บั
ญชีม้าปราบยากจริงๆ ใครๆก็หาซื้อได้
การซื้อขายบัญชีม้า ซิมม้า เกลื่อนโซเชียล ตั้งแต่ซื้อขาดพร้อมซิม 500 บาท จนถึงเช่าครั้งละ 20,000 บาท สวมใบหน้าโอนเงินให้เว็บพนัน
“บัญชีม้า” หรือบัญชีธนาคารที่ใช้ทำธุรกรรมผิดกฎหมาย อาชญากรรมออนไลน์หลายประเภท ยังคงเป็นปัญที่รัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งปราบปราสกัดกั้น ตั้งแต่มาตรการยืนยันตัวตนการถือครองซิมการ์ด ตั้งแต่ 6 เลขหมายขึ้นไป จนถึงการระงับธุรกรรมต้องสงสัยอัตโนมัติ หรือการใช้ไบโอเมตริกซ์ สแกนใบหน้าทุกครั้งที่มีการโอนเงินจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม การซื้อขายบัญชีม้า และซิมม้า ก็ยังเกิดขึ้นอย่างกว้างขวางและทำได้ง่ายขึ้น มีการซื้อขายกันผ่านโซเชียลมีเดียอย่างโจ่งครึ่ม เพียงแค่ค้นหาว่า “ซื้อขายบัญชี” ก็เจอ
ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” ได้แฝงตัวเข้าไปสังเกตพฤตการณ์ในกลุ่มซื้อขายบัญชีเหล่านั้น พบว่ามีการซื้อ ขาย เช่าบัญชีมา หลายรูปแบบ สนนราคาขึ้นอยู่กับการใช้งาน ตั้งแต่ 500 บาท 1000 บาท ถึง 20,000 บาท ซึ่งพอจะรวบรวมได้ดังนี้
การซื้อขายขาด
1.นายหน้า หาบัญชีม้าจำนวนมาก
กลุ่มนี้ตามหาบัญชีม้า และซิมม้าในราคาที่ถูก อยู่ในช่วง 500 – 700 บาท ตามประวัติความขาวสะอาดของเจ้าของบัญชี
ไม่ใช่แค่บัญชีธนาคาร แต่รวมไปถึงเบอร์ที่ใช้สำหรับรับ OTP และแอป E Wallet เช่น True Money, MaX ME และอื่นๆ
ผู้สื่อข่าวสังเกตเห็นโปรไฟล์ผู้ซื้อบางราย กระจายอยู่ในหลายกลุ่มโซเชียลมีเดีย จึงน่าจะเป็นนายหน้าซื้อบัญชีราคาถูกเพื่อนำไปขายต่อในราคาที่สูงขึ้น
2.หาซื้อบัญชีไปใช้งานเอง ทำยอดเงินกู้-ให้ชาวต่างชาติใช้
พฤติการณ์ลักษณะนี้มาตามหาบัญชีม้าและซิมการ์ดพร้อมใช้ครบเซ็ต ยืนยันตัวตนแล้ว
เมื่อเข้าไปสังเกตจะเห็นว่าผู้ตามหาซื้อบัญชีจำนวนหนึ่งเป็นโปรไฟล์ของแรงงานต่างชาติในประเทศไทย
บางส่วนเป็นคนไทยทำธุรกิจค้าขาย โทรศัพท์มือถือ หรือกำลังทำแคมเปญร่วมกับแบีนด์มือถือ หรือผลิตภัณฑ์การเงินกับธนาคา เช่น การกู้เงิน การฝากกินดอกเบี้ยออนไลน์
ราคาที่ซื้อขายจะค่อนข้างสูงอยู่ที่ราว 1,000-2,000 บาท
การเช่า – รับจ้างโอนเงินให้เว็บพนัน
เช่าใช้แอปธนาคาร เบอร์ โอนเงินเข้าออกเว็บพนันประเภทสลอต หวย และบาคาร่า โดยจะมีค่าจ้างรายครั้ง เฉลี่ยแล้วแต่ละเบอร์และแต่ละบัญชีอยู่ที่ราว 45 – 75 บาท
เช่าคนโอนเงินให้เว็บพนันครั้งละ 1.2 – 2 หมื่นบาท
เป็นการเช่าบัญชี ให้เว็บพนันโดยตรง
พฤติการณ์คือ ผู้รับจ้างจะต้องเดินทางไปที่บรืเวณชายแดน หรือข้ามฝั่งไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ปอยเปต
โดยผู้จ้างจะเสนอค่าเดินทาง ที่พัก อาหารฟรี ในระหว่างรอสแกนหน้า ระยะเวลา อยู่ 7-15วัน
เนื่องจาก ในเวลาที่เว็บพนันต้องการโอนเงินในจํานวน มากๆ จะต้องให้เจ้าของบัญชียืนยันตัวตนด้วยใบหน้า จึงต้องอยู่ใกล้ๆ เพื่อใช้ใบหน้า ค่าตอบแทนจึงค่อนข้างสูง แต่ก็เสี่ยงอันตรายเช่นกัน
ความน่ากังวลอีกอย่าง คือ ผู้เข้ามา “ขายบัญชี” มีเยาวชนจำหนึ่งที่เพิ่งจะทำบัญชีธนาคารครั้งแรก มาเสอนขายบัญชี ซิมการ์ด และประวัติส่วนตนกันโจ่งครึ่ม
พฤติการณ์เหล่านี้ สังเกตได้ด้วยการเข้าไปสอบถาม และศึกษา ฃรูปแบบซึ่งทำได้ง่ายเพราะมีแพร่หลายอยู่บนโซเชียลมีเดีย ยังไม่มีการทดลองซื้อขายบัญชีจริง
อย่างไรก็ตามการรับจ้างเปิดบัญชี หรือ ซื้อขายบัญชีธนาคาร มีความผิดตาม พ.ร.ก. มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566
โดยเจ้าของบัญชีม้า หรือเบอร์ม้า (ซิมม้า) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
รวมถึงผู้ที่เป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใด ๆ เพื่อให้มีการซื้อ ขาย ให้เช่า หรือให้ยืม บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ บัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ ตลอดจนเลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งลงทะเบียนผู้ใช้บริการในนามของบุคคลหนึ่งบุคคลใดแล้ว แต่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2-5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 200,000-500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
Cr.
https://www.prachachat.net/ict/news-1538913
ส่องพฤติการณ์ ซื้อ ขาย เช่า บัญชีม้า จาก 500 ถึง 20,000 บาท
การซื้อขายบัญชีม้า ซิมม้า เกลื่อนโซเชียล ตั้งแต่ซื้อขาดพร้อมซิม 500 บาท จนถึงเช่าครั้งละ 20,000 บาท สวมใบหน้าโอนเงินให้เว็บพนัน
“บัญชีม้า” หรือบัญชีธนาคารที่ใช้ทำธุรกรรมผิดกฎหมาย อาชญากรรมออนไลน์หลายประเภท ยังคงเป็นปัญที่รัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งปราบปราสกัดกั้น ตั้งแต่มาตรการยืนยันตัวตนการถือครองซิมการ์ด ตั้งแต่ 6 เลขหมายขึ้นไป จนถึงการระงับธุรกรรมต้องสงสัยอัตโนมัติ หรือการใช้ไบโอเมตริกซ์ สแกนใบหน้าทุกครั้งที่มีการโอนเงินจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม การซื้อขายบัญชีม้า และซิมม้า ก็ยังเกิดขึ้นอย่างกว้างขวางและทำได้ง่ายขึ้น มีการซื้อขายกันผ่านโซเชียลมีเดียอย่างโจ่งครึ่ม เพียงแค่ค้นหาว่า “ซื้อขายบัญชี” ก็เจอ
ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” ได้แฝงตัวเข้าไปสังเกตพฤตการณ์ในกลุ่มซื้อขายบัญชีเหล่านั้น พบว่ามีการซื้อ ขาย เช่าบัญชีมา หลายรูปแบบ สนนราคาขึ้นอยู่กับการใช้งาน ตั้งแต่ 500 บาท 1000 บาท ถึง 20,000 บาท ซึ่งพอจะรวบรวมได้ดังนี้
การซื้อขายขาด
1.นายหน้า หาบัญชีม้าจำนวนมาก
กลุ่มนี้ตามหาบัญชีม้า และซิมม้าในราคาที่ถูก อยู่ในช่วง 500 – 700 บาท ตามประวัติความขาวสะอาดของเจ้าของบัญชี
ไม่ใช่แค่บัญชีธนาคาร แต่รวมไปถึงเบอร์ที่ใช้สำหรับรับ OTP และแอป E Wallet เช่น True Money, MaX ME และอื่นๆ
ผู้สื่อข่าวสังเกตเห็นโปรไฟล์ผู้ซื้อบางราย กระจายอยู่ในหลายกลุ่มโซเชียลมีเดีย จึงน่าจะเป็นนายหน้าซื้อบัญชีราคาถูกเพื่อนำไปขายต่อในราคาที่สูงขึ้น
2.หาซื้อบัญชีไปใช้งานเอง ทำยอดเงินกู้-ให้ชาวต่างชาติใช้
พฤติการณ์ลักษณะนี้มาตามหาบัญชีม้าและซิมการ์ดพร้อมใช้ครบเซ็ต ยืนยันตัวตนแล้ว
เมื่อเข้าไปสังเกตจะเห็นว่าผู้ตามหาซื้อบัญชีจำนวนหนึ่งเป็นโปรไฟล์ของแรงงานต่างชาติในประเทศไทย
บางส่วนเป็นคนไทยทำธุรกิจค้าขาย โทรศัพท์มือถือ หรือกำลังทำแคมเปญร่วมกับแบีนด์มือถือ หรือผลิตภัณฑ์การเงินกับธนาคา เช่น การกู้เงิน การฝากกินดอกเบี้ยออนไลน์
ราคาที่ซื้อขายจะค่อนข้างสูงอยู่ที่ราว 1,000-2,000 บาท
การเช่า – รับจ้างโอนเงินให้เว็บพนัน
เช่าใช้แอปธนาคาร เบอร์ โอนเงินเข้าออกเว็บพนันประเภทสลอต หวย และบาคาร่า โดยจะมีค่าจ้างรายครั้ง เฉลี่ยแล้วแต่ละเบอร์และแต่ละบัญชีอยู่ที่ราว 45 – 75 บาท
เช่าคนโอนเงินให้เว็บพนันครั้งละ 1.2 – 2 หมื่นบาท
เป็นการเช่าบัญชี ให้เว็บพนันโดยตรง
พฤติการณ์คือ ผู้รับจ้างจะต้องเดินทางไปที่บรืเวณชายแดน หรือข้ามฝั่งไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ปอยเปต
โดยผู้จ้างจะเสนอค่าเดินทาง ที่พัก อาหารฟรี ในระหว่างรอสแกนหน้า ระยะเวลา อยู่ 7-15วัน
เนื่องจาก ในเวลาที่เว็บพนันต้องการโอนเงินในจํานวน มากๆ จะต้องให้เจ้าของบัญชียืนยันตัวตนด้วยใบหน้า จึงต้องอยู่ใกล้ๆ เพื่อใช้ใบหน้า ค่าตอบแทนจึงค่อนข้างสูง แต่ก็เสี่ยงอันตรายเช่นกัน
ความน่ากังวลอีกอย่าง คือ ผู้เข้ามา “ขายบัญชี” มีเยาวชนจำหนึ่งที่เพิ่งจะทำบัญชีธนาคารครั้งแรก มาเสอนขายบัญชี ซิมการ์ด และประวัติส่วนตนกันโจ่งครึ่ม
พฤติการณ์เหล่านี้ สังเกตได้ด้วยการเข้าไปสอบถาม และศึกษา ฃรูปแบบซึ่งทำได้ง่ายเพราะมีแพร่หลายอยู่บนโซเชียลมีเดีย ยังไม่มีการทดลองซื้อขายบัญชีจริง
อย่างไรก็ตามการรับจ้างเปิดบัญชี หรือ ซื้อขายบัญชีธนาคาร มีความผิดตาม พ.ร.ก. มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566
โดยเจ้าของบัญชีม้า หรือเบอร์ม้า (ซิมม้า) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
รวมถึงผู้ที่เป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใด ๆ เพื่อให้มีการซื้อ ขาย ให้เช่า หรือให้ยืม บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ บัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ ตลอดจนเลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งลงทะเบียนผู้ใช้บริการในนามของบุคคลหนึ่งบุคคลใดแล้ว แต่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2-5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 200,000-500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
Cr. https://www.prachachat.net/ict/news-1538913