JJNY : กมธ.ที่ดินตั้งข้อสังเกต ส.ป.ก.│พรุ่งนี้ สรุปศึกซักฟอก│สรท.คงเป้าส่งออกปีนี้โต 1-2%│ฟิลิปปินส์ระบุเรือจีนเป็นเหตุ

กมธ.ที่ดิน ตั้งข้อสังเกต ส.ป.ก. เร่งออกเอกสาร ทั้งที่พื้นที่เขาใหญ่ยังไม่ชัดเจน
https://www.dailynews.co.th/news/3231601/

ปธ.กมธ. การที่ดิน รัฐสภา ตั้งข้อสังเกต ส.ป.ก. เร่งรีบออกเอกสาร ส.ป.ก. ทั้งที่พื้นที่ยังมีปัญหากับอุทยานฯ เขาใหญ่ ไม่ชัดเจน
 
 
เมื่อวันที่ 5 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก นายอภิชาต ศิริสุนทร ประธานคณะกรรมาธิการ การที่ดินทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร์ ส.ส.พรรคก้าวไกล พร้อมคณะ สมาชิสภาผู้แทนราษฎร เข้าตรวจสอบพื้นที่ข้อพิพาทจุดปักหมุด ส.ป.ก.4-01 บริเวณบ้านเหวปลากั้ง หมู่ 10 เขาใหญ่ ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา จุดที่ 1 มีผู้บุกรุกนำรถไถและรถแบ๊กโฮเข้าไปไถและขุดนำต้นไม้เข้าไปปลูกในพื้นที่ และถูก นายชัยยา ห้วยหงษ์ทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ นำเจ้าหน้าที่เข้าจับกุม 5 ราย โดยผู้ที่ถูกจับกุมนำเอกสาร ส.ป.ก.4-01 มาอ้างว่ามาทำตามเอกสารและตามหลักหมุด ส.ป.ก.4-01 รวมทั้งเป็นพื้นที่จัดวางแปลง ส.ป.ก.จังหวัดนครราชสีมา กว่า 72 แปลง พื้นที่กว่า 2,933 ไร่ ตามละวางและแผนผังของสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม จังหวัดนครราชสีมา
 
ซึ่งเป็นที่มาทำให้ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์พืช นำชุดพญาเสือเข้าตรวจสอบ และถอนหมุดออกบริเวณเหวปลากั้งออกรวม 27 หมุดออก และนำไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่ตำรวจสภ.หมูสี เอาไว้นั้น

นายอภิชาต ศิริสุนทร ประธานคณะกรรมาธิการ การที่ดินฯ กล่าวว่า จากการนำคณะกรรมาธิการรัฐสภาลงดูพื้นที่จริงที่เขาใหญ่ และยังตั้งข้อสังเกตว่าในเมื่อพื้นที่ยังมีข้อพิพาทระว่างแนวเขต อุทยานฯเขาใหญ่ กับ สำนักงานปฏิรูปที่ดินฯ นครราชสีมา ทราบว่าหัวหน้าเขาใหญ่ได้ทำหนังสือคัดค้านไป 2 ครั้ง
แต่ ส.ป.ก.ก็ตอบมา 2 ครั้ง แต่ตอบไม่ตรงกันแต่ละครั้ง ซึ่งก่อนปี พ.ศ.2564 ระเบียบมีคณะกรรมการประกอบกันหลายฝ่ายโดย ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานพิจารณา พอปี 2564 ไปแก้ระเบียบ ให้อำนาจ ส.ป.ก. จังหวัด มีอำนาจพิจาณาออก ส.ป.ก.เอง ซึ่งจะทำให้มีช่องโหว่ มากก็จะทำให้มีปัญหาการออก ส.ป.ก.ทั่วประเทศ เพราะฉะนั้น ส.ป.ก.ต้องไปทำฐานข้อมูลให้ละเอียดก่อนว่าคนที่จะได้รับเอกสารทำประโยชน์เกษตรกรรม เป็นชาวบ้านจริงถูกต้องตามระเบียบหรือไม่ และปักหลักหมุด ส.ป.ก.ในพื้นที่ป่าสมบูรณ์ บนภูเขาที่มีความสูงชันเกิน 35 องศา ส่วนที่เขาใหญ่ต้องรอดู คณะกรรมการทำวันแมบ ขอบเขต คาดอีก 2 เดือนน่าจะเสร็จคาดว่าทุกคนคงรับได้ โดยในวันนี้ 5 มี.ค.นี้ คณะกรรมาธิการที่ดินฯ สภาฯ ยังหาข้อมูลอยู่ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา
 
ด้าน นายสาโรจน์ ประพันธ์ อดีต ผอ.ส่วนป้องกันปราบปราม สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (ปราจีนบุรี) กลุ่มเพื่อเขาใหญ่ ในกลุ่มอนุรักษ์ 23 องค์กร กล่าวว่า ตนเอง เป็น 1 ในคณะกรรมการจัดทำถนนแนวเขตอุทยานฯ เขาใหญ่ ด้านอำเภอปากช่อง จ.นครราชสีมา ร่วมกับชุมชน ปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชุมชนติดแนวเขต อุทยานฯ เขาใหญ่เมื่อครั้งมีตำแหน่ง ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ในปี พ.ศ.2540 คัดถนนระหว่าพื้นที่ของประชาชน กับพื้นที่ของอุทยานฯเขาใหญ่ เพื่อให้ชัดเจนใช้เป็นถนนตรวจการณ์ ถนนแนวกันไฟ และเพื่อป้องกันการบุกรุก พื้นที่ป่าเขาใหญ่ ซึ่งที่ผ่านมากว่า 16 ปี ในการปฏิบัติหน้าที่ ประชาชนที่อยู่ใกล้แนวเขตไม่มีใครมาบุกรุก ส่วนการออกเอกสาร ส.ป.ก.4-01 ของสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม จังหวัดนครราชสีมา ถือเป็นการขัดต่อระเบียบกฎหมาย และสามัญสำนึก การออกเอกสาร ส.ป.ก.4-01 ที่ไม่เข้าหลักเกณฑ์ ตามระเบียบ 7 ลักษณะ คือ พื้นที่ที่มีสภาพเป็นป่า พื้นที่ ที่มีศักยภาพทำเกษตรไม่คุ้มค่า, พื้นที่ล่อแหลมคุกคามต่อระบบนิเวศ, พื้นที่ภูเขาสูงชัน, พื้นที่ต้นน้ำลำธาร, พื้นที่มีภาระผูกพัน, ป่าชายเลน เป็นต้น โดยส่วนตัวมองว่าอาจจะมีกลุ่มนายทุน และนายทุนการเมืองอยู่เบื้องหลังก็เป็นไปได้
 
นายสาโรจน์ กล่าวต่อว่า กลุ่มอนุรักษ์ 7 องค์กร กำลังมีแนวคิดว่าจะทำให้จุดมีข้อพิพาท ออก ส.ป.ก.เป็นจุดเช็คอิน ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปดูสถานที่บุกรุก ถ่ายภาพ และรับทราบด้วยตนเอง ว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นป่าสมบูรณ์ เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า จะสามารถทำเป็นพื้นที่เกษตรกรรมได้หรือไม่
ส่วนความคืบหน้าคดีที่ รองเลขา ส.ป.ก. แจ้งความเอาผิด นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กรณีถอนหมุด ส.ป.ก. เมื่อวานก่อน พ.ต.ต.ประยงค์ หวังกุลกลาง สว.(สอบสวน) สภ.หมูสี อ.ปากช่อง กล่าวว่า ยังรอเอกสารจากอุทยานฯ เขาใหญ่บางส่วนมาประกอบ และจะส่งสำนวนไปยัง ปปช.ให้พิจารณา ว่าเหตุที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องส่วนบุคคลหรือเป็นเรื่อปฏิบัติตามหน้าที่ หาก ปปช.ชี้ว่าเป็นเรื่องเดียวกันที่ นายชัยวัฒน์ เคยแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ในวันที่ทำการถอนหมุดออกเพื่อจะได้ดำเนินการเชิญนายชัยวัฒน์ ให้ปากคำ ตามความเห็นของ ปปช.ต่อไป.



พรุ่งนี้ ฝ่ายค้านนัดประชุม สรุปศึกซักฟอก ชี้ ยังไม่เห็นผลงานรัฐบาลที่เป็นรูปธรรม
https://www.matichon.co.th/politics/news_4455711

พรุ่งนี้ ฝ่ายค้านนัดประชุม สรุปเปิดซักฟอกหรือไม่ ชี้ ยังไม่เห็นผลงานรัฐบาลที่เป็นรูปธรรม

เมื่อวันที่ 5 มีนาคม ที่ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายอภิชาติ ศิริสุนทร สส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี พรรคร่วมฝ่ายค้านจะมีการเปิดอภิปรายรัฐบาลให้ทันก่อนปิดสมัยประชุมนี้หรือไม่ ว่า ในวันพรุ่งนี้พรรคร่วมฝ่ายค้านจะมีการประชุมหารือกันใน เวลา 10.00 น.ว่าเพื่อสรุปว่าจะมีการอภิปรายหรือไม่ และหากอภิปรายจะอภิปรายในกรอบประเด็นไหน
 
ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรีจะมีการแถลงผลงาน 6 เดือน หลังจากที่เดินทางไปประชุมที่ต่างประเทศ และมีกระแสวิจารณ์ว่าไม่มีผลงานอะไรเป็นรูปธรรม มองเรื่องนี้ยังไงบ้าง นายอภิชาติ กล่าวว่า “ยังไม่เห็นอะไร ที่เป็นรูปธรรม”


 
สรท. คงเป้าส่งออกปีนี้โต 1-2% หลังเดือนแรกโตดี เฝ้าระวังปัจจัยเสี่ยงภายนอก
https://www.infoquest.co.th/2024/380647

นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่า สรท. ยังคงคาดการณ์เป้าหมายส่งออกรวมทั้งปี 67 เติบโตที่ 1-2% (ณ เดือนมี.ค. 67) แม้ยอดส่งออกในเดือน ม.ค.67 จะเติบโตถึง 10% แต่ยังต้องจับตาสถานการณ์ในช่วง Q1/67 เนื่องจากมีหลายปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้
 
ส่วนสินค้าส่งออกสำคัญยังมีตัวแปรสำคัญจากกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ขณะที่สินค้าเกษตรต้องเฝ้าระวังเรื่องภัยแล้งจากปรากฏการณ์เอลนิญโญ
 
สำหรับการส่งออกไทยเดือนม.ค. 67 มีมูลค่า 22,649.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 10.0% และมีมูลค่าในรูปเงินบาทเท่ากับ 784,580 ล้านบาท ขยายตัว 10.2% (เมื่อหักทองคำ น้ำมัน และอาวุธยุทธปัจจัย พบว่าการส่งออกในเดือนม.ค. ขยายตัว 9.2%)
 
ในขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 25,407.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 2.6% และมีมูลค่าในรูปเงินบาทเท่ากับ 890,687 ล้านบาท ขยายตัว 2.8% ส่งผลให้ดุลการค้าของประเทศไทยในเดือนม.ค. 67 ขาดดุลเท่ากับ 2,757.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเท่ากับ 106,107 ล้านบาท
 
ต้องจับตาดูสถานการณ์ Q1/67 แต่ขยายตัวแน่นอน จะมากหรือน้อยเท่านั้น ปัจจัยเดียวที่เราเป็นกังวลคือการฟื้นตัวของจีน เพราะผ่านตรุษจีนมาแล้วรู้สึกยังไม่อู้ฟู่เท่าที่ควร ขณะที่ตลาดยุโรป อินเดีย ซาอุดิอาระเบีย และเวียดนามมีอัตราการเติบโตดีพอที่เรายังสามารถพึ่งพาได้ต่อไป” นายชัยชาญ กล่าว
 
โดยปัจจัยเฝ้าระวังที่สำคัญ ได้แก่
1. ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ที่ยืดเยื้อส่งผลกระทบต่อการค้าและเศรษฐกิจโดยรวม โดยเฉพาะสถานการณ์วิกฤตในทะเลแดง (Red sea) บริเวณช่องแคบบับ อัล-มันเดบ (Bab el-Mandeb Strait) มีสัญญาณการเจรจาหยุดยิงช่วงรอมฎอน 45 วัน และความขัดแย้งอื่น

2. ความกังวลเรื่องต้นทุนภาคการผลิต อาทิ การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำรอบ 2 ค่าไฟฟ้าและค่าระวางเรือเส้นทางยุโรป ตะวันออกกลาง สหรัฐฯ ทรงตัวในระดับสูง ขณะที่ อุปทานในประเทศยังไม่มีสัญญาณฟื้นตัวชัดเจน จะเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันภาคการผลิตบางอุตสาหกรรมไม่เกิดการประหยัดต่อขนาด และแข่งขันด้านราคาในตลาดโลกได้ยาก
 
3. อัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐยังคงทรงตัวระดับสูง โดยคาดว่าจะเริ่มพิจารณาปรับลดในเดือนพ.ค.
 
ข้อเสนอแนะสำคัญต่อภาครัฐ
 
1. เร่งยกระดับ Smart & Green port ของท่าเรือหลักของประเทศ
– เสนอให้ท่าเรือแหลมฉบังอยู่ในพื้นที่โครงการ EEC เพื่อรองรับโครงการพัฒนาพื้นที่แหลมฉบัง Phase 3 และรองรับการขยายสิทธิประโยชน์นักลงทุนของ EEC ในพื้นที่ โดยเฉพาะการลงทุนเพื่อสิ่งแวดล้อม
– เร่งสร้างสภาพแวดล้อมที่ดี โดยเฉพาะการเร่งปรับปรุงสภาพโครงสร้างพื้นฐานและสภาพแวดล้อมในท่าเรือแหลมฉบังและพื้นที่โดยรอบ เพื่อแก้ปัญหาการปนเปื้อนของละอองเกสรดอกไม้ ฝุ่นและดิน และแมลง ที่ติดไปกับรถยนต์เพื่อการส่งออก ซึ่งปัญหาจะทวีความรุนแรงในช่วงฤดูร้อน
– เร่งเตรียมความพร้อมพื้นที่วางกองตู้สินค้าในท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อเตรียมพื้นที่วางกองตู้สำหรับการส่งออกก่อนช่วงสงกรานต์
– พิจารณาการหมุนเวียนตู้คอนเทนเนอร์เปล่าให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
 
2. เร่งจัดตั้งหน่วยงานกลาง (Focal point) ของไทยสำหรับรองรับระเบียบ EUDR มาตรการด้านสิ่งแวดล้อมของสหภาพยุโรป ในการขับเคลื่อน ยกระดับการส่งออกสินค้า 7 รายการ ที่กำหนดไว้ อาทิ ยางพารา โกโก้ กาแฟ น้ำมันปาล์ม ถั่วเหลือง โค และไม้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 มี.ค. 67)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่