ชาวเชียงใหม่สะท้อนปัญหา ฝุ่นน่ากลัว-อันตราย วอนนัดเผาพร้อมกัน จบในครั้งเดียว
https://www.matichon.co.th/local/news_4502181
ชาวเชียงใหม่สะท้อนปัญหา ฝุ่นน่ากลัว-อันตราย วอนนัดเผาพร้อมกัน จบในครั้งเดียว
เมื่อวันที่ 31 มีนาคม ศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เชียงใหม่ รายงานพบจุดความร้อน (Hotspot) ประจำวันที่ 31 มีนาคม 2567 รอบเช้า จำนวน 90 จุด
ในพื้นที่อำเภอเชียงดาว 16 จุด ฮอด 11 จุด, อมก๋อย 10 จุด, แม่แจ่ม 10 จุด, แม่แตง 8 จุด, ฝาง 6 จุด, สะเมิง 5 จุด, ไชยปราการ 5 จุด, แม่วาง 5 จุด, ดอยเต่า 4 จุด , แม่ริม 2 จุด, พร้าว 2 จุด, เวียงแหง 2 จุด, กัลยาณิวัฒนา 1 จุด, แม่ออน 1 จุด, แม่อาย 1 จุด และจอมทอง 1 จุด โดยพื้นที่อำเภอแม่แจ่ม เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่า ที่ ชม.18 (แม่นาฮ่อง) ร่วมกับผู้นำหมู่บ้านเจ้าหน้าที่จุดเฝ้าระวังไฟป่าบ้านห้วยบง ร่วมกันตรวจสอบจุดความร้อน หรือ Hotspot ทั้งหมดเป็นไฟกลุ่มเดียวกัน อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่แจ่ม ท้องที่บ้านห้วยบง หมู่ 12 ตำบลแม่ศึก ตรวจสอบพบว่าไฟลุกไหม้เป็นบริเวณกว้าง เจ้าหน้าที่ช่วยกันดับไฟ และสามารถควบคุมไฟไว้ได้ พื้นที่ความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 50 ไร่ สาเหตุคาดว่าเกิดจากการเก็บหาของป่าและล่าสัตว์
ส่วนอุทยานแห่งชาติแม่วาง สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 (เชียงใหม่) เจ้าหน้าที่ออกลาดตระเวน พบเห็นแสงไฟบริเวณปรงป่า บ้านไร่บวกบง หมู่ 26 ตำบลดอยหล่อ อำเภอดอยหล่อ พบพื้นที่เผาไหม้เสียหายประมาณ 3 ไร่ สาเหตุจากการลักลอบเผาป่าเต็งรัง
ส่วนคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) นำทีมแพทย์ และบุคลากรทางการแพทย์ ออกหน่วยบริการทางการแพทย์ พร้อมจัดนิทรรศการบริการวิชาการสู่ชุมชน เนื่องในโอกาสครบรอบ 65 ปี “รับมือ รู้ทัน ป้องกัน PM 2.5” เป็นวันที่ 2 บริเวณชั้น 1 Grand Hall ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซ่า เชียงใหม่ แอร์พอร์ต เพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงมลภาวะทางอากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งฝุ่น PM 2.5 มักเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับประชาชนเป็นประจำทุกปี มีประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก พร้อมสะท้อนความรู้สึกผ่านข้อความว่า ใกล้ตายแล้ว, อยากให้อากาศเชียงใหม่ดี, ฝุ่นน่ากลัว, ฝุ่นอันตรายมาก และขอให้คนเผานัดเผาพร้อมกันจะได้มีฝุ่นครบจบในครั้งเดียว เป็นต้น
ด้าน ดร.
เจน ชาญณรงค์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า สถานการณ์ล่าสุดของอุทยานแห่งชาติแม่ปิงและบ้านก้อ พบว่า หมู่ 3 เกิดไฟทุกปี และจะลุกไหม้ตลอดแนวสายไฟหลักที่เข้าหมุ่บ้าน ทั้งตัวสายไฟ และต้นไม้ตลอดแนวไฟจะโดนไฟ เมื่อไม้โค่นลงมาจะดึงสายไฟให้ขาด หมู่บ้านก้อมีไฟฟ้าดับบ่อยมาก เพราะเหตุนี้ ซึ่งการขาดความมั่นคงทางไฟฟ้านั้นเป็นปัญหาใหญ่ ไม่สามารถตั้งห้องเย็นในบ้านก้อเพื่อเก็บสินค้าหรือผลผลิต เพราะหากไฟดับจะเน่าเสียทั้งหมด เป็นการตัดอนาคตของการสร้างสินค้าเกษตรคุณภาพสูงให้เป็นเรื่องเป็นราว พื้นที่แถวนั้นมีโขลงช้างอยู่ ช้างก็จะเดือดร้อนหาอาหารไม่ได้ ไฟจะทำลายอาหารของช้างทั้งหมด
“
ส่วนไฟหลังหมู่ 4 นั้นลุกไหม้หลายหมื่นไร่ ส่วนไฟด้านใต้หลังหมู่ 1 กำลังจะเข้าป่าต้นน้ำ บ้านก้อเผาป่าต้นน้ำของตัวเองทุกปี ตลอดเวลา 23 ปี มีไฟเข้าทุ่งกิ๊กแล้วกว่า 20 ครั้ง และสภาพของป่าบางส่วนกลายเป็นทุ่งหญ้าให้เห็นแล้ว หมู่บ้านที่ยอมเผาป่าต้นน้ำของตัวเองโดยไม่สนใจถือว่าแปลกมาก ยิ่งมีการขอร้องให้หยุดเผา กลับยิ่งหนักขึ้น ถือว่าอันตรายมาก เพราะกลุ่มควันไฟที่กลายเป็นฝุ่นจะทำลายสุขภาพประชาชนในพื้นที่มากขึ้น”
ในขณะที่สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 (เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน ลำพูน) ออกประกาศเตือนซ้ำให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝุ่นที่มีขนาดเล็กในพื้นที่ดังกล่าว
ไวรัลนักท่องเที่ยวนั่งฟุตปาธ รอรถบัส สนามบินเชียงใหม่ ชาวเน็ตถาม อนาถาไปไหม?
https://www.matichon.co.th/social/news_4502184
ไวรัล นทท.นั่งฟุตปาธ รอรถบัส สนามบินเชียงใหม่ ชาวเน็ต ถาม อนาถาไปไหม?
กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ทั่วโลกออนไลน์ เมื่อเพจเฟซบุ๊ก
‘รถเมล์เชียงใหม่ RTC Chiang Mai City Bus‘ แชร์ภาพที่ ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ ปรากฏว่า ผู้โดยสารนั่งลงกับพื้นฟุตปาธ ยืนรอใต้ร่ม โดยโพสต์ระบุว่า
“หลากหลายอารมณ์และอิริยาบถของการรอรถ RTC ณ.ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ รถเมล์เชียงใหม่ RTC Chiang Mai City Bus เฉพาะจุดจอดสถานีหลักสนามบิน
วันนี้ ได้ปรับปรุงการจัดการใหม่ สามารถลดเวลาการรอรถไม่เกิน 30 นาที ออกตามเวลาที่กำหนดในตาราง สำหรับสายสีแดงและสายสีเขียว เป้าหมายต่อไปเป็นการจัดการลดเวลารอ ณ.สถานีหลักขนส่งอาเขต เซ็นทรัลเชียงใหม่ กาดดอกไม้ และประตูท่าแพ RTC ขอขอบคุณอีกครั้งที่เลือกใช้บริการระบบขนส่งมวลชนหนึ่งเดียวของเมืองเชียงใหม่
(บริเวณที่จอดรถ RTC ในขณะนี้ ในปีหน้าจะมีการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ พื้นที่จอดจะมีการเปลี่ยนแปลง หากทราบแบบแปลนแล้วจะรีบแจ้งทุกท่าน)
ขณะเดียวกันก็มีคอมเมนต์แสดงความเห็นต่อรูปดังกล่าวมากมาย อาทิ
• นี่คือจุดรอรถเมล์? ป้ายรถเมล์ในสนามบินนานาชาติ? อนาถามาก
• จะขายหน้ากันไปถึงไหน ขายการท่องเที่ยวก็พอมั้ง
อ• ากาศร้อนมากๆ ไม่มีร่มให้ยืนรอเลย สงสารนักท่องเที่ยวเลยค่ะ
• หากมีแผนจะปรับปรุง/สร้าง Terminal ใหม่ อย่างน้อยก็ต้องคิดล่วงหน้าแล้วว่า จะต้องหาที่นั่งหรือจุดรอรถชั่วคราวที่มีหลังคากันแดด กันฝนได้ให้กับนักท่องเที่ยวไปก่อน สร้าง Terminal ใหม่ไม่ได้เสร็จภายในวัน สองวัน ใครเห็นภาพนี้บอกได้เลยว่าการท่องเที่ยวเชียงใหม่ ภาพลักษณ์ดูไม่ดีแน่ ๆ ครับ
• เเล้ว ริ อยากจะเป็นเมืองท่องเที่ยว เเค่นี้ยังช่วยภาคเอกชนไม่ได้ พิจารณานะคะ สภาพ นักท่องเที่ยวที่มา เขาจ่ายเงินมานะคะ ไม่ได้ขอมาฟรี บริการเขาดีๆหน่อย เเล้วแบบนี้ใครจะอยากมา
• เชียงใหม่เป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก ขอที่นั่งดีๆหน่อย ขอห้องสนามบินสักห้องจะได้ไหม
• ทำแบบ ดอนเมือง หรือ สุวรรณภูมิ ไม่ได้เหรอคะ แบบต่อคิวกันหน้าอาคารในร่มน่ะค่ะ แบบนี้เห็นแล้ว สงสารคนรอจริงๆ แดดออกก็ร้อนมาก ฝนตกคงบันเทิงกว่านี้แน่ๆ
https://www.facebook.com/rtccmcitybus/posts/pfbid02gSQgRhjEbuGE3B1KtxndfMqEtH1NwXgJJnSFYgox29dHPTWhaZqqAnHRwGWWiR5fl
สมาคมโรงแรมหาดใหญ่-สงขลา ร่อนจดหมาย ‘เศรษฐา’ วอนทบทวนปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท
https://www.matichon.co.th/region/news_4502124
สมาคมโรงแรมหาดใหญ่-สงขลา ร่อนจดหมาย ‘เศรษฐา’ วอนทบทวนปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท
เมื่อวันที่ 31 มีนาคม รายงานข่าวจากสมาคมโรงแรมหาดใหญ่-สงขลา ระบุว่า สมาคมได้มีหนังสือถึงนาย
เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ขอให้ทบทวนการปรับขึ้นอัตราค่าแรงขั้นต่ำในจ.สงขลาที่ขยับขึ้นมาเป็น 400 บาท โดยมีผลบังคับใช้วันที่ 13 เมษายน 67 เป็นต้นไป ทั้งนี้เนื่องจากสมาชิกสมาคมผู้ประกอบกิจการโรงแรมระดับ 4 ดาวขึ้นไปและมีลูกจ้างตั้งแต่ 50 คนขึ้นไป
การปรับอัตราค่าแรงแบบอัตราก้าวกระโดด จะเกิดผลกระทบกับภาคธุรกิจโรงแรมและการจ้างงานในพื้นที่เป็นอย่างมาก เนื่องจากสถานการณ์การเข้าพักโรงแรมของนักท่องเที่ยวในปัจจุบันยังไม่ฟื้นตัวกลับมาเป็นปกติ โดยเฉพาะช่วงวันอาทิตย์-วันพฤหัส พบว่าอัตราการเข้าพักของนักท่องเที่ยวยังต่ำกว่า 50%
นาย
สิทธิพงษ์ สิทธิภัทรประภา นายกสมาคมโรงแรมหาดใหญ่-สงขลา กล่าวว่า สมาชิกสมาคมฯ มีความเดือดร้อนจากการปรับค่าแรงขั้นต่ำในภาคโรงแรมแบบก้าวกระโดดจริง เพื่อให้สอดคล้องกับบริบทของเศรษฐกิจ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจโรงแรมและการจ้างงานในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ ตนในฐานะตัวแทนผู้ประกอบการโรงแรม จ.สงขลา จึงขอให้นายกณัฐมนตรีโปรดพิจารณาทบทวนการปรับขึ้นอัตราค่าแรงขั้นต่ำของ จ.สงขลา เพื่อให้สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่และอัตราราคาขายห้องพักของโรงแรมในพื้นที่เทศบาลนครหาดใหญ่ หวังว่านายกฯ จะทบทวนเรื่องนี้เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับภาคธุรกิโรงแรมและการจ้างงานในพื้นที่
JJNY : ชาวเชียงใหม่สะท้อนปัญหาฝุ่น│ไวรัลนทท.นั่งฟุตปาธรอรถบัส│วอนทบทวนขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ│นาโตเชื่อรัสเซียไม่หยุดแค่ยูเครน
https://www.matichon.co.th/local/news_4502181
ชาวเชียงใหม่สะท้อนปัญหา ฝุ่นน่ากลัว-อันตราย วอนนัดเผาพร้อมกัน จบในครั้งเดียว
เมื่อวันที่ 31 มีนาคม ศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เชียงใหม่ รายงานพบจุดความร้อน (Hotspot) ประจำวันที่ 31 มีนาคม 2567 รอบเช้า จำนวน 90 จุด
ในพื้นที่อำเภอเชียงดาว 16 จุด ฮอด 11 จุด, อมก๋อย 10 จุด, แม่แจ่ม 10 จุด, แม่แตง 8 จุด, ฝาง 6 จุด, สะเมิง 5 จุด, ไชยปราการ 5 จุด, แม่วาง 5 จุด, ดอยเต่า 4 จุด , แม่ริม 2 จุด, พร้าว 2 จุด, เวียงแหง 2 จุด, กัลยาณิวัฒนา 1 จุด, แม่ออน 1 จุด, แม่อาย 1 จุด และจอมทอง 1 จุด โดยพื้นที่อำเภอแม่แจ่ม เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่า ที่ ชม.18 (แม่นาฮ่อง) ร่วมกับผู้นำหมู่บ้านเจ้าหน้าที่จุดเฝ้าระวังไฟป่าบ้านห้วยบง ร่วมกันตรวจสอบจุดความร้อน หรือ Hotspot ทั้งหมดเป็นไฟกลุ่มเดียวกัน อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่แจ่ม ท้องที่บ้านห้วยบง หมู่ 12 ตำบลแม่ศึก ตรวจสอบพบว่าไฟลุกไหม้เป็นบริเวณกว้าง เจ้าหน้าที่ช่วยกันดับไฟ และสามารถควบคุมไฟไว้ได้ พื้นที่ความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 50 ไร่ สาเหตุคาดว่าเกิดจากการเก็บหาของป่าและล่าสัตว์
ส่วนอุทยานแห่งชาติแม่วาง สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 (เชียงใหม่) เจ้าหน้าที่ออกลาดตระเวน พบเห็นแสงไฟบริเวณปรงป่า บ้านไร่บวกบง หมู่ 26 ตำบลดอยหล่อ อำเภอดอยหล่อ พบพื้นที่เผาไหม้เสียหายประมาณ 3 ไร่ สาเหตุจากการลักลอบเผาป่าเต็งรัง
ส่วนคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) นำทีมแพทย์ และบุคลากรทางการแพทย์ ออกหน่วยบริการทางการแพทย์ พร้อมจัดนิทรรศการบริการวิชาการสู่ชุมชน เนื่องในโอกาสครบรอบ 65 ปี “รับมือ รู้ทัน ป้องกัน PM 2.5” เป็นวันที่ 2 บริเวณชั้น 1 Grand Hall ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซ่า เชียงใหม่ แอร์พอร์ต เพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงมลภาวะทางอากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งฝุ่น PM 2.5 มักเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับประชาชนเป็นประจำทุกปี มีประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก พร้อมสะท้อนความรู้สึกผ่านข้อความว่า ใกล้ตายแล้ว, อยากให้อากาศเชียงใหม่ดี, ฝุ่นน่ากลัว, ฝุ่นอันตรายมาก และขอให้คนเผานัดเผาพร้อมกันจะได้มีฝุ่นครบจบในครั้งเดียว เป็นต้น
ด้าน ดร.เจน ชาญณรงค์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า สถานการณ์ล่าสุดของอุทยานแห่งชาติแม่ปิงและบ้านก้อ พบว่า หมู่ 3 เกิดไฟทุกปี และจะลุกไหม้ตลอดแนวสายไฟหลักที่เข้าหมุ่บ้าน ทั้งตัวสายไฟ และต้นไม้ตลอดแนวไฟจะโดนไฟ เมื่อไม้โค่นลงมาจะดึงสายไฟให้ขาด หมู่บ้านก้อมีไฟฟ้าดับบ่อยมาก เพราะเหตุนี้ ซึ่งการขาดความมั่นคงทางไฟฟ้านั้นเป็นปัญหาใหญ่ ไม่สามารถตั้งห้องเย็นในบ้านก้อเพื่อเก็บสินค้าหรือผลผลิต เพราะหากไฟดับจะเน่าเสียทั้งหมด เป็นการตัดอนาคตของการสร้างสินค้าเกษตรคุณภาพสูงให้เป็นเรื่องเป็นราว พื้นที่แถวนั้นมีโขลงช้างอยู่ ช้างก็จะเดือดร้อนหาอาหารไม่ได้ ไฟจะทำลายอาหารของช้างทั้งหมด
“ส่วนไฟหลังหมู่ 4 นั้นลุกไหม้หลายหมื่นไร่ ส่วนไฟด้านใต้หลังหมู่ 1 กำลังจะเข้าป่าต้นน้ำ บ้านก้อเผาป่าต้นน้ำของตัวเองทุกปี ตลอดเวลา 23 ปี มีไฟเข้าทุ่งกิ๊กแล้วกว่า 20 ครั้ง และสภาพของป่าบางส่วนกลายเป็นทุ่งหญ้าให้เห็นแล้ว หมู่บ้านที่ยอมเผาป่าต้นน้ำของตัวเองโดยไม่สนใจถือว่าแปลกมาก ยิ่งมีการขอร้องให้หยุดเผา กลับยิ่งหนักขึ้น ถือว่าอันตรายมาก เพราะกลุ่มควันไฟที่กลายเป็นฝุ่นจะทำลายสุขภาพประชาชนในพื้นที่มากขึ้น”
ในขณะที่สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 (เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน ลำพูน) ออกประกาศเตือนซ้ำให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝุ่นที่มีขนาดเล็กในพื้นที่ดังกล่าว
ไวรัลนักท่องเที่ยวนั่งฟุตปาธ รอรถบัส สนามบินเชียงใหม่ ชาวเน็ตถาม อนาถาไปไหม?
https://www.matichon.co.th/social/news_4502184
ไวรัล นทท.นั่งฟุตปาธ รอรถบัส สนามบินเชียงใหม่ ชาวเน็ต ถาม อนาถาไปไหม?
กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ทั่วโลกออนไลน์ เมื่อเพจเฟซบุ๊ก ‘รถเมล์เชียงใหม่ RTC Chiang Mai City Bus‘ แชร์ภาพที่ ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ ปรากฏว่า ผู้โดยสารนั่งลงกับพื้นฟุตปาธ ยืนรอใต้ร่ม โดยโพสต์ระบุว่า
“หลากหลายอารมณ์และอิริยาบถของการรอรถ RTC ณ.ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ รถเมล์เชียงใหม่ RTC Chiang Mai City Bus เฉพาะจุดจอดสถานีหลักสนามบิน
วันนี้ ได้ปรับปรุงการจัดการใหม่ สามารถลดเวลาการรอรถไม่เกิน 30 นาที ออกตามเวลาที่กำหนดในตาราง สำหรับสายสีแดงและสายสีเขียว เป้าหมายต่อไปเป็นการจัดการลดเวลารอ ณ.สถานีหลักขนส่งอาเขต เซ็นทรัลเชียงใหม่ กาดดอกไม้ และประตูท่าแพ RTC ขอขอบคุณอีกครั้งที่เลือกใช้บริการระบบขนส่งมวลชนหนึ่งเดียวของเมืองเชียงใหม่
(บริเวณที่จอดรถ RTC ในขณะนี้ ในปีหน้าจะมีการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ พื้นที่จอดจะมีการเปลี่ยนแปลง หากทราบแบบแปลนแล้วจะรีบแจ้งทุกท่าน)
ขณะเดียวกันก็มีคอมเมนต์แสดงความเห็นต่อรูปดังกล่าวมากมาย อาทิ
• นี่คือจุดรอรถเมล์? ป้ายรถเมล์ในสนามบินนานาชาติ? อนาถามาก
• จะขายหน้ากันไปถึงไหน ขายการท่องเที่ยวก็พอมั้ง
อ• ากาศร้อนมากๆ ไม่มีร่มให้ยืนรอเลย สงสารนักท่องเที่ยวเลยค่ะ
• หากมีแผนจะปรับปรุง/สร้าง Terminal ใหม่ อย่างน้อยก็ต้องคิดล่วงหน้าแล้วว่า จะต้องหาที่นั่งหรือจุดรอรถชั่วคราวที่มีหลังคากันแดด กันฝนได้ให้กับนักท่องเที่ยวไปก่อน สร้าง Terminal ใหม่ไม่ได้เสร็จภายในวัน สองวัน ใครเห็นภาพนี้บอกได้เลยว่าการท่องเที่ยวเชียงใหม่ ภาพลักษณ์ดูไม่ดีแน่ ๆ ครับ
• เเล้ว ริ อยากจะเป็นเมืองท่องเที่ยว เเค่นี้ยังช่วยภาคเอกชนไม่ได้ พิจารณานะคะ สภาพ นักท่องเที่ยวที่มา เขาจ่ายเงินมานะคะ ไม่ได้ขอมาฟรี บริการเขาดีๆหน่อย เเล้วแบบนี้ใครจะอยากมา
• เชียงใหม่เป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก ขอที่นั่งดีๆหน่อย ขอห้องสนามบินสักห้องจะได้ไหม
• ทำแบบ ดอนเมือง หรือ สุวรรณภูมิ ไม่ได้เหรอคะ แบบต่อคิวกันหน้าอาคารในร่มน่ะค่ะ แบบนี้เห็นแล้ว สงสารคนรอจริงๆ แดดออกก็ร้อนมาก ฝนตกคงบันเทิงกว่านี้แน่ๆ
https://www.facebook.com/rtccmcitybus/posts/pfbid02gSQgRhjEbuGE3B1KtxndfMqEtH1NwXgJJnSFYgox29dHPTWhaZqqAnHRwGWWiR5fl
สมาคมโรงแรมหาดใหญ่-สงขลา ร่อนจดหมาย ‘เศรษฐา’ วอนทบทวนปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท
https://www.matichon.co.th/region/news_4502124
สมาคมโรงแรมหาดใหญ่-สงขลา ร่อนจดหมาย ‘เศรษฐา’ วอนทบทวนปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท
เมื่อวันที่ 31 มีนาคม รายงานข่าวจากสมาคมโรงแรมหาดใหญ่-สงขลา ระบุว่า สมาคมได้มีหนังสือถึงนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ขอให้ทบทวนการปรับขึ้นอัตราค่าแรงขั้นต่ำในจ.สงขลาที่ขยับขึ้นมาเป็น 400 บาท โดยมีผลบังคับใช้วันที่ 13 เมษายน 67 เป็นต้นไป ทั้งนี้เนื่องจากสมาชิกสมาคมผู้ประกอบกิจการโรงแรมระดับ 4 ดาวขึ้นไปและมีลูกจ้างตั้งแต่ 50 คนขึ้นไป
การปรับอัตราค่าแรงแบบอัตราก้าวกระโดด จะเกิดผลกระทบกับภาคธุรกิจโรงแรมและการจ้างงานในพื้นที่เป็นอย่างมาก เนื่องจากสถานการณ์การเข้าพักโรงแรมของนักท่องเที่ยวในปัจจุบันยังไม่ฟื้นตัวกลับมาเป็นปกติ โดยเฉพาะช่วงวันอาทิตย์-วันพฤหัส พบว่าอัตราการเข้าพักของนักท่องเที่ยวยังต่ำกว่า 50%
นายสิทธิพงษ์ สิทธิภัทรประภา นายกสมาคมโรงแรมหาดใหญ่-สงขลา กล่าวว่า สมาชิกสมาคมฯ มีความเดือดร้อนจากการปรับค่าแรงขั้นต่ำในภาคโรงแรมแบบก้าวกระโดดจริง เพื่อให้สอดคล้องกับบริบทของเศรษฐกิจ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจโรงแรมและการจ้างงานในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ ตนในฐานะตัวแทนผู้ประกอบการโรงแรม จ.สงขลา จึงขอให้นายกณัฐมนตรีโปรดพิจารณาทบทวนการปรับขึ้นอัตราค่าแรงขั้นต่ำของ จ.สงขลา เพื่อให้สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่และอัตราราคาขายห้องพักของโรงแรมในพื้นที่เทศบาลนครหาดใหญ่ หวังว่านายกฯ จะทบทวนเรื่องนี้เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับภาคธุรกิโรงแรมและการจ้างงานในพื้นที่