คู่มือการลงทุนในกองทุน REIT ฉบับสมบูรณ์

ขออนุญาตแชร์บทความครับ บทความต้นฉบับสามารถอ่านได้ที่ https://www.piggyman007.com/2023/01/reit.html

REIT คืออะไร

สมัยก่อน เรามักจะเห็นคนรวยชอบซื้อ ชอบสะสมอสังหาริมทรัพย์ ที่มีทำเลดีๆ และราคาไม่สูงมาก ไม่ว่าจะเป็นที่ดิน บ้าน ทาวน์เฮ้าส์ เพื่อลงทุนระยะยาวแล้วขายทำกำไรส่วนต่างราคา หรือเพื่อปล่อยเช่า สร้าง Passive Income 
การลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ตรงๆ นั้นต้องใช้เงินค่อนข้างสูง หลักแสน หลักล้าน หรือสิบล้านบาท ซึ่งคนที่ไม่ได้มีฐานะดีมากนั้น อาจจะลงทุนได้ลำบาก แต่ปัจจุบันเรามีกองทุนที่ชื่อว่า REIT ซึ่งจะเปิดโอกาสให้คนที่ไม่ได้มีเงินมากๆ ได้เป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ได้เหมือนกัน
กองทุน REIT นั้นคือหุ้นประเภทนึงที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย​ ซึ่งเป็นการระดมทุนเพื่อไปซื้อหรือเซ้งอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบต่างๆ แล้วนำมาปล่อยเช่าและรับรู้รายได้จากค่าเช่า
การลงทุนในกองทุน REIT ก็เปรียบเสมือนว่าเราลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพื่อรับรายได้จากค่าเช่านั่นเอง  และเราสามารถลงทุนในกองทุน REIT เพื่อสร้าง Passive Income ได้โดยใช้เงินลงทุนหลักร้อย หลักพันบาทเท่านั้น

ข้อดีและข้อเสียของ REIT

ข้อดีของ ​REIT
สภาพคล่องสูง สามารถซื้อขายได้ทุกวัน
ใช้เงินลงทุนน้อย เงินร้อย เงินพัน ก็สามารถซื้อได้
จ่ายปันผลสม่ำเสมอ เพราะกองทุน REIT มีรายได้จากค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์ และกองทุน REIT หลายๆ กองทุน จ่ายปันผลทุกไตรมาส การลงทุนในกองทุน REIT เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสร้าง Passive Income
เงินปันผลค่อนข้างสูง (3-6%) ดีกว่าฝากธนาคาร
ค่าเช่าสามารถปรับเพิ่มขึ้นได้ตามเงินเฟ้อ ทำให้ผู้ลงทุนได้รับเงินปันผลที่สูงขึ้นในอนาคต
มีผู้จัดการกองทุน REIT ที่จะมาบริหารจัดการ หาผู้เช่า โฆษณา และบำรุงรักษาทรัพย์สินให้เรื่อยๆ
ผู้ลงทุนสามารถเลือกลงทุนได้หลากหลายทรัพย์สิน หลากหลายอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นการกระจายความเสี่ยงไปในตัว

ข้อเสียของ REIT
ผู้ลงทุนไม่สามารถ Leverage หรือกู้เงินมาลงทุนได้ ต้องใช้เงินสดเท่านั้น

ประเภทของ REIT 

แบ่งตามอุตสาหกรรม
- Commerce คือกองทุน REIT ที่ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่เกี่ยวกับค้าปลีก เช่น
LPF ลงทุนในพื้นที่ห้างสรรพสินค้า Lotus (บางสาขา) เพื่อปล่อยเช่า
CPNREIT ลงทุนในพื้นที่ห้างสรรพสินค้า Central (บางสาขา) เพื่อปล่อยเช่า (CPNREIT ลงทุนทั้ง Commerce และ Office)
- Industrial คือกองทุน REIT ที่ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรม เช่น
WHART ลงทุนในโรงงานและคลังสินค้าของกลุ่ม WHA เพื่อปล่อยเช่า
​FTREIT ลงทุนในโรงงานและคลังสินค้าของกลุ่ม FPT เพื่อปล่อยเช่า
- Office คือกองทุน REIT ที่ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่เกี่ยวกับออฟฟิศ เช่น
TPRIME ลงทุนในออฟฟิศ Exchange Tower และ Mercury Tower เพื่อปล่อยเช่า
CPNCG ลงทุนในออฟฟิศ Central World เพื่อปล่อยเช่า
- Residential คือกองทุน REIT ที่ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่เกี่ยวกับโรงแรม เช่น
GAHREIT ลงทุนในโรงแรม Sheraton Hua Hin Resort & Spa
- Infrastructure คือกองทุน REIT ที่ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐาน เช่น
DIF ลงทุนในเสาเครือคร่ายของ True
- Other อื่นๆ เช่น
IMPACT ลงทุนใน Impact Exhibition

แบ่งตามกรรมสิทธิ์การถือครองที่ดิน
- Freehold คือกองทุนมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินของโครงการ เป็นเจ้าของที่ดิน ทำให้ได้รับ Capital Gain ในอนาคต ถ้าหากราคาที่ดินมีแนวโน้มสูงขึ้น ถ้าเราถือกองทุน REIT แบบ Freehold ก็เปรียบเสมือน เราก็เป็นเจ้าของที่ดินนั้นๆ ด้วย
- Leasehold คือกองทุนลงทุนแบบสิทธิ์การเช่าที่ดิน (เซ้ง) ซึ่งถ้าสัญญาเช่าที่ดินหมดอายุ ราคากองทุนก็จะเป็น 0
- Freehold & Leasehold คือกองทุนอาจจะมีทรัพย์สินบางส่วนเป็น Freehold และทรัพย์สินอีกบางส่วนเป็น Leasehold

ที่มา https://www.piggyman007.com/2023/01/reit.html
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่