ขณะบวชครั้งแรกกับพระอาจารย์โสภา สมโน ที่วัดแสงธรรมวังเขาเขียว เมื่อปี 2553 ตอนนั้นปฏิบัติดีมาก นั่งสมาธิ เดินจงกรมวันละ 8-12 ชม. จิตรวมเป็นสมาธิดีมาก เผอิญ วัดป่าบ้านทัพไทย จ.สุรินทร์ ของพระอาจารย์โสภา ได้รับอนุมัติจากสำนักสงฆ์ให้เป็นวัด

พระอาจารย์โสภาจึงให้ผมและพระเพื่อนมาช่วยงาน ผูกพัทธสีมา ฝังลูกนิมิตและบวชพระใหม่ที่วัดป่าบ้านทัพไทย ในวันงานได้เชิญ หลวงปู่เยื้อน ขันติพโล ศิษย์เอกหลวงปู่ดุลย์ อตุโล ที่หลวงปู่รับรองว่าดวงตาเห็นธรรมตั้งแต่บวช 3 วันแรก ขึ้นแสดงพระธรรมเทศนา ขณะนั้นเวลาประมาณ บ่าย 3 โมง

ขณะนั้นผมซึ่งเหนื่อยจากการช่วยงานวัด เห็นห้องน้ำว่างพอดี จึงเข้าไปสรงน้ำ (มีพระมาร่วมงานเยอะมากห้องน้ำไม่เพียงพอ) ขณะสรงน้ำได้ยินเสียงพระธรรมเทศนาของหลวงปู่เยื้อนดังขึ้นมา ขณะนั้นผมบวชเป็นพระถือศีลเคร่งครัด 227 ข้อ และปฏิบัติสมาธิอย่างเคร่งครัดวันละ 8-12 ชม. จิตรวมเป็นสมาธิดีมาก เสียงพระธรรมเทศนาของหลวงปู่เยื้อนพุ่งมาที่จิตที่ใจ จิตใจสว่างไสว เบิกบาน ซาบซึ้งในพระธรรมมากๆ แม้ขณะสรงน้ำอยู่

ด้วยความปรารถนาพระพุทธภูมิ กลัวว่าตนเองจะบรรลุธรรม จึงเอามีมือปิดหูและออกจากสมาธิ ไม่ฟังพระธรรมเทศนาของหลวงปู่เยื้อนต่อ เพราะกลัวจะบรรลุเป็นพระอริยบุคคล หลังจากออกจากห้องน้ำ ได้เจอพระเพื่อนต่างพูดตรงกันว่า ถ้าตั้งใจฟังพระธรรมเทศนาด้วยจิตที่สมาธิสามารถบรรลุธรรมได้เลย

เช้าวันต่อมา ครูบาอาจารย์ หลานแท้ๆ ขององค์หลวงตามหาบัวได้ทักผมว่า “เมื่อวานครูบา (พระบวชใหม่) ตั้งใจฟังพระธรรมเทศนาของหลวงปู่เยื้อนไหม กระแสธรรมท่านแรงมากๆ ถ้าตั้งใจฟังนี่บรรลุธรรมได้เลย มีพระหลายรูปบรรลุธรรมเพราะฟังพระธรรมเทศนาเมื่อวานนะ”

ผมเข้าใจทันทีว่าทำไมสมัยพุทธกาล แค่ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้าก็สามารถบรรลุธรรมเป็นพระอริยบุคคลได้ เพราะ
1.บุญบารมีของผู้แสดงธรรม
2.บุญบารมีของผู้ฟังธรรม (ต้องบารมีเต็ม)
3.ความบริสุทธิ์ของศีลผู้ฟัง
4.ต้องฟังด้วยจิตที่เป็นอัปนาสมาธิ

ถ้าองค์ประกอบทั้ง 4 อย่างนี้ครบ การฟังธรรมสามารถเปลี่ยนภูมิเป็นพระอริยบุคคลได้ เสียงแห่งธรรมที่องค์หลวงปู่เยื้อนได้แสดงธรรมเมื่อปี 2553 ยังดังกังวาลอยู่ในจิตผมทุกวันนี้ สาธุๆๆๆ