“จุรินทร์” อภิปราย ครม.เศรษฐา รมว.คลัง โลกเซ็ง
.
(3 เม.ย. 67) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายในการการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 32 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ว่า
.
แม้พระราชบัญญัติงบประมาณ ปี 67 ยังไม่ผ่านสภาหรือยังไม่บังคับใช้ แต่รัฐบาลก็สามารถใช้งบประมาณปี 67 ไปพลางก่อน ได้ตามพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ 2561 เพราะฉะนั้น ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 61 - 31 มีนาคม 6 เดือนเต็ม สำนักงบจัดสรรงบให้รัฐบาล 1.837 ล้านล้านบาท รัฐบาลใช้ไปแล้ว 1.524 ล้านล้านบาท คิดเป็น 83% ของวงเงินที่สำนักงบประมาณจัดสรรให้
.
นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า 7 เดือน รัฐบาลชุดนี้ใช้เงินไปแล้วมากมายแต่ยังสอบตก เพราะรัฐบาลชุดนี้ มัวแต่ใช้การตลาดนำการบริหาร เอาแต่สร้างภาพ แต่หลังภาพทุกวงการลงมติเกือบเป็นเอกฉันท์ว่ายังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน 6 เดือนนายกรัฐมนตรี บินไปบินมา อ้างว่า 14 ประเทศกับ 1 เขตเศรษฐกิจคือฮ่องกง เป็นนายก 180 วัน ไปอยู่เมืองนอก 52 วัน
.
ขณะที่ยังมีคนถามบินไปทำการตลาดหรือไปทำการตลก เพราะอยู่เมืองไทย ประกาศลั่นโลกเศรษฐกิจไทยกำลังวิกฤต แต่พอถึงเมืองนอกไปเที่ยวเชิญเขามาลงทุนในประเทศ มหาเศรษฐีโลกที่ไหน ที่จะป่วยถึงขั้นเอาเงินเป็นแสนล้านมาลงทุนในประเทศที่เศรษฐกิจกำลังวิกฤต นายกรัฐมนตรีพยายามแสดงบทบาทเซลส์แมน แต่คำถาม คือ ในฐานะเซลส์แมนประเทศ Closed Sale ได้บ้างหรือยัง ปิดการขายได้บ้างหรือยัง หรือมีแต่สัญญาจะซื้อจะขายกับดอกไม้สายลม
.
นายกรัฐมนตรี พยายามแสดงบทบาทเซลส์แมน แถลงข่าวใหญ่โตที่ทำเนียบผลการ Road Show ของนายกรัฐมนตรี 6 เดือนเศษ 14 ประเทศ คาดมีเม็ดงินลงทุน 558,000 ล้านบาทใน 10 ปี ไม่รู้ว่าที่คาดหรือฝันนั้นจะเป็นจริงหรือฝันทิพย์
.
ทั้งนี้นายจุรินทร์ ยังหยิบยกกรณีเรื่องที่อ้างว่าเจรจา Tomorrowland รัฐบาลโพสต์ผ่านเว็บทางการของรัฐบาลไทยบอกว่า Tomorrowland ผู้จัดเทศกาลดนตรีระดับโลกจะมาจัดเทศกาลดนตรีที่เมืองไทยปี 2569 ติดต่อกัน 10 ปี แต่โป๊ะแตก โฆษกของเขาออกมาแถลงชัดเจนว่า เขายังไม่ได้ยืนยันเรื่องนี้ว่าจะมาจัดที่เมืองไทย และยังมีอะไรที่ต้องพิจารณาอีกมาก
.
อฝากนายกรัฐมนตรีว่า คนไทยเขาอยากได้ของจริงมากกว่าการตลาด อะไรที่ยังไม่ใช่ ยังไม่ต้องตีปี๊บก็ได้ มันเสียเหลี่ยม พูดอะไรที่มันยังไม่ใช่ เขาจับได้ คนไทยอยากเห็นนายกรัฐมนตรี บินเหมือนเหยี่ยวมากกว่าแมลงวัน ที่บินทั้งวันแต่ไม่ได้อะไร นอกจากได้สร้างภาพว่าบินโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย แต่เหยี่ยวบินทีไรไม่พลาดเป้า
.
นายจุรินทร์ ยังระบุว่า 7 เดือนรัฐบาลชุดนี้ มีปัญหาในทุกมิติ ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคม การบริหาร
.
ปัญหาที่ 1 “ก้าวไม่พ้นคนชอบอวดบารมี”
.
ตราบใดที่รัฐบาลนี้ ยังก้าวไม่พ้นคนชอบอวดบารมี รัฐบาลนี้จะมีปัญหาทางการเมืองตลอดไป รัฐบาลอย่าไปโทษคนอื่นว่าทำไมก้าวไม่พ้นบุคคลคนนี้เสียที ที่ก้าวไม่พ้น คือ นายกรัฐมนตรี หัวหน้าฝ่ายบริหารของประเทศไทย นั่งรถประจำตำแหน่ง ไปถึงบ้าน แถมออกมาให้สัมภาษณ์แถลงด้วยว่ายินดีเปิดโอกาสให้รัฐมนตรีไปเยี่ยมคารวะได้ แถมยังบอกว่าถ้ามีโอกาสจะไปขอคำปรึกษา อย่างนี้ก้าวข้ามไหม
.
ปัญหาที่ 2 “นายกรัฐมนตรีหลายคน”
.
เป็นปัญหาทางการเมือง ปัญหา “นายกรัฐมนตรีหลายคน” บางคนบอกแค่วาทกรรม นี่คือ ปัญหาใหญ่ทางการเมืองอีกปัญหา ที่รัฐบาลเศรษฐากำลังเผชิญ เพราะว่า มันสะท้อนความไม่เชื่อมั่นและสะท้อนการด้อยค่านายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญ ทำให้คนเกิดความเข้าใจว่า นายกรัฐมนตรีไม่ได้มีคนเดียว มันก่อให้เกิดปัญหาในทางการบริหารการเมือง ทำให้เกิดอำนาจซ้อนอำนาจ ทำให้รัฐบาลนี้กลายเป็นรัฐบาลหุ่น
.
ปัญหาที่ 3 “รัฐมนตรีไร้ประสิทธิภาพ”
.
เพราะ รัฐมนตรีชุดนี้ มีทั้งรัฐมนตรีที่โลกลืม รัฐมนตรีผิดฝาผิดตัว รัฐมนตรีต่างตอบแทน รัฐมนตรีทำการเฉพาะกิจ และรัฐมนตรีที่โลกเซ็ง เช่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จ้องแต่จะทะเลาะกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย แต่งานในหน้าที่โดยตรง รายได้ 4 เดือน ต่ำกว่าเป้า กองทุนประกันวินาศภัย ติดลบ 50,000 กว่าล้าน ยังไม่รู้จะแก้อย่างไร
.
ปัญหาที่ 4 “เศรษฐกิจมหภาค”
.
ภาพรวม 7 เดือน เศรษฐกิจไม่ได้สร้างความเชื่อมั่นให้กับคนไทยและโลกได้ ดูจากตัวเลข GDP ไตรมาส 4 ต่ำกว่าเป้าที่คาดการณ์ คาดไว้ 2.0 - 2.2 ทำจริงได้แค่ 1.9 ปี 67 ทั้งปี ถ้าบริหารครบถึงธันวาคมปีนี้ ทุกสำนักทั้งไทยและต่างประเทศ ประเมินตรงกันว่า เศรษฐกิจจะโตต่ำกว่าเป้าเดิมที่กำหนดไว้ แม้แต่การคาดการณ์ทางการของรัฐบาลเองโดยสภาพัฒน์ ยังประเมินว่า เดิมคาดว่าเศรษฐกิจ 67 จะโต 2.7 - 3.7 วันนี้ประเมินเหลือแค่ 2.2 - 2.3
.
ปัญหาที่ 5 “Digital wallet”
.
คนไทยหลายคนเลิกเชื่อเบื่อทวงแล้ว เพราะเจอลูกหนี้ประเภทท่องคาถา ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย เห็นมีมติทำนองว่าจะไปแก้งบประมาณปี 68 ให้ขาดดุลเพิ่มขึ้นอีก 1.5 แสนล้าน เพื่อเอาไปใช้ Digital wallet แปลว่ายังกู้มาแจกเหมือนเดิม เพียงแต่เปลี่ยนจากออกพระราชบัญญัติเงินกู้ 500,000 ล้านเป็นการเฉพาะ เปลี่ยนมาเป็นใช้เงินกู้จาก พ.ร.บ. งบปี 68 1.5 แสนล้านแทน ก็กู้เหมือนกัน แล้วอีก 3.5 แสนล้านจะเอาเงินมาจากไหน จนวันนี้ยังไม่มีคำตอบ
.
ปัญหาที่ 6 “ค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท”
.
เรื่องนี้ ตนไม่ตำหนิรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เพราะว่า 400 บาทไม่ใช่นโยบายของรัฐมนตรี รัฐมนตรีบอกให้ปฏิบัติไปตามแนวทางมติของไตรภาคี ซึ่งเป็นกฎหมาย แต่นายกฯ ประกาศยังไงก็ต้อง 400 บาทให้ได้เพราะหาเสียงไว้ แต่ 400 บาทที่มีมติ สุดท้ายกลายพันธุ์ จาก 400 บาททั่วประเทศ กลายเป็น 400 บาทกลายพันธุ์ เหลือแค่ 10 จังหวัด แล้วใน 10 จังหวัดก็ 10 จังหวัดเป็นหย่อม ๆ เหมือนฝนตกเป็นหย่อม ๆ ไม่ได้ตกทั่วฟ้า แล้วอีก 67 จังหวัดที่เหลือก็ไม่ตกเลยสักเม็ดเดียว
.
ปัญหาที่ 7 “ราคาพืชผลการเกษตร”
.
ปัญหาราคาพืชผลการเกษตรตัวสำคัญ ๆ นายกฯ บอกว่าราคาพืชผลมันดี แต่ถ้าไปดูลึก ปาล์ม ข้าวโพด มันไม่ได้ดีขึ้น ราคาทรง ๆ ข้าวโพดก็ยังต่ำกว่าเดิมด้วยซ้ำไป มีแต่ข้าวที่กระเตื้องขึ้นมา แต่ความจริงข้าวนี้ราคาแต่หมื่นมาตั้งแต่เดือนพฤษภาปีที่แล้ว ตอนรัฐบาลที่แล้วอยู่ มาแตะ 12,000 บาทในช่วงสิงหาปีที่แล้ว ทำไมมาแตะสิงหา เพราะกรกฎาอินเดียประกาศห้ามนำส่งออกข้าวขาวไปยังตลาดโลก ทำให้ตลาดโลกซัพพลายมันลด ผลผลิตที่ไปขายในตลาดโลกน้อยลง ราคาข้าวมันจึงขึ้น แต่สิ่งหนึ่งที่อยากขอฝากเตือนรัฐบาล ว่าถ้าวันไหนอินเดียยกเลิกมาตรการนี้แปลว่าให้ส่งออกข้าวไปแข่งได้ในตลาดโลกได้ต่อไป ท่านต้องเตรียมตัว ราคาข้าวมันมีโอกาสจะดิ่งลงมาอีก
.
นายจุรินทร์ กล่าวถึงกรณี นายกฯ พูดเรื่องยาง ข้อเท็จจริง คือ ราคายางสูงขึ้นจริง ในช่วงต้นปีนี้ตั้งแต่ ม.ค. - มี.ค. 67 ที่ยังขึ้นเพราะปราบยังเถื่อนอย่างเดียว ถ้ายางขึ้นเพราะปราบยางเถื่อนอย่างเดียว ยางมันต้องขึ้นมานานแล้ว เพราะรัฐบาลที่แล้วก็ปราบยางเถื่อน ยางไม่ขึ้นเพราะมันไม่มีปัจจัยสำคัญหนุนส่ง สาเหตุที่ยางขึ้น ตั้งแต่ ม.ค. - มี.ค. เพราะมีปัจจัยหนุนส่ง อย่างน้อย 3 เรื่อง
.
1. เพราะปี 67 ผลผลิตโลก มันน้อยกว่าความต้องการใช้ยางรวมกันทั้งโลก แล้วยางไม่ได้ขึ้นเฉพาะประเทศไทย ขึ้นทั้งโลก โตเกียวขึ้นไป 46% สิงคโปร์ขึ้นไป 61% ไทยขึ้นไป 46% แปลว่า มันไม่ได้ขึ้นประเทศเราประเทศเดียว มันขึ้นไปทั้งโลก
.
2. ที่ราคายางขึ้นไปเยอะตอนนี้ เพราะว่ากฎกติกาใหม่ของสหภาพยุโรป 27 ประเทศ ที่เรียกว่า EUDR ซึ่งเป็นกฎใหม่ที่ห้ามประเทศสหภาพยุโรป 27 ประเทศนำเข้ายางที่มาจากพื้นที่ตัดไม้ทำลายป่า และจะบังคับใช้วันที่ 31 ธันวา 67 ที่กำลังจะมาถึง เพราะฉะนั้น จึงส่งผลให้ทั้งโลกเร่งนำเข้ายางไปเก็บสต็อค ยางในโลกก็เลยเหลือน้อยลง จึงต้องเร่งนำเข้ายาง แต่โชคดีประเทศไทยเพราะรัฐบาลที่แล้ว ตนมีส่วนคนนึงเพราะตนกำกับดูแลการยางแห่งประเทศไทยผ่านกระทรวงเกษตรด้วย เราได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าแล้ว มาจนถึงวันนี้เรามีพื้นที่เป็นล้านไร่ที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ว่าไม่ได้มาจากพื้นที่ตัดไม้ทำลายป่า ทำให้ยางเราสามารถส่งออกไปประเทศสหภาพยุโรปและหลายประเทศได้อย่างสง่างาม
3. วันนี้ยางผลัดใบ ฤดูปิดกรีด ม.ค. - มี.ค. มันไม่มียาง ถึงมีก็น้อย ยางก็เลยยิ่งขึ้นไปใหญ่ รัฐบาลต้องไม่หลงทาง อย่าคิดว่าที่ยางมันขึ้นวันนี้เป็นเพราะไปสั่งปราบยางเถื่อน เดี๋ยวจะไปกันใหญ่
.
ปัญหาที่ 8 “การสร้างยุติธรรม 2 มาตรฐาน”
.
เป็นผลงานชิ้นเดียวที่รัฐบาลนี้ทำได้เร็วที่สุด สำเร็จเป็นรูปธรรมจับต้องได้มากที่สุด นั่นคือ การสร้างนักโทษพันธุ์ใหม่ที่แม้แต่เทวดายังต้องยอมให้ใช้ชื่อ ซึ่งทั้งหมดเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้านายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไม่รู้เห็นเป็นใจ เรื่องบุญคุณต้องทดแทน แต่ต้องไม่ แต่ต้องไปตอบแทนกันในส่วนตัว ไม่ใช่เอาบ้านเอาเมืองไปตอบแทน คนหนึ่งได้อำนาจ อีกคนได้อภิสิทธิ์จากการใช้อำนาจ มันอาจรู้สึกยุติธรรมสำหรับคนสองคน แต่มันไม่ยุติธรรมกับประเทศ และไม่ยุติธรรมกับหลักนิติธรรมของประเทศที่สั่งสมกันมาช้านาน
.
นายจุรินทร์ ถามนายกรัฐมนตรี 3 ข้อ
.
1. นายกรัฐมนตรี มีนโยบายจะปล่อยให้เกิดการนำคุกทิพย์ โมเดลที่ทำลายหลักนิติธรรมยับเยินมาใช้
ซ้ำสองอีกหรือไม่
.
2. ระเบียบใหม่ที่กระทรวงยุติธรรมกำลังจะเข็นออกมา เรื่องการกำหนดคุณสมบัติผู้มีสิทธิ์ถูกคุมขังนอกเรือนจำ ไปติดคุกที่บ้านได้ ซึ่งได้มีการประชุมคณะกรรมการราชทัณฑ์ไปแล้วครั้งหนึ่ง ขอถามว่า ระเบียบที่จะเปิดโอกาสให้ไปติดคุกที่บ้านได้จะรวมคดีทุจริต รวมคดีมาตรา 157 ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบให้ไปติดคุกที่บ้านแทนเรือนจำได้ด้วยหรือไม่ และรวมหรือไม่
.
3. เรื่องการนิรโทษกรรม เป็นดาบสองคม ถ้าใช้ให้ถูกก็จะเป็นการสร้างความปรองดองให้กับประเทศได้ แต่ถ้าใช้ผิดทางก็จะกลายเป็นการสร้างความขัดแย้งแตกแยกครั้งใหม่ให้กับประเทศได้อีก ขอถามว่ารัฐบาลนี้มีนโยบายที่จะนิรโทษกรรมคดีทุจริต และคดีปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามมาตรา 157 ด้วยหรือไม่
.
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ที่ถามมาทั้งหมด เพื่อจะส่งผ่านไปยังรัฐบาลและเพื่อส่งสัญญาณเตือนนายกรัฐมนตรีและพวกพ้องว่า อย่าคิดได้คืบเอาศอก เพราะในอดีตเคยมีคนพังเพราะไม่รู้จักพอมาแล้ว และเตือนนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ว่าสิ่งที่นายกรัฐมนตรีและพวกได้ทำกับหลักนิติธรรมของประเทศไว้จะเป็นระเบิดเวลาที่ตั้งไว้ระเบิดใส่ตัวเองในอนาคต ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายบันดาลให้ทุกท่านดวงตาเห็นธรรมโดยทั่วกัน
.
ดูเพิ่มเติม :
https://www.youtube.com/watch?v=8H9jm_SItB0&t=855s
.
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่
X : x.com/democratTH
Instagram : instagram.com/democratparty.th
YouTube : youtube.com/@DemocratPartyTH
Tiktok : tiktok.com/@democratth
LINE OA : @democratpartyth หรือ lin.ee/ME4khs2
.
#ประชาธิปัตย์ #พรรคประชาธิปัตย์ #DemocratPartyTH #จุรินทร์ #จุรินทร์ลักษณวิศิษฏ์ #ประชุมสภา
คิดใหญ่ ทำไม่เป็น ในวันที่ รัฐบาลไม่มีผลงาน คุณพ่อสุขวิช รังสิตพล ให้เคลม
.
(3 เม.ย. 67) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายในการการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 32 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ว่า
.
แม้พระราชบัญญัติงบประมาณ ปี 67 ยังไม่ผ่านสภาหรือยังไม่บังคับใช้ แต่รัฐบาลก็สามารถใช้งบประมาณปี 67 ไปพลางก่อน ได้ตามพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ 2561 เพราะฉะนั้น ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 61 - 31 มีนาคม 6 เดือนเต็ม สำนักงบจัดสรรงบให้รัฐบาล 1.837 ล้านล้านบาท รัฐบาลใช้ไปแล้ว 1.524 ล้านล้านบาท คิดเป็น 83% ของวงเงินที่สำนักงบประมาณจัดสรรให้
.
นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า 7 เดือน รัฐบาลชุดนี้ใช้เงินไปแล้วมากมายแต่ยังสอบตก เพราะรัฐบาลชุดนี้ มัวแต่ใช้การตลาดนำการบริหาร เอาแต่สร้างภาพ แต่หลังภาพทุกวงการลงมติเกือบเป็นเอกฉันท์ว่ายังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน 6 เดือนนายกรัฐมนตรี บินไปบินมา อ้างว่า 14 ประเทศกับ 1 เขตเศรษฐกิจคือฮ่องกง เป็นนายก 180 วัน ไปอยู่เมืองนอก 52 วัน
.
ขณะที่ยังมีคนถามบินไปทำการตลาดหรือไปทำการตลก เพราะอยู่เมืองไทย ประกาศลั่นโลกเศรษฐกิจไทยกำลังวิกฤต แต่พอถึงเมืองนอกไปเที่ยวเชิญเขามาลงทุนในประเทศ มหาเศรษฐีโลกที่ไหน ที่จะป่วยถึงขั้นเอาเงินเป็นแสนล้านมาลงทุนในประเทศที่เศรษฐกิจกำลังวิกฤต นายกรัฐมนตรีพยายามแสดงบทบาทเซลส์แมน แต่คำถาม คือ ในฐานะเซลส์แมนประเทศ Closed Sale ได้บ้างหรือยัง ปิดการขายได้บ้างหรือยัง หรือมีแต่สัญญาจะซื้อจะขายกับดอกไม้สายลม
.
นายกรัฐมนตรี พยายามแสดงบทบาทเซลส์แมน แถลงข่าวใหญ่โตที่ทำเนียบผลการ Road Show ของนายกรัฐมนตรี 6 เดือนเศษ 14 ประเทศ คาดมีเม็ดงินลงทุน 558,000 ล้านบาทใน 10 ปี ไม่รู้ว่าที่คาดหรือฝันนั้นจะเป็นจริงหรือฝันทิพย์
.
ทั้งนี้นายจุรินทร์ ยังหยิบยกกรณีเรื่องที่อ้างว่าเจรจา Tomorrowland รัฐบาลโพสต์ผ่านเว็บทางการของรัฐบาลไทยบอกว่า Tomorrowland ผู้จัดเทศกาลดนตรีระดับโลกจะมาจัดเทศกาลดนตรีที่เมืองไทยปี 2569 ติดต่อกัน 10 ปี แต่โป๊ะแตก โฆษกของเขาออกมาแถลงชัดเจนว่า เขายังไม่ได้ยืนยันเรื่องนี้ว่าจะมาจัดที่เมืองไทย และยังมีอะไรที่ต้องพิจารณาอีกมาก
.
อฝากนายกรัฐมนตรีว่า คนไทยเขาอยากได้ของจริงมากกว่าการตลาด อะไรที่ยังไม่ใช่ ยังไม่ต้องตีปี๊บก็ได้ มันเสียเหลี่ยม พูดอะไรที่มันยังไม่ใช่ เขาจับได้ คนไทยอยากเห็นนายกรัฐมนตรี บินเหมือนเหยี่ยวมากกว่าแมลงวัน ที่บินทั้งวันแต่ไม่ได้อะไร นอกจากได้สร้างภาพว่าบินโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย แต่เหยี่ยวบินทีไรไม่พลาดเป้า
.
นายจุรินทร์ ยังระบุว่า 7 เดือนรัฐบาลชุดนี้ มีปัญหาในทุกมิติ ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคม การบริหาร
.
ปัญหาที่ 1 “ก้าวไม่พ้นคนชอบอวดบารมี”
.
ตราบใดที่รัฐบาลนี้ ยังก้าวไม่พ้นคนชอบอวดบารมี รัฐบาลนี้จะมีปัญหาทางการเมืองตลอดไป รัฐบาลอย่าไปโทษคนอื่นว่าทำไมก้าวไม่พ้นบุคคลคนนี้เสียที ที่ก้าวไม่พ้น คือ นายกรัฐมนตรี หัวหน้าฝ่ายบริหารของประเทศไทย นั่งรถประจำตำแหน่ง ไปถึงบ้าน แถมออกมาให้สัมภาษณ์แถลงด้วยว่ายินดีเปิดโอกาสให้รัฐมนตรีไปเยี่ยมคารวะได้ แถมยังบอกว่าถ้ามีโอกาสจะไปขอคำปรึกษา อย่างนี้ก้าวข้ามไหม
.
ปัญหาที่ 2 “นายกรัฐมนตรีหลายคน”
.
เป็นปัญหาทางการเมือง ปัญหา “นายกรัฐมนตรีหลายคน” บางคนบอกแค่วาทกรรม นี่คือ ปัญหาใหญ่ทางการเมืองอีกปัญหา ที่รัฐบาลเศรษฐากำลังเผชิญ เพราะว่า มันสะท้อนความไม่เชื่อมั่นและสะท้อนการด้อยค่านายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญ ทำให้คนเกิดความเข้าใจว่า นายกรัฐมนตรีไม่ได้มีคนเดียว มันก่อให้เกิดปัญหาในทางการบริหารการเมือง ทำให้เกิดอำนาจซ้อนอำนาจ ทำให้รัฐบาลนี้กลายเป็นรัฐบาลหุ่น
.
ปัญหาที่ 3 “รัฐมนตรีไร้ประสิทธิภาพ”
.
เพราะ รัฐมนตรีชุดนี้ มีทั้งรัฐมนตรีที่โลกลืม รัฐมนตรีผิดฝาผิดตัว รัฐมนตรีต่างตอบแทน รัฐมนตรีทำการเฉพาะกิจ และรัฐมนตรีที่โลกเซ็ง เช่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จ้องแต่จะทะเลาะกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย แต่งานในหน้าที่โดยตรง รายได้ 4 เดือน ต่ำกว่าเป้า กองทุนประกันวินาศภัย ติดลบ 50,000 กว่าล้าน ยังไม่รู้จะแก้อย่างไร
.
ปัญหาที่ 4 “เศรษฐกิจมหภาค”
.
ภาพรวม 7 เดือน เศรษฐกิจไม่ได้สร้างความเชื่อมั่นให้กับคนไทยและโลกได้ ดูจากตัวเลข GDP ไตรมาส 4 ต่ำกว่าเป้าที่คาดการณ์ คาดไว้ 2.0 - 2.2 ทำจริงได้แค่ 1.9 ปี 67 ทั้งปี ถ้าบริหารครบถึงธันวาคมปีนี้ ทุกสำนักทั้งไทยและต่างประเทศ ประเมินตรงกันว่า เศรษฐกิจจะโตต่ำกว่าเป้าเดิมที่กำหนดไว้ แม้แต่การคาดการณ์ทางการของรัฐบาลเองโดยสภาพัฒน์ ยังประเมินว่า เดิมคาดว่าเศรษฐกิจ 67 จะโต 2.7 - 3.7 วันนี้ประเมินเหลือแค่ 2.2 - 2.3
.
ปัญหาที่ 5 “Digital wallet”
.
คนไทยหลายคนเลิกเชื่อเบื่อทวงแล้ว เพราะเจอลูกหนี้ประเภทท่องคาถา ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย เห็นมีมติทำนองว่าจะไปแก้งบประมาณปี 68 ให้ขาดดุลเพิ่มขึ้นอีก 1.5 แสนล้าน เพื่อเอาไปใช้ Digital wallet แปลว่ายังกู้มาแจกเหมือนเดิม เพียงแต่เปลี่ยนจากออกพระราชบัญญัติเงินกู้ 500,000 ล้านเป็นการเฉพาะ เปลี่ยนมาเป็นใช้เงินกู้จาก พ.ร.บ. งบปี 68 1.5 แสนล้านแทน ก็กู้เหมือนกัน แล้วอีก 3.5 แสนล้านจะเอาเงินมาจากไหน จนวันนี้ยังไม่มีคำตอบ
.
ปัญหาที่ 6 “ค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท”
.
เรื่องนี้ ตนไม่ตำหนิรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เพราะว่า 400 บาทไม่ใช่นโยบายของรัฐมนตรี รัฐมนตรีบอกให้ปฏิบัติไปตามแนวทางมติของไตรภาคี ซึ่งเป็นกฎหมาย แต่นายกฯ ประกาศยังไงก็ต้อง 400 บาทให้ได้เพราะหาเสียงไว้ แต่ 400 บาทที่มีมติ สุดท้ายกลายพันธุ์ จาก 400 บาททั่วประเทศ กลายเป็น 400 บาทกลายพันธุ์ เหลือแค่ 10 จังหวัด แล้วใน 10 จังหวัดก็ 10 จังหวัดเป็นหย่อม ๆ เหมือนฝนตกเป็นหย่อม ๆ ไม่ได้ตกทั่วฟ้า แล้วอีก 67 จังหวัดที่เหลือก็ไม่ตกเลยสักเม็ดเดียว
.
ปัญหาที่ 7 “ราคาพืชผลการเกษตร”
.
ปัญหาราคาพืชผลการเกษตรตัวสำคัญ ๆ นายกฯ บอกว่าราคาพืชผลมันดี แต่ถ้าไปดูลึก ปาล์ม ข้าวโพด มันไม่ได้ดีขึ้น ราคาทรง ๆ ข้าวโพดก็ยังต่ำกว่าเดิมด้วยซ้ำไป มีแต่ข้าวที่กระเตื้องขึ้นมา แต่ความจริงข้าวนี้ราคาแต่หมื่นมาตั้งแต่เดือนพฤษภาปีที่แล้ว ตอนรัฐบาลที่แล้วอยู่ มาแตะ 12,000 บาทในช่วงสิงหาปีที่แล้ว ทำไมมาแตะสิงหา เพราะกรกฎาอินเดียประกาศห้ามนำส่งออกข้าวขาวไปยังตลาดโลก ทำให้ตลาดโลกซัพพลายมันลด ผลผลิตที่ไปขายในตลาดโลกน้อยลง ราคาข้าวมันจึงขึ้น แต่สิ่งหนึ่งที่อยากขอฝากเตือนรัฐบาล ว่าถ้าวันไหนอินเดียยกเลิกมาตรการนี้แปลว่าให้ส่งออกข้าวไปแข่งได้ในตลาดโลกได้ต่อไป ท่านต้องเตรียมตัว ราคาข้าวมันมีโอกาสจะดิ่งลงมาอีก
.
นายจุรินทร์ กล่าวถึงกรณี นายกฯ พูดเรื่องยาง ข้อเท็จจริง คือ ราคายางสูงขึ้นจริง ในช่วงต้นปีนี้ตั้งแต่ ม.ค. - มี.ค. 67 ที่ยังขึ้นเพราะปราบยังเถื่อนอย่างเดียว ถ้ายางขึ้นเพราะปราบยางเถื่อนอย่างเดียว ยางมันต้องขึ้นมานานแล้ว เพราะรัฐบาลที่แล้วก็ปราบยางเถื่อน ยางไม่ขึ้นเพราะมันไม่มีปัจจัยสำคัญหนุนส่ง สาเหตุที่ยางขึ้น ตั้งแต่ ม.ค. - มี.ค. เพราะมีปัจจัยหนุนส่ง อย่างน้อย 3 เรื่อง
.
1. เพราะปี 67 ผลผลิตโลก มันน้อยกว่าความต้องการใช้ยางรวมกันทั้งโลก แล้วยางไม่ได้ขึ้นเฉพาะประเทศไทย ขึ้นทั้งโลก โตเกียวขึ้นไป 46% สิงคโปร์ขึ้นไป 61% ไทยขึ้นไป 46% แปลว่า มันไม่ได้ขึ้นประเทศเราประเทศเดียว มันขึ้นไปทั้งโลก
.
2. ที่ราคายางขึ้นไปเยอะตอนนี้ เพราะว่ากฎกติกาใหม่ของสหภาพยุโรป 27 ประเทศ ที่เรียกว่า EUDR ซึ่งเป็นกฎใหม่ที่ห้ามประเทศสหภาพยุโรป 27 ประเทศนำเข้ายางที่มาจากพื้นที่ตัดไม้ทำลายป่า และจะบังคับใช้วันที่ 31 ธันวา 67 ที่กำลังจะมาถึง เพราะฉะนั้น จึงส่งผลให้ทั้งโลกเร่งนำเข้ายางไปเก็บสต็อค ยางในโลกก็เลยเหลือน้อยลง จึงต้องเร่งนำเข้ายาง แต่โชคดีประเทศไทยเพราะรัฐบาลที่แล้ว ตนมีส่วนคนนึงเพราะตนกำกับดูแลการยางแห่งประเทศไทยผ่านกระทรวงเกษตรด้วย เราได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าแล้ว มาจนถึงวันนี้เรามีพื้นที่เป็นล้านไร่ที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ว่าไม่ได้มาจากพื้นที่ตัดไม้ทำลายป่า ทำให้ยางเราสามารถส่งออกไปประเทศสหภาพยุโรปและหลายประเทศได้อย่างสง่างาม
3. วันนี้ยางผลัดใบ ฤดูปิดกรีด ม.ค. - มี.ค. มันไม่มียาง ถึงมีก็น้อย ยางก็เลยยิ่งขึ้นไปใหญ่ รัฐบาลต้องไม่หลงทาง อย่าคิดว่าที่ยางมันขึ้นวันนี้เป็นเพราะไปสั่งปราบยางเถื่อน เดี๋ยวจะไปกันใหญ่
.
ปัญหาที่ 8 “การสร้างยุติธรรม 2 มาตรฐาน”
.
เป็นผลงานชิ้นเดียวที่รัฐบาลนี้ทำได้เร็วที่สุด สำเร็จเป็นรูปธรรมจับต้องได้มากที่สุด นั่นคือ การสร้างนักโทษพันธุ์ใหม่ที่แม้แต่เทวดายังต้องยอมให้ใช้ชื่อ ซึ่งทั้งหมดเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้านายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไม่รู้เห็นเป็นใจ เรื่องบุญคุณต้องทดแทน แต่ต้องไม่ แต่ต้องไปตอบแทนกันในส่วนตัว ไม่ใช่เอาบ้านเอาเมืองไปตอบแทน คนหนึ่งได้อำนาจ อีกคนได้อภิสิทธิ์จากการใช้อำนาจ มันอาจรู้สึกยุติธรรมสำหรับคนสองคน แต่มันไม่ยุติธรรมกับประเทศ และไม่ยุติธรรมกับหลักนิติธรรมของประเทศที่สั่งสมกันมาช้านาน
.
นายจุรินทร์ ถามนายกรัฐมนตรี 3 ข้อ
.
1. นายกรัฐมนตรี มีนโยบายจะปล่อยให้เกิดการนำคุกทิพย์ โมเดลที่ทำลายหลักนิติธรรมยับเยินมาใช้
ซ้ำสองอีกหรือไม่
.
2. ระเบียบใหม่ที่กระทรวงยุติธรรมกำลังจะเข็นออกมา เรื่องการกำหนดคุณสมบัติผู้มีสิทธิ์ถูกคุมขังนอกเรือนจำ ไปติดคุกที่บ้านได้ ซึ่งได้มีการประชุมคณะกรรมการราชทัณฑ์ไปแล้วครั้งหนึ่ง ขอถามว่า ระเบียบที่จะเปิดโอกาสให้ไปติดคุกที่บ้านได้จะรวมคดีทุจริต รวมคดีมาตรา 157 ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบให้ไปติดคุกที่บ้านแทนเรือนจำได้ด้วยหรือไม่ และรวมหรือไม่
.
3. เรื่องการนิรโทษกรรม เป็นดาบสองคม ถ้าใช้ให้ถูกก็จะเป็นการสร้างความปรองดองให้กับประเทศได้ แต่ถ้าใช้ผิดทางก็จะกลายเป็นการสร้างความขัดแย้งแตกแยกครั้งใหม่ให้กับประเทศได้อีก ขอถามว่ารัฐบาลนี้มีนโยบายที่จะนิรโทษกรรมคดีทุจริต และคดีปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามมาตรา 157 ด้วยหรือไม่
.
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ที่ถามมาทั้งหมด เพื่อจะส่งผ่านไปยังรัฐบาลและเพื่อส่งสัญญาณเตือนนายกรัฐมนตรีและพวกพ้องว่า อย่าคิดได้คืบเอาศอก เพราะในอดีตเคยมีคนพังเพราะไม่รู้จักพอมาแล้ว และเตือนนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ว่าสิ่งที่นายกรัฐมนตรีและพวกได้ทำกับหลักนิติธรรมของประเทศไว้จะเป็นระเบิดเวลาที่ตั้งไว้ระเบิดใส่ตัวเองในอนาคต ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายบันดาลให้ทุกท่านดวงตาเห็นธรรมโดยทั่วกัน
.
ดูเพิ่มเติม : https://www.youtube.com/watch?v=8H9jm_SItB0&t=855s
.
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่
X : x.com/democratTH
Instagram : instagram.com/democratparty.th
YouTube : youtube.com/@DemocratPartyTH
Tiktok : tiktok.com/@democratth
LINE OA : @democratpartyth หรือ lin.ee/ME4khs2
.
#ประชาธิปัตย์ #พรรคประชาธิปัตย์ #DemocratPartyTH #จุรินทร์ #จุรินทร์ลักษณวิศิษฏ์ #ประชุมสภา