ความสำพันธ์หรือความรู้สึกที่โดนกระทำราวกับแก้วน้ำที่แตกไป

      คำกล่าวที่ว่า ถ้าเปลี่ยนความรู้สึกดั่งแก้วนั้น แก้วที่แตกหักไม่สามารถกลับคืนสู่สภาพเดิม คนเราก็เช่นกันเมื่อโดนกระทำอะไรบางอย่างทางร่างกายหรือจิตใจ นำมาซึ้งความเจ็บช้ำถึงระดับฝั่งใจเปรียบกับแก้วที่แตกไปแล้ว มันไม่สามารถกลับมาเหมือนเดิมได้เลย คำถามคือ คำเปรียบเปรยนี้มันถูกจริงๆเช่นนั้นหรือ
    คำตอบของคำถามนี้ มันถูกต้องแล้วละครับ เมื่อเราโดนกระทำอะไรที่เราไม่ชอบ ก็ไม่แปลกที่จะเกลียด มันคงจะเป็นสัญชาตญาณการเอาตัวรอดของเราว่าสิ่งนี้ที่เคยทำเราเสียความรู้สึก ทำร้ายเราทางด้านจิตใจ ก็ควรจะหลีกหนี เพื่อที่จะมีชิวิตรอดและไม่โดนมันทำร้ายอีก ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นอะไรก็ตาม แต่ว่านะครับคำเปรียบเปรยนี้มันยังไม่สมบูรณ์ เพราะสิ่งนั้นมันคือสัญชาตณาณ ซึ้งบงบอกว่ามันคือความรู้สึกและความรู้สึกก็คืออารมณ์ ข่าวดีสำหรับมนุษย์ผู้คิดว่าตนใช้เหตุผลในการแก้ปัญหา น่าจะมีทางออกนะครับ "จงเป็นแก้วที่ราวและเปลี่ยนรอยราวนั้นให้แตก ยอมรับความจริง ยอมรับซึ้งปัญหา จงทำให้แก้วใบนั้นแตกสลาย จนสุดท้ายได้หลอมแก้วใบนั้นขึ้นมาใหม่อีกครั้ง ให้แก้วใบนั้นแข็งแรงและสวยงามกว่าเดิม และไม่ทำมันแตกอีก "

    ผมคิดว่าเราเกือบทุกคนต้องมีบ้างแหละ ที่พบเจอกับความสัมพัทธ์แย่ๆ บางครั้งผมเองก็รู้สึกแตกแยก รู้สึกไม่เป็นที่ต้องการของคนในกลุ่ม จากที่เคยสนิทกับเป็นไม่สนิท ทำให้เรามานั่งทบทวนตัวเองอยู่หลายครั้งว่าตัวเราผิดพลาดตรงไหน ไม่ดีตรงไหน พยามแก้ให้เราดีแต่กับแย่ลงกว่าเดิม มันคงเป็นสมการที่อาจเข้าใจในด้านเหตุผล แต่ด้านอารมณ์กับเป็นศูนย์ สุดท้ายผมก็เลือกจะหนีทุกครั้งไป 
     สิ่งสำคัญที่สุด ถ้าคุณกำลังหนีปัญหาแบบนี้ แล้วมานั่งโทษตัวเองที่เป็นคนอ่อนแอ ผมอยากให้คุณรู้ว่า เราก็แค่หนีมาเอง เรากำลังทำตามสัญชาตญาณเพื่อมีชีวิตอยู่ มันกำลังบงบอกว่าคุณต้องการมีชีวิต ในวันนี้เราแค่ไม่เข้าใจปัญหาและสักวันเราอาจจะเข้าใจมันก็ได้ อย่างน้อยเราก็รู้ว่ามันคือปัญหาก็ดีมากแล้ว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่