วันจัทร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ.2567
วันนี้เป็นวันจันทร์ที่ไม่ปกติสำหรับผมอีกแล้ว
หลังจากได้อ่านข้อความนี้ตอน 14.58 น. ไป ผมรู้สึกโหวงๆ ในใจมากเลยครับ
(อธิบายไม่ถูกเหมือนกันครับ อาการมันเหมือนมีความทรงจำ ความคิดต่างๆมันไหลเข้ามาในหัวไม่หยุดครับ)
แต่ตอนนี้ในช่วงที่กำลังตั้งกระทู้ ก็เริ่มปรับอารมณ์ได้บ้างแล้วครับผม
- ตอนนี้ก็คงได้แต่รอดูผลตรวจ CT ครับ ว่าจะผลจะเป็นยังไง
แค่เพียงปัจจุบันทางฝั่งคุณแม่ยังไม่มีการติดต่อกลับมาครับ ไว้จะมาอัพเดตให้ครับผม
*18/03/2567 อัพเดตตอน 23.10 น. นะครับ
-
แม่บอกว่าพบก้อนเนื้อที่ตับขนาด 4 cm
(ตอนที่อ่านหลังเลิกงาน 19.00 น. มือไม้อ่อนเลยครับ หวังว่าจะเป็นอาการผิดปกติเบาๆ แค่ผ่าออกก็หายได้ไหม)
- เดี๋ยวพรุ่งนี้คุณแม่จะไปนัดทำ CT แสกนดูครับว่ามันคืออะไร ตัวก้อนเนื้อขนาด 4 cm ที่ผล Ultrasound บอก
ปล. คุณแม่เป็นข้าราชกาลพยาบาลวิชาชีพครับ อายุ 50+ แล้ว (ตอนแรกวางแผนจะเกษียณในอีก 1-2 ปีข้างหน้า) ปกติยังทำเวรเป็นเวรต่างๆอยู่ครับ รวมถึงเวรดึกด้วยครับผม (23.00 น. - 09.00 น.) ไม่ได้ทำเป็นเวรลอยเช้าครับ
ปล1. เป็นคนภาคเหนือครับ ขอไม่เอ่ยจังหวัดนะครับ แต่ว่าเป็นจังหวัดที่ติด Top เรื่องฝุ่น PM 2.5 และเรื่องอุณหภูมิที่สูงบ่อยๆครับ
ปล2. พวกเหล้า บุหรี่ สารเสพติดคุณแม่ไม่ยุ่งครับ
11.09 น. ตอนนี้รอคุณแม่ทักมาบอกผลตรวจ CT Scan ครับผม
- ส่วนตัวเคยเสียคนจากชีวิตไปใหญ่ที่สุดก็คงเป็นลุงครับ (เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ร่างกายเป็นอัมพาตทั้งตัว ไม่ได้สติ เสียชีวิตในวันเกิดของน้องสาว)
//ผมยังรู้สึกผิดลึกๆ ในใจกับคุณลุงตอนนั้นว่าทำไมเราถึงไม่ไปอยู่กับเขาในช่วงเวลานั้น แต่ตอนนั้นเราอยู่ในช่วงเตรียมตัวเข้ามหาลัยอยู่ มันไม่สามารถไปได้จริงๆ และตอนนี้ก็ทำงานได้ 2 จะ 3 ปีแล้วมาเจอเรื่องของคุณแม่อีก ส่วนตัวเราก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันเลยตั้งแต่เข้ามหาลัย กลับมาบ้านก็แค่ช่วงปิดเทอม แต่ก็ยังได้เจอกับเขาบ่อย หากเขามาหาที่หอพัก เพราะก็อยู่ห่างกันแค่ไม่กี่จังหวัด ขับรถ 1-2 ชั่วโมงถึง
.
แต่ตอนทำงานแล้วมันต่างไปครับ ผมได้กลับแค่ช่วงวันหยุดยาว เช่นวันสงกรานต์ และช่วงสิ้นปีเพียงแค่นั้น เราแทบจะเจอกันนับครั้งได้ครับ เพราะผมทำงานที่กรุงเทพฯ เนื่องจากที่ต่างจังหวัดตัวงานกับรายได้มันไม่สอดคล้องกันครับ จึงตัดสินใจเข้ามาทำงานที่กรุงเทพฯ ก่อนมาตั้งกระทู้นี้ก็พึ่งระบายเรื่องลาออกจากที่เก่าไปไม่นานมานี้ รู้สึกใจหายกับการลาออกจากที่ทำงานปัจจุบัน จนตอนนี้ก็ได้เริ่มทำงานใหม่ กำลังอยู่ในช่วงทดลองงานใหม่ไม่กี่อาทิตย์เอง ตอนนี้ก็รู้สึกตัดสินใจอะไรยากครับ ควรจะทำยังไงดี กลับบ้านดีไหม หรือว่าทำงานต่อไปดี แต่ตอนนี้ก็ยังคงทำอะไรไม่ได้ นอกจากรอฟังผลตรวจก่อน จึงปิดความคิดเรื่องนี้ออกไปในตอนนี้แล้วครับ
วันอังคารที่ 19 มีนาคม พ.ศ.2567
ก็มีข่าวดีมาบอกแล้วครับ
- คุณแม่บอกว่า เป็นไขมันติดตับและเป็นอาการ Hemangioma (ปานแดงในตับ) คุณหมอบอกว่าเป็นเนื้องอกชนิดดี
//ซึ่งผมก็ไม่ทราบเหมือนกันนะครับว่ามันปกติจริงๆไหม แต่ถ้าเกิดขึ้นกับตัวเองก็คงจะทำการผ่าออก เพราะมันมีขนาดถึง 4 cm
- ตอนนี้คุณหมอก็ให้มาพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านจนถึงวันที่ 22 ครับ
- แต่ในส่วนของอาการก็คงต้องเฝ้าดูต่อไปครับผม ว่าจะเป็นยังไงต่อ เพราะส่วนของตับก็มีความผิดปกติเกิดขึ้นง่าย แต่ในตัวตับเองก็ฟื้นตัวเองง่ายครับ (ตับเป็นอวัยวะหนึ่งในร่างกายเราที่ฟื้นฟูตัวเองได้แม่จะได้รับความเสียหาย แต่ถ้าเป็นในกรณีมะเร็งจริงๆคงไม่น่าจะได้แล้วครับ)
ขอบคุณมากๆนะครับ กับเพื่อนๆชาวพันทิปที่ฝากกำลังใจให้คุณแม่ของผม
ขอบคุณจากใจเลยครับ
เมื่อแม่บอกกับผมว่า แม่อาจจะเป็น "มะเร็ง"
แค่เพียงปัจจุบันทางฝั่งคุณแม่ยังไม่มีการติดต่อกลับมาครับ ไว้จะมาอัพเดตให้ครับผม
(ตอนที่อ่านหลังเลิกงาน 19.00 น. มือไม้อ่อนเลยครับ หวังว่าจะเป็นอาการผิดปกติเบาๆ แค่ผ่าออกก็หายได้ไหม)
- เดี๋ยวพรุ่งนี้คุณแม่จะไปนัดทำ CT แสกนดูครับว่ามันคืออะไร ตัวก้อนเนื้อขนาด 4 cm ที่ผล Ultrasound บอก
ปล. คุณแม่เป็นข้าราชกาลพยาบาลวิชาชีพครับ อายุ 50+ แล้ว (ตอนแรกวางแผนจะเกษียณในอีก 1-2 ปีข้างหน้า) ปกติยังทำเวรเป็นเวรต่างๆอยู่ครับ รวมถึงเวรดึกด้วยครับผม (23.00 น. - 09.00 น.) ไม่ได้ทำเป็นเวรลอยเช้าครับ
ปล1. เป็นคนภาคเหนือครับ ขอไม่เอ่ยจังหวัดนะครับ แต่ว่าเป็นจังหวัดที่ติด Top เรื่องฝุ่น PM 2.5 และเรื่องอุณหภูมิที่สูงบ่อยๆครับ
ปล2. พวกเหล้า บุหรี่ สารเสพติดคุณแม่ไม่ยุ่งครับ
11.09 น. ตอนนี้รอคุณแม่ทักมาบอกผลตรวจ CT Scan ครับผม
- ส่วนตัวเคยเสียคนจากชีวิตไปใหญ่ที่สุดก็คงเป็นลุงครับ (เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ร่างกายเป็นอัมพาตทั้งตัว ไม่ได้สติ เสียชีวิตในวันเกิดของน้องสาว)
//ผมยังรู้สึกผิดลึกๆ ในใจกับคุณลุงตอนนั้นว่าทำไมเราถึงไม่ไปอยู่กับเขาในช่วงเวลานั้น แต่ตอนนั้นเราอยู่ในช่วงเตรียมตัวเข้ามหาลัยอยู่ มันไม่สามารถไปได้จริงๆ และตอนนี้ก็ทำงานได้ 2 จะ 3 ปีแล้วมาเจอเรื่องของคุณแม่อีก ส่วนตัวเราก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันเลยตั้งแต่เข้ามหาลัย กลับมาบ้านก็แค่ช่วงปิดเทอม แต่ก็ยังได้เจอกับเขาบ่อย หากเขามาหาที่หอพัก เพราะก็อยู่ห่างกันแค่ไม่กี่จังหวัด ขับรถ 1-2 ชั่วโมงถึง
.
แต่ตอนทำงานแล้วมันต่างไปครับ ผมได้กลับแค่ช่วงวันหยุดยาว เช่นวันสงกรานต์ และช่วงสิ้นปีเพียงแค่นั้น เราแทบจะเจอกันนับครั้งได้ครับ เพราะผมทำงานที่กรุงเทพฯ เนื่องจากที่ต่างจังหวัดตัวงานกับรายได้มันไม่สอดคล้องกันครับ จึงตัดสินใจเข้ามาทำงานที่กรุงเทพฯ ก่อนมาตั้งกระทู้นี้ก็พึ่งระบายเรื่องลาออกจากที่เก่าไปไม่นานมานี้ รู้สึกใจหายกับการลาออกจากที่ทำงานปัจจุบัน จนตอนนี้ก็ได้เริ่มทำงานใหม่ กำลังอยู่ในช่วงทดลองงานใหม่ไม่กี่อาทิตย์เอง ตอนนี้ก็รู้สึกตัดสินใจอะไรยากครับ ควรจะทำยังไงดี กลับบ้านดีไหม หรือว่าทำงานต่อไปดี แต่ตอนนี้ก็ยังคงทำอะไรไม่ได้ นอกจากรอฟังผลตรวจก่อน จึงปิดความคิดเรื่องนี้ออกไปในตอนนี้แล้วครับ