ถนน-สะพานเมืองไทย ขับไปได้อย่างไร ๒๐๗กม./ชม. ชนจยย.ตาย๓ศพ เมา ประมาทมาก คนแบบนี้ไม่สมควรอยู่ปะปนกับคนอื่นอีกต่อไป
ไม่มีใบขับขี่
ยืมรถเพื่อนมาขับ เพื่อนคงดีใจมากที่มีเพื่อนแบบนี้
ตำรวจบอกว่าว่ามือหนึ่งจับพวงฯขับรถ-ใช้อีกมือหนึ่งถ่ายคลิปไปด้วย
ในรถมีขวดเหล้าเปิดกินแล้ว
ตรวจแอลฯหลังเกิดเหตุ๗ชม.(เหตุเกิดประมาณ๑๙น. ตรวจแอลฯ๐๒น.) แอลฯยังขึ้น๒๙มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์และ๒๗มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ณ.เวลาชนแอลคงทะลุเครื่องวัด
ข่าวว่าก่อนเกิดเหตุ ไปช่วยงานศพมา ... เมาขนาดนี้ ไปช่วยงานศพคุณเหล้ามาน่ะสิ
.........................
เปิดมือถือ สาวซิ่งบีเอ็ม อัดร่าง 3 แม่ลูกเสียชีวิต พบขับรถด้วยมือเดียว อีกมือถ่ายคลิปก่อนชน ความเร็วที่บันทึกไว้ 207 กม./ชม. และพบปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย
ความคืบหน้า สาวขับรถบีเอ็มดับเบิ้ลยูสีดำ ชนท้ายรถจักรยานยนต์ที่มีแม่เป็นผู้ขับขี่ และมีลูกชายอายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.4 และลูกสาวอายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนศรียาภัย จนเสียชีวิตทั้ง 3 ราย เหตุเกิดบริเวณสะพานข้ามทางรถไฟบ้านหนองหมุก ต.ตากแดด อ.เมือง จ.ชุมพร เวลา 18.56 น. วันที่ 27 พ.ย.
ล่าสุดเวลา 22.00 น. วันที่ 28 พ.ย. สภ.เมืองชุมพร ได้แถลงข่าวกรณีดังกล่าว สรุปใจความดังนี้
เวลา 02.00 น. วันที่ 28 พ.ย. น.ส.จิรันธนิน (สงวนนามสกุล) ผู้ขับขี่รถบีเอ็ม ได้มาพบพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่ได้ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ 2 ครั้ง ผลปรากฏว่าวัดได้ 29 และ 27 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จากนั้นได้นำตัวไปตรวจวัดแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดที่โรงพยาบาลชุมพร อยู่ระหว่างการรอผลตรวจวิเคราะห์
** จากการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือ น.ส.จิรันธนิน พบว่ามีภาพถ่ายขณะขับรถยนต์ ระบุเวลาถ่ายภาพเวลา 18.56 น. โดยความเร็วในภาพถ่ายคือ 207 กม./ชม. ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับกล้องหน้ารถยนต์ น.ส.จิรันธนิน ชนใส่ท้ายรถจักรยานยนต์
พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาดังนี้
1. ขับรถขณะเมาสุราโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่
2. ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด
3. ขับรถประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
4. ไม่หยุดช่วยเหลือ แสดงตัว แจ้งพนักงาน เจ้าหน้าที่ที่ใกล้เคียงหลังเกิดเหตุ
เจ้าหน้าที่ได้นำตัว น.ส.จิรันธนิน ไปที่ศาลจังหวัดชุมพร เพื่อขอหมายฝากขัง โดยได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากหวั่นว่าผู้ต้องหาจะมีพฤติการณ์หลบหนี... อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ :
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_9526333
ขอแสดงความเสียใจกับญาติๆผู้เสียชีวิตด้วย


ภาพข่าว
โอ้โห ถนน-สะพานเมืองไทย ขับไปได้อย่างไร ๒๐๗กม./ชม. ชนจยย.ตาย๓ศพ เมา ประมาทมาก คนแบบนี้ไม่สมควรอยู่ปะปนกับคนอื่นอีกต่อไป
ไม่มีใบขับขี่
ยืมรถเพื่อนมาขับ เพื่อนคงดีใจมากที่มีเพื่อนแบบนี้
ตำรวจบอกว่าว่ามือหนึ่งจับพวงฯขับรถ-ใช้อีกมือหนึ่งถ่ายคลิปไปด้วย
ในรถมีขวดเหล้าเปิดกินแล้ว
ตรวจแอลฯหลังเกิดเหตุ๗ชม.(เหตุเกิดประมาณ๑๙น. ตรวจแอลฯ๐๒น.) แอลฯยังขึ้น๒๙มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์และ๒๗มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ณ.เวลาชนแอลคงทะลุเครื่องวัด
ข่าวว่าก่อนเกิดเหตุ ไปช่วยงานศพมา ... เมาขนาดนี้ ไปช่วยงานศพคุณเหล้ามาน่ะสิ
.........................
เปิดมือถือ สาวซิ่งบีเอ็ม อัดร่าง 3 แม่ลูกเสียชีวิต พบขับรถด้วยมือเดียว อีกมือถ่ายคลิปก่อนชน ความเร็วที่บันทึกไว้ 207 กม./ชม. และพบปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย
ความคืบหน้า สาวขับรถบีเอ็มดับเบิ้ลยูสีดำ ชนท้ายรถจักรยานยนต์ที่มีแม่เป็นผู้ขับขี่ และมีลูกชายอายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.4 และลูกสาวอายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนศรียาภัย จนเสียชีวิตทั้ง 3 ราย เหตุเกิดบริเวณสะพานข้ามทางรถไฟบ้านหนองหมุก ต.ตากแดด อ.เมือง จ.ชุมพร เวลา 18.56 น. วันที่ 27 พ.ย.
ล่าสุดเวลา 22.00 น. วันที่ 28 พ.ย. สภ.เมืองชุมพร ได้แถลงข่าวกรณีดังกล่าว สรุปใจความดังนี้
เวลา 02.00 น. วันที่ 28 พ.ย. น.ส.จิรันธนิน (สงวนนามสกุล) ผู้ขับขี่รถบีเอ็ม ได้มาพบพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่ได้ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ 2 ครั้ง ผลปรากฏว่าวัดได้ 29 และ 27 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จากนั้นได้นำตัวไปตรวจวัดแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดที่โรงพยาบาลชุมพร อยู่ระหว่างการรอผลตรวจวิเคราะห์
** จากการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือ น.ส.จิรันธนิน พบว่ามีภาพถ่ายขณะขับรถยนต์ ระบุเวลาถ่ายภาพเวลา 18.56 น. โดยความเร็วในภาพถ่ายคือ 207 กม./ชม. ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับกล้องหน้ารถยนต์ น.ส.จิรันธนิน ชนใส่ท้ายรถจักรยานยนต์
พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาดังนี้
1. ขับรถขณะเมาสุราโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่
2. ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด
3. ขับรถประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
4. ไม่หยุดช่วยเหลือ แสดงตัว แจ้งพนักงาน เจ้าหน้าที่ที่ใกล้เคียงหลังเกิดเหตุ
เจ้าหน้าที่ได้นำตัว น.ส.จิรันธนิน ไปที่ศาลจังหวัดชุมพร เพื่อขอหมายฝากขัง โดยได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากหวั่นว่าผู้ต้องหาจะมีพฤติการณ์หลบหนี... อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_9526333
ขอแสดงความเสียใจกับญาติๆผู้เสียชีวิตด้วย
ภาพข่าว