JJNY : 5in1 ‘กัณวีร์’คว้าเก้าอี้│เตรียมเปิดตัวผู้สมัครสว.│ภาคต่อข้าวคลุกน้ำปลา│คนร้ายป่วนรอมฎอน│กราดยิงรัสเซียตายพุ่ง

มงลง! ‘กัณวีร์’ คว้าเก้าอี้ กมธ.มนุษยธรรมฯ ในเวทีสหภาพรัฐสภาโลก
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_8153272
 
 
มงลง! “สส.กัณวีร์ สืบแสง” ได้เสียงหนุนเอกฉันท์ จากกลุ่ม ASEAN+3 คว้าเก้าอี้ กมธ.มนุษยธรรมระหว่างประเทศ ในเวทีสหภาพรัฐสภาโลก
 
จากกรณี นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรคเป็นธรรม ได้รับการเสนอชื่อจากคณะกรรมการบริหารหน่วยสหภาพรัฐสภาของไทย (Inter-Parliamentary Union) ซึ่งประกอบด้วย สส. ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน และสว. ให้เป็นตัวแทนรัฐสภาไทย เข้าชิงตำแหน่งกรรมาธิการ (กมธ.) ว่าด้วยการส่งเสริมการเคารพกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ (Committee to Promote Respect of the International Humanitarian Law หรือ IHL) ในนามของประเทศไทย สัดส่วนภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ในระหว่างการประชุมร่วมสมัชชาสหภาพรัฐสภา ครั้งที่ 148 (IPU) ที่เมืองเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์  ระหว่างวันที่ 22-29 มี.ค.นั้น
 
ล่าสุด วันที่ 23 มี.ค. 2567 นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทย โพสต์ข้อความผ่าน X หรือทวิตเตอร์ ถึงผลการประชุมว่า “เรียบร้อยครับ กัณวีร์ สืบแสง ได้รับเลือกจากที่ประชุม Asia-Pacific เข้าเป็น IPU committee to promote respect for international humanitarian law ครับ
 
ด้าน นายชัยวัฒน์ สถาวรวิจิตร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทย โพสต์ข้อความผ่าน X ถึงผลการประชุมเช่นกัน โดยระบุว่า “ผู้แทนจากรัฐสภาไทย เสนอ สส.กัณวีร์ สืบแสง เป็นกรรมาธิการใน #IPU Committee to Promote Respect for Intl Humanitarian Law และได้รับการสนับสนุนเป็นเอกฉันท์จากกลุ่ม ASEAN+3 และต่อมาในกลุ่ม APAC ผู้แทนจากปากีสถานขอถอย และให้การสนับสนุนผู้แทนจากไทย ยินดีกับพี่กัณวีร์ สืบแสง ด้วยครับ
 
ขณะที่ นายกัณวีร์ ได้รีโพสต์ทวีตของนายชัยวัฒน์ พร้อมระบุข้อความว่า “มงลงครับ จะทำหน้าที่ตัวแทนประเทศไทยให้ดีที่สุดครับผม”
 
https://twitter.com/ongpadipat/status/1771471785545867347
https://twitter.com/ChaiwatPublic/status/1771467797727506823
https://twitter.com/nolkannavee/status/1771475074798797116
 


“ก้าวหน้า-ไอลอว์” เตรียมเปิดตัวผู้สมัคร สว. 27 มี.ค.นี้ เปิดหน้าสู้ขั้วอำนาจเดิม
https://www.thairath.co.th/news/politic/2772935

“คณะก้าวหน้า” จับมือ “ไอลอว์” แท็กทีมส่งคนชิงเก้าอี้ สว. จ่อเปิดตัว 27 มี.ค.นี้ “นักวิชาการ-นักเคลื่อนไหว-สื่อ” เพียบ เล็งเฟ้นตัวส่งคนประกบทุกพื้นที่ทั่วประเทศ คาดกลุ่มอำนาจเก่าล็อกสเปกเครือข่ายข้าราชการ-เอกชน-อาชีพอื่นถึง 150 เก้าอี้ ขอลุยสู้ดันวาระแก้รัฐธรรมนูญ-ลดอำนาจองค์กรอิสระ 
 
วันที่ 23 มี.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของคณะก้าวหน้า ว่า เมื่อเร็วๆ คณะทำงานของก้าวหน้า นี้ได้มีการประชุมร่วมกับโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (ไอลอว์) ถึงกรณีการเลือก สว.ชุดใหม่ จำนวน 200 คนที่จะมาทำหน้าแทน 250 สว. ที่แต่งตั้งโดย คสช. ซึ่งจะหมดวาระลงในเดือน พ.ค.นี้ ทั้งนี้ที่ประชุมมีการประเมินกันว่า กลุ่มอำนาจเก่า และฝ่ายความมั่นคงมีความพยายามสกัด สว.ที่เป็นตัวแทนจากภาคประชาชน โดยมีการวางตัว สว. ในสัดส่วนที่เป็นเครือข่ายข้าราชการ 50 คน ภาคเอกชน 50 คน และจะปล่อยให้เป็นสัดส่วนอาชีพอิสระอื่นๆ อีก 50 คน ซึ่งจะทำให้การคัดเลือก สว.รอบนี้มีคนของกลุ่มขั้วอำนาจเดิมถึง 150 คน แม้ว่าพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา มาตรา 10  และมาตรา 11 กำหนดให้ผู้สมัคร สว.เลือกสมัครเป็นตัวแทนจากกลุ่มต่างๆ โดยแบ่งออกเป็นกลุ่มอาชีพต่างๆ ซึ่งมีจำนวน 18 กลุ่ม และกลุ่มพิเศษอีกสองกลุ่มคือ กลุ่มสตรี และกลุ่มผู้สูงอายุ คนพิการหรือผู้ทุพพลภาพรวมถึงกลุ่มชาติพันธุ์ รวมจำนวนทั้งหมด 20 กลุ่ม ซึ่งต้องคัดเลือกกันเอง แต่มีความพยายามล็อกสเปกคนไว้แล้ว 
 
ที่ประชุมจึงประเมินว่าจะส่งคนลงสมัคร สว.เข้าประกอบในทุกพื้นที่ โดยจะมีการเดินสายเฟ้นหาตัวผู้สมัครชิง สว. ประมาณ 100 คนทั่วประเทศ ขณะนี้ได้ตัวผู้สมัครเป็นที่ชัดเจนแล้วประมาณ 30 คน โดยเบื้องต้นจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 27 มี.ค.นี้ ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา สี่แยกคอกวัว เบื้องต้นมีบุคคลที่มีชื่อเสียง นักวิชาการ สื่อมวลชน และนักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่จะมาร่วมเปิดตัว เช่น นายพนัส ทัศนียานนท์ อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายธเนศวร์ เจริญเมือง อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นายธเนศ อาภรณ์สุวรรณ อาจารย์คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายวันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์ สื่อมวลชนอิสระและอดีตรองผู้อำนวยการด้านข่าวและรายการ สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส อดีตนายแพทย์จากโรงพยาบาลศิริราช และสื่อมวลชนอีกจำนวนหนึ่ง โดยการผลักดันผู้สมัครชิงเก้าอี้ สว.ในครั้งนี้มีวาระเพื่อขับเคลื่อนการแก้รัฐธรรมนูญปี 2560 และลดอำนาจองค์การอิสระ



ภาคต่อข้าวคลุกน้ำปลา เพจดังแฉอีก พลทหารยกเงินเดือนให้นาย แลกลากิจกลับบ้าน
https://www.matichon.co.th/social/news_4488286

ภาคต่อข้าวคลุกน้ำปลา เพจดังแฉอีก พลทหารยกเงินเดือนให้นาย แลกลากิจกลับบ้าน
 
จากกรณีเพจดัง อีซ้อขยี้ข่าว ได้โพสต์ภาพ ภาชนะสเตนเลสที่มีข้าวราดซอส แกงฟัก และลูกชิ้น 2 ลูก พร้อมระบุแคปชั่น “เน้นอิ่มท้องแต่ไม่เน้นสารอาหาร…นี่คืออาหารของหนุ่มๆ ที่จับได้ใบแดง” และได้อธิบายเพิ่มเติมในคอมเมนต์ว่า “ไม่ใช่อาหารกลางวันเด็กนะคะ มันคืออาหารของคนหนุ่ม ๆ ผู้ที่จับได้ใบแดงบานปลายค่ะ ทำงานหนักหน่อยนะคะท่านโฆษก ครู ตำรวจ คงเฮ คงนึกกูได้พักแหละ อีซ้อมาสาระแนไปอยู่ในค่ายแทน” เมื่อวันที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมานั้น

เมื่อวันที่ 23 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงาน ล่าสุดวันนี้เพจอีซ้อขยี้ข่าวได้โพสต์รูปภาพ ถาดอาหารพลทหารในค่ายแห่งหนึ่งที่ปริมาณกับข้าวไม่สมดุลกับข้าวที่ตักให้จนพูนชาม อาทิ ต้มมะระกับวิญญาณหมู+ไส้กรอก 1 ชิ้น ผัดผักบุ้งเน้นผัก หรือเมนูผัดถั่วที่เขี่ยเท่าไหร่ก็หาหมูไม่เจอ  พร้อมระบุข้อความว่า “อาหารทุกมื้อที่เจอทุกวัน ผัก 1 ไร่ เนื้อ 1 โล ที่ค่ายแห่งหนึ่งใน จ.ราชบุรี

ดูโพสต์ต้นฉบับ กดที่นี่
 
นอกจากนี้เพจดังยังโพสต์แฉอีกโดยระบุเป็นข้อความว่า “เตรียมรอแฉมุมมืดในค่ายทหาร เมื่อเงินเดือนทั้งหมดยกให้นายแลกกับวันลากิจเพื่อกลับบ้าน” พร้อมอธิบายเพิ่มเติมในช่องคอมเมนต์ว่า
 
“เรื่องจริงหรอ มีแบบนี้ด้วยเหรอ ซ้อรู้แล้ว = โลกรู้”
“ไม่ใช่รับจ้างเข้าเวรนะ ไม่ใช่แค่เงินเดือนบางส่วนแต่เป็นเงินเดือนทั้งเดือนจ้าาาาาา กูว่าคนอื่นออกมาแฉแล้ว พี่ ๆ นักข่าวลองดูข้อมูลจากคอมเมนต์เองนะ ”
“ไม่ได้มาโจมตีหน่วยงานนะคะ ถ้าใครยังมองว่าเรื่องแบบนี้คือการเมือง ไปคลั่งกันที่เพจการเมืองนะคะ เพจกูสะท้อนมุมมืดในสังคมจ้าาาาาา อย่าให้คำว่าเป็นมานาน มีมานานแล้วเป็นเรื่องปกติ ทั้งที่มันผิด ถ้ากูกล้าที่จะเปิด สื่อกล้าตามไหม สังคมพร้อมช่วยตีแผ่มั้ย และนายกล้ายอมรับความจริงหรือยัง?”
 
เมื่อโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปไม่นานก็มีผู้คนเข้ามากดไลค์แล้วกว่า 1.5 หมื่นครั้ง และร่วมแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ทั้งชื่นชมเพจดังที่กล้าออกมาเปิดมุมมืดในสังคม บ้างก็บอกว่าเป็นเรื่องที่มีมานานแล้วเป็นปกติ ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่หรือน่าแปลกใจอะไร อาทิ
 
“ชอบเพจนี้มาก..ขยี้เก่ง”
“มีมานานแล้วครับท่าน”
“เขาว่ามีมานานแล้วครับ ยกเงินเดือนให้ อยู่บ้านได้เป็นเดือน ๆ แต่ต้องหลัง 1 ปีก่อนนะ หรือฝึกจบ 3 เดือน”
“หน่วยงานราชการไทยเก่งหัวดีสุดยอดครับ”
“เรื่องนี้มีมาตั้งแต่จำความได้ค่ะ”
“มีมานานละครับ ชื่ออยู่บ้านนาย ตัวอยู่บ้านครับ”
“มีมานานมากแล้วววว”
“มีมานานทุกยุค…”
“แดนลึกลับ”

https://www.facebook.com/esornews/posts/947679350365821



คนร้ายป่วนเดือนรอมฎอน วางระเบิดหลายจุด ‘ปัตตานี-ยะยา-นราธิวาส-สงขลา’ มุ่งทำลายเศรษฐกิจ
https://www.matichon.co.th/local/news_4488616

คนร้ายป่วนเดือนรอมฎอน วางระเบิดหลายจุด ‘ปัตตานี-ยะลา-นราธิวาส-สงขลา’ มุ่งทำลายเศรษฐกิจ
 
เมื่อวันที่ 23 มีนาคม จากเหตุการณ์คนร้ายกลุ่มใหญ่ก่อกวนหลายจุดในเขตจังหวัดปัตตานี, ยะลา, นราธิวาส และสงขลา สำหรับจังหวัดปัตตานี เกิดเหตุมากที่สุด กระจายทั้ง 10 อำเภอ จำนวน 20 จุด ล่าสุด ผวจ.ปัตตานี ลงพื้นที่ติดตามตรวจสอบความเสียหาย เยี่ยมญาติกรณีผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นชาวต่างด้าว  สัญชาติพม่า ซึ่งเข้ามาใช้แรงงานใน พท. ได้ตรวจสอบการดำเนินการเยียวยา และประเมินสถานการณ์การวางมาตรการป้องกันต่อไป
 
โดยผู้ว่าราชการพร้อมเจ้าหน้าที่เข้าเยี่ยมพื้นที่ทั้ง 6 อำเภอ เหตุไฟไหม้ร้านสะดวกซื้อ (เซเว่น) 5 แห่ง อ เมือง สาขาบางปู อ.ยะหริ่ง สาขามหาวิทยาลัยฟาตอนี อ.ยะรัง สาขาหน้าโรงพยาบาลโคกโพธิ์ ตำบลมะกรูด อำเภอโคกโพธิ์ สาขาอำเภอไม้แก่น จังหวัดปัตตานีจุดระเบิด 1 แห่ง ภายในปั๊มน้ำมัน ปตท. ตำบลเกาะจัน อำเภอมายอ, เผาเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ อำเภอมายอ ซึ่งช่วงเช้าหลังจากเจ้าหน้าที่ได้เข้าเคลียร์พื้นที่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
 
จากนั้นติดตามที่ จุดวางเพลิงห้องพักรายวันโฮมสวีทโฮมรีสอร์ท พื้นที่หมู่ 6 ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี จุดเกิดเหตุเพลิงไหม้สำนักงานการไฟฟาส่วนภูมิภาคอำเภอทุ่งยางแดง บ้านปาแดปาลัส หมู่ 1 ตำบลปากู อำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี ซึ่งบางจุดเจ้าหน้าที่ปิดกั้นพื้นที่ อยู่ระหว่างเข้าตรวจสอบ รวบรวมวัตถุพยาน และเก็บพยานหลักฐานเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามหาตัวคนร้ายต่อไป
 
นางพาตีเมาะ สะดียามู ผวจ.ปัตตานี เปิดเผยว่า เกิดความเสียหายอย่างหนัก เป้าหมายที่กระทบกับพี่น้องประชาชนมากที่สุด 80% ต้องเร่งสร้างความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน และคลี่คลายสถานการณ์ให้เร็วที่สุด ครั้งนี้คนร้ายลงมือหวังทำลายระบบเศรษฐกิจ สาธารณูปโภค ลดความเชื่อมั่นของเจ้าหน้าที่ความมั่นคง เกิดเหตุช่วงรอมฎอน เป็นการแสดงศักยภาพของกลุ่มผู้ก่อเหตุ ว่าสามารถก่อเหตุรุนแรงได้พร้อมๆ กันในหลายพื้นที่ ด้านจังหวัดปัตตานีได้เรียกประชุมฝ่ายที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ต้องเน้นให้เร่งดำเนินการตรวจสอบสภาพความเสียหาย ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นจุดระเบิด วางเพลิง ปั๊มน้ำมัน วางเพลิงรีสอร์ต โรงแรม  โรงไฟฟ้า เสาไฟฟ้า โดยเฉพาะร้านสะดวกซื้อทั้ง 5 แห่ง ครั้งนี้เป็นร้านที่อยู่ลึกในชุมชนรอง ไม่ใช่จุดเมืองหลัก และด้านการป้องกัน ได้ประชุมให้กองกำลังฝ่ายความมั่นคง จัดกำลังเจ้าหน้าที่ต้องควบคุม รัดกุม เฝ้าระวังให้มากขึ้น รวมทั้งการตรวจสอบการติดตั้งกล้องวงจรปิด ด้านเยียวยาก็ต้องเร่งอำนวยความสะดวกดำเนินการให้ได้เยียวยาโดยได้รับความยุติธรรมทั้งหมด ซึ่งวันนี้มาเยี่ยมเคสที่เสียชีวิต จากลูกหลงครั้งนี้ ตรวจสอบแล้วเป็นชาวต่างชาติ เป็นแรงงานผู้หญิงชาวเมียนมา อายุ 27 ปี ก็ได้รับการเยียวยาด้วยเช่นเดียวกัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่