ไม่ต่างกันเลยครับ กับที่สลิ่มเชียร์ ปชป. เชียร์อภิสิทธิ์ สุเทพ ประยุทธ์
เคยด่าสลิ่มไว้ไง วันนี้ ตัวเองทำหมด หนักกว่าด้วย
ผลของการเชียร์แบบไร้เหตุผลของสลิ่มเป็นอย่างไร คงไม่ต้องสาธยาย
นายแบก นางแบกพรรคเพื่อไทย ก็ไม่ต่างกับสลิ่มครับ เรียกได้เลยว่าเป็นสลิ่มเฟส 3
ใช้ตรรกะบิดเบี้ยว อ้างข้อมูลพร่อง ๆ มั่ว ๆ หลอกแดง(แดงเพื่อไทย-แดงทักษิณ)กันเอง
สลิ่มยังดีกว่า ที่เวลาเชียร์ ยังเชียร์แบบดุ่ย ๆ ดื้อ ๆ มั่วดั้น ๆ ไป
แต่สลิ่มเฟส 3 นี่ ทำเป็นมีหลักคิดหลักการ สร้างตรรกะบิดเบี้ยวบูดเน่ามาประกอบ
.
.
เห็นนายแบกเพื่อไทยที่ชื่ออั้มแสดงความเห็นแบบนี้แล้ว สมเพชครับ
เพราะขัดความจริงอย่างสิ้นเชิง ไม่เท่านั้น ขัดหลักและวิธีการที่เพื่อไทย นายแบก นางแบกทั้งหลายของเพื่อไทยเคยอ้างด้วย
ความจริง คือ
28 มี.ค. มีการนำรายงานการศึกษาบ่อนถูกกฎหมายเข้าสภาฯ เพื่อให้สภาฯเห็นชอบ
เมื่อเห็นชอบ จะได้นำไปร่างเป็นกฎหมายมาเสนอให้สภาฯพิจารณาอีกที
รายงานก็คือ "ฐาน" ของการร่างกฎหมายในเรื่องนั้น ๆ
หากรายงานดี ร่างกฎหมายก็ดี
หากรายงานแย่ ร่างกฎหมายก็แย่
เช่น หากรายงานว่า เสพยาบ้าแล้วสมองแจ่มใส กฎหมายก็จะกลายเป็นว่า เสพยาบ้าได้โดยไม่ผิดกฎหมาย
ดังนั้น รายงานจึงต้องรอบด้าน ทั่วถ้วน ชัดเจน ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งผลดี ผลเสีย และองค์ประกอบอื่น ๆ
28 มี.ค. รายงานที่เสนอต่อสภาฯ มีข้อบกพร่องมากมาย
เช่น อ้างว่าเปิดบ่อนถูกกฎหมายเพื่อกำจัดบ่อนผิดกฎหมาย แต่รายงานไม่มีเรื่องนี้ว่าจะมีวิธีการอย่างไร
เช่น อ้างว่าเพื่อส่งเสริมด้านเศรษฐกิจ แต่รายงานไม่มีเรื่องการป้องกันเกี่ยวกับการฟอกเงิน บัญชีม้า
หรือเรื่องที่บ่อนจะกลายเป็นศูนย์แก๊งคอลเซนเตอร์อย่างที่บ่อนรอบ ๆ ประเทศกำลังเป็นอยู่
หรือเรื่องปัญหาทางสังคม ที่ไม่มีการศึกษาแนวทางป้องกัน ทั้งระดับครอบครัวและชุมชน
ฯลฯ
ก้าวไกลพยายามคัดค้าน ขอให้ฝ่ายรัฐบาลถอนรายงานออกไปก่อน ศึกษาข้อมูลจัดทำรายงานให้ครอบคลุมมากกว่านี้
แล้วค่อยนำเสนอเข้าสู่สภาฯอีกครั้ง
ก้าวไกลเห็นด้วยกับเรื่องบ่อนถูกกฎหมาย ไม่ใช่ไม่เห็นด้วย
หากใครฟังการอภิปรายเรื่องนี้ในสภาฯในวันนั้น (หาข้อมูลดูย้อนหลังได้)
จะเห็นว่า ฝ่ายค้านให้เหตุผล ข้อเสนอแนะ ข้อบกพร่องของรายงานได้ดีมาก
ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลก็ถูไถไป สส.ซีกรัฐบาลที่เชียร์รายงานของรัฐบาล ก็อภิปรายแบบตะบันตะแบงไป
สุดท้าย แน่นอน ก็จะใช้เสียงข้างมากลากรายงานให้ผ่าน
นั่นแหละ ก้าวไกลจึงใช้วิธีขอนับองค์ประชุม เพื่อหากองค์ประชุมไม่ครบ การลงมติรับรายงานจะได้ตกไป
ผลก็คือ องค์ประชุมครบ 258 เสียง (เกินครึ่ง ครึ่งหนึ่งคือ 250)
ก็มีการเยาะเย้ยก้าวไกลกันใหญ่ ด่าก้าวไกลว่าป่วนสภาฯ หน้าแตกเพราะองค์ประชุมครบ สภาฯไม่ล่ม
ทั้งที่ความจริงแล้ว โดยหลักการแล้ว เป็นเรื่องปกติอย่างมากในระบบรัฐสภา
.
ความปกติก็คือ รัฐบาลย่อมมีเสียงข้างมากเกินครึ่งของสภาฯ ฝ่ายค้านย่อมมีเสียงข้างน้อย
องค์ประชุมจึงเป็นความรับผิดชอบของฝ่ายรัฐบาล
ฝ่ายค้าน ไม่มีทางโหวตชนะ เพราะเสียงน้อยกว่า
จึงใช้วิธีการขอนับองค์ประชุม เพื่อหากฝ่ายรัฐบาลมาไม่ครบองค์ สภาฯจะได้ล่ม มติเรื่องนั้น ๆ จะได้ตกไป
ตอนเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้านรัฐบาลประยุทธ์ ก็เสนอนับองค์ประชุมจนสภาฯล่มกว่ายี่สิบครั้ง
เพื่อไทยก็อ้าง ว่าเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาล นางแบกนายแบกเชียร์เย้ว ๆ
แต่ตอนนี้ พอสภาฯล่ม เพื่อไทย นางแบก นายแบก ดันกล่าวหาก้าวไกลซะงั้น
258 คือจำนวนที่บอกอะไรหลายอย่าง
สส.รัฐบาล มีกว่าสามร้อยเสียง แต่นับได้แค่ 258 เกินครึ่งแค่ 8 เสียง หายไปไหนร่วมหกสิบคน
258 สะท้อนว่า นี่แหละคือความรับผิดชอบเรื่ององค์ประชุมของรัฐบาล
หาก สส.รัฐบาลอยู่ประชุม องค์ประชุมไม่มีวันล่ม ฝ่ายค้านไม่กล้าขอนับองค์ประชุม
การขอนับองค์ประชุม ถือเป็นอาวุธของฝ่ายค้าน เป็นเรื่องปกติในระบบรัฐสภาทั้งโลก
(เพียงแต่ที่อื่นเขาไม่ค่อยมีการขอนับองค์ เพราะ สส.เขารับผิดชอบต่อสภาฯ ไม่หายหัวอย่าง สส.ไทย)
ความจริงเป็นเช่นนี้ แต่ทำไมกองเชียร์เพื่อไทยถึงได้บิดเบือนไปอย่างผิดหลักการ ผิดความปกติ
ผิดจากหน้ามือเป็นหลังเท้ากับตอนที่เป็นฝ่ายค้าน
.
ดูอย่างรายงานโครงการแลนด์บริดจ์ ที่เป็นโครงการระดับล้านล้านบาท
แต่รายงานไม่ครอบคลุมรอบด้าน มีข้อบกพร่องสารพัด โดนฝ่ายค้านแฉซะจนไปไม่เป็น วันนี้ก็ซา ๆ ไป
เรื่องบ่อนถูกกฎหมาย ส่งผลต่อบ้านเมืองอย่างมาก ทั้งทางสังคม เศรษฐกิจ
มูลค่าแต่ละปี น่าจะมากกว่าตลาดค้าปลีกที่มีมูลค่าเจ็ดแสนล้านบาท
หากไม่ดีจริง จะเกิดปัญหาต่อบ้านเมืองอย่างมาก แต่คนบางกลุ่มจะได้ผลประโยชน์มหาศาล
บ่อนถูกกฎหมาย ก็จะถูกแค่กฎหมาย
กลายเป็นแหล่งอบายมุขที่ผลิตเงินให้บรรดานักการเมืองที่กุมอำนาจรัฐ และพวกนายทุนปีละนับล้านล้านบาท
นี่แหละ ถึงแสดงอาการรีบอยากให้ผ่าน แต่ก้าวไกลดันเอาคานเข้ามาสอด
.
รักได้ชอบได้ เพราะการเมืองเป็นเรื่องรัก ชอบ ชัง
แต่การรัก ชอบ ชัง ควรอยู่บนพื้นฐานของเหตุผลและหลักฐาน
ไม่ใช่หลับหูหลับตาเชียร์อย่างเดียว ทำอะไรก็ถูกไปหมดเพราะชอบเพราะรัก ทำอะไรก็ผิดไปหมดเพราะชัง
อย่าไปแย่งนิสัยสลิ่ม
นางแบก นายแบกเพื่อไทย แสดงตนเสมอว่าเป็นผู้มีการศึกษา มีเหตุผล
แต่ตั้งแต่เพื่อไทยและทักษิณพลิกขั้วนี่ หนักยิ่งกว่าสลิ่ม
แบบนี้ เละครับ มองเห็นอนาคตเพื่อไทย อนาคตประเทศ เลยว่าจะเป็นไง
ดูอย่าง ปขป.สิ ดูอภิสิทธิ์สิ ดูสุเทพสิ ดูพันธมิตร ดู กปปส. สิ วันนี้อยู่ในสภาพอย่างไร
แม้กระทั่งประยุทธ์ หากไม่ได้เป็นองคมนตรี วันนี้สภาพจะอย่างไร
นั่นเพราะเชียร์กันแบบไม่เห็นผิดเห็นถูก
ประเทศนี้ มีสลิ่มเยอะเกินไปแล้ว
แล้วจะยังมีคนที่เคยด่าสลิ่มมาหลายปี กลายเป็นสลิ่มเพิ่มเข้าไปอีก
ปวดตับบ่ะ
นายแบกเพื่อไทย ก็แค่สลิ่มเฟส 3 น่าสงสารจริง ๆ
ไม่ต่างกันเลยครับ กับที่สลิ่มเชียร์ ปชป. เชียร์อภิสิทธิ์ สุเทพ ประยุทธ์
เคยด่าสลิ่มไว้ไง วันนี้ ตัวเองทำหมด หนักกว่าด้วย
ผลของการเชียร์แบบไร้เหตุผลของสลิ่มเป็นอย่างไร คงไม่ต้องสาธยาย
นายแบก นางแบกพรรคเพื่อไทย ก็ไม่ต่างกับสลิ่มครับ เรียกได้เลยว่าเป็นสลิ่มเฟส 3
ใช้ตรรกะบิดเบี้ยว อ้างข้อมูลพร่อง ๆ มั่ว ๆ หลอกแดง(แดงเพื่อไทย-แดงทักษิณ)กันเอง
สลิ่มยังดีกว่า ที่เวลาเชียร์ ยังเชียร์แบบดุ่ย ๆ ดื้อ ๆ มั่วดั้น ๆ ไป
แต่สลิ่มเฟส 3 นี่ ทำเป็นมีหลักคิดหลักการ สร้างตรรกะบิดเบี้ยวบูดเน่ามาประกอบ