ราคาแถวๆนี้ มีกองดีๆอยู่แน่นอน แต่ต้องไปไล่ดูรายตัว
หาตัวกองที่คุณภาพดี มีการกระจายลงทุน mix freehold/leasehold อย่างเหมาะสม อัตราเช่าสูงๆสม่ำเสมอ หรือถ้าเป็น 100% leasehold ถ้าเราคำนวณ IRR ได้อยู่บ้างแบบพื้นฐาน มีหลายตัวที่ IRR > 10% ดีกว่าโรงไฟฟ้าหลายๆตัวอีก (รฟฟ เฉลี่ย IRR 10%)
และถ้าเราเชื่อว่าดอกเบี้ยสูงมันอยู่ได้ไม่นาน ผมว่าปีนี้แหละครับ ที่ต้องซื้อ REIT สะสม
แต่ต้องเลือกดีๆ ตาดีได้ตาร้ายเสีย หาตัวที่อายุเหลือเยอะๆด้วย
พอร์ตกอง REIT ที่ผมลงทุนท่าง่ายๆ สะสมไปเรื่อยๆ ถ้าราคามี discount , IRR สูง และอัตราการเช่าไม่ลดลง ผมทะยอยเก็บตลอด
ถึงจะผันผวนลงเละกว่าหุ้นอีก แต่วิธีง่ายๆแบบนี้ก็ชนะ SET index ขาลงได้เหมือนกัน
* ยกอย่างเช่น IF ตัวดังๆที่เกี่ยวกับสื่อสาร แบบนี้ผมไม่ซื้อ เพราะพื้นฐานมันเปลี่ยนไป และ IRR ก็ไม่ดี
* กองเหล่านี้หลายๆตัวไม่เหมาะกับท่านที่ทุนหนามากๆ เพราะสภาพคล่องไม่ดีเลย แต่สำหรับรายย่อยทุนเบาๆ ผมว่าดี
* ระหว่างทางผมมีการทริมหุ้นและ rebalance อยู่ตลอด กองพวกนี้ต้องกระจายแบบเหมาะสม เพราะเป้าหมายคือ cashflow
เป็นแนวทางครับ
ปลายรอบของดอกเบี้ยพีค REIT, PF, IF มันคือโอกาสครับ ไม่ใช่การคัท
หาตัวกองที่คุณภาพดี มีการกระจายลงทุน mix freehold/leasehold อย่างเหมาะสม อัตราเช่าสูงๆสม่ำเสมอ หรือถ้าเป็น 100% leasehold ถ้าเราคำนวณ IRR ได้อยู่บ้างแบบพื้นฐาน มีหลายตัวที่ IRR > 10% ดีกว่าโรงไฟฟ้าหลายๆตัวอีก (รฟฟ เฉลี่ย IRR 10%)
และถ้าเราเชื่อว่าดอกเบี้ยสูงมันอยู่ได้ไม่นาน ผมว่าปีนี้แหละครับ ที่ต้องซื้อ REIT สะสม
แต่ต้องเลือกดีๆ ตาดีได้ตาร้ายเสีย หาตัวที่อายุเหลือเยอะๆด้วย
พอร์ตกอง REIT ที่ผมลงทุนท่าง่ายๆ สะสมไปเรื่อยๆ ถ้าราคามี discount , IRR สูง และอัตราการเช่าไม่ลดลง ผมทะยอยเก็บตลอด
ถึงจะผันผวนลงเละกว่าหุ้นอีก แต่วิธีง่ายๆแบบนี้ก็ชนะ SET index ขาลงได้เหมือนกัน
* ยกอย่างเช่น IF ตัวดังๆที่เกี่ยวกับสื่อสาร แบบนี้ผมไม่ซื้อ เพราะพื้นฐานมันเปลี่ยนไป และ IRR ก็ไม่ดี
* กองเหล่านี้หลายๆตัวไม่เหมาะกับท่านที่ทุนหนามากๆ เพราะสภาพคล่องไม่ดีเลย แต่สำหรับรายย่อยทุนเบาๆ ผมว่าดี
* ระหว่างทางผมมีการทริมหุ้นและ rebalance อยู่ตลอด กองพวกนี้ต้องกระจายแบบเหมาะสม เพราะเป้าหมายคือ cashflow
เป็นแนวทางครับ