รวบ "ครูหนุ่ม" ทำอนาจารลูกศิษย์-ปล่อยคลิปลับ ตะลึงพบคลิปลับเหยื่อกว่า 10 คน


วันที่ 15 มี.ค.67 ที่ บช.น. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.  สั่งการ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น., พ.ต.อ.พัชรดนัย การินทร์ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์ รอง ผกก.1 บกสส.บช.น. , พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.กก.3 บก.สส.บช.น., พ.ต.ต.วศิน อินทร์แก้วสว.ฝอ.บก .สส.บช.น. , ร.ต.อ.ศิวัช ยังอุ่น รอง สว กก.4 บก .สส.บช.น. , ร.ต.อ.วรภัทร แสงเทียนประไพร รอง สว.ฯ , ร.ต.อ.พลวัต นาคถมยา รอง สว กก.1 บก.สส.บช.น. , ร.ต.อ.หญิง ณิชญากาญจน์ เปสลาพันธ์ รอง สว ฝอ บก.สส.บช.น.  , ร.ต.ท.เลิศวริศ เลิศวรปรีชา รอง สว.ฯ , ร.ต.ท.ณัฐวุฒิ   อันชูฤทธิ์ รอง สว.ฯ , ร.ต.ท.อนันตชัย สัจจพงษ์  รอง สว.ฯ ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุม นายวัชรวิทย์ (ขอสงวนนามสกุล) หรือเปรม อายุ 28 ปี อยู่ ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรีที่ จ.173/2567 ลงวันที่ 21 ก.พ. 67 ข้อหา “พรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปีแต่ไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล โดยปราศจากเหตุสมควรเพื่อการอนาจาร โดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย และหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาและนเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ มีลักษณะอันลามก” จับกุมตัวได้ที่ ห้องพักครู โรงเรียนแห่งหนึ่ง ตำบลบ่อยาง  อำเภอเมือง  จังหวัดสงขลา

พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวถึงพฤติการณ์ว่า เด็กสาว ม.ปลาย อายุ 16 ปี ก้มกราบเท้าผู้เป็นแม่เพื่อขอ “ฆ่าตัวตาย” เรื่องราวสุดแสนหดหู่ใจเกิดขึ้นในครอบครัวเล็กๆ ในย่านฝั่งธนบุรี กรุงเทพฯ เมื่อบุตรสาวคนเดียวของครอบครัวต้องเจอกับอาชญากรผู้ใคร่เด็กในคราบ “ครูฝึกสอน“ กระทำจนเธอตายทั้งเป็น โดยจุดเริ่มต้นเรื่องราวเกิดขึ้นในปี พ.ศ.2565 เมื่อเด็กสาวผู้เคราะห์ร้ายวัย 16 ปี ได้เข้าเรียนชั้น ม.4 ที่โรงเรียนหญิงล้วนย่านภาษีเจริญ แล้วได้พบกับ “ครูเปรม” หนุ่มร่างสูงหน้าตาดีวัย 25 ปี ดีกรีจบจากมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านปทุมวัน ซึ่งเป็นครูฝึกสอนในโรงเรียนของเธอ ด้วยความสูงหล่อคารมดี แต่ภายในคือจิตใจที่ “ใคร่เด็กสาว” มันมักพุ่งเป้าไปที่เด็กสาวที่หัวอ่อนและล่อลวงง่าย เคราะห์ร้ายจึงมาตกที่ น.ส.เอ (นามสมมุติ) เด็กสาว ม.4 วัย 16 ปี ที่มันเดินผ่านห้องเรียนเธอทุกวันและแอบมองเธอทุกกิจกรรมในโรงเรียน ก่อนจะอาศัยความเป็นครู ตีสนิทใช้หลักการตกลง “เป็นแฟน” กัน  มันฉวยโอกาสที่เธอยอมทุกอย่าง “ถ่ายคลิปลับ” โดยหลอกเด็กสาวว่า เป็นเรื่องธรรมดาของคนเป็นแฟนกัน และเวลาก็ผ่านไปครูเปรมหลบหนีการเกณฑ์ทหารด้วยการบินไปอยู่ประเทศเยอรมัน เป็นเวลากว่า 9 เดือน ด้วยระยะทางที่ไกลกัน และทั้งสองตกลงเลิกกันในที่สุด

ผ่านไปจนกระทั่งปลายปี 2566 เด็กสาวเธอเติบโตขึ้นเข้าสู่ช่วงมหาวิทยาลัยชั้นปีที่ 1 และกำลังได้พบกับความรักครั้งใหม่ เธอโพส์สภาพคู่รักใน IG (อินสตาร์แกรม) ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานเรื่องราวสุดแสนหดหู่ได้เริ่มขึ้น เมื่อจู่ๆ IG ของเธอก็มีคนติดตามเพิ่มขึ้นมาจำนวนมากอย่างไม่มีเหตุผล จนมีพลเมืองดีได้ทักไปบอกกับเธอว่า “คลิปลับ” ของเธอได้หลุดในโลกอินเตอร์เน็ต และเมื่อพลเมืองดีดังกล่าวเปิดวาร์ปให้เธอเข้าไปดูคลิปก็พบว่า เป็นคลิปลับระหว่างเธอกับครูหนุ่ม สมัยที่เธออยู่ ม.4 และที่เลวร้ายมากคือการโพสต์ชื่อ IG ของเธอไว้ในคลิปนั้นด้วย ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงเพื่อนที่มหาวิทยาลัยของเธอเริ่มทักหาเธอในเรื่องนี้  มันเลวร้ายเกินกว่าเด็กผู้หญิงคนหนึ่งจะรับได้จริงๆ เธอกลายเป็นคนซึมเศร้าเหมือนคนจิตหลุดลอยและไม่ไปเรียนที่วิทยาลัย

ผู้เป็นแม่เห็นความผิดปกติโอบกอดลูกสาวที่เหมือนคนไร้วิญญาณ เสียงสั่นเครือพร้อมน้ำตาเล่าให้ทีมสืบสวน ผู้การจ๋อ ว่า “หนูขอลาออกได้มั้ย หนูไปโรงเรียนไม่ได้จริงๆ” สัญชาตญาณของแม่สัมผัสได้ทันที จึงเริ่มสอบถามลูกสาวตัวเองจนทราบว่า หลังจากที่เธอเลิกกับครูรายนั้นแล้ว ครูยังคอยทักมาหาเด็กสาวพยายามโน้มน้าวให้กลับไปพลอดรักกันดังเดิมอยู่เรื่อยๆ ซ้ำยังเข้ามาแอบส่อง IG ของเธออยู่ตลอด ลักษณะเหมือนคนโรคจิต ชนวนระเบิดของการปล่อยคลิปนั้นคือภาพคู่กับแฟนใหม่ใน IG ที่ไปกระตุ้นความคลั่งเด็กของคนร้ายรายนี้ ผู้เป็นแม่ไม่เพียงแต่ทุกข์ใจที่ลูกถูกกระทำ ยังทุกข์ใจที่เด็กสาวตัวน้อยต้องแบกรับเรื่องนี้มาโดยลำพัง ความหดหู่ไปทั้งครอบครัว สุดท้ายจนเธอดีขึ้นและกำลังจะเดินทางไปแจ้งความ เสมือนฟ้าฝ่ากลางใจ เมื่อคลิปลับได้ถูกปล่อยออกมา “ระลอกที่ 2” โดยถูกปล่อยเว็บไซส์ใหญ่มีผู้เข้าชมในจำนวนมาก สติของเด็กสาวเริ่มดับวูบ  ผู้เป็นแม่ไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.แสมดำ หลังจากนั้นไม่นานก็ได้มีการออกหมายจับครูรายนี้ในที่สุด ความยุติธรรมกำลังจะมาถึง แสงสว่างปลายอุโมงค์ เรื่องราวนี้กำลังจะจบลง ดังใบมีดกรีดหัวใจ

“ระลอกที่ 3” คลิปลับถูกปล่อยอีกครั้งและครานี้ยังถูกปล่อยในไปโลกโซเชียลของสถาบันที่เด็กสาวศึกษาอยู่  แม่เล่าต่อว่า มันสะท้านไปทั้งหัวใจ ลูกสาวตัดสินใจก้มกราบเท้าผู้เป็นแม่พร้อมกล่าวอำลา “หนูขอตาย” ความรู้สึกสุดสุดพร้อมน้ำตา สภาพเด็กสาว ณ ตอนนี้ไม่ต่างจากคน “ตายทั้งเป็น” ต้องจับไอ้ครูโรคจิตนี้ให้ได้ผู้เป็นแม่สัญญากับตัวเอง “แสงสุดท้าย” แม่ของเด็กสาวขอความช่วยเหลือมาที่ “สืบนครบาล”

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. สั่งชุดสืบทีมมือดียกเลิกทุกภารกิจและให้ไล่ล่าไอโรคจิตรายนี้ทันที โดยชุดสืบสวนสืบได้ข้อมูลจากแหล่งข่าวว่าครูภัยร้ายรายนี้เคยมีพฤติกรรมทำกับเด็กนักเรียนหญิงในลักษณะนี้มาแล้ว จนถึงขั้นถูกไล่ออกจากการเป็นครูฝึกสอนในโรงเรียนแห่งหนึ่งย่านพญาไท  และคนร้ายกำลังคบหากับ “เด็กสาว” รายใหม่ซึ่งยังมีอายุน้อย และคนร้ายพึ่งจะเข้าบรรจุเป็นครูอัตราจ้างอยู่ในโรงเรียนชื่อดังย่านหาดสมิหลา จ.สงชลา จึงนำกำลังบุกจับทันที และสามารถจับกุมตัวได้ในที่ห้องพักครูภายในโรงเรียน จากการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์พบคลิปการมีเพศสัมพันธ์กับเด็กนักเรียนไม่ต่ำกว่า 15 คลิป และมีภาพวาบหวิวที่นักเรียนส่งมาให้อีกไม่ต่ำกว่า 10 ราย และยังพบแชทสนทนาคุยสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเด็กนักเรียนอีกหลายราย จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลาง โดยระหว่างนี้อยู่ระหว่างขยายผลที่ บก.สส.บช.น.

ในชั้นจับกุม นายวัชรวิทย์  ให้การปฏิเสธ โดยยอมรับว่า ทำการพรากเด็กไปมีเพศสัมพันธ์และถ่ายคลิปไว้จริง แต่ไม่ยอมรับว่าเป็นผู้ปล่อยคลิปดังกล่าว โดยให้การว่า “ตนเองจบปริญญาตรีคณะครุศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านปทุมวัน ตนมีรสนิยมหรือสเปค ชอบหญิงสาวผมยาว สวมใส่แว่นตา โดยเฉพาะเด็กสาวที่สวมเครื่องแบบนักเรียนมัธยม หรือชุดนักศึกษา และสวมใส่แว่นตา  และในส่วนรสนิยมการมีสัมพันธ์กับน้องผู้เสียหาย นั้น ยอมรับว่าตนมีรสนิยมทางเพศที่ค่อนข้างเฉพาะเจาะจงคือ ชอบให้ตนเองผูกมัดมือ มัดเท้า ในลักษณะ “ขึงพืด” และเอาผ้าปิดตา สวมใส่เครื่องแบบนักเรียนตนเองชอบมักจะนำโทรศัพท์มาบันทึกคลิปวิดีโอลับ เป็นคลิปสั้นๆ จำนวนหลายคลิป เพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึกและเป็นความชอบส่วนตัว ส่วนเรื่องคลิปหลุด ตนรับว่าได้ถ่ายคลิปไว้จริง โดยบันทึกไว้ในโทรศัพท์มือถือเครื่องส่วนตัวและเก็บไว้ดูเอง และบันทึกลงในโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คส่วนตัวเท่านั้น มิได้บันทึกลงในฐานข้อมูลออนไลน์แต่อย่างใด น่าจะเป็นตอนที่ตนเองนำโทรศัพท์ไปซ่อมตอนอยู่ประเทศเยอรมัน ส่วนที่มีการแปะ IG ผู้เสียหายนั้นตนเองขอไม่ตอบ” จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.แสมดำ เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมาย

พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า จากการสืบสวน คนร้ายนี้ถือว่าเป็นภัยต่อสังคมอย่างยิ่ง ซึ่งสภาพภายนอกดูดี มีโปรไฟล์จบการศึกษาในมหาวิทยาลัยระดับสูง แต่โดยลึกในจิตใจมีลักษณะใคร่เด็ก หรือ Pedophilia ที่เด่นชัดในคดีนี้คือพยายามที่จะกระทำกับเด็กซ้ำๆ และจากการสืบสวนพบพยานหลักฐานบรรดาเหล่านักเรียนที่เคยเป็นลูกศิษย์ของคนร้ายหลายราย เข้าข่ายถูกกระทำในลักษณะนี้เช่นเดียวกัน โดยคนร้ายเคยผ่านการสอนในโรงเรียนมัธยมมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 โรงเรียน เชื่อได้ว่ายังมีผู้ที่เคยตกเป็นเหยื่ออีกหลายราย สืบนครบาลขอเป็นกำลังใจให้กับน้องผู้เสียหายทุกคน และหากคนร้ายในคราบครูคนนี้ก่อเหตุอื่นอีก ขอให้แจ้งผู้ปกครองหรือบุคคลที่ไว้ใจติดต่อ พวกพี่ที่เพจ “สืบนครบาล IDMB” พี่ๆ พร้อมจะคืนความเป็นธรรมให้กับน้องๆทุกคน ขอให้เข้มแข็ง โดยมีความกล้านำตัวคนร้ายลงโทษให้ถึงที่สุด
https://siamrath.co.th/n/521770
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่