เริ่มมาจากที่บ้านมีปัญหาเรื่องการเงินค่ะ เราอยู่ในวัยเรียน แต่รู้สึกว่าที่บ้านซัพพอร์ตแบบที่เราต้องการในเรื่องเงินไม่ได้เลยลองไปหางานดู
สรุปได้เป็นพนักงานในร้านชงนํ้าเล็ก ๆ ค่ะ ทำความสะอาด ต้มนํ้า รับออเดอร์ คิดเงิน ชงนํ้าให้ลูกค้า งานจะเป็นประมาณนี้ค่ะ คิดค่าแรงเป็นรายวัน ทำแค่อาทิตย์ละครั้ง ได้เงินค่อนข้างสูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำค่ะ ทำคนเดียว แต่ต้องทำแข่งกับเวลานะคะ สูตรนํ้าไม่ยากแค่ต้องทำเร็ว ไม่งั้นลูกค้าหงุดหงิด
เจ้าของร้านใจดีนะคะ เขาก็มีอารมณ์เขาขึ้นลงตามยอดขายในวันนั้นค่ะ แต่ไม่เคยวีนหรืออะไรเลย จะบ่นมากกว่า คอยเตือนให้ไปกินข้าวบ่อย ๆ
คือเรื่องที่ทุกข์ใจจนต้องมาตั้งกระทู้ขอคำปรึกษาคือเราไม่สามารถจัดการอารมณ์ตัวเองเวลาทำพลาดได้เลยค่ะ เวลาทำงานอาจจะเพราะทำไม่บ่อย หรือเราซุ่มซ่าม ขี้ลืมเป็นทุนเดิมหรือป่าว บางครั้งเลยทำผิดสูตร จำออเดอร์ผิด ลืมใส่ไข่มุกให้ลูกค้า หรือบางทีลูกค้ายืนยันออเดอร์เราผิดเองอันนี้ก็ทำอะไรไม่ได้เหมือนกันค่ะ เป็นเราเองที่ต้องถามยํ้าลูกค้าอีกรอบ น้อยใจนิดนึง ช่วงแรกที่มาทำก็ผิดบ่อยแต่หลังมาน้อยลง แต่ก็ยังมีที่ผิดพลาดอยู่ดี แล้วพอรู้ตัวว่าพลาดอะไรไปก็เหมือนเสียสมาธิไปประมาณนึงเลย เซ็งที่ตัวเองเป็นคนมูฟออนจากความผิดพลาดช้ามากทั้งที่ทำอะไรไม่ได้อีกแล้วนอกจากต้องไปต่อ
หรือบางครั้งทำนํ้าอยู่ลูกค้ามารอสั่งออเดอร์ อันนี้ก็หาจังหวะไม่ค่อยถูกเหมือนกันค่ะ พอลองมาเป็นพนักงานเองถึงรู้ว่างานดูง่ายมีรายละเอียดเล็กน้อยที่จำเป็นต้องทำเยอะเลย ถ้าทำพลาดไม่ว่าอะไรก็ตามเราได้เงินเท่าเดิมก็จริง แต่เจ้าของร้านกับลูกค้าคือคนที่เสียหาย เจ้าของร้านอาจจะเสียเครดิต ส่วนลูกค้าก็จะไม่ได้รับสิ่งที่ต้องการทั้งที่เสียเงินไป คือเราไม่ควรพลาด แต่ก็มีพลาดจนได้ เราทำทุกอย่างคนเดียวค่ะ เริ่มแรกเจ้าของร้านช่วยพอเห็นว่าทำได้บ้างแล้วเลยปล่อย
เราสงสัยมากเลยว่าพนักงานที่เขาทำคนเดียวทำไมเขาเก่งจัง เขาอยู่ได้ เขาเคยทำพลาดบางมั้ย บางทีก็อยากถามเจ้าของร้านว่าเขาทำได้ยังไง อาจจะเกี่ยวกับที่ทำอาทิตย์ละครั้งด้วย แต่ก็อดคิดไม่ได้อยู่ดี ไม่อยากทำพลาดเลย รู้สึกผิดกับเจ้าของร้าน รู้สึกผิดกับลูกค้า ลูกค้าจะไม่เข้าร้านเพราะเราหรือป่าวก็ไม่รู้ คือสถานการณ์มันไม่แย่ขนาดนั้นหรอกค่ะ แต่เราก็อดคิดถึงสถานการณ์ที่แย่ที่สุดไม่ได้ บางทีก็คิดนะคะว่าเราทำงานเร็วเกินไปไหม หรือเราไม่เหมาะกับงานนี้ เจ้าของร้านยังทำได้เลยทำไมเราทำไม่ได้ อีกอย่างคือพอลูกค้าเห็นเราเป็นเด็กก็รู้สึกได้ว่าเกรงใจน้อยลง หลายอย่างเขาปฏิบัติกับเราไม่เหมือนที่ทำกับเจ้าของร้าน ถึงจะน้อยใจตรงนี้นิดนึงแต่ก็เข้าใจว่าไม่ใช่หน้าที่ของเขาที่จะเข้าใจเรา
ไม่ว่ายังไงเราก็คงจะยังทำร้านนี้ต่อค่ะ เพราะหวังพึ่งเงินจากทางบ้านไม่ได้ มันลำบากเกินไป ที่บ้านมีเสาหลักคนเดียว เราเข้าใจว่าเขาให้เราที่ให้ได้แล้ว มีงานทำยังไงก็ดีกว่าไม่มี เวลาเห็นพนักงานยืนขายของเราแอบอิจฉาในใจ อยากคิดเงินอย่างเดียวดูบ้าง ทำงานเกี่ยวกับของกิน พอต้องทำแข่งกับเวลาก็ยากกว่าที่คิดมากเลย แถมเหงาด้วย
ทุกคนมีคำแนะนำหรือวิธีคิดอะไรที่ทำให้เรารับมือกับเรื่องนี้ได้ดีกว่านี้มั้ยคะ
เป็นพนักงาน part-time ครั้งแรก รับมือกับความผิดพลาดยังไงคะ
สรุปได้เป็นพนักงานในร้านชงนํ้าเล็ก ๆ ค่ะ ทำความสะอาด ต้มนํ้า รับออเดอร์ คิดเงิน ชงนํ้าให้ลูกค้า งานจะเป็นประมาณนี้ค่ะ คิดค่าแรงเป็นรายวัน ทำแค่อาทิตย์ละครั้ง ได้เงินค่อนข้างสูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำค่ะ ทำคนเดียว แต่ต้องทำแข่งกับเวลานะคะ สูตรนํ้าไม่ยากแค่ต้องทำเร็ว ไม่งั้นลูกค้าหงุดหงิด
เจ้าของร้านใจดีนะคะ เขาก็มีอารมณ์เขาขึ้นลงตามยอดขายในวันนั้นค่ะ แต่ไม่เคยวีนหรืออะไรเลย จะบ่นมากกว่า คอยเตือนให้ไปกินข้าวบ่อย ๆ
คือเรื่องที่ทุกข์ใจจนต้องมาตั้งกระทู้ขอคำปรึกษาคือเราไม่สามารถจัดการอารมณ์ตัวเองเวลาทำพลาดได้เลยค่ะ เวลาทำงานอาจจะเพราะทำไม่บ่อย หรือเราซุ่มซ่าม ขี้ลืมเป็นทุนเดิมหรือป่าว บางครั้งเลยทำผิดสูตร จำออเดอร์ผิด ลืมใส่ไข่มุกให้ลูกค้า หรือบางทีลูกค้ายืนยันออเดอร์เราผิดเองอันนี้ก็ทำอะไรไม่ได้เหมือนกันค่ะ เป็นเราเองที่ต้องถามยํ้าลูกค้าอีกรอบ น้อยใจนิดนึง ช่วงแรกที่มาทำก็ผิดบ่อยแต่หลังมาน้อยลง แต่ก็ยังมีที่ผิดพลาดอยู่ดี แล้วพอรู้ตัวว่าพลาดอะไรไปก็เหมือนเสียสมาธิไปประมาณนึงเลย เซ็งที่ตัวเองเป็นคนมูฟออนจากความผิดพลาดช้ามากทั้งที่ทำอะไรไม่ได้อีกแล้วนอกจากต้องไปต่อ
หรือบางครั้งทำนํ้าอยู่ลูกค้ามารอสั่งออเดอร์ อันนี้ก็หาจังหวะไม่ค่อยถูกเหมือนกันค่ะ พอลองมาเป็นพนักงานเองถึงรู้ว่างานดูง่ายมีรายละเอียดเล็กน้อยที่จำเป็นต้องทำเยอะเลย ถ้าทำพลาดไม่ว่าอะไรก็ตามเราได้เงินเท่าเดิมก็จริง แต่เจ้าของร้านกับลูกค้าคือคนที่เสียหาย เจ้าของร้านอาจจะเสียเครดิต ส่วนลูกค้าก็จะไม่ได้รับสิ่งที่ต้องการทั้งที่เสียเงินไป คือเราไม่ควรพลาด แต่ก็มีพลาดจนได้ เราทำทุกอย่างคนเดียวค่ะ เริ่มแรกเจ้าของร้านช่วยพอเห็นว่าทำได้บ้างแล้วเลยปล่อย
เราสงสัยมากเลยว่าพนักงานที่เขาทำคนเดียวทำไมเขาเก่งจัง เขาอยู่ได้ เขาเคยทำพลาดบางมั้ย บางทีก็อยากถามเจ้าของร้านว่าเขาทำได้ยังไง อาจจะเกี่ยวกับที่ทำอาทิตย์ละครั้งด้วย แต่ก็อดคิดไม่ได้อยู่ดี ไม่อยากทำพลาดเลย รู้สึกผิดกับเจ้าของร้าน รู้สึกผิดกับลูกค้า ลูกค้าจะไม่เข้าร้านเพราะเราหรือป่าวก็ไม่รู้ คือสถานการณ์มันไม่แย่ขนาดนั้นหรอกค่ะ แต่เราก็อดคิดถึงสถานการณ์ที่แย่ที่สุดไม่ได้ บางทีก็คิดนะคะว่าเราทำงานเร็วเกินไปไหม หรือเราไม่เหมาะกับงานนี้ เจ้าของร้านยังทำได้เลยทำไมเราทำไม่ได้ อีกอย่างคือพอลูกค้าเห็นเราเป็นเด็กก็รู้สึกได้ว่าเกรงใจน้อยลง หลายอย่างเขาปฏิบัติกับเราไม่เหมือนที่ทำกับเจ้าของร้าน ถึงจะน้อยใจตรงนี้นิดนึงแต่ก็เข้าใจว่าไม่ใช่หน้าที่ของเขาที่จะเข้าใจเรา
ไม่ว่ายังไงเราก็คงจะยังทำร้านนี้ต่อค่ะ เพราะหวังพึ่งเงินจากทางบ้านไม่ได้ มันลำบากเกินไป ที่บ้านมีเสาหลักคนเดียว เราเข้าใจว่าเขาให้เราที่ให้ได้แล้ว มีงานทำยังไงก็ดีกว่าไม่มี เวลาเห็นพนักงานยืนขายของเราแอบอิจฉาในใจ อยากคิดเงินอย่างเดียวดูบ้าง ทำงานเกี่ยวกับของกิน พอต้องทำแข่งกับเวลาก็ยากกว่าที่คิดมากเลย แถมเหงาด้วย
ทุกคนมีคำแนะนำหรือวิธีคิดอะไรที่ทำให้เรารับมือกับเรื่องนี้ได้ดีกว่านี้มั้ยคะ