ไม่ยอมเป่าตรวจแอลกอฮอล์…มีโทษเท่ากับเมาแล้วขับหรือไม่

จากข่าวข้างล่าง “เจ้าหน้าที่พยายามจะให้เป่าวัดระดับแอลกอฮอล์ รวมถึงให้เจาะเลือดตรวจหาระดับแอลกอฮอล์ แต่คนขับกลับปฏิเสธขัดขืนไม่ยอมให้ดำเนินการแต่โดยดี”
 
พอจะทราบบ้างว่า กรณีผู้ขับขี่ดื่มสุรา มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด และปฏิเสธไม่ยอมทดสอบหรือตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ขับขี่ผู้นั้นเมาสุรา
หากฝ่าฝืนขับขี่ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 10,000 บาท ถึง 20,00 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และศาลมีอำนาจสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่มีกำหนดไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ได้ และเพิ่มมาตรการยึดรถในชั้นศาลได้ไม่เกิน 7 วัน

                         กรณีข่าวนี้ มีผู้เสียหายเยอะ และอาจถึงแก่ชีวิต รวมทั้งทรัพย์สินบุคคลที่สามด้วย  ในกรณีนี้ ผู้ขับขี่ไม่ยอมตรวจแอลกอฮอล์ ทางพนักงานสอบสวนและศาลจะลงโทษเช่นไร โทษจะหนักหรือไม่ สังเกตุได้ว่าผู้ขับขี่ปฏิเสธ เพราะหวังไปลุ้นที่ศาลหรือคาดหวังสำนวนอ่อน โดยหวังว่า ศาลท่านจะพิจารณาว่าพิสูจน์ไม่ได้ว่าเมาแล้วขับ   เหมือนว่าสถานการณ์จริง ยังมีผู้หาทางลักไก่  ทั้งที่ทางกฎหมายพยายามชี้ว่า ไม่เป่าแอลกอฮอล์=เมาแล้วขับ   (เหมือนเป็นการรณรงค์ แต่ในทางปฏิบัติยังมีช่องโหว่หรือไม่)

จากข่าว

เมื่อเวลา 23.00 น.วันที่ 9 มี.ค.67 ร.ต.อ.ฐานิต ที่ภักดี รองสารวัตรสอบสวน สภ.สัตหีบ รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถกระบะพุ่งชนอัดเสาไฟฟ้า มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสติดภายในรถ 3 ราย เหตุเกิดบนถนนสุขุมวิท เส้นทางมุ่งหน้าแยก กม.10 บริเวณหน้าประตูทางเข้ากองเรือยุทธการ ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จึงประสานขอรับการสนับสนุนอุปกรณ์ตัดถ่าง เทศบาลเมืองสัตหีบ และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ เข้าให้การช่วยเหลือคนเจ็บอย่างเร่งด่วน
 
ที่เกิดเหตุริมถนนบนฟุตบาทพบ รถกระบะ อีซูซุ 4 ประตู สีขาว ทะเบียน ผxxxxx สภาพหน้ารถพังยับเยิน ชนอัดติดคาอยู่กับเสาไฟฟ้า โดยคนเจ็บสามารถช่วยเหลือตัวเองออกมาได้ 1 ราย ทราบชื่อคือ นายxxxxxxxxxxx อายุ 33 ปี คนขับ ดั้งจมูกหัก ส่วนอีก 2 ราย คือ นายxxxxxxxxxxxxxx อายุ 44 ปี นั่งแคป อาการสาหัสต้องปั้มหัวใจ และนายxxxxxxxxxxx อายุ 25 ปี นั่งข้างคนขับ แขนขวาผิดรูป เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลากว่า 30 นาที จึงสามารถใช้อุปกรณ์ตัดถ่างงัดช่วยเหลือนำร่างออกมาได้สำเร็จ ก่อนเร่งรักษายังห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ
 
นอกจากนี้ ในที่เกิดเหตุริมถนนยังพบ รถเก๋ง ฮอนด้า แจ๊ส สีขาว ทะเบียน xxxxxxxxx สภาพท้ายรถด้านขวาถูกชนเสียหายหนัก โดยมี น.ส.xxxxxxxxxx อายุ 37 ปี เป็นคนขับ ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ซึ่งให้การว่า ขณะขับรถออกจากไฟแดง ได้วิ่งมาตามเส้นทางได้เพียงราว 100 เมตร ก่อนถูกรถกระบะคู่กรณี ที่วิ่งมาด้วยความเร็วจากแยกไฟแดงกิโลเมตรที่ 1 พุ่งชนอัดบริเวณท้ายด้านขวาอย่างแรง ก่อนกระบะจะเสียหลักพุ่งเหินขึ้นฟุตบาทชนอัดเสาไฟฟ้าดังกล่าว
 
ด้าน ร.ต.อ.ฐานิต ได้บันทึกภาพที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน พร้อมเชิญตัวคู่กรณีฝ่ายรถเก๋งไปสอบปากคำ ส่วนคันรถกระบะยังไม่มีใครให้การได้ เนื่องจากอยู่ในระหว่างการรักษาของแพทย์ ซึ่งทางด้านคนขับรถกระบะ เจ้าหน้าที่พยายามจะให้เป่าวัดระดับแอลกอฮอล์ รวมถึงให้เจาะเลือดตรวจหาระดับแอลกอฮอล์ แต่คนขับกลับปฏิเสธขัดขืนไม่ยอมให้ดำเนินการแต่โดยดี จึงยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่า คนขับเมาสุราหรือไม่ และเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้เช่นไร อยู่ในระหว่างการพิสูจน์ทราบจากพยานหลักฐาน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่