คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
ตอนแรกจะเดาว่าวัฒนธรรมเค้ากินขนมหวานกับชา
ผิดกับไทยเราที่โซ้ยเดี่ยว
เลยทำให้ขนมหวาน ๆ เข้าไว้ กินกับชาเข้ากันดีกว่า
แต่ก็นึกอีกว่าอ้าว แล้วคนอังกฤษกับจีนก็ดื่มชา
ทำไมเค้าไม่กินหวานเจี๊ยบกันล่ะ
เลยค้นหาข้อมูลซะหน่อย เผื่อเด็ก ๆ มาอ่านจะได้ประโยชน์มั่ง
1. ความเชื่อสำหรับฮินดู น้ำตาลคือสัญลักษณ์ของความบริสุทธิและโชค
สำหรับอิสลามน้ำตาลคือของขวัญจากพระเจ้า
ด้วยเหตุดังนี้ วันสำคัญต่าง ๆ เลยนิยมเสริฟของหวานกัน
นอกจากนั้นของหวาน ๆ แสดงถึงการยินดีต้อนรับ
และการเคารพแขก จากเจ้าบ้าน
2. ทางประวัติศาสตร์ นำ้ตาลคือของมีค่า เพราะมันแพง บ่งบอกฐานะได้เลย
มีแต่คนรวย ชนชั้นสูงถึงจะมีกิน การกินของหวานเป็นการแสดงสเตตัสได้
3. ในเมืองร้อนแบบอินเดีย เชื่อว่าการได้กินของหวาน ๆ ช่วยทำให้ร่างกายหายร้อน
และน้ำตาลก็เป็นยา โดยเฉพาะเวลาเจ็บคอ น้ำผึ้งชง ช่วยให้อาการดีขึ้นได้
ผิดกับไทยเราที่โซ้ยเดี่ยว
เลยทำให้ขนมหวาน ๆ เข้าไว้ กินกับชาเข้ากันดีกว่า
แต่ก็นึกอีกว่าอ้าว แล้วคนอังกฤษกับจีนก็ดื่มชา
ทำไมเค้าไม่กินหวานเจี๊ยบกันล่ะ
เลยค้นหาข้อมูลซะหน่อย เผื่อเด็ก ๆ มาอ่านจะได้ประโยชน์มั่ง
1. ความเชื่อสำหรับฮินดู น้ำตาลคือสัญลักษณ์ของความบริสุทธิและโชค
สำหรับอิสลามน้ำตาลคือของขวัญจากพระเจ้า
ด้วยเหตุดังนี้ วันสำคัญต่าง ๆ เลยนิยมเสริฟของหวานกัน
นอกจากนั้นของหวาน ๆ แสดงถึงการยินดีต้อนรับ
และการเคารพแขก จากเจ้าบ้าน
2. ทางประวัติศาสตร์ นำ้ตาลคือของมีค่า เพราะมันแพง บ่งบอกฐานะได้เลย
มีแต่คนรวย ชนชั้นสูงถึงจะมีกิน การกินของหวานเป็นการแสดงสเตตัสได้
3. ในเมืองร้อนแบบอินเดีย เชื่อว่าการได้กินของหวาน ๆ ช่วยทำให้ร่างกายหายร้อน
และน้ำตาลก็เป็นยา โดยเฉพาะเวลาเจ็บคอ น้ำผึ้งชง ช่วยให้อาการดีขึ้นได้
แสดงความคิดเห็น
ทำไมคนอินเดียชอบทานของหวาน แม้แต่บิสกิต Parle G ก็ยังหวานกว่าบิสกิตที่เคยกินมาทั้งชีวิต?