คำถามนี้ตั้งขึ้นมาเพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองความคิดเห็น ไม่ได้มีเจตนากล่าวโทษใครทั้งนั้น
โดยมันมีอยู่ว่าถ้าประเทศไทยและประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกที่มีต้นไม้ มีป่า หรือพื้นที่สีเขียวที่เป็นทั้งบนบกและใต้นํ้าอันเป็นแหล่งผลิตก๊าซออกซิเจนที่สิ่งมีชีวิตใช้หายใจ ถ้าเกิดมีการเรียกเก็บเงินการส่งออกจะเกิดอะไรขึ้นโดยคำนวณจากปริมาณออกซิเจนที่ผลิตได้ต่อปีไปหักลบกับปริมาณที่ประชากรมุษย์ใช้หายใจและใช้ในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ถ้ามีออกซิเจนเหลือก็จะถือว่าเป็นการส่งออกขายเป็นรายได้ ในทางกลับกันประเทศที่ผลิตออกซิเจนได้ไม่เพียงพอต่อการใช้เช่น ประเทศที่มีประชากรเยอะและมีอุตสาหกรรมที่ใช้ก๊าซเยอะกว่า หรือประเทศที่มีภูมิศาสตร์เป็นทะเลทรายที่ไม่สามารถสร้างออกซเจนได้เพียงพอจะต้องจ่ายเงินการนำเข้าอากาศ โดยเราไม่ขอพูดถึงว่าเงินประเทศส่งออกก๊าซกับประเทศที่นำเข้าก๊าซคิดเป็นสัดส่วนเท่าใดเพราะมันมีหลายปัจจัย อย่างประเทศเขตหนาวช่วงฤดูร้อนต้นไม้มีใบผลิตออกซิเจนได้เยอะแต่พอเข้าฤดูหนาวก็ผลิตได้น้อยลง เผลอ ๆ ไม่พอใช้จนต้องกลายเป็นผู้ซื้อเองด้วย
จะเป็นยังไงถ้ามีการขายอากาศ
โดยมันมีอยู่ว่าถ้าประเทศไทยและประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกที่มีต้นไม้ มีป่า หรือพื้นที่สีเขียวที่เป็นทั้งบนบกและใต้นํ้าอันเป็นแหล่งผลิตก๊าซออกซิเจนที่สิ่งมีชีวิตใช้หายใจ ถ้าเกิดมีการเรียกเก็บเงินการส่งออกจะเกิดอะไรขึ้นโดยคำนวณจากปริมาณออกซิเจนที่ผลิตได้ต่อปีไปหักลบกับปริมาณที่ประชากรมุษย์ใช้หายใจและใช้ในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ถ้ามีออกซิเจนเหลือก็จะถือว่าเป็นการส่งออกขายเป็นรายได้ ในทางกลับกันประเทศที่ผลิตออกซิเจนได้ไม่เพียงพอต่อการใช้เช่น ประเทศที่มีประชากรเยอะและมีอุตสาหกรรมที่ใช้ก๊าซเยอะกว่า หรือประเทศที่มีภูมิศาสตร์เป็นทะเลทรายที่ไม่สามารถสร้างออกซเจนได้เพียงพอจะต้องจ่ายเงินการนำเข้าอากาศ โดยเราไม่ขอพูดถึงว่าเงินประเทศส่งออกก๊าซกับประเทศที่นำเข้าก๊าซคิดเป็นสัดส่วนเท่าใดเพราะมันมีหลายปัจจัย อย่างประเทศเขตหนาวช่วงฤดูร้อนต้นไม้มีใบผลิตออกซิเจนได้เยอะแต่พอเข้าฤดูหนาวก็ผลิตได้น้อยลง เผลอ ๆ ไม่พอใช้จนต้องกลายเป็นผู้ซื้อเองด้วย