พุทธบริษัทที่ยังมีความเห็นผิด (มิจฉาทิฏฐิ) ว่า จิตเที่ยง มีอัตตา ไม่ใช่ฐานะที่จะเป็นอริยะบุคคล

บทนำ ในการเรียนรู้คำสอนของพระตถาคตที่ถูกต้องนั้น ควรเรียนจากพระไตรปิฎก
          แม้บางท่านที่เรียนธรรมจากพระอาจารย์ ๆ รูปนั้นก็ควรมีคุณสมบัติกัลยาณมิตร
          กัลยาณมิตร อ่านที่นี่ เลือกอาจารย์ที่เป็นกัลยาณมิตร เรียนรู้ปริยัติพอเหมาะแก่การปฏิบัติ ตรวจสอบความถูกต้องธรรมจากพระไตรปิฎก
       

ผู้เรียน ผู้ปฏิบัติ ควรรู้
          เมื่อเรียนธรรม (ปริยัติ) แล้ว ควรตรวจสอบความถูกต้องของธรรมที่ได้เรียนมานั้นว่าถูกต้องหรือไม่ เราเข้าใจถูกต้องหรือไม่ 
          เช่น ถ้าใครก็ตามสอนว่า สิ่งใดสิ่งหนึ่ง สังขารธรรมไร ๆ ว่าเป็นอัตตา หรือ
                 เรามีความเห็นว่า สิ่งใดสิ่งหนึ่ง สังขารธรรมไร ๆ ว่าเป็นอัตตา
                 นั่นคือ ขัดแย้งกับคำสอนของพระตถาคต 
                 กล่าวคือ พระตถาคตแสดงธรรม มาใน พหุธาตุกสูตร ว่า 
                 [๑๒๗] “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ด้วยเหตุมีประมาณเท่าไร 
                 จึงควรเรียกว่า ‘ภิกษุผู้ฉลาดในฐานะและอฐานะ”
                “อานนท์ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ รู้ชัดว่า ‘เป็นไปไม่ได้- ที่บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิ
                พึงยึดถือสังขารไร ๆ โดยความเป็นสภาวะเที่ยง
                แต่เป็นไปได้- ที่ปุถุชน- พึงยึดถือสังขารไรๆ โดยความเป็นสภาวะเที่ยง’

                รู้ชัดว่า ‘เป็นไปไม่ได้ที่บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิพึงยึดถือสังขารไรๆ โดยความเป็นสุข 
                แต่เป็นไปได้ที่ปุถุชนพึงยึดถือสังขารไรๆ โดยความเป็นสุข’

                รู้ชัดว่า ‘เป็นไปไม่ได้ที่บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิพึงยึดถือธรรมไรๆ โดยความเป็นอัตตา 
                แต่เป็นไปได้ที่ปุถุชนพึงยึดถือธรรมไร ๆ โดยความเป็นอัตตา

                อ่านเพิ่มเติมที่นี่
                https://84000.org/tipitaka/pitaka_item/m_name.php?name=%BE%CB%D8%B8%D2%B5%D8&book=9&bookZ=33

ผู้ปฏิบัติควรรู้ อัสสาทสูตร ว่าด้วยอัสสาททิฏฐิ
                 https://ppantip.com/topic/42624990/comment14

               ปัจจุบัน มีลัทธิอาจารย์ที่สอนธรรมผิด มีมิจฉาทิฏฐิ ต่างก็อ้างว่าของตนถูก   
               พุทธศาสนิกชนจำนวนมากเข้าไปหา เข้าไปนั่งใกล้ 
               ได้ฟังปริยัติจากอาจารย์เหล่านั้นแล้ว ก็รวบเอายึดถือเอา ยึดติด แล้วยากแก่การปลดเปลื้อง

               น่าเป็นห่วงเรื่องการยึดถืออาจาร 
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
                ตัวอย่าง ทิฏฐิที่เรียกว่า สัสสตทิฏฐิมาในพรหมชาลสูตร

                ....เพราะการได้บรรลุคุณวิเศษนี้ เราจึงรู้อาการที่อัตตาและโลกเที่ยง ยั่งยืน
                ตั้งมั่นอยู่ดุจยอดภูเขาดุจเสาระเนียด
                ส่วนสัตว์เหล่านั้นย่อมแล่นไป ท่องเที่ยวไป จุติและเกิด แต่มีสิ่งที่เที่ยงอยู่แน่’

                อ่านเพิ่มเติม คลิกที่นี่==>  สัสสตวาทะ ๔

                ทบทวนธรรมที่ได้เรียนได้ฟังมา 
                พระตถาคตแสดงธรรมไว้แล้วว่า เมื่อใดที่ได้ฟังธรรมจากภิกษุหรือจากใครก็ตาม ก็ให้ตรวจสอบความถูกต้องของธรรมนั้นโดยใช้หลักมหาปเทส ๔

มหาปเทส ๔ คลิกที่นี่ 
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

        ดังนั้นแล้ว ถ้าพุทธบริษัทท่านใดก็ตาม
                       ที่ยังมีความเห็นผิดว่าจิตเที่ยง มีอัตตา 

                       เช่น มีทิฏฐิว่า วิญญาณแล่นไป จิตดวงเดิมไปเกิดใหม่ มีสัตว์ประหลาดละออกจากกายเดิมไปเกาะกายใหม่
                       พวกที่มีความเห็นเช่นนี้ แม้ว่า พวกเขาจะเชื่อว่า  โลกหน้ามี (ความเชื่อนี้เรียกว่า มีสัมมาทิฏฐิบางประการ)
                       แต่พวกเขาเป็นสัสสตทิฏฐิ ยังเป็นมิจฉาทิฏฐิ
                       จึงไม่ใช่ฐานะที่จะเป็นอริยะบุคคล ควรสลัดทิฏฐิเหล่านี้ออกเสีย ควรปลดเปลื้องทิฏฐิเหล่านี้ออกเสีย

        ขอเชิญสมาชิก แสดงความคิดเห็น อิงอรรถ อิงธรรม อิงวินัย อิงหลักฐาน อิงพระไตรปิฎก 
     
        ขอความเจริญในธรรม จงมีแด่ทุกท่านที่มีสัมมาทิฏฐิในการเรียนรู้ศึกษา ด้วยเทอญ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่