สวัสดีค่ะ เรายื่นเอกสารวันที่ 18 มีนาคม 2564 นะคะ
**ดังนั้นควรสอบถามกับจนท.ประจำพื้นที่ที่จะยื่นก่อนอีกครั้ง เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาและค่าเอกสารหลายรอบค่ะ**
กรณี สมัครสอบสัญชาติโดยตรงกับ ตม. และ
กรณี เรียน KIIP จบระดับ 5 และสอบ 귀화용 ไม่ผ่าน
1.แบบฟอร์มสมัครขอสัญชาติ (โทร 1345 เพื่อขอฟอร์มทางเมล์ หรือ รับแบบฟอร์มได้ที่ ตม.)
-> เราโทรขอเอกสารและกรอกตามที่เมล์แนะนำค่ะ เอกสารเป็นภาษาเกาหลีทั้งหมดนะคะ
2.รูปถ่าย 3.5 x 4.5 cm (ถ่ายแบบทำพาสปอร์ตเกาหลี ,ขนาดเดียวกันค่ะ)
-> เราไปถ่ายร้านทั่วไปในเมือง ตรงทางเดินสถานีรถไฟใต้ดินค่ะ ไปดูหน้าร้านว่าร้านไหนรีทัชสวยก็เข้าไปเลยค่ะ ปกติราคาประมาณ 12,000 ~15,000วอน ถ่ายแบบพาสปอร์ตนะคะ เพราะเค้าจะไม่แก้โครงหน้า แค่รีทัชผม สิว ให้เท่านั้น เพราะ จนท.ตม.บางท่านอาจจะไม่อนุมัติ ถ้ารูปไม่เหมือนตัวจริงเกินไป
3.ค่าธรรมเนียมการยื่นสมัครขอสัญชาติ 300,000 วอน (ชำระเป็นเงินสดเท่านั้น**)
-> ถ้าลืมพกไป ตรงนั้นมีตู้ถอนเงินค่ะ แต่เป็นตู้บริการทั่วไป ค่าธรรมเนียมการถอน ประมาณ 1,100 วอน
4.พาสปอร์ตไทย ตัวจริง และ สำเนา 1 ฉบับ
5.บัตรประจำตัวต่างด้าว ตัวจริง (외국인등록증며)
-> เจ้าหน้าที่ท่านที่เราไปยื่น ไม่ได้ขอสำเนา แต่เตรียมไปสักใบก็ดีค่ะ
6.บัตรประจำตัวประชาชนไทย ตัวจริง และ สำเนา 1 ฉบับ
->ต้องเอาตัวจริงที่ใช้งานได้ไปด้วยนะคะ (ไม่หมดอายุ) เพราะวันนั้นเราลืม เค้าไม่อนุโลม ต้องนั่งรถกลับบ้านมาเอาไปอีกรอบ เสียเวลามากเลยค่ะ
7.ใบประวัติอาชญากรรม (ขอเอกสารที่ไทยเป็นภาษาอังกฤษ แสตมป์ตรากงสุล และ ขอรับรองจากสถานทูตเกาหลีในไทย ,
เอกสารมีอายุการใช้งานได้ 6 เดือนเท่านั้น)
-> เอกสารใบนี้ต้องแสตมป์และรับรองให้ครบนะคะ สำคัญมาก**ต้องแจ้งขอเป็นภาษาอังกฤษด้วยนะคะ ไม่งั้นจะได้ภาษาไทยมาแทน สำหรับเราตอนเตรียมเอกสารก็กำลังจะกลับไทย ใจก็อยากไปทำเองค่ะ แต่คิดไปคิดมา ไปพักผ่อนดีกว่า ไม่ต้องเดินทางและรอคิวทำเรื่องเอกสาร เลยจ้างล่ามคนไทย ออกเอกสาร แสตมป์และรับรองแทน ทั้งใบประวัติอาชญกรรมและใบเกิดเลยค่ะ
8.ใบเกิด 출생증명서 (สำเนาใบเกิดที่ออกให้จากไทย แปลเป็นภาษาอังกฤษ และภาษาเกาหลี พร้อมใบรับรองผู้แปล ข้อ9)
-> เอกสารใบนี้ ขอได้ที่สำนักงานเขตที่ไหนก็ได้ค่ะ ตอนนี้มีระบบออนไลน์ มีค่าออกเอกสารไม่กี่สิบบาท แต่เอกสารจะออกเป็นภาษาไทยได้เท่านั้น
และตอนไปสอบถามที่ตม.(ด้วยตัวเอง) จนท.ต้องการเอกสารไทย ที่มีการแปลเป็นอังกฤษ และแปลจากอังกฤษเป็นเกาหลี ไม่ต้องแสตมป์ตรงกงศุลหรือรับรองจากสถานทูต (แต่ด้วยความที่เราไม่ค่อยไว้ใจ กลัวเค้าจะกลับคำ เลยให้ล่ามที่จ้างออกเอกสารแทน แสตมป์และรับรองด้วยค่ะ ขอเสียเงินเสียเวลารอบเดียว เพราะเรามองว่าถ้าเอกสารส่งมาเกาหลีแล้ว ต้องรับรองเอกสารเพิ่ม = ต้องส่งเอกสารกลับไทย ไปรับรอง แล้วส่งมาใหม่ จำเสียเวลามากๆ อีกทั้งการยื่นก็ต้องจองคิว ซึ่งบางทีก็เต็ม เลยตัดสินใจแบบนี้ค่ะ )
**เอกสารข้อ 7+8 ราคาไม่เกิน 300,000 วอน รวมส่งถึงบ้านที่เกาหลีค่ะ
ถ้าดำเนินการเอง
-ใบประวัติอาชญากรรม
แบบปกติ 100 บาท (ถ้ามารับเอง ระยะเวลาดำเนินการประมาณ 3 วัน อ้างอิงการแจ้งระบุไว้ในเว็บ ,ถ้าจัดส่งผ่านทางปณ. ก็บวกเวลาการจัดส่งเพิ่มค่ะ)
แบบด่วน (คุยกับจนท.ที่รับซองนอกนะคะ) เริ่มต้นราคาอาจจะอยู่ที่ 2,000 บาท (รอรับไ่ด้ภายในวัน ขึ้นอยู่กับจำนวนคิว ต้องคุยเวลากันดีๆนะคะ)
**ในเว็บไซด์ตอนนี้มีจองคิวออนไลน์ อันนี้เราไม่แน่ใจว่าต้องจองเท่านั้นหรือเปล่านะคะ
-ใบเกิด น่าจะไม่เกิน 50 บาท (รอรับ 15-20นาที หลังจากขอเอกสาร)
-แสตมป์รับรองจากกงศุล ต้องจองคิว นัดเวลาค่ะ
ขอเอกสารด่วน ตราละ 400 บาท รับได้เลยภายในวัน
ขอเอกสารปกติ ตราละ 200 บาท รับได้ภายใน 2 วันทำการ ถ้ารับทางปณ.ก็บวกระยะเวลาจัดส่งไปอีกค่ะ
-รับรองสถานทูต ค่าธรรมเนียม ฉบับละ 136 บาท แต่นัดคิวไม่ได้ ต้องไปเช้าๆเพื่อยื่นเอกสาร เพราะรับคิวจำนวนจำกัด แค่ 10 คิวต่อวันค่ะ
และ จำเป็นต้องรับรองจากกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศก่อน จากนั้นจึงสามารถนำเอกสารมารับรองที่สถานทูตฯ เกาหลี
-ค่าแปลเอกสาร อันนี้เราไม่รู้ราคาจริงๆค่ะ
แต่ต้องแปลใบเกิด จากไทยเป็น อังกฤษ 1 ฉบับ
แปลใบเกิด จากอังกฤษเป็น เกาหลี 1 ฉบับ
9.ใบรับรองผู้แปล และ สำเนาบัตรผู้แปลเอกสาร 번역자 확인서
(ผู้แปลเอกสาร ข้อ 8 ใบเกิด ต้องเขียนหรือพิมพ์ข้อมูลให้ครบถ้วน พร้อมแนบเอกสารยืนยันตัวตน ,
ต่างชาติ แนบบัตรล่าม หรือบัตรประจำตัวต่างด้าว/ คนเกาหลี แนบสำเนาบัตรประชาชน)
-> เอกสารตัวนี้จะมาพร้อมกันใน แบบฟอร์มการสมัครขอสัญชาติค่ะ (ก่อนเตรียมเอกสาร เราหาข้อมูลผ่านรีวิวต่างๆ บอกว่าสามารถให้สามีแปล หรือแปลเองได้ เราเลยแปลเตรียมไป เพื่อสอบถามที่ตม.ก่อนยื่นจริง , จนท.ท่านนั้นแจ้งเราว่า แปลเองไม่ได้ ต้องเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่เราและสามี และต้องมีความสามารถในการแปลค่ะ)
10.บัตรประชาชนเกาหลีของสามี ตัวจริง และ สำเนา 1 ฉบับ
-> ตอนไปตามตม.รอบแรก จนท.ไม่ได้แจ้งเอกสารตัวนี้ไว้ เราเลยไม่ได้เตรียมไป และวันที่ยื่นจริงสามีไปทำงานต่างจังหวัด เจ้าหน้าที่เลยอนุโลม รับเฉพาะสำเนาบัตรได้ค่ะ
11.기본증명서 (ขอเอกสารได้ที่ 주민센터 เอกสารมีอายุการใช้งานได้ 3เดือนเท่านั้น)
12.혼인관계증명서 (ขอเอกสารได้ที่ 주민센터 เอกสารมีอายุการใช้งานได้ 3เดือนเท่านั้น)
13.주민등록등본 (ขอเอกสารได้ที่ 주민센터 เอกสารมีอายุการใช้งานได้ 3เดือนเท่านั้น)
14.가족관계증명 (ขอเอกสารได้ที่ 주민센터 เอกสารมีอายุการใช้งานได้ 3เดือนเท่านั้น)
-> เอกสารข้อ 11-14 ให้สามีไปออกให้ก็ได้ มีค่าออกเอกสาร ไม่กี่พันวอน หรือออกออนไลน์ ฟรี ก็ได้ค่ะ , ถ้าแม่บ้านไปเอง แนะนำให้พกบัตรประชาชนเกาหลีของสามี (หรือทราบเลขบัตร)ไปด้วยนะคะ ครั้งก่อนเราไปต้องกรอกเอกสารเลขของสามีด้วยค่ะ หรืออาจจะแล้วแต่จนท.คนรับเรื่องเราก็ไม่แน่ใจ
15.เอกสารเพิ่มเติมอื่นๆ เช่น เอกสารเช่า/ซื้อบ้าน ,เอกสารเช่า/ซื้อรถ , เอกสารการเสียภาษี , เอกสารรับรองเงินเดือน , เอกสารรับรองการทำงาน เป็นต้น
-> ของเรายื่นสัญญาเช่าบ้าน , เอกสารการเสียภาษีประจำปี , เอกสารการเสียภาษี 국민연금 ของสามี และเอกสารการจบหลักสูตรล่ามศาล ของตัวเองแนบไปค่ะ ปล.เราไม่ได้ทำงานเลยไม่ได้ยื่นเอกสารเกี่ยวกับรายได้แนบค่ะ ถ้าใครทำงานแนะนำให้พกเอกสารไปด้วย ตอนไปยื่นจนท.เค้าจะพิจารณาเองว่าจะเอาอันไหนแนบใบสมัครค่ะ
16.ใบรับรองการเรียน KIIP 미수증며 (ขอเอกสารได้ที่ เว็บไซต์
https://www.socinet.go.kr/) *** ถ้าสอบตรง ไม่ต้องใช้ค่ะ***
-> พิมพ์ออกมาแนบทั้งสองใบได้เลยค่ะ ใบประกาศ และใบคะแนน , เอกสารจะแจ้งว่าเราเรียนจบ แต่คะแนนไม่ผ่าน
พอยื่นเอกสาร จนท.จะตรวจเอกสารว่าครบมั๊ย ต้องการเอกสารตัวไหนเพิ่มมั๊ย
ถ้าไม่ครบ หรือขอเพิ่ม จนท.อาจจะให้มายื่นใหม่พร้อมเอกสารที่ขอ
หรือ อาจจะรับเอกสารแล้วให้นำเอกสารที่ขอ มายื่นตามหลัง แล้วแต่วิจารณญานของจนท.ท่านนั้นๆ
ถ้าเรื่องเอกสารลงตัวเรียบร้อย จนท.จะให้ไปชำระเงินค่าธรรมเนียม 300,000 วอน
พอชำระเสร็จ นำใบเสร็จยื่นให้จนท.ที่ยื่นเอกสารได้เลยค่ะ
จากนั้นเค้าจะให้เอกสารรับรองการสมัคร ที่มีชื่อจนท.และเลขการสมัคร พร้อมทั้งแจ้งช่วงเดือนคร่าวๆที่คาดว่าจะต้องเข้าไปสัมภาษณ์ ณ ตม.
และให้หนังสือสำหรับอ่านเตรียมสอบมากค่ะ
รอข้อความยืนยันวันเข้าสอบ หากเปลี่ยนเบอร์ต้องรีบแจ้งตม.นะคะ สอบสัมภาษณ์ สามารถทำได้ 2 ครั้ง ต่อการสมัคร 1 ครั้งเท่านั้น
ดังนั้นหากยื่นสมัครแล้ว สอบไม่ผ่านทั้งสองครั้ง จะต้องยื่นสมัคร และเสียค่าธรรมเนียมใหม่นะคะ เอกสารเก่าที่เคยยื่นไปจะไม่สามารถขอคืนได้ค่ะ
**และเนื่องจากเราใช้สิทธิ์จากการเรียนและสอบ KIIP ผ่านตามเกณฑ์ ได้สิทธิ์ละเว้นไม่ต้อง สอบสัมภาณษ์ กับตม.อีกครั้งค่ะ**
เอกสารสมัครขอสัญชาติ สำหรับสอบตรง หรือคนที่สอบไม่ผ่าน KIIP ณ ตม. แทกู
**ดังนั้นควรสอบถามกับจนท.ประจำพื้นที่ที่จะยื่นก่อนอีกครั้ง เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาและค่าเอกสารหลายรอบค่ะ**
กรณี สมัครสอบสัญชาติโดยตรงกับ ตม. และ
กรณี เรียน KIIP จบระดับ 5 และสอบ 귀화용 ไม่ผ่าน
1.แบบฟอร์มสมัครขอสัญชาติ (โทร 1345 เพื่อขอฟอร์มทางเมล์ หรือ รับแบบฟอร์มได้ที่ ตม.)
-> เราโทรขอเอกสารและกรอกตามที่เมล์แนะนำค่ะ เอกสารเป็นภาษาเกาหลีทั้งหมดนะคะ
2.รูปถ่าย 3.5 x 4.5 cm (ถ่ายแบบทำพาสปอร์ตเกาหลี ,ขนาดเดียวกันค่ะ)
-> เราไปถ่ายร้านทั่วไปในเมือง ตรงทางเดินสถานีรถไฟใต้ดินค่ะ ไปดูหน้าร้านว่าร้านไหนรีทัชสวยก็เข้าไปเลยค่ะ ปกติราคาประมาณ 12,000 ~15,000วอน ถ่ายแบบพาสปอร์ตนะคะ เพราะเค้าจะไม่แก้โครงหน้า แค่รีทัชผม สิว ให้เท่านั้น เพราะ จนท.ตม.บางท่านอาจจะไม่อนุมัติ ถ้ารูปไม่เหมือนตัวจริงเกินไป
3.ค่าธรรมเนียมการยื่นสมัครขอสัญชาติ 300,000 วอน (ชำระเป็นเงินสดเท่านั้น**)
-> ถ้าลืมพกไป ตรงนั้นมีตู้ถอนเงินค่ะ แต่เป็นตู้บริการทั่วไป ค่าธรรมเนียมการถอน ประมาณ 1,100 วอน
4.พาสปอร์ตไทย ตัวจริง และ สำเนา 1 ฉบับ
5.บัตรประจำตัวต่างด้าว ตัวจริง (외국인등록증며)
-> เจ้าหน้าที่ท่านที่เราไปยื่น ไม่ได้ขอสำเนา แต่เตรียมไปสักใบก็ดีค่ะ
6.บัตรประจำตัวประชาชนไทย ตัวจริง และ สำเนา 1 ฉบับ
->ต้องเอาตัวจริงที่ใช้งานได้ไปด้วยนะคะ (ไม่หมดอายุ) เพราะวันนั้นเราลืม เค้าไม่อนุโลม ต้องนั่งรถกลับบ้านมาเอาไปอีกรอบ เสียเวลามากเลยค่ะ
7.ใบประวัติอาชญากรรม (ขอเอกสารที่ไทยเป็นภาษาอังกฤษ แสตมป์ตรากงสุล และ ขอรับรองจากสถานทูตเกาหลีในไทย ,
เอกสารมีอายุการใช้งานได้ 6 เดือนเท่านั้น)
-> เอกสารใบนี้ต้องแสตมป์และรับรองให้ครบนะคะ สำคัญมาก**ต้องแจ้งขอเป็นภาษาอังกฤษด้วยนะคะ ไม่งั้นจะได้ภาษาไทยมาแทน สำหรับเราตอนเตรียมเอกสารก็กำลังจะกลับไทย ใจก็อยากไปทำเองค่ะ แต่คิดไปคิดมา ไปพักผ่อนดีกว่า ไม่ต้องเดินทางและรอคิวทำเรื่องเอกสาร เลยจ้างล่ามคนไทย ออกเอกสาร แสตมป์และรับรองแทน ทั้งใบประวัติอาชญกรรมและใบเกิดเลยค่ะ
8.ใบเกิด 출생증명서 (สำเนาใบเกิดที่ออกให้จากไทย แปลเป็นภาษาอังกฤษ และภาษาเกาหลี พร้อมใบรับรองผู้แปล ข้อ9)
-> เอกสารใบนี้ ขอได้ที่สำนักงานเขตที่ไหนก็ได้ค่ะ ตอนนี้มีระบบออนไลน์ มีค่าออกเอกสารไม่กี่สิบบาท แต่เอกสารจะออกเป็นภาษาไทยได้เท่านั้น
และตอนไปสอบถามที่ตม.(ด้วยตัวเอง) จนท.ต้องการเอกสารไทย ที่มีการแปลเป็นอังกฤษ และแปลจากอังกฤษเป็นเกาหลี ไม่ต้องแสตมป์ตรงกงศุลหรือรับรองจากสถานทูต (แต่ด้วยความที่เราไม่ค่อยไว้ใจ กลัวเค้าจะกลับคำ เลยให้ล่ามที่จ้างออกเอกสารแทน แสตมป์และรับรองด้วยค่ะ ขอเสียเงินเสียเวลารอบเดียว เพราะเรามองว่าถ้าเอกสารส่งมาเกาหลีแล้ว ต้องรับรองเอกสารเพิ่ม = ต้องส่งเอกสารกลับไทย ไปรับรอง แล้วส่งมาใหม่ จำเสียเวลามากๆ อีกทั้งการยื่นก็ต้องจองคิว ซึ่งบางทีก็เต็ม เลยตัดสินใจแบบนี้ค่ะ )
**เอกสารข้อ 7+8 ราคาไม่เกิน 300,000 วอน รวมส่งถึงบ้านที่เกาหลีค่ะ
ถ้าดำเนินการเอง
-ใบประวัติอาชญากรรม
แบบปกติ 100 บาท (ถ้ามารับเอง ระยะเวลาดำเนินการประมาณ 3 วัน อ้างอิงการแจ้งระบุไว้ในเว็บ ,ถ้าจัดส่งผ่านทางปณ. ก็บวกเวลาการจัดส่งเพิ่มค่ะ)
แบบด่วน (คุยกับจนท.ที่รับซองนอกนะคะ) เริ่มต้นราคาอาจจะอยู่ที่ 2,000 บาท (รอรับไ่ด้ภายในวัน ขึ้นอยู่กับจำนวนคิว ต้องคุยเวลากันดีๆนะคะ)
**ในเว็บไซด์ตอนนี้มีจองคิวออนไลน์ อันนี้เราไม่แน่ใจว่าต้องจองเท่านั้นหรือเปล่านะคะ
-ใบเกิด น่าจะไม่เกิน 50 บาท (รอรับ 15-20นาที หลังจากขอเอกสาร)
-แสตมป์รับรองจากกงศุล ต้องจองคิว นัดเวลาค่ะ
ขอเอกสารด่วน ตราละ 400 บาท รับได้เลยภายในวัน
ขอเอกสารปกติ ตราละ 200 บาท รับได้ภายใน 2 วันทำการ ถ้ารับทางปณ.ก็บวกระยะเวลาจัดส่งไปอีกค่ะ
-รับรองสถานทูต ค่าธรรมเนียม ฉบับละ 136 บาท แต่นัดคิวไม่ได้ ต้องไปเช้าๆเพื่อยื่นเอกสาร เพราะรับคิวจำนวนจำกัด แค่ 10 คิวต่อวันค่ะ
และ จำเป็นต้องรับรองจากกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศก่อน จากนั้นจึงสามารถนำเอกสารมารับรองที่สถานทูตฯ เกาหลี
-ค่าแปลเอกสาร อันนี้เราไม่รู้ราคาจริงๆค่ะ
แต่ต้องแปลใบเกิด จากไทยเป็น อังกฤษ 1 ฉบับ
แปลใบเกิด จากอังกฤษเป็น เกาหลี 1 ฉบับ
9.ใบรับรองผู้แปล และ สำเนาบัตรผู้แปลเอกสาร 번역자 확인서
(ผู้แปลเอกสาร ข้อ 8 ใบเกิด ต้องเขียนหรือพิมพ์ข้อมูลให้ครบถ้วน พร้อมแนบเอกสารยืนยันตัวตน ,
ต่างชาติ แนบบัตรล่าม หรือบัตรประจำตัวต่างด้าว/ คนเกาหลี แนบสำเนาบัตรประชาชน)
-> เอกสารตัวนี้จะมาพร้อมกันใน แบบฟอร์มการสมัครขอสัญชาติค่ะ (ก่อนเตรียมเอกสาร เราหาข้อมูลผ่านรีวิวต่างๆ บอกว่าสามารถให้สามีแปล หรือแปลเองได้ เราเลยแปลเตรียมไป เพื่อสอบถามที่ตม.ก่อนยื่นจริง , จนท.ท่านนั้นแจ้งเราว่า แปลเองไม่ได้ ต้องเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่เราและสามี และต้องมีความสามารถในการแปลค่ะ)
10.บัตรประชาชนเกาหลีของสามี ตัวจริง และ สำเนา 1 ฉบับ
-> ตอนไปตามตม.รอบแรก จนท.ไม่ได้แจ้งเอกสารตัวนี้ไว้ เราเลยไม่ได้เตรียมไป และวันที่ยื่นจริงสามีไปทำงานต่างจังหวัด เจ้าหน้าที่เลยอนุโลม รับเฉพาะสำเนาบัตรได้ค่ะ
11.기본증명서 (ขอเอกสารได้ที่ 주민센터 เอกสารมีอายุการใช้งานได้ 3เดือนเท่านั้น)
12.혼인관계증명서 (ขอเอกสารได้ที่ 주민센터 เอกสารมีอายุการใช้งานได้ 3เดือนเท่านั้น)
13.주민등록등본 (ขอเอกสารได้ที่ 주민센터 เอกสารมีอายุการใช้งานได้ 3เดือนเท่านั้น)
14.가족관계증명 (ขอเอกสารได้ที่ 주민센터 เอกสารมีอายุการใช้งานได้ 3เดือนเท่านั้น)
-> เอกสารข้อ 11-14 ให้สามีไปออกให้ก็ได้ มีค่าออกเอกสาร ไม่กี่พันวอน หรือออกออนไลน์ ฟรี ก็ได้ค่ะ , ถ้าแม่บ้านไปเอง แนะนำให้พกบัตรประชาชนเกาหลีของสามี (หรือทราบเลขบัตร)ไปด้วยนะคะ ครั้งก่อนเราไปต้องกรอกเอกสารเลขของสามีด้วยค่ะ หรืออาจจะแล้วแต่จนท.คนรับเรื่องเราก็ไม่แน่ใจ
15.เอกสารเพิ่มเติมอื่นๆ เช่น เอกสารเช่า/ซื้อบ้าน ,เอกสารเช่า/ซื้อรถ , เอกสารการเสียภาษี , เอกสารรับรองเงินเดือน , เอกสารรับรองการทำงาน เป็นต้น
-> ของเรายื่นสัญญาเช่าบ้าน , เอกสารการเสียภาษีประจำปี , เอกสารการเสียภาษี 국민연금 ของสามี และเอกสารการจบหลักสูตรล่ามศาล ของตัวเองแนบไปค่ะ ปล.เราไม่ได้ทำงานเลยไม่ได้ยื่นเอกสารเกี่ยวกับรายได้แนบค่ะ ถ้าใครทำงานแนะนำให้พกเอกสารไปด้วย ตอนไปยื่นจนท.เค้าจะพิจารณาเองว่าจะเอาอันไหนแนบใบสมัครค่ะ
16.ใบรับรองการเรียน KIIP 미수증며 (ขอเอกสารได้ที่ เว็บไซต์ https://www.socinet.go.kr/) *** ถ้าสอบตรง ไม่ต้องใช้ค่ะ***
-> พิมพ์ออกมาแนบทั้งสองใบได้เลยค่ะ ใบประกาศ และใบคะแนน , เอกสารจะแจ้งว่าเราเรียนจบ แต่คะแนนไม่ผ่าน
พอยื่นเอกสาร จนท.จะตรวจเอกสารว่าครบมั๊ย ต้องการเอกสารตัวไหนเพิ่มมั๊ย
ถ้าไม่ครบ หรือขอเพิ่ม จนท.อาจจะให้มายื่นใหม่พร้อมเอกสารที่ขอ
หรือ อาจจะรับเอกสารแล้วให้นำเอกสารที่ขอ มายื่นตามหลัง แล้วแต่วิจารณญานของจนท.ท่านนั้นๆ
ถ้าเรื่องเอกสารลงตัวเรียบร้อย จนท.จะให้ไปชำระเงินค่าธรรมเนียม 300,000 วอน
พอชำระเสร็จ นำใบเสร็จยื่นให้จนท.ที่ยื่นเอกสารได้เลยค่ะ
จากนั้นเค้าจะให้เอกสารรับรองการสมัคร ที่มีชื่อจนท.และเลขการสมัคร พร้อมทั้งแจ้งช่วงเดือนคร่าวๆที่คาดว่าจะต้องเข้าไปสัมภาษณ์ ณ ตม.
และให้หนังสือสำหรับอ่านเตรียมสอบมากค่ะ
รอข้อความยืนยันวันเข้าสอบ หากเปลี่ยนเบอร์ต้องรีบแจ้งตม.นะคะ สอบสัมภาษณ์ สามารถทำได้ 2 ครั้ง ต่อการสมัคร 1 ครั้งเท่านั้น
ดังนั้นหากยื่นสมัครแล้ว สอบไม่ผ่านทั้งสองครั้ง จะต้องยื่นสมัคร และเสียค่าธรรมเนียมใหม่นะคะ เอกสารเก่าที่เคยยื่นไปจะไม่สามารถขอคืนได้ค่ะ
**และเนื่องจากเราใช้สิทธิ์จากการเรียนและสอบ KIIP ผ่านตามเกณฑ์ ได้สิทธิ์ละเว้นไม่ต้อง สอบสัมภาณษ์ กับตม.อีกครั้งค่ะ**