หน้าแล้ง ฤดูร้อน หากมองสังคมไทยคนอื่นๆอย่างสลด แต่ชีวิตตัวเองต้องดูแลไม่ให้เป็นโรคซึมเศร้า
แม้อะไรก็ตามจะมีเงินเท่าไหร่ คนเราก็สามารถที่จะมีความสุขหากมีการคิดที่ ไม่เป็นระบบมองโลกอย่างสลดหดหู่
เศรษฐกิจก็ดีแต่ในตอนที่ชีวิต ได้เงินคล่องๆ ไม่ขาดทุน แต่สำหรับคนได้เงินยาก
แต่กิจวัตรประจำวัน มีแต่การต้องอยู่ในศึกของคนในสังคมที่กำลังร้อนเงิน ก็คงแย่ทุกคน
อย่ามีความสุขเกินไปด้วยความไม่ระวัง หากมีความเป็นคนปกติดี จะต้องมีสติรอบคอบด้วยบทเรียนในชีวิตที่ผ่านมา
ก็พยายามประคับประคองไม่ให้เกิดดำริผิดคิดว่า ชีวิตเป็นนายทุนผู้ยิ่งใหญ่จริง ก็คงไม่ได้มีชีวิตอยู่ในสังคม
คุยกับคนทั่วไปในสภาพแวดล้อมที่เกิดมาและตั้งตัวขึ้นด้วยการเป็นคนทำงานหรือเป็นคนมีอาชีพหาเงิน
ได้อย่างเข้าใจ ใช่หรือไม่?
มีเงินเท่าไหร่ก็แล้วแต่ ถ้าป่วยก็ป่วย ถ้าสุขก็สุข ถ้าทุกข์ก็ทุกข์ ถ้าสบายก็สบาย ถ้าเจ็บก็เจ็บได้
ไม่ได้หมายความว่าเป็นอภิสิทธิ์ชน จริงมั้ย ฉะนั้นเงินเฟ้อ
มีเงินเท่าไหร่อย่าไปให้ค่ามากอะไรเลยกับเงินเกินมูลค่าที่แท้จริง?
การลงทุนอะไรที่เกี่ยวกับวัฒนธรรม
ก็เป็นการลงทุนหลักในประเทศ ที่ให้ผลตอบแทนเป็นกำไรจริงอยู่แล้ว
แต่ใครจะมีความน่าเชื่อถือพอจะทำให้วัฒนธรรม
มีคุณค่าและราคาสามารถสร้างโอกาสทางธุรกิจได้มากกว่า
ก็คือนักลงทุนที่มีคุณภาพมากกว่า ใช่หรือไม่?
คนเราเกิดมาไม่ใช่ว่าเป็นนายทุนตั้งแต่เกิด แม้เป็นคนที่พ่อแม่มีอาชีพอะไร
แต่คนเกิดมามีค่าชีวิตแบบไหน ให้มีคนลงทุนให้ คือการที่คนก็ต้อง
ขายความเป็นชีวิตตัวเอง มีค่าความเก่งในความเป็นชีวิตตัวเองก่อน
มีความน่าเชื่อถือ มีปัญญาที่ดีแตกต่างกันก่อน
จึงจะได้เงินค่าตอบแทนความเก่งอยู่กับตัว แล้วมีโอกาสใช้เงินในการลงทุนต่อไป ? ใช่หรือไม่
หน้าแล้ง ฤดูร้อน หากมองสังคมไทยอย่างสลด แต่ชีวิตตัวเองต้องดูแลไม่ให้เป็นโรคซึมเศร้า
แม้อะไรก็ตามจะมีเงินเท่าไหร่ คนเราก็สามารถที่จะมีความสุขหากมีการคิดที่ ไม่เป็นระบบมองโลกอย่างสลดหดหู่
เศรษฐกิจก็ดีแต่ในตอนที่ชีวิต ได้เงินคล่องๆ ไม่ขาดทุน แต่สำหรับคนได้เงินยาก
แต่กิจวัตรประจำวัน มีแต่การต้องอยู่ในศึกของคนในสังคมที่กำลังร้อนเงิน ก็คงแย่ทุกคน
อย่ามีความสุขเกินไปด้วยความไม่ระวัง หากมีความเป็นคนปกติดี จะต้องมีสติรอบคอบด้วยบทเรียนในชีวิตที่ผ่านมา
ก็พยายามประคับประคองไม่ให้เกิดดำริผิดคิดว่า ชีวิตเป็นนายทุนผู้ยิ่งใหญ่จริง ก็คงไม่ได้มีชีวิตอยู่ในสังคม
คุยกับคนทั่วไปในสภาพแวดล้อมที่เกิดมาและตั้งตัวขึ้นด้วยการเป็นคนทำงานหรือเป็นคนมีอาชีพหาเงิน
ได้อย่างเข้าใจ ใช่หรือไม่?
มีเงินเท่าไหร่ก็แล้วแต่ ถ้าป่วยก็ป่วย ถ้าสุขก็สุข ถ้าทุกข์ก็ทุกข์ ถ้าสบายก็สบาย ถ้าเจ็บก็เจ็บได้
ไม่ได้หมายความว่าเป็นอภิสิทธิ์ชน จริงมั้ย ฉะนั้นเงินเฟ้อ
มีเงินเท่าไหร่อย่าไปให้ค่ามากอะไรเลยกับเงินเกินมูลค่าที่แท้จริง?
การลงทุนอะไรที่เกี่ยวกับวัฒนธรรม
ก็เป็นการลงทุนหลักในประเทศ ที่ให้ผลตอบแทนเป็นกำไรจริงอยู่แล้ว
แต่ใครจะมีความน่าเชื่อถือพอจะทำให้วัฒนธรรม
มีคุณค่าและราคาสามารถสร้างโอกาสทางธุรกิจได้มากกว่า
ก็คือนักลงทุนที่มีคุณภาพมากกว่า ใช่หรือไม่?
คนเราเกิดมาไม่ใช่ว่าเป็นนายทุนตั้งแต่เกิด แม้เป็นคนที่พ่อแม่มีอาชีพอะไร
แต่คนเกิดมามีค่าชีวิตแบบไหน ให้มีคนลงทุนให้ คือการที่คนก็ต้อง
ขายความเป็นชีวิตตัวเอง มีค่าความเก่งในความเป็นชีวิตตัวเองก่อน
มีความน่าเชื่อถือ มีปัญญาที่ดีแตกต่างกันก่อน
จึงจะได้เงินค่าตอบแทนความเก่งอยู่กับตัว แล้วมีโอกาสใช้เงินในการลงทุนต่อไป ? ใช่หรือไม่