ลูกพี่ลูกน้องเราค่ะ แนน อายุ 30 จะแชทคุยและโทรหาเราทุกวัน บอกว่าสามีนางดีที่สุด แบบนั่นแบบนี้ พ่อแม่สามีก็แสนดี ภูมิใจแล้วแหละ รักคนนี้แล้ว จะรักษาให้ดี......
บ้านสามีก็สร้างให้ (แต่สร้างที่ ที่ดินของสามีนางนะ) ไม่ต้องออกไปทำงานนอกบ้าน สามีให้อยู่บ้านดูแลสวน ดูแลบ้าน สารพัดประโยชน์อะ ตอนแรกเราก็เชื่อนางนะ เราก็บอกนางว่าเออๆ ดีแล้วแหละ อยู่กันให้ดีๆล่ะ สิ่งไหนที่ทำไม่เป็นทำไม่ได้ก็ฝึกฝนบ้าง มีครอบครัวครั้งที่ 2 แล้ว อย่าให้ซ้ำกับบทเรียนเก่า ที่ทำอะไรไม่เป็นแล้วพ่อแม่สามีเก่าไม่ปลื้ม แล้วตัวเองอยู่ไม่ได้เลยต้องหนีออกมา ปรับปรุงตนเองให้เป็นคนใหม่ได้แล้ว ถ้าครอบครัวสามีเค้าดีขนาดนี้ น่ะ
นางก็อืมๆๆนั่นแหละใช่ๆๆ แต่สุดท้ายทุกอย่างกลับตาลปัตรค่ะ เรามาทราบความจริงทุกอย่างทีหลังจากพี่สาวของเรา (พี่สาวพ่อเดียวกันแต่คนละแม่)
พี่สาวเรายอกว่าก่อนแนนจะหนีจากสามีเก่าไปหาสามีใหม่(คนปัจจุบัน) แนนไปขออยู่กับพี่สาวเราก่อนที่ต่างอำเภอ พี่สาวเราบอกว่านางไม่ช่วยทำอะไรเลยแม้กระทั่งทำกับข้าวก็ไม่ช่วย แต่พอไปอยู่กับครอบครัวสามีนางช่วยแม่สามีหั่นผักต่างๆนาๆ แต่กับข้าวแม่สามีเป็นคนทำ พี่สาวเราเค้าก็ไม่ว่าอะไรเพราะถทอว่าเป็นพี่ๆน้องๆสกุลเดียวกัน อยู่ได้ประมาณ 4-5 เดือน อาม (อามอายุ 27 ปี)สามีคนปัจจุบันของนางมารับไปอยู่ด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้ อามกับแนนเคยเจอและแนนก็ไปมาหาสู่อามอยู่บ่อยๆ แนนจะเป็นคนนั่งรถไปหาอามด้วยตัวเอง พี่สาวเรายังบอกอีกว่า อามเป็นคนอารมณ์ค่อนข้างฉุนเฉียว ส่วนแนนก็เอาแต่ใจตัวเอง อามบอกพี่สาวเราว่าแนนชอบเอาแต่ใจ อยากได้อะไรก็ต้องได้ จนผมเกือบจะพลั้งมือใส่แนนไปหลายครั้งแล้ว แต่ผมยังไม่กล้าทำ #พี่สาวเราบอกอามว่าอย่าไปทำสงสารมันเถอะถือว่าพี่ขอ อามบอกว่าส่วนเรื่องรถมอเตอร์ไซค์ของแนน มันพังเยอะมาก ขับไม่ได้ต้องซ่อมก่อน แต่ถ้าไม่มีเล่มทะเบียนอามก็ไม่ซ้อมให้ ถ้าเอาเล่มทะเบียนที่เอาไปตั้งสินเชื่อกลับมาไม่ได้ และต่อไปถ้าแนนยังทำนิสัยแบบนี้อีก และยังไม่หางานทำ ผมคงต้องส่งแนนกลับบ้าน เพราะผมอยากได้เมีย ไม่ใช่อยากได้หนี้ที่ติดตัวเมียมา เพราะงานบ้านงานเรือนแนนก็ทำได้แค่กวาดบ้านถูบ้าน เวลาทำกับข้าวก็ต้องรอแม่สามี แล้วนางถึงจะไปช่วยทำ ที่ครอบครัวสามีแนน รับแนนเข้ามาเพราะทางบ้านของแนนฐานะดีในระดับหนึ่งแหละ ซึ่งนั่นก็เป็นอาของเราเอง ครอบครัวรับราชการ มีหน้ามีตาในสังคมดีๆ
เรื่องนี้นางไม่เคยบอกให้เราฟังเลยนะ นางแค่บอกว่าสามีดีนะ นั่นๆนี่ๆ แต่ก็นะคงไม่อยากให้ครอบครัวสามีต้องเสียหน้าหรืออับอาย เวลาเทศกาลตรุษจีน ลูกหลานก็จะมารวมตัวกันทุกปีที่บ้านอากง แต่แนนไม่กล้าพาสามีมา เพราะกลัวผู้ใหญ่จะถามต่อหน้าสามีว่าคนนี้นี่ผัวคนที่เท่าไหร่แล้วแนน นางกลัวสามีนางรับไม่ได้ รู้นะว่าเป็นเรื่องของนางกับสามี แต่พอมีอะไรนางจะไม่ยอมปริปากพูดออกมาเลยสักครั้ง เพราะนางไม่มีใครแล้วนอกจากเราและพี่สาวเรา คนอื่นๆแม้แต่พ่อแม่แนน ตอนนี้ก็ยังรับไม่ได้กับการที่แนนมาอยู่กับอาม แนนจะรอให้เกิดปัญหาก่อนทุกครั้งแล้วก็กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้อีกตั้งแต่สามีคนเก่าที่มีลูกด้วยกันล่ะ นางไม่รู้จักวิธีการใช้ชีวิตและการแก้ปัญหา ถ้าเราและพี่สาวไม่คอยพูดไม่คอยชี้แนะบ้าง นางก็จะไม่รู้เลย แต่ต่อให้เราพยามยามบอกเท่าไรนางก็ไม่ฟังใคร ทำตามใจตัวเองทุกอย่าง ทำตามที่ครอบครัวสามีบอก แต่กลับกันทางพี่น้องด้วยกันเองพอใครเตือน นางจะมีท่าทางไม่พอใจทันที นางบอกว่านางได้ดีแล้ว และปลูกหลักปักฐานอยู่บ้านสามีแล้ว และจะไม่กลับไปที่บ้านอีกถ้าไม่จำเป็น เรื่องตั้งท้องก็เหมือนกันอาของเราที่เป็นพ่อของแนน กำชับแนนว่า อย่าให้ท้องนะ เดี๋ยวจะลำบากขึ้นไปอีก เพราะกับสามีเก่าอยู่ไม่ได้ ยอมทิ้งลูกหนีมาก้ครั้งหนึ่งแล้ว จนเค้ากีดกันไม่ให้ติดต่อหาลูกสาวเลย ครั้งนี้ก็อย่าให้พลาดอีกล่ะ แต่นางก็ไม่ฟัง นางกลับไปฟังครอบครัวสามี แม่สามีบอกนางว่าทางนั้นเค้ากีดกันไม่ให้พบหน้าลูกสาวก็ช่างเค้า ทำเอาใหม่ก็ได้สร้างบ้านเสร็จก็เอาลูกเลย นางก็ตกลงตามนั้น ส่วนสามีนางเป็นคนที่พ่อแม่ว่ายังไงก็ว่าตาม มีเมียแล้วก็ยังให้พ่อแม่มากำกับชีวิตหมดทุกเรื่องเลยนะ งานการประจำก็ไม่มี มีแค่สวนปาล์ม สวนผัก เค้าก็อยู่ได้แล้ว วันไหนว่างไม่มีใครจ้างงานก็หยุดอยู่บ้าน ส่วนแนนสามีบังคับให้หางานทำก็เห็นนางส่งงานมาปรึกษาเราอยู่ว่างานนี้ดีไหม โอเคไหม เราก็บอกว่างานในโซเชียลที่แนนส่งมาน่ะ มันหลอกเอาข้อมูลทั้งนั้น ถ้าอยากจะทำงานจริงๆไม่ลองหาในเว็บไซต์ของจังหวัดล่ะ นางบอกว่ามีแต่ไกลจากบ้านมาก เราบอกว่าถ้างั้นก็ไปถามแถวร้านค้า ของชำแถวบ้านดูไหมล่ะ นางก็เงียบไปมัวแต่เครียดหางานไม่ได้ งานที่โรงงานน้ำดื่มก็ไปทำได้วันเดียวหัวหน้าให้ออกเพราะทำงานช้า เราก็ถามนางว่าแล้วจะเดือดร้อนหางานแบบรีบเร่งอะไรขนาดนั้น ค่อยๆหาไปก็ได้ ไหนบอกว่าสามีไม่ให้ทำงานอยู่แค่ที่บ้านไง ก็ทำหน้าที่ที่บ้านให้ดีสิ กับข้าวทำไม่เป็นก็หัดได้ นางก็เงียบไม่ตอบ เราก็ไม่ได้ถามอะไรต่อเพราะนางน่าจะเครียด
มีอยู่วันหนึ่งแนนบอกว่านางกวนๆสามี แล้วสามีไม่พอใจเตะนางตกน้ำข้างบ้านไปสองรอบ จนนางได้แผบกลับมา นางก็ไม่คิดอะไรเล่าไปหัวเราะไปดูเหมือนนางมีความสุข เราก็เออๆแต่ต่อไปอย่าทำอีก อากาศร้อนๆอยู่ด้วยเดี๋ยวจะโดนอีก
แต่ทำไมนางต้องโกหกที่บ้านว่าใช้ชีวิตดีๆ สามีให้ทุกอย่าง เรื่องเงินสามีนางก็เป็นคนถือ นางไม่ได้ถือเลยสักบาท แต่นางกลับบอกว่านางเป็นคนเก็บเงิน
ไม่ได้พูดแบบไม่ได้ตั้งใจนะ คือ พูดแบบเสแสร้ง โอ้อวด คุยโว ฉันเก่งที่มีสามีดี ฉันเริศเชิด ประมาณนี้อะค่ะ ถ้าโกหกไม่ให้ทางบ้านเป็นห่วงก็จะอีกแบบหนึ่ง อันนี้ไม่ใช่เลยค่ะ นางเป็นมาตั้งแต่ไหนแต่ไรล่ะ มีแฟนกี่คนๆนางก็จะอวดสมบัติสามีหมดทุกคน สุดท้ายก็พลาดไม่เป็นท่า นางบอกนางสบายล่ะ ไม่ได้ลำบากอะไรที่มาอยู่กับอาม สามีเลี้ยงดูปูเสื่ออย่างดี เราก็เอะใจบ้างแล้วแหละแต่คิดว่าคงไม่ใช่หรอกมั้ง เพราะฟังจากทีาแนนเบ่าทั้งหมด นางก็ดูมีความสุขดีนะ แต่พอเรามารู้ความจริงทุกอย่างก็เฟลเล็กน้อย ตอนนี้เราก็ลองเริ่มเงียบๆกับนางล่ะไม่ค่อยอยากคุยเท่าไหร่ ให้นางใช้ชีวิตตามที่ใจนางต้องการ อยู่ภายใต้คำสั่งครอบครัวสามีก็แล้วกัน เรากับพี่สาวก็ให้คำปรึกษาได้แค่นี่แหละ พูดมากไม่ได้ เพราะพูดๆๆกันมาตลอดหลายปีที่ผ่านมาจนนางเปลี่ยนมามีสามีคนปัจจุบัน นางก็ยังไม่เปลี่ยนตัวเองสักที จากนี้ให้นางเดินตามทางของนางเองแล้วกัน ถ้าโชคดีเข้าข้างก็ขอให้นางปรับปรุงตัวเองได้และใช้ชีวิตในทางที่ดีต่อไป พี่ๆน้องๆที่อยู่ทางบ้านก็แค่ช่วยเตือน ปลอบใจอยู่ห่างๆแหละ จะเอาใจเราไปลงเล่นหรือลงไปช่วยแก้ปัญหามันก็เป็นไปไม่ได้ ชีวิตใครก็ชีวิตของคนนั้น
#ขอบคุณสำหรับเพื่อนๆที่สละเวลามาอ่านและมาแสดงความคิดเห็นกันเชิงสร้างสรรค์นะคะ##
โกหกคนทางบ้านว่าได้สามีดีทุกอย่าง
บ้านสามีก็สร้างให้ (แต่สร้างที่ ที่ดินของสามีนางนะ) ไม่ต้องออกไปทำงานนอกบ้าน สามีให้อยู่บ้านดูแลสวน ดูแลบ้าน สารพัดประโยชน์อะ ตอนแรกเราก็เชื่อนางนะ เราก็บอกนางว่าเออๆ ดีแล้วแหละ อยู่กันให้ดีๆล่ะ สิ่งไหนที่ทำไม่เป็นทำไม่ได้ก็ฝึกฝนบ้าง มีครอบครัวครั้งที่ 2 แล้ว อย่าให้ซ้ำกับบทเรียนเก่า ที่ทำอะไรไม่เป็นแล้วพ่อแม่สามีเก่าไม่ปลื้ม แล้วตัวเองอยู่ไม่ได้เลยต้องหนีออกมา ปรับปรุงตนเองให้เป็นคนใหม่ได้แล้ว ถ้าครอบครัวสามีเค้าดีขนาดนี้ น่ะ
นางก็อืมๆๆนั่นแหละใช่ๆๆ แต่สุดท้ายทุกอย่างกลับตาลปัตรค่ะ เรามาทราบความจริงทุกอย่างทีหลังจากพี่สาวของเรา (พี่สาวพ่อเดียวกันแต่คนละแม่)
พี่สาวเรายอกว่าก่อนแนนจะหนีจากสามีเก่าไปหาสามีใหม่(คนปัจจุบัน) แนนไปขออยู่กับพี่สาวเราก่อนที่ต่างอำเภอ พี่สาวเราบอกว่านางไม่ช่วยทำอะไรเลยแม้กระทั่งทำกับข้าวก็ไม่ช่วย แต่พอไปอยู่กับครอบครัวสามีนางช่วยแม่สามีหั่นผักต่างๆนาๆ แต่กับข้าวแม่สามีเป็นคนทำ พี่สาวเราเค้าก็ไม่ว่าอะไรเพราะถทอว่าเป็นพี่ๆน้องๆสกุลเดียวกัน อยู่ได้ประมาณ 4-5 เดือน อาม (อามอายุ 27 ปี)สามีคนปัจจุบันของนางมารับไปอยู่ด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้ อามกับแนนเคยเจอและแนนก็ไปมาหาสู่อามอยู่บ่อยๆ แนนจะเป็นคนนั่งรถไปหาอามด้วยตัวเอง พี่สาวเรายังบอกอีกว่า อามเป็นคนอารมณ์ค่อนข้างฉุนเฉียว ส่วนแนนก็เอาแต่ใจตัวเอง อามบอกพี่สาวเราว่าแนนชอบเอาแต่ใจ อยากได้อะไรก็ต้องได้ จนผมเกือบจะพลั้งมือใส่แนนไปหลายครั้งแล้ว แต่ผมยังไม่กล้าทำ #พี่สาวเราบอกอามว่าอย่าไปทำสงสารมันเถอะถือว่าพี่ขอ อามบอกว่าส่วนเรื่องรถมอเตอร์ไซค์ของแนน มันพังเยอะมาก ขับไม่ได้ต้องซ่อมก่อน แต่ถ้าไม่มีเล่มทะเบียนอามก็ไม่ซ้อมให้ ถ้าเอาเล่มทะเบียนที่เอาไปตั้งสินเชื่อกลับมาไม่ได้ และต่อไปถ้าแนนยังทำนิสัยแบบนี้อีก และยังไม่หางานทำ ผมคงต้องส่งแนนกลับบ้าน เพราะผมอยากได้เมีย ไม่ใช่อยากได้หนี้ที่ติดตัวเมียมา เพราะงานบ้านงานเรือนแนนก็ทำได้แค่กวาดบ้านถูบ้าน เวลาทำกับข้าวก็ต้องรอแม่สามี แล้วนางถึงจะไปช่วยทำ ที่ครอบครัวสามีแนน รับแนนเข้ามาเพราะทางบ้านของแนนฐานะดีในระดับหนึ่งแหละ ซึ่งนั่นก็เป็นอาของเราเอง ครอบครัวรับราชการ มีหน้ามีตาในสังคมดีๆ
เรื่องนี้นางไม่เคยบอกให้เราฟังเลยนะ นางแค่บอกว่าสามีดีนะ นั่นๆนี่ๆ แต่ก็นะคงไม่อยากให้ครอบครัวสามีต้องเสียหน้าหรืออับอาย เวลาเทศกาลตรุษจีน ลูกหลานก็จะมารวมตัวกันทุกปีที่บ้านอากง แต่แนนไม่กล้าพาสามีมา เพราะกลัวผู้ใหญ่จะถามต่อหน้าสามีว่าคนนี้นี่ผัวคนที่เท่าไหร่แล้วแนน นางกลัวสามีนางรับไม่ได้ รู้นะว่าเป็นเรื่องของนางกับสามี แต่พอมีอะไรนางจะไม่ยอมปริปากพูดออกมาเลยสักครั้ง เพราะนางไม่มีใครแล้วนอกจากเราและพี่สาวเรา คนอื่นๆแม้แต่พ่อแม่แนน ตอนนี้ก็ยังรับไม่ได้กับการที่แนนมาอยู่กับอาม แนนจะรอให้เกิดปัญหาก่อนทุกครั้งแล้วก็กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้อีกตั้งแต่สามีคนเก่าที่มีลูกด้วยกันล่ะ นางไม่รู้จักวิธีการใช้ชีวิตและการแก้ปัญหา ถ้าเราและพี่สาวไม่คอยพูดไม่คอยชี้แนะบ้าง นางก็จะไม่รู้เลย แต่ต่อให้เราพยามยามบอกเท่าไรนางก็ไม่ฟังใคร ทำตามใจตัวเองทุกอย่าง ทำตามที่ครอบครัวสามีบอก แต่กลับกันทางพี่น้องด้วยกันเองพอใครเตือน นางจะมีท่าทางไม่พอใจทันที นางบอกว่านางได้ดีแล้ว และปลูกหลักปักฐานอยู่บ้านสามีแล้ว และจะไม่กลับไปที่บ้านอีกถ้าไม่จำเป็น เรื่องตั้งท้องก็เหมือนกันอาของเราที่เป็นพ่อของแนน กำชับแนนว่า อย่าให้ท้องนะ เดี๋ยวจะลำบากขึ้นไปอีก เพราะกับสามีเก่าอยู่ไม่ได้ ยอมทิ้งลูกหนีมาก้ครั้งหนึ่งแล้ว จนเค้ากีดกันไม่ให้ติดต่อหาลูกสาวเลย ครั้งนี้ก็อย่าให้พลาดอีกล่ะ แต่นางก็ไม่ฟัง นางกลับไปฟังครอบครัวสามี แม่สามีบอกนางว่าทางนั้นเค้ากีดกันไม่ให้พบหน้าลูกสาวก็ช่างเค้า ทำเอาใหม่ก็ได้สร้างบ้านเสร็จก็เอาลูกเลย นางก็ตกลงตามนั้น ส่วนสามีนางเป็นคนที่พ่อแม่ว่ายังไงก็ว่าตาม มีเมียแล้วก็ยังให้พ่อแม่มากำกับชีวิตหมดทุกเรื่องเลยนะ งานการประจำก็ไม่มี มีแค่สวนปาล์ม สวนผัก เค้าก็อยู่ได้แล้ว วันไหนว่างไม่มีใครจ้างงานก็หยุดอยู่บ้าน ส่วนแนนสามีบังคับให้หางานทำก็เห็นนางส่งงานมาปรึกษาเราอยู่ว่างานนี้ดีไหม โอเคไหม เราก็บอกว่างานในโซเชียลที่แนนส่งมาน่ะ มันหลอกเอาข้อมูลทั้งนั้น ถ้าอยากจะทำงานจริงๆไม่ลองหาในเว็บไซต์ของจังหวัดล่ะ นางบอกว่ามีแต่ไกลจากบ้านมาก เราบอกว่าถ้างั้นก็ไปถามแถวร้านค้า ของชำแถวบ้านดูไหมล่ะ นางก็เงียบไปมัวแต่เครียดหางานไม่ได้ งานที่โรงงานน้ำดื่มก็ไปทำได้วันเดียวหัวหน้าให้ออกเพราะทำงานช้า เราก็ถามนางว่าแล้วจะเดือดร้อนหางานแบบรีบเร่งอะไรขนาดนั้น ค่อยๆหาไปก็ได้ ไหนบอกว่าสามีไม่ให้ทำงานอยู่แค่ที่บ้านไง ก็ทำหน้าที่ที่บ้านให้ดีสิ กับข้าวทำไม่เป็นก็หัดได้ นางก็เงียบไม่ตอบ เราก็ไม่ได้ถามอะไรต่อเพราะนางน่าจะเครียด
มีอยู่วันหนึ่งแนนบอกว่านางกวนๆสามี แล้วสามีไม่พอใจเตะนางตกน้ำข้างบ้านไปสองรอบ จนนางได้แผบกลับมา นางก็ไม่คิดอะไรเล่าไปหัวเราะไปดูเหมือนนางมีความสุข เราก็เออๆแต่ต่อไปอย่าทำอีก อากาศร้อนๆอยู่ด้วยเดี๋ยวจะโดนอีก
แต่ทำไมนางต้องโกหกที่บ้านว่าใช้ชีวิตดีๆ สามีให้ทุกอย่าง เรื่องเงินสามีนางก็เป็นคนถือ นางไม่ได้ถือเลยสักบาท แต่นางกลับบอกว่านางเป็นคนเก็บเงิน
ไม่ได้พูดแบบไม่ได้ตั้งใจนะ คือ พูดแบบเสแสร้ง โอ้อวด คุยโว ฉันเก่งที่มีสามีดี ฉันเริศเชิด ประมาณนี้อะค่ะ ถ้าโกหกไม่ให้ทางบ้านเป็นห่วงก็จะอีกแบบหนึ่ง อันนี้ไม่ใช่เลยค่ะ นางเป็นมาตั้งแต่ไหนแต่ไรล่ะ มีแฟนกี่คนๆนางก็จะอวดสมบัติสามีหมดทุกคน สุดท้ายก็พลาดไม่เป็นท่า นางบอกนางสบายล่ะ ไม่ได้ลำบากอะไรที่มาอยู่กับอาม สามีเลี้ยงดูปูเสื่ออย่างดี เราก็เอะใจบ้างแล้วแหละแต่คิดว่าคงไม่ใช่หรอกมั้ง เพราะฟังจากทีาแนนเบ่าทั้งหมด นางก็ดูมีความสุขดีนะ แต่พอเรามารู้ความจริงทุกอย่างก็เฟลเล็กน้อย ตอนนี้เราก็ลองเริ่มเงียบๆกับนางล่ะไม่ค่อยอยากคุยเท่าไหร่ ให้นางใช้ชีวิตตามที่ใจนางต้องการ อยู่ภายใต้คำสั่งครอบครัวสามีก็แล้วกัน เรากับพี่สาวก็ให้คำปรึกษาได้แค่นี่แหละ พูดมากไม่ได้ เพราะพูดๆๆกันมาตลอดหลายปีที่ผ่านมาจนนางเปลี่ยนมามีสามีคนปัจจุบัน นางก็ยังไม่เปลี่ยนตัวเองสักที จากนี้ให้นางเดินตามทางของนางเองแล้วกัน ถ้าโชคดีเข้าข้างก็ขอให้นางปรับปรุงตัวเองได้และใช้ชีวิตในทางที่ดีต่อไป พี่ๆน้องๆที่อยู่ทางบ้านก็แค่ช่วยเตือน ปลอบใจอยู่ห่างๆแหละ จะเอาใจเราไปลงเล่นหรือลงไปช่วยแก้ปัญหามันก็เป็นไปไม่ได้ ชีวิตใครก็ชีวิตของคนนั้น
#ขอบคุณสำหรับเพื่อนๆที่สละเวลามาอ่านและมาแสดงความคิดเห็นกันเชิงสร้างสรรค์นะคะ##