เพื่อนๆ หลายคนคงรู้จัก กิมจิ (Kimchi) เมนูเครื่องเคียงยอดนิยมจากแดนเคป๊อปเป็นอย่างดีกันใช่ไหมคะ เพราะทั้งอร่อย เข้ากันกับหลายๆ เมนู แถมยังสามารถนำไปรังสรรค์เป็นเมนูอื่นๆ ได้อีกมากมาย เลยอดไม่ได้ที่จะซื้อตุนไว้ในตู้เย็น
แต่เมื่อตุนไว้ในตู้เย็นนานๆ เข้า กิมจิที่ซื้อไว้ก็ไม่กรอบ สด หรือมีรสชาติที่เปรี้ยวเกินไปแล้ว บทความนี้เราเลยจะมาบอกเคล็ดลับ วิธีล้างผักให้สะอาด และขั้นตอนการเตรียมผัก ง่ายๆ ไว้ให้ทุกคนเพื่อเป็นแนวทางสำหรับการหมักกิมจิทานเอง จะมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง ไปอ่านพร้อมกันเลย!
1.ทำไมต้องล้างผักก่อนนำไปประกอบอาหาร
เนื่องจากฟาร์มผักบางที่อาจใช้ยาฆ่าแมลงในการเพาะปลูก เพื่อป้องกันแมลงมากัดกินผัก และอาจใช้สารเคมีชนิดอื่นๆ เพื่อรักษาสภาพผักให้สด ใหม่ ก่อนนำไปขายสู่ตลาดค่ะ และนอกจากนี้ยังมีพวกสารปนเปื้อน และแบคทีเรียอีกด้วย
หากเรานำมาประกอบอาหารเลย จะทำให้ร่างกายของเราเสี่ยงที่จะได้รับสารเคมี และแบคทีเรียจนเกิดอาการป่วยได้ วิธีล้างผักให้สะอาด จึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมากค่ะ
นอกจาก ”วิธีล้างผักให้สะอาด” ‘แล้ว เรายังมีเคล็ดลับ วิธีล้างกุ้งให้กรอบเด้งน่าทาน ให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันอีกด้วยนะคะ คลิกอ่านได้เลยที่ลิงก์ด้านล่าง
2.อันตรายจากผักที่ไม่ได้ล้าง
เนื่องจากในผักมีสารปนเปื้อนและแบคทีเรีย ที่อาจนำมาซึ่งโรคต่างๆ และอันตรายที่อาจเกิดขึ้นหากไม่ได้ล้างผักดังนี้ค่ะ
อาจเกิดอาการท้องร่วง คลื่นไส้ อาหารเป็นพิษ จากพยาธและเชื้อแบคทีเรียได้
ใครที่เป็นโรคภูมิแพ้ อาจเกิดอาการแพ้หากรับประทานผักที่ไม่ได้รับการล้างอย่างเหมาะสมค่ะ
อัตรายจากสาพิษตกค้าง จากการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช อาจทำใหเซลล์ระบบประสาทส่วนกลางทำงานผิดปกติ จนปวดหัว และอ่อนเพลียได้ค่ะ
แล้ว ”วิธีล้างผักให้สะอาด” ควรทำอย่างไร?
1.ล้างผักโดยการแช่น้ำทิ้งไว้ 5-10 นาที เพื่อให้เศษดินหลุดออก จากนั้นเปิดน้ำให้ไหลผ่านผัก แล้วใช้มือถูบริเวณใบและส่วนอื่นๆ เพียงเท่านี้ผักของเราก็สะอาดปลอดภัยแล้วค่ะ
2.การล้างผักด้วยผงฟู หรือเบคกิ้งโซดา โดยเราจะแช่ผักในน้ำที่ผสมแบคกิ้งโซดาไว้ 15 นาที เมื่อครบเวลาแล้วก็นำไปล้างน้ำเปล่าอีกหนึ่งรอบ วิธีนี้ผู้เชี่ยวชาญหลายคนบอกว่าช่วยลดสารตกค้างได้
90 – 95% เลยค่ะ
3.การล้างโดยใช้น้ำส้มสายชู วิธีนี้ให้ทุกคนผสมน้ำส้มสายชู 1 ส่วน ต่อน้ำ 10 ส่วน แล้วแช่ไว้ประมาณ 5-10 นาที แล้วนำไปล้างน้ำสะอาดอีก 2-3 รอบ วิธีนี้จะช่วยลดปริมาณสารตกข้างได้ถึง 60-84% เลยค่ะ
3.กิมจิใช้ผักอะไรได้บ้าง แล้วมีขั้นตอนการเตรียมอย่างไร
มาถึงหัวข้อที่ใครหลายๆ คนรอคอยกันแล้วค่ะ ก่อนอื่นเรามาดูกันก่อนดีกว่าค่ะว่าเราสามารถใช้ผักอะไรทำกิมจิได้บ้าง
ตามต้นตำรับเกาหลีนั้น เขามักจะนิยมใช้ ผักกาดขาว ในการทำกิมจิกันมากที่สุดค่ะ แต่จริงๆ แล้วเราสามารถใช้ผักอะไรก็ได้ตามความชอบของเราได้เลยค่ะ ทั้งผักกาดขาว หัวไชเท้า แครอท ต้นหอม เห็ดเข็มทอง และมะละกอค่ะ ซึ่งขั้นตอนการเตรียมผักเหล่านี้ก่อนจะนำไปทำกิมจิจะมีอะไรบ้าง ไปดูกันค่ะ
1.ผักกาดขาว
1.) นำผักกาดขาวมาล้างน้ำให้สะอาด
2.) จากนั้นนำมาหั่นโดยผ่าแบ่งเป็น 4 ส่วน แล้วหั่นเป็นท่อนเล็กๆ ขนาดพอดีคำค่ะ
3.) ต่อมานำไปล้างน้ำอีกหนึ่งรอบ แล้วโรยเกลือลงไปให้ทั่วๆ ผักกาดขาว ขั้นตอนนี้เราจะหมักทิ้งไว้ 10-30 นาที จนผักกาดขาวเริ่มนิ่ม
4.) จากนั้นก็นำผักกาดขาวไปล้าง 2-3 รอบ จนหมดความเค็ม และบีบน้ำออกจากผักกาดขาวให้แห้งที่สุด แล้วนำไปทำกิมจิทานได้เลยค่ะ
2. หัวไชเท้า
1.) นำหัวไชเท้ามาปอกเปลือกออกให้เรียบร้อย
2.) จากนั้นนำไปหั่นเป็นชิ้นเต๋า ให้ได้ขนาดพอดีคำค่ะ
3.) ต่อมานำไปคลุกเกลือให้ทั่ว แล้วหมักทิ้งไว้ 3 ชั่วโมง เมื่อครบ 3 ชั่วโมงแล้ว นำไปล้างน้ำจนหมดความเค็ม ขั้นตอนนี้จะช่วยลดความฝาดของหัวไชเท้าได้ค่ะ
4.) จากนั้นก็พักทิ้งไว้ให้สะเด็ดน้ำ หรือจนหัวไชเท้าแห้ง แล้วนำไปทำกิมจิทานได้เลยค่ะ
3. แครอท
1.) ขั้นตอนแรกให้เพื่อนๆ นำแครอทมาปอกเปลืองออกให้หมด แล้วนำไปล้างน้ำให้สะอาด
2.) จากนั้นนำไปสะเด็ดน้ำให้แห้ง แล้วนำมาซอยให้เป็นชิ้นฝอยๆ เล็กๆ
3.) เสร็จแล้วก็นำไปหมักกิมจิทานได้เลยค่ะ ทำง่ายสุดๆ เลยใช่ไหมล่ะคะ
4. ต้นหอม
1.) ขั้นตอนแรกให้เพื่อนๆ นำต้นหอมไปล้างน้ำให้สะอาด
2.) จากนั้นนำมาสะเด็ดน้ำให้แห้ง แล้วนำต้นหอมมาตัดรากออก
3.) ต่อมาหั่นต้อนหอมเป็นท่อน ให้ได้ขนาดตามที่ต้องการ แล้วนำไปหมักกิมจิได้เลยค่ะ
5. เห็ดเข็มทอง
1.) ขั้นแรกให้เพื่อนๆ นำเห็ดมาตัดโคนออก และนำไปล้างน้ำให้สะอาด
2.) จากนั้นตั้งหม้อต้มน้ำให้เดือด และนำเห็ดไปลวกให้สุก
3.) เมื่อเห็ดสุกแล้วนำไปล้างน้ำเย็น 1-2 รอบ
4.) ต่อมานำเห็ดไปสะเด็ดน้ำ หรือบีบน้ำออกจากตัวเห็ดให้แห้ง แล้วนำไปหมักกิมจิทานได้เลยค่ะ
6. มะละกอ
1.) นำมะละกอมาปอกเปลืองออกให้เกลี้ยง
2.) จากนั้นหั่นมะละกอออกเป็นครึ่งลูก ขูดเม็ดและเยื่อสีขาวออกให้หมด
3.) ต่อมาหั่นมะละกอให้เป็นเส้นเล็กๆ แล้วนำไปหมักเกลือทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง
4.) เมื่อครบ 1 ชั่วโมงแล้ว นำไปล้างน้ำให้สะอาด จนหมดความเค็ม
5.) สะเด็ดน้ำ หรือบีบน้ำออกจากมะละกอให้แห้ง แล้วนำไปหมักกิมจิได้เลยค่ะ
7. แตงกวา
1.) นำแตงกวามาล้างน้ำให้สะอาด จากนั้นนำไปหั่นให้ได้ขนาดตามที่ต้องการ
2.) ต่อมานำแตงกวาที่หั่นไว้ไปหมักเกลือ 5 นาที
3.) เมื่อครบเวลาแล้วนำไปล้างน้ำให้สะอาด จนหมดความเค็ม
4.) สะเด็ดน้ำออกจากแตงกวาให้แห้ง แล้วนำไปหมักกิมจิทานได้เลยค่ะ
4.อุปกรณ์ที่ใช้ทำกิมจิ
ดูขั้นตอนการเตรียมผัก และวิธีล้างผักให้สะอาดกันไปแล้ว เรามาดูอุปกรณ์ และวัตถุดิบที่เราจะต้องใช้ในการหมักกิมจิกันดีกว่าค่ะ ซึ่งสิ่งที่เราจะต้องเตรียมมีดังนี้
1.ผัก สามารถเลือกได้ตามความชอบของเพื่อนๆ เลยค่ะ
2.กะละมัง ไว้สำหรับล้างผัก
3.มีด และเขียง ไว้สำหรับหั่นผัก
4.เกลือ ไว้หมักผักก่อนนำไปทำกิมจิ สำหรับผักบางชนิดค่ะ
5.โคชูจัง
6.พริกเกาหลี
7.น้ำตาลทราย
8.แป้งข้าวเจ้า
9.หอมหัวใหญ่
10.กระเทียม
11.ขิง
12.น้ำปลา
13.น้ำเปล่า
14.ภาชนะสำหรับใส่กิมจิ
5.สรุป
ในผักมีสารปนเปื้อนและแบคทีเรีย ที่อาจนำมาซึ่งโรคต่างๆ จึงควรล้างผักให้สะอาดทุกครั้งก่อนนำไปประกอบอาหารค่ะ
การล้างผักด้วยผงฟู หรือเบคกิ้งโซดา วิธีนี้ผู้เชี่ยวชาญหลายคนบอกว่าช่วยลดสารตกค้างได้
90 – 95% เลยค่ะ
เมื่อซื้อกิมจิสำเร็จรูปมาตุนไว้ในตู้เย็นนานๆ เข้า กิมจิที่ซื้อไว้อาจไม่กรอบ สด หรือมีรสชาติที่เปรี้ยวเกินไป การทำกิมจิเองจึงถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีเลยค่ะ
🔗👩🏻🍳 อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่เลยครับ
https://mrk.co.th/blog/clean-vegetables-for-make-kimchi/
3 ขั้นตอนเตรียมผัก และวิธีล้างผักให้สะอาด ก่อนไปนำไปหมักกิมจิ
แต่เมื่อตุนไว้ในตู้เย็นนานๆ เข้า กิมจิที่ซื้อไว้ก็ไม่กรอบ สด หรือมีรสชาติที่เปรี้ยวเกินไปแล้ว บทความนี้เราเลยจะมาบอกเคล็ดลับ วิธีล้างผักให้สะอาด และขั้นตอนการเตรียมผัก ง่ายๆ ไว้ให้ทุกคนเพื่อเป็นแนวทางสำหรับการหมักกิมจิทานเอง จะมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง ไปอ่านพร้อมกันเลย!
1.ทำไมต้องล้างผักก่อนนำไปประกอบอาหาร
เนื่องจากฟาร์มผักบางที่อาจใช้ยาฆ่าแมลงในการเพาะปลูก เพื่อป้องกันแมลงมากัดกินผัก และอาจใช้สารเคมีชนิดอื่นๆ เพื่อรักษาสภาพผักให้สด ใหม่ ก่อนนำไปขายสู่ตลาดค่ะ และนอกจากนี้ยังมีพวกสารปนเปื้อน และแบคทีเรียอีกด้วย
หากเรานำมาประกอบอาหารเลย จะทำให้ร่างกายของเราเสี่ยงที่จะได้รับสารเคมี และแบคทีเรียจนเกิดอาการป่วยได้ วิธีล้างผักให้สะอาด จึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมากค่ะ
นอกจาก ”วิธีล้างผักให้สะอาด” ‘แล้ว เรายังมีเคล็ดลับ วิธีล้างกุ้งให้กรอบเด้งน่าทาน ให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันอีกด้วยนะคะ คลิกอ่านได้เลยที่ลิงก์ด้านล่าง
2.อันตรายจากผักที่ไม่ได้ล้าง
เนื่องจากในผักมีสารปนเปื้อนและแบคทีเรีย ที่อาจนำมาซึ่งโรคต่างๆ และอันตรายที่อาจเกิดขึ้นหากไม่ได้ล้างผักดังนี้ค่ะ
อาจเกิดอาการท้องร่วง คลื่นไส้ อาหารเป็นพิษ จากพยาธและเชื้อแบคทีเรียได้
ใครที่เป็นโรคภูมิแพ้ อาจเกิดอาการแพ้หากรับประทานผักที่ไม่ได้รับการล้างอย่างเหมาะสมค่ะ
อัตรายจากสาพิษตกค้าง จากการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช อาจทำใหเซลล์ระบบประสาทส่วนกลางทำงานผิดปกติ จนปวดหัว และอ่อนเพลียได้ค่ะ
แล้ว ”วิธีล้างผักให้สะอาด” ควรทำอย่างไร?
1.ล้างผักโดยการแช่น้ำทิ้งไว้ 5-10 นาที เพื่อให้เศษดินหลุดออก จากนั้นเปิดน้ำให้ไหลผ่านผัก แล้วใช้มือถูบริเวณใบและส่วนอื่นๆ เพียงเท่านี้ผักของเราก็สะอาดปลอดภัยแล้วค่ะ
2.การล้างผักด้วยผงฟู หรือเบคกิ้งโซดา โดยเราจะแช่ผักในน้ำที่ผสมแบคกิ้งโซดาไว้ 15 นาที เมื่อครบเวลาแล้วก็นำไปล้างน้ำเปล่าอีกหนึ่งรอบ วิธีนี้ผู้เชี่ยวชาญหลายคนบอกว่าช่วยลดสารตกค้างได้
90 – 95% เลยค่ะ
3.การล้างโดยใช้น้ำส้มสายชู วิธีนี้ให้ทุกคนผสมน้ำส้มสายชู 1 ส่วน ต่อน้ำ 10 ส่วน แล้วแช่ไว้ประมาณ 5-10 นาที แล้วนำไปล้างน้ำสะอาดอีก 2-3 รอบ วิธีนี้จะช่วยลดปริมาณสารตกข้างได้ถึง 60-84% เลยค่ะ
3.กิมจิใช้ผักอะไรได้บ้าง แล้วมีขั้นตอนการเตรียมอย่างไร
มาถึงหัวข้อที่ใครหลายๆ คนรอคอยกันแล้วค่ะ ก่อนอื่นเรามาดูกันก่อนดีกว่าค่ะว่าเราสามารถใช้ผักอะไรทำกิมจิได้บ้าง
ตามต้นตำรับเกาหลีนั้น เขามักจะนิยมใช้ ผักกาดขาว ในการทำกิมจิกันมากที่สุดค่ะ แต่จริงๆ แล้วเราสามารถใช้ผักอะไรก็ได้ตามความชอบของเราได้เลยค่ะ ทั้งผักกาดขาว หัวไชเท้า แครอท ต้นหอม เห็ดเข็มทอง และมะละกอค่ะ ซึ่งขั้นตอนการเตรียมผักเหล่านี้ก่อนจะนำไปทำกิมจิจะมีอะไรบ้าง ไปดูกันค่ะ
1.ผักกาดขาว
1.) นำผักกาดขาวมาล้างน้ำให้สะอาด
2.) จากนั้นนำมาหั่นโดยผ่าแบ่งเป็น 4 ส่วน แล้วหั่นเป็นท่อนเล็กๆ ขนาดพอดีคำค่ะ
3.) ต่อมานำไปล้างน้ำอีกหนึ่งรอบ แล้วโรยเกลือลงไปให้ทั่วๆ ผักกาดขาว ขั้นตอนนี้เราจะหมักทิ้งไว้ 10-30 นาที จนผักกาดขาวเริ่มนิ่ม
4.) จากนั้นก็นำผักกาดขาวไปล้าง 2-3 รอบ จนหมดความเค็ม และบีบน้ำออกจากผักกาดขาวให้แห้งที่สุด แล้วนำไปทำกิมจิทานได้เลยค่ะ
2. หัวไชเท้า
1.) นำหัวไชเท้ามาปอกเปลือกออกให้เรียบร้อย
2.) จากนั้นนำไปหั่นเป็นชิ้นเต๋า ให้ได้ขนาดพอดีคำค่ะ
3.) ต่อมานำไปคลุกเกลือให้ทั่ว แล้วหมักทิ้งไว้ 3 ชั่วโมง เมื่อครบ 3 ชั่วโมงแล้ว นำไปล้างน้ำจนหมดความเค็ม ขั้นตอนนี้จะช่วยลดความฝาดของหัวไชเท้าได้ค่ะ
4.) จากนั้นก็พักทิ้งไว้ให้สะเด็ดน้ำ หรือจนหัวไชเท้าแห้ง แล้วนำไปทำกิมจิทานได้เลยค่ะ
3. แครอท
1.) ขั้นตอนแรกให้เพื่อนๆ นำแครอทมาปอกเปลืองออกให้หมด แล้วนำไปล้างน้ำให้สะอาด
2.) จากนั้นนำไปสะเด็ดน้ำให้แห้ง แล้วนำมาซอยให้เป็นชิ้นฝอยๆ เล็กๆ
3.) เสร็จแล้วก็นำไปหมักกิมจิทานได้เลยค่ะ ทำง่ายสุดๆ เลยใช่ไหมล่ะคะ
4. ต้นหอม
1.) ขั้นตอนแรกให้เพื่อนๆ นำต้นหอมไปล้างน้ำให้สะอาด
2.) จากนั้นนำมาสะเด็ดน้ำให้แห้ง แล้วนำต้นหอมมาตัดรากออก
3.) ต่อมาหั่นต้อนหอมเป็นท่อน ให้ได้ขนาดตามที่ต้องการ แล้วนำไปหมักกิมจิได้เลยค่ะ
5. เห็ดเข็มทอง
1.) ขั้นแรกให้เพื่อนๆ นำเห็ดมาตัดโคนออก และนำไปล้างน้ำให้สะอาด
2.) จากนั้นตั้งหม้อต้มน้ำให้เดือด และนำเห็ดไปลวกให้สุก
3.) เมื่อเห็ดสุกแล้วนำไปล้างน้ำเย็น 1-2 รอบ
4.) ต่อมานำเห็ดไปสะเด็ดน้ำ หรือบีบน้ำออกจากตัวเห็ดให้แห้ง แล้วนำไปหมักกิมจิทานได้เลยค่ะ
6. มะละกอ
1.) นำมะละกอมาปอกเปลืองออกให้เกลี้ยง
2.) จากนั้นหั่นมะละกอออกเป็นครึ่งลูก ขูดเม็ดและเยื่อสีขาวออกให้หมด
3.) ต่อมาหั่นมะละกอให้เป็นเส้นเล็กๆ แล้วนำไปหมักเกลือทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง
4.) เมื่อครบ 1 ชั่วโมงแล้ว นำไปล้างน้ำให้สะอาด จนหมดความเค็ม
5.) สะเด็ดน้ำ หรือบีบน้ำออกจากมะละกอให้แห้ง แล้วนำไปหมักกิมจิได้เลยค่ะ
7. แตงกวา
1.) นำแตงกวามาล้างน้ำให้สะอาด จากนั้นนำไปหั่นให้ได้ขนาดตามที่ต้องการ
2.) ต่อมานำแตงกวาที่หั่นไว้ไปหมักเกลือ 5 นาที
3.) เมื่อครบเวลาแล้วนำไปล้างน้ำให้สะอาด จนหมดความเค็ม
4.) สะเด็ดน้ำออกจากแตงกวาให้แห้ง แล้วนำไปหมักกิมจิทานได้เลยค่ะ
4.อุปกรณ์ที่ใช้ทำกิมจิ
ดูขั้นตอนการเตรียมผัก และวิธีล้างผักให้สะอาดกันไปแล้ว เรามาดูอุปกรณ์ และวัตถุดิบที่เราจะต้องใช้ในการหมักกิมจิกันดีกว่าค่ะ ซึ่งสิ่งที่เราจะต้องเตรียมมีดังนี้
1.ผัก สามารถเลือกได้ตามความชอบของเพื่อนๆ เลยค่ะ
2.กะละมัง ไว้สำหรับล้างผัก
3.มีด และเขียง ไว้สำหรับหั่นผัก
4.เกลือ ไว้หมักผักก่อนนำไปทำกิมจิ สำหรับผักบางชนิดค่ะ
5.โคชูจัง
6.พริกเกาหลี
7.น้ำตาลทราย
8.แป้งข้าวเจ้า
9.หอมหัวใหญ่
10.กระเทียม
11.ขิง
12.น้ำปลา
13.น้ำเปล่า
14.ภาชนะสำหรับใส่กิมจิ
5.สรุป
ในผักมีสารปนเปื้อนและแบคทีเรีย ที่อาจนำมาซึ่งโรคต่างๆ จึงควรล้างผักให้สะอาดทุกครั้งก่อนนำไปประกอบอาหารค่ะ
การล้างผักด้วยผงฟู หรือเบคกิ้งโซดา วิธีนี้ผู้เชี่ยวชาญหลายคนบอกว่าช่วยลดสารตกค้างได้
90 – 95% เลยค่ะ
เมื่อซื้อกิมจิสำเร็จรูปมาตุนไว้ในตู้เย็นนานๆ เข้า กิมจิที่ซื้อไว้อาจไม่กรอบ สด หรือมีรสชาติที่เปรี้ยวเกินไป การทำกิมจิเองจึงถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีเลยค่ะ
🔗👩🏻🍳 อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่เลยครับ
https://mrk.co.th/blog/clean-vegetables-for-make-kimchi/