวลาแค่สามเดือนที่อยู่นั่น เรามีเงินก้อนสุดท้ายก็หมดทิ้งเฉยๆทองก็จำมาใช้งวดรถ สุดท้ายจนรีไฟแนนซ์
-แม่ย่าช่วยเหลือก่อนก่อนนั้น 3 งวด เราคิดว่าเป็นค่าแรงที่เรากับสามีช่วยทำงาน สุดท้ายแกมาถามว่ายืมไปเท่าไหร่แล้ว เราอึ้งสรุปเป็นแบบงง คือที่ทำช่วยบ้านเขาตรงนั้นไม่ค่าเลย
-สามีเข้าข้างแม่เขาเห็นดีงามตาทนั้นทั้งที่เราชี้แจงรายรับรายจ่ายให้ฟังแล้วว่ามันติดลบ เขาก็ยังอยากอยู่บ้านเขาต่อ
-ตอนนี้เราออกจากบ้านสามีมาหาน้องที่พัทยาอยากเริ่มทำธุรกิจใหม่ ขายของตามตลาด (ไม่รู้หรอกว่าจะปังหรือพัง)
-ตอนแรกสามีจะตามมาทีหลัง จนทะเลาะกันเพราะพูดว่าเขทำงานทำงานช่วยแม่เขา ให้เราสู้ไปคนเดียวเลย (สุดท้ายก็ดีกันเขาบอกจะมา แต่ใจเราไม่ไว้เขาแล้ว เพราะเปลี่ยนใจไปมา2-3รอบแล้ว เขาน่าจะโดนกดดันจากแม่เขาเหมือนกัน)
-ความรู้สึกตอนนี้คือชีวิตทำไมมันยากจัง ท้อแท้และสิ้งหวังมาก เหมือนสู้อยู่คนเดียว (บางครั้งเผลอคิดสั้นให้มันจบๆไป แต่ก็คิดถึงลูก คิดถึงพ่อแม่จะอยู่ยังไง)
-ตอนนี้คือยังไม่ได้ทำอะไรพักอยู่กับน้อง และคิดมากๆจนมาตั้งกระทู้
คำถาม
-ข้อแรกเลยขอกำลังใจค่ะ
-จะจัดการความรู้สึกแย่กับสามีมีได้ยังไงที่เขาไม่อยากร่วมทุกร่วมสุข ร่วมสร้างด้วยกัน รู้สึกแย่จนพาลเกลียดจนอยากโทษแม่ย่าและทุกคนในครอบครัวสามีที่มีส่วนเกี่ยวข้องอยากให้เราแยกกัน ทั้งที่จริงแล้วสามีคือคนตัดสินใจ
-ถ้าสามีไม่มาช่วยแล้วปล่อยเราสู้คนเดียว เราจะเลิกกับสามีเลยดีไหมแล้วคิดหาทางใหม่ในการทำอะไรที่ไม่เขา พึ่งพาตัวเองให้มากที่สุด เพราะตอนนี้หวังพึ่งสามีอยู่เพราะมีสามี
-ถ้าสามีมาช่วยเรา แล้วธุรกิจเจ้งอีกเราจะแบกรับความรู้สึกไหวไหม ไม่รู้เขาจะโทษเราอีกไหม
-ช่วยแนะนำธุรกิจที่เราทำตัวคนเดียวได้โดยไม่ต้องพึ่งใคร
ขอบคุณล่วงหน้าในทุกคำตอบนะคะ🙏🥹