เชียงใหม่จมฝุ่นยาว ซ้ำร้อนหนักขึ้นเรื่อยๆ ไฟผลาญป่าใหญ่ 2 แปลง คาดอุณหภูมิแตะ 42 เซลเซียส
https://www.matichon.co.th/region/news_4503455
เชียงใหม่จมฝุ่นยาว ซ้ำร้อนหนักขึ้นเรื่อยๆ ไฟผลาญป่าใหญ่ 2 แปลง คาดอุณหภูมิแตะ 42 เซลเซียส
วันที่ 1 เมษายน ศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เชียงใหม่ รายงานพบจุดความร้อน (Hotspot) ประจำวันที่ 1 เมษายน 2567 รอบเช้า จำนวน 98 จุด ในพื้นที่อำเภอเชียงดาว 16 จุด ไชยปราการ 14 จุด จอมทอง 12 จุด แม่แจ่ม 12 จุด ฮอด 10 จุด สะเมิง 6 จุด พร้าว 6 จุด หางดง 6 จุด อมก๋อย 4 จุด แม่แตง 3 จุด แม่อาย 2 จุด แม่วาง 2 จุด ดอยเต่า 1 จุด ดอยสะเก็ด 1 จุด กัลยาณิวัฒนา 1 จุด ฝาง 1 จุด และแม่ออน 1 จุด โดยในช่วงรอบบ่ายของทุกวันจุดความร้อน (Hotspot) จะพุ่งขึ้นสูงเกิน 100 จุด ส่งผลให้ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กพุ่งขึ้นสูงเกินค่ามาตรฐานเกินกว่า 2 สัปดาห์ต่อเนื่อง
ส่วนสถานการณ์ไฟป่าลุกลามอย่างรวดเร็วเย็นวานนี้ (31 มีนาคม) เหนืออ่างเก็บน้ำกาแลไต่ไปตามทางในป่าสู่หอดูดาว จนเกิดควันไฟสีดำมองเห็นเป็นแนวยาวบนดอยสุเทพ-ปุย ฝั่งอำเภอเมืองเชียงใหม่นั้น นายทศพล เผื่อนอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับเจ้าหน้าที่เสือไฟ พร้อมด้วยชาวบ้าน และพระภิกษุและสามเณรร่วมกันระดมกำลังเข้าดับไฟจนดับลงได้สำเร็จ ส่วนความเสียหายของผืนป่าอยู่ระหว่างสำรวจ อย่างไรก็ตามในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ฝั่งอำเภอแม่ริม และอำเภอหางดง ยังคงเกิดไฟป่าต่อเนื่องทุกวันในช่วงนี้
ดร.
เจน ชาญณรงค์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า มีความเป็นห่วงว่า เดือนเมษายนนี้สถานการณ์คงจะสาหัสมาก เพราะทั้งสามแอ่ง คือ พื้นที่อุทยานแห่งชาติแม่ปิง อมก๋อย แม่ตื่น แม้จะเริ่มต้นด้วยดี แต่ดูเหมือนเราจะควบคุมชายชุดดำ หรือคนเผาป่าไม่ได้ ในที่สุดไฟป่าไหม้รอบบ้านก้อ และกำลังลามเข้าป่าต้นน้ำ เป็นไฟครั้งที่ 22 จาก 25 ปีย้อนหลังแล้ว พบการทำลายป่าต้นน้ำตัวเองทุกปี รวมทั้งเผาสายไฟฟ้าหลักเข้าหมู่บ้าน กังวลใจว่านับจากนี้ภาวะโลกร้อนจะหนักขึ้นเรื่อยๆ อุณหภูมิ ปีนี้จะแตะ 42 เซลเซียส และ 10 ปีที่ผ่านมาเพิ่มแบบก้าวกระโดด เชื่อว่าอีกไม่กี่ปีจะเห็น 45 องศาเซลเซียส และแห้งแล้งหนักขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเผาเหมือนเดิมก็จะสาหัสเป็นทวีคูณ ต่อไปอาหารคงปลูกไม่ได้ เพราะขาดน้ำและป่าที่ถูกเผาต่อเนื่องซ้ำซากเริ่มกลายเป็นทุ่งหญ้า คงเริ่มเห็นการอพยบออกจากหมู่บ้าน
“
สามป่านี้สำคัญมาก แต่มีไฟป่าแปลงใหญ่ซ้ำซากที่สุดของประเทศไทย ไฟออกจากพื้นที่ที่มั่นคงขนาดนี้ได้ ฝุ่นจากที่นี่คงมุ่งสู่แอ่งลำปาง ลำพูน และเชียงใหม่ และคงจะลุกไหม้อีกนานกว่า 10 วัน ทนสู้มาได้ตั้งนานโดยใช้งบประมาณ คนมากมาย รวมทั้งความตั้งใจ แต่ที่สุดก็สู้คนเผาไม่กี่คนไม่ไหว บวกกับป่าสาละวิน ถือเป็นสองกลุ่มป่าที่มีไฟป่าซ้ำซากแปลงใหญ่ที่สุด รวมสองกลุ่มนี้น่าจะลุกไหม้ใกล้สองล้านไร่ คิดเป็นพื้นที่สองเท่าของกรุงเทพมหานครและปริมณฑลรวมกัน” ดร.
เจน กล่าว
นาย
รักชัย ศรีนวน ผู้อำนวยการส่วนพยากรณ์อากาศ ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ กล่าวว่า หากมองเฉพาะปัจจัยของสุขภาพอากาศ สัปดาห์นี้แนวโน้มการสะสมของฝุ่นควันจะเพิ่มมากขึ้น เนื่องค่าอัตราการระบายอากาศที่วิเคราะห์ได้จากข้อมูลการตรวจอากาศชั้นบนในพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะการระบายอากาศช่วงกลางคืนถึงช่วงเช้าอยู่ในเกณฑ์ระบายได้น้อย-ปานกลาง ส่วนในช่วงบ่ายอยู่ในเกณฑ์ดีมาก
วิโรจน์ ระบุ ซักฟอกรอบนี้แค่มาเตือน รบ. ลั่น ร้องสอบแน่หากพบทุจริต
https://www.matichon.co.th/politics/news_4503195
‘วิโรจน์’ ระบุ ซักฟอกรอบนี้แค่เตือน รบ. รอเก็บหลักฐานต่อ ลั่น หากพบทุจริตร้องสอบแน่
เมื่อวันที่ 1 เมษายน นาย
วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมข้อมูลเพื่ออภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ว่าจะส่งผลถึงขั้นเขย่ารัฐบาลหรือไม่ ว่า การอภิปรายรอบนี้เป็นการอภิปรายทั่วไป เราคงการนำเสนอถึงความล่าช้าในการปฏิบัติงานของรัฐบาล และนโยบายที่เรารู้สึกว่ารัฐบาลน่าจะมาผิดทาง ซึ่งจริงๆ เรามีเป้าหมายที่จะเตือนรัฐบาล ว่าควรจะเร่งทำงานตามที่เคยให้คำมั่นกับประชาชนได้แล้ว
นาย
วิโรจน์กล่าวว่า ส่วนในเรื่องที่มีการเตรียมข้อมูลหรือค้นพบหลักฐานเด็ด ที่จะส่งผลให้รัฐบาลล้ม ตนคิดว่ายังไม่ถึงเวลาตรงนั้น เพราะนี่ไม่ใช่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ข้อมูลเราก็มีอยู่แล้วในเรื่องการขับเคลื่อนนโยบายที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งเราก็ต้องรวบรวมหลักฐานต่อไป เพราะบางเรื่องเราก็เห็นแค่นโยบายที่มาผิดทาง แต่เนื่องจากงบประมาณ ปี 67 เพิ่งจะผ่าน มันก็ยังไม่มีหลักฐานที่กระทำการ
นาย
วิโรจน์กล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตามแทนที่เราจะเก็บเรื่องเงียบเอาไว้ มันไม่เกิดประโยชน์แล้ว ไม่ว่าอะไรก็ตามที่เรารู้ แน่นอนว่าถ้าเดินต่อไป ไปผิดทางแน่นอน หรืออาจเอื้อให้เกิดการทุจริต เราจึงตัดสินใจเตือนรัฐบาลจากหลักฐานเบื้องต้นที่เราพบ เพราะเราไม่ต้องการให้ความเสียหายเกิดขึ้นกับประชาชน
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากเราเตือนรัฐบาลแล้วแต่ยังเกิดเหตุการณ์ที่อาจส่อการทุจริตในอนาคต นายวิโรจน์กล่าวว่า เราก็ต้องตามต่อ ซึ่งจะเป็นการชี้เจตนาของรัฐบาลเลย ไม่ใช่ว่ารัฐบาลหลงผิดหรือคิดไม่ได้แล้ว แต่เป็นเจตนาที่จะเอื้อผลประโยชน์ให้กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ซึ่งหากยังคงเกิดเหตุการณ์ส่อทุจริตในอนาคต ก็มีความเป็นไปได้ที่จะนำเรื่องไปยื่นให้กับทางสำนักงานปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรืออาจจะร้องไปที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ส่วนมีเรื่องใดบ้างที่น่าจับตามองเป็นพิเศษนั้น ตนขอให้รอดูดีกว่า
โรงแรมระยองเหงา ถูกคอนโดเช่ารายวันตีตลาด ‘อสังหา’ จุกกู้ไม่ผ่านพุ่ง 50-80%
https://www.matichon.co.th/economy/news_4503411
โรงแรมระยองเหงา ถูกคอนโดเช่ารายวันตีตลาด ‘อสังหา’ จุกกู้ไม่ผ่านพุ่ง 50-80%
เมื่อวันที่ 1 เมษายน นายเปรมสรณ์ ศรีวิบูลย์ชัย กรรมการผู้จัดการบริษัท วีพี เรียลเอสเตท พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลล็อปเม้นท์ จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และโรงแรมจังหวัดระยอง เปิดเผยว่า สถานการณ์อัตราเข้าพักโรงแรมในพื้นที่จังหวัดระยอง ไม่ค่อยดี เมื่อเทียบกับเมืองหลัก ดูจากยอดจองห้องพักโรงแรมพาวีน่า ของบริษัทเฉลี่ยอยู่ที่ 50 % ได้อานิสงส์โรงแรมติดทะเลเต็ม มีการจัดงานอีเวนต์ รวมถึงเทศกาลสงกรานต์ที่เริ่มเห็นมีของเข้ามาแล้ว
ส่วนใหญ่เป็นคนไทยและพักประมาณ 2-3 วัน ส่วนต่างชาติมีบ้าง ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากประเทศเกาหลี ขณะที่ประเทศจีนยังไม่มี คาดว่าน่าจะไปท่องเที่ยวเมืองหลักมากกว่าเมืองรอง
“
ยังมาเจอปัญหาคู่แข่งทางอ้อม เป็นห้องเช่ารายวันจากโครงการคอนโดมิเนียมที่ขายไม่หมด ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการรายย่อย ที่นำมาปล่อยเช่ารายวัน หรือเอเจนท์ที่เหมาไปแล้ว นำมาปล่อยเช่าให้กับคนไทยและต่างชาติ ซึ่งจะให้เช่าในราคาที่ถูกกว่าโรงแรม โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 800-900 บาทต่อคืน ขณะที่โรงแรมอยู่ที่ 1,200-1,500 บาทต่อคืน” นาย
เปรมสรณ์กล่าว
นาย
เปรมสรณ์ กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่จังหวัดระยอง ซบเซามากกว่าปี 2566 ที่ผ่านมา โดยปัจจัยหลักคืออัตราดอกเบี้ยแพง ทำให้ลูกค้าไม่มั่นใจในการกู้ เพราะกลัวกู้ไม่ผ่าน และกู้ได้ไม่เต็ม 100% เนื่องจากธนาคารเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มระดับราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท ที่มีปัญหามากสุด มีปัญหากู้แบงก์ไม่ผ่านสูงถึง 50-80% เพราะเป็นกลุ่มใหญ่ของตลาดอสังหาริมทรัพย์จังหวัดระยอง โดยมีสัดส่วนอยู่ที่ 50%
นายเ
ปรมสรณ์ กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมีโครงการอยู่ระหว่างการขาย 10 โครงการ รวมทั้งสิ้น 200-300 ยูนิต เป็นบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ขนาด 1-2 ชั้น ราคาตั้งแต่ 1.4-10 ล้านบาท โดยเป็นโครงการที่พัฒนามา 1-2 ปี แต่เนื่องจากมีลูกค้ากู้แบงก์ไม่ผ่าน 50-80% ทำให้การขายช้า เนื่องจากขายได้ แต่กู้ไม่ผ่าน จึงต้องนำมาขายใหม่ 2-5 รอบกว่าจะขายได้ในแต่ละหลัง ซึ่งเป็นบ้านกลุ่มต่ำ 3 ล้านบาทมากที่สุด ขณะที่ราคา 5 ล้านบาทก็เริ่มขายยากขึ้นเหมือนกัน
“
ตอนนี้เรามีปัญหาลูกค้ากู้แบงก์ไม่ผ่านเยอะ หากมีพรีแอฟปรู๊ฟแล้วอยู่ที่ 50% ถ้าไม่มีอยู่ที่ 80% ซึ่งคงทำอะไรไม่ได้ ต้องนำมาขายใหม่ จนกว่าจะขายได้ และรอแบงก์ชาติลดดอกเบี้ยอย่างเดียว” นาย
เปรมสรณ์กล่าว
นาย
เปรมสรณ์กล่าวว่า ขณะเดียวกันต้องลงทุนอย่างระมัดระวังมากขึ้น โดยในปี 2567 เน้นขายโครงการเก่า มีเปิดเพียง 1 โครงการ จำนวน 70 หลัง มูลค่า 200 กว่าล้านบาทในย่านบ้านค่าย ซึ่งการที่บริษัทตัดสินใจเปิด เนื่องจากเป็นแผนที่วางไว้เมื่อปี 2565 และซื้อที่ดินไว้แล้ว ซึ่งในขณะนั้นยังขายได้เรื่อยๆ ไม่มีปัญหากู้แบงก์ไม่ผ่านสูงเหมือนปัจจุบัน และการพัฒนาโครงการจะใช้เวลา 3-5 ปี จึงน่าจะเป็นช่วงเวลาที่โครงการเก่าขายหมดแล้ว
JJNY : เชียงใหม่จมฝุ่นยาว ซ้ำร้อนหนักขึ้น│วิโรจน์ระบุ รอบนี้แค่มาเตือน│โรงแรมระยองเหงา│สื่อจีนปั่นข่าว ปธน.ไต้หวันเผ่น
https://www.matichon.co.th/region/news_4503455
เชียงใหม่จมฝุ่นยาว ซ้ำร้อนหนักขึ้นเรื่อยๆ ไฟผลาญป่าใหญ่ 2 แปลง คาดอุณหภูมิแตะ 42 เซลเซียส
วันที่ 1 เมษายน ศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เชียงใหม่ รายงานพบจุดความร้อน (Hotspot) ประจำวันที่ 1 เมษายน 2567 รอบเช้า จำนวน 98 จุด ในพื้นที่อำเภอเชียงดาว 16 จุด ไชยปราการ 14 จุด จอมทอง 12 จุด แม่แจ่ม 12 จุด ฮอด 10 จุด สะเมิง 6 จุด พร้าว 6 จุด หางดง 6 จุด อมก๋อย 4 จุด แม่แตง 3 จุด แม่อาย 2 จุด แม่วาง 2 จุด ดอยเต่า 1 จุด ดอยสะเก็ด 1 จุด กัลยาณิวัฒนา 1 จุด ฝาง 1 จุด และแม่ออน 1 จุด โดยในช่วงรอบบ่ายของทุกวันจุดความร้อน (Hotspot) จะพุ่งขึ้นสูงเกิน 100 จุด ส่งผลให้ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กพุ่งขึ้นสูงเกินค่ามาตรฐานเกินกว่า 2 สัปดาห์ต่อเนื่อง
ส่วนสถานการณ์ไฟป่าลุกลามอย่างรวดเร็วเย็นวานนี้ (31 มีนาคม) เหนืออ่างเก็บน้ำกาแลไต่ไปตามทางในป่าสู่หอดูดาว จนเกิดควันไฟสีดำมองเห็นเป็นแนวยาวบนดอยสุเทพ-ปุย ฝั่งอำเภอเมืองเชียงใหม่นั้น นายทศพล เผื่อนอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับเจ้าหน้าที่เสือไฟ พร้อมด้วยชาวบ้าน และพระภิกษุและสามเณรร่วมกันระดมกำลังเข้าดับไฟจนดับลงได้สำเร็จ ส่วนความเสียหายของผืนป่าอยู่ระหว่างสำรวจ อย่างไรก็ตามในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ฝั่งอำเภอแม่ริม และอำเภอหางดง ยังคงเกิดไฟป่าต่อเนื่องทุกวันในช่วงนี้
ดร.เจน ชาญณรงค์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า มีความเป็นห่วงว่า เดือนเมษายนนี้สถานการณ์คงจะสาหัสมาก เพราะทั้งสามแอ่ง คือ พื้นที่อุทยานแห่งชาติแม่ปิง อมก๋อย แม่ตื่น แม้จะเริ่มต้นด้วยดี แต่ดูเหมือนเราจะควบคุมชายชุดดำ หรือคนเผาป่าไม่ได้ ในที่สุดไฟป่าไหม้รอบบ้านก้อ และกำลังลามเข้าป่าต้นน้ำ เป็นไฟครั้งที่ 22 จาก 25 ปีย้อนหลังแล้ว พบการทำลายป่าต้นน้ำตัวเองทุกปี รวมทั้งเผาสายไฟฟ้าหลักเข้าหมู่บ้าน กังวลใจว่านับจากนี้ภาวะโลกร้อนจะหนักขึ้นเรื่อยๆ อุณหภูมิ ปีนี้จะแตะ 42 เซลเซียส และ 10 ปีที่ผ่านมาเพิ่มแบบก้าวกระโดด เชื่อว่าอีกไม่กี่ปีจะเห็น 45 องศาเซลเซียส และแห้งแล้งหนักขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเผาเหมือนเดิมก็จะสาหัสเป็นทวีคูณ ต่อไปอาหารคงปลูกไม่ได้ เพราะขาดน้ำและป่าที่ถูกเผาต่อเนื่องซ้ำซากเริ่มกลายเป็นทุ่งหญ้า คงเริ่มเห็นการอพยบออกจากหมู่บ้าน
“สามป่านี้สำคัญมาก แต่มีไฟป่าแปลงใหญ่ซ้ำซากที่สุดของประเทศไทย ไฟออกจากพื้นที่ที่มั่นคงขนาดนี้ได้ ฝุ่นจากที่นี่คงมุ่งสู่แอ่งลำปาง ลำพูน และเชียงใหม่ และคงจะลุกไหม้อีกนานกว่า 10 วัน ทนสู้มาได้ตั้งนานโดยใช้งบประมาณ คนมากมาย รวมทั้งความตั้งใจ แต่ที่สุดก็สู้คนเผาไม่กี่คนไม่ไหว บวกกับป่าสาละวิน ถือเป็นสองกลุ่มป่าที่มีไฟป่าซ้ำซากแปลงใหญ่ที่สุด รวมสองกลุ่มนี้น่าจะลุกไหม้ใกล้สองล้านไร่ คิดเป็นพื้นที่สองเท่าของกรุงเทพมหานครและปริมณฑลรวมกัน” ดร.เจน กล่าว
นายรักชัย ศรีนวน ผู้อำนวยการส่วนพยากรณ์อากาศ ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ กล่าวว่า หากมองเฉพาะปัจจัยของสุขภาพอากาศ สัปดาห์นี้แนวโน้มการสะสมของฝุ่นควันจะเพิ่มมากขึ้น เนื่องค่าอัตราการระบายอากาศที่วิเคราะห์ได้จากข้อมูลการตรวจอากาศชั้นบนในพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะการระบายอากาศช่วงกลางคืนถึงช่วงเช้าอยู่ในเกณฑ์ระบายได้น้อย-ปานกลาง ส่วนในช่วงบ่ายอยู่ในเกณฑ์ดีมาก
วิโรจน์ ระบุ ซักฟอกรอบนี้แค่มาเตือน รบ. ลั่น ร้องสอบแน่หากพบทุจริต
https://www.matichon.co.th/politics/news_4503195
‘วิโรจน์’ ระบุ ซักฟอกรอบนี้แค่เตือน รบ. รอเก็บหลักฐานต่อ ลั่น หากพบทุจริตร้องสอบแน่
เมื่อวันที่ 1 เมษายน นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมข้อมูลเพื่ออภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ว่าจะส่งผลถึงขั้นเขย่ารัฐบาลหรือไม่ ว่า การอภิปรายรอบนี้เป็นการอภิปรายทั่วไป เราคงการนำเสนอถึงความล่าช้าในการปฏิบัติงานของรัฐบาล และนโยบายที่เรารู้สึกว่ารัฐบาลน่าจะมาผิดทาง ซึ่งจริงๆ เรามีเป้าหมายที่จะเตือนรัฐบาล ว่าควรจะเร่งทำงานตามที่เคยให้คำมั่นกับประชาชนได้แล้ว
นายวิโรจน์กล่าวว่า ส่วนในเรื่องที่มีการเตรียมข้อมูลหรือค้นพบหลักฐานเด็ด ที่จะส่งผลให้รัฐบาลล้ม ตนคิดว่ายังไม่ถึงเวลาตรงนั้น เพราะนี่ไม่ใช่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ข้อมูลเราก็มีอยู่แล้วในเรื่องการขับเคลื่อนนโยบายที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งเราก็ต้องรวบรวมหลักฐานต่อไป เพราะบางเรื่องเราก็เห็นแค่นโยบายที่มาผิดทาง แต่เนื่องจากงบประมาณ ปี 67 เพิ่งจะผ่าน มันก็ยังไม่มีหลักฐานที่กระทำการ
นายวิโรจน์กล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตามแทนที่เราจะเก็บเรื่องเงียบเอาไว้ มันไม่เกิดประโยชน์แล้ว ไม่ว่าอะไรก็ตามที่เรารู้ แน่นอนว่าถ้าเดินต่อไป ไปผิดทางแน่นอน หรืออาจเอื้อให้เกิดการทุจริต เราจึงตัดสินใจเตือนรัฐบาลจากหลักฐานเบื้องต้นที่เราพบ เพราะเราไม่ต้องการให้ความเสียหายเกิดขึ้นกับประชาชน
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากเราเตือนรัฐบาลแล้วแต่ยังเกิดเหตุการณ์ที่อาจส่อการทุจริตในอนาคต นายวิโรจน์กล่าวว่า เราก็ต้องตามต่อ ซึ่งจะเป็นการชี้เจตนาของรัฐบาลเลย ไม่ใช่ว่ารัฐบาลหลงผิดหรือคิดไม่ได้แล้ว แต่เป็นเจตนาที่จะเอื้อผลประโยชน์ให้กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ซึ่งหากยังคงเกิดเหตุการณ์ส่อทุจริตในอนาคต ก็มีความเป็นไปได้ที่จะนำเรื่องไปยื่นให้กับทางสำนักงานปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรืออาจจะร้องไปที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ส่วนมีเรื่องใดบ้างที่น่าจับตามองเป็นพิเศษนั้น ตนขอให้รอดูดีกว่า
โรงแรมระยองเหงา ถูกคอนโดเช่ารายวันตีตลาด ‘อสังหา’ จุกกู้ไม่ผ่านพุ่ง 50-80%
https://www.matichon.co.th/economy/news_4503411
โรงแรมระยองเหงา ถูกคอนโดเช่ารายวันตีตลาด ‘อสังหา’ จุกกู้ไม่ผ่านพุ่ง 50-80%
เมื่อวันที่ 1 เมษายน นายเปรมสรณ์ ศรีวิบูลย์ชัย กรรมการผู้จัดการบริษัท วีพี เรียลเอสเตท พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลล็อปเม้นท์ จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และโรงแรมจังหวัดระยอง เปิดเผยว่า สถานการณ์อัตราเข้าพักโรงแรมในพื้นที่จังหวัดระยอง ไม่ค่อยดี เมื่อเทียบกับเมืองหลัก ดูจากยอดจองห้องพักโรงแรมพาวีน่า ของบริษัทเฉลี่ยอยู่ที่ 50 % ได้อานิสงส์โรงแรมติดทะเลเต็ม มีการจัดงานอีเวนต์ รวมถึงเทศกาลสงกรานต์ที่เริ่มเห็นมีของเข้ามาแล้ว
ส่วนใหญ่เป็นคนไทยและพักประมาณ 2-3 วัน ส่วนต่างชาติมีบ้าง ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากประเทศเกาหลี ขณะที่ประเทศจีนยังไม่มี คาดว่าน่าจะไปท่องเที่ยวเมืองหลักมากกว่าเมืองรอง
“ยังมาเจอปัญหาคู่แข่งทางอ้อม เป็นห้องเช่ารายวันจากโครงการคอนโดมิเนียมที่ขายไม่หมด ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการรายย่อย ที่นำมาปล่อยเช่ารายวัน หรือเอเจนท์ที่เหมาไปแล้ว นำมาปล่อยเช่าให้กับคนไทยและต่างชาติ ซึ่งจะให้เช่าในราคาที่ถูกกว่าโรงแรม โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 800-900 บาทต่อคืน ขณะที่โรงแรมอยู่ที่ 1,200-1,500 บาทต่อคืน” นายเปรมสรณ์กล่าว
นายเปรมสรณ์ กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่จังหวัดระยอง ซบเซามากกว่าปี 2566 ที่ผ่านมา โดยปัจจัยหลักคืออัตราดอกเบี้ยแพง ทำให้ลูกค้าไม่มั่นใจในการกู้ เพราะกลัวกู้ไม่ผ่าน และกู้ได้ไม่เต็ม 100% เนื่องจากธนาคารเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มระดับราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท ที่มีปัญหามากสุด มีปัญหากู้แบงก์ไม่ผ่านสูงถึง 50-80% เพราะเป็นกลุ่มใหญ่ของตลาดอสังหาริมทรัพย์จังหวัดระยอง โดยมีสัดส่วนอยู่ที่ 50%
นายเปรมสรณ์ กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมีโครงการอยู่ระหว่างการขาย 10 โครงการ รวมทั้งสิ้น 200-300 ยูนิต เป็นบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ขนาด 1-2 ชั้น ราคาตั้งแต่ 1.4-10 ล้านบาท โดยเป็นโครงการที่พัฒนามา 1-2 ปี แต่เนื่องจากมีลูกค้ากู้แบงก์ไม่ผ่าน 50-80% ทำให้การขายช้า เนื่องจากขายได้ แต่กู้ไม่ผ่าน จึงต้องนำมาขายใหม่ 2-5 รอบกว่าจะขายได้ในแต่ละหลัง ซึ่งเป็นบ้านกลุ่มต่ำ 3 ล้านบาทมากที่สุด ขณะที่ราคา 5 ล้านบาทก็เริ่มขายยากขึ้นเหมือนกัน
“ตอนนี้เรามีปัญหาลูกค้ากู้แบงก์ไม่ผ่านเยอะ หากมีพรีแอฟปรู๊ฟแล้วอยู่ที่ 50% ถ้าไม่มีอยู่ที่ 80% ซึ่งคงทำอะไรไม่ได้ ต้องนำมาขายใหม่ จนกว่าจะขายได้ และรอแบงก์ชาติลดดอกเบี้ยอย่างเดียว” นายเปรมสรณ์กล่าว
นายเปรมสรณ์กล่าวว่า ขณะเดียวกันต้องลงทุนอย่างระมัดระวังมากขึ้น โดยในปี 2567 เน้นขายโครงการเก่า มีเปิดเพียง 1 โครงการ จำนวน 70 หลัง มูลค่า 200 กว่าล้านบาทในย่านบ้านค่าย ซึ่งการที่บริษัทตัดสินใจเปิด เนื่องจากเป็นแผนที่วางไว้เมื่อปี 2565 และซื้อที่ดินไว้แล้ว ซึ่งในขณะนั้นยังขายได้เรื่อยๆ ไม่มีปัญหากู้แบงก์ไม่ผ่านสูงเหมือนปัจจุบัน และการพัฒนาโครงการจะใช้เวลา 3-5 ปี จึงน่าจะเป็นช่วงเวลาที่โครงการเก่าขายหมดแล้ว