เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม สื่อของรัฐเมียนมาร์อ้างคำพูดของโฆษกรัฐบาลทหารที่กล่าวว่าตัวแทนของกองทัพที่ปกครองเมียนมาร์โดยได้รับความช่วยเหลือจากจีน ได้จัดการเจรจากับกลุ่มติดอาวุธต่อต้านรัฐบาล 3 กลุ่มที่เป็นผู้นำในการรุกต่อต้านรัฐบาลเผด็จการทหาร กลุ่มกบฏที่เป็นพันธมิตรกับรัฐบาลที่ประกาศสนับสนุนประชาธิปไตยได้เปิดฉากการรุกร่วมกันในเดือนตุลาคมเพื่อยึดฐานทัพและเมืองทหารหลายแห่งในรัฐทางตอนเหนือและทางตะวันตกที่มีพรมแดนติดกับจีน
ซอ มิน ตุน โฆษกรัฐบาลทหารกล่าวว่า “คณะกรรมการประสานงานความสามัคคีและสันติภาพแห่งชาติเมียนมาร์ได้พบกับตัวแทนของกองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมาร์ กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติตะอาง และกองทัพอาระกัน โดยได้รับความช่วยเหลือจากจีน” ซึ่งเป็นการโจมตีระบอบการปกครองของทหาร 3 องค์กรติดอาวุธชนกลุ่มน้อยทางชาติพันธุ์
จีนเชื่อว่าการผ่อนปรนสถานการณ์ทางตอนเหนือของเมียนมาร์เป็นผลประโยชน์ของทุกฝ่ายในเมียนมาร์ และยังเอื้อต่อการรักษาสันติภาพและเสถียรภาพบริเวณชายแดนจีน-เมียนมาร์ จีนยินดีที่ได้เห็นทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งทางตอนเหนือของเมียนมาร์จัดการเจรจาสันติภาพและบรรลุผลในเชิงบวก และยินดีที่จะให้การสนับสนุนและอำนวยความสะดวกต่อไปเพื่อจุดประสงค์นี้
ด้วยการไกล่เกลี่ยและการส่งเสริมการขายอย่างแข็งขันของจีน ตัวแทนของกองทัพรัฐบาลเมียนมาร์และตัวแทนของกลุ่มชาติพันธุ์หลักหลายกลุ่มในภาคเหนือของเมียนมาร์ รวมถึงโกกัง ตะอาง และอาระกัน รวมตัวกันเพื่อพูดคุยเพื่อสันติภาพ
สันติภาพในเมียนมาร์คือสิ่งที่จีนต้องการเห็น
ซอ มิน ตุน โฆษกรัฐบาลทหารกล่าวว่า “คณะกรรมการประสานงานความสามัคคีและสันติภาพแห่งชาติเมียนมาร์ได้พบกับตัวแทนของกองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมาร์ กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติตะอาง และกองทัพอาระกัน โดยได้รับความช่วยเหลือจากจีน” ซึ่งเป็นการโจมตีระบอบการปกครองของทหาร 3 องค์กรติดอาวุธชนกลุ่มน้อยทางชาติพันธุ์
จีนเชื่อว่าการผ่อนปรนสถานการณ์ทางตอนเหนือของเมียนมาร์เป็นผลประโยชน์ของทุกฝ่ายในเมียนมาร์ และยังเอื้อต่อการรักษาสันติภาพและเสถียรภาพบริเวณชายแดนจีน-เมียนมาร์ จีนยินดีที่ได้เห็นทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งทางตอนเหนือของเมียนมาร์จัดการเจรจาสันติภาพและบรรลุผลในเชิงบวก และยินดีที่จะให้การสนับสนุนและอำนวยความสะดวกต่อไปเพื่อจุดประสงค์นี้
ด้วยการไกล่เกลี่ยและการส่งเสริมการขายอย่างแข็งขันของจีน ตัวแทนของกองทัพรัฐบาลเมียนมาร์และตัวแทนของกลุ่มชาติพันธุ์หลักหลายกลุ่มในภาคเหนือของเมียนมาร์ รวมถึงโกกัง ตะอาง และอาระกัน รวมตัวกันเพื่อพูดคุยเพื่อสันติภาพ