Dune Part 2 (7/10) l หนังที่โคตรจะอารัมภบท (สปอยล์)

Dune Part 2



เรื่องย่อ Dune Part Two ดูน ภาคสอง

การเดินทางในตำนานของ พอล อะเทรดีส ในขณะที่เขารวมตัวกับ ชานิ และ เฟรเมนขณะอยู่บนเส้นทางแห่งการแก้แค้นต่อผู้สมรู้ร่วมคิดที่ทำลายครอบครัวของเขา เมื่อต้องเผชิญกับทางเลือกระหว่างความรักในชีวิตของเขากับชะตากรรมของจักรวาลที่เขารู้จัก เขาพยายามที่จะป้องกันอนาคตอันเลวร้ายที่มีเพียงเขาเท่านั้นที่สามารถคาดเดาได้

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

บอกเลยว่าก่อนจะดูเรื่องนี้ มีการทำการบ้านไปเยอะมากๆ และได้ดูpart 1 ที่กลับมาฉายIMAXอีกรอบด้วย เลยคาดหวังกับภาค2มากกว่า ว่าจะสนุก และบันเทิงมากขึ้น เพราะภาคแรกก็ปูอะไรไว้หมดแล้ว





ความรู้สึกหลังดูจบ

"หนังที่โคตรจะอารัมภบท"

คืออารัมภบทจากภาคแรกไม่พอ ภาคแรกก็ใช้เวลาปูเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบ ภาคนี้ยังจะมาอารัมภบท ปูเรื่องต่ออีก และใช้เวลาตั้งแต่ต้น จนหนังจะจบเช่นเคย จริงอยู่ที่หนังมีความละเมียดละไมในการเล่าเรื่อง เห็นหลายๆคนบอกว่าภาคนี้ เล่าได้กระชับขึ้น และฉากแอคชั่นจัดเต็มขึ้น ส่วนตัวหลังจากที่ดู ก็เหมือนเดิม แบบเดิม แทบไม่ต่างอะไรจากภาคแรก รู้สึกว่าชอบภาคแรกมากกว่าภาคนี้อีก




รู้ว่าสไตล์ผู้กำกับคนนี้จะเนิบๆ เนือยๆ ถ้าใครชอบก็ชอบเลย ถ้าใครไม่ชอบ ก็จะเหมือนเรา

ถามว่าหนังน่าเบื่อมั้ย ก็ไม่นะ ดูได้เรื่อยๆ เพลินๆ? ไม่แน่ใจ แต่ก็แบบหาวเยอะมาก ได้แต่คิดในใจ หนังจะสนุกได้ยัง? จะสนุกกี่โมง? นี่จะจบแล้วนะ ยังไม่มีแอคชั่นยิ่งใหญ่ไคล์แมกซ์อีกหรอ ก็ตามคาด มาใกล้จบ แค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น ง่ายดาย รวดเร็ว
ใครที่คิดว่าเวลาเกือบ3ชั่วโมง คุณจะได้ดูแอคชั่นจัดเต็ม อย่างที่หลายๆคนรีวิวคะแนนเต็มเขาเคลมกัน ส่วนตัวเราว่า คุณไม่มีวันแน่นอนในภาคนี้ มาเร็วไปเร็ว ภาคแรกยังรู้สึกว่าทำได้ดีกว่า




เป็นหนังไซไฟ การเมือง อำนาจ ศาสนา ความเชื่อ ความรัก ที่มีหลายแง่มุม หลายประเด็น ที่หนังทำออกมาให้เราได้คิด วิเคราะห์






นักแสดงเล่นดีทุกคน เราได้เห็นพัฒนาการของตัวละคร ค่อยๆไต่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆ ตามเนื้อเรื่อง ที่เล่าอย่างละเมียดละไม แต่มันเนือยไปหน่อย

ดนตรีประกอบ คืออันนี้ต้องยกให้เลย Hans Zimmerไม่เคยทำให้ผิดหวัง บิ้วท์อารมณ์ และเข้ากับหนังได้ดีมาก ดนตรีขึ้นที คือขนลุก บอกเลย

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

งานสร้าง จัดเต็ม อลังการงานสร้างมาก
CGเนียน ภาพสวย อลัง ยิ่งดูแบบIMAX มห้ความรู้สึกเหมือนกับว่า เราได้เป็นส่วนหนึ่งของทะเลทรายอันกว้างใหญ่ และได้ร่วมผจญภัย และเดินทางไปกับตัวละคร เสียงกระหึ่ม ยิ่งตอนที่เสียงดนตรีออกมา คือสั่นสะเทือนที่นั่งกันไปเลย




ข้อด้อยและส่วนที่ไม่ชอบ

ไม่ชอบลำดับภาพ และการตัดต่อ ทั้งเรื่องหนังคือตัดไปตัดมาตลอด รู้ว่ามีหลายตัวละคร ต้องทำเวลา และกระจายบท แต่คือช่วยทำให้มันเนียนๆหน่อยมั้ย หลายๆฉากมาก ที่หนังชอบตัด
อย่างเช่นฉากขี่หนอนเดินทางอยู่ในทะเลทราย อยู่ดีๆก็ตัดไปที่เดินไปถ้ำ เพื่อจะกินยาพิษแล้ว ถึงตอนไหนก่อน คนอื่นยังไม่มาเลย แล้วก็หลายๆฉาก จะวาร์ปไปวาร์ปมาแบบนี้ จนงง ว่านี่ฝัน นิมิต หรือความจริง

ใครที่ชอบผลงานผู้กำกับคนนี้หรือหนังเล่าเรื่องช้าๆเนิบๆ หรือเป็นแฟนหนัง ก็ไม่ควรพลาด ส่วนเราน่าจะยังเข้าไม่ถึงสไตล์ผู้กำกับคนนี้เท่าไหร่ ก็พอๆกับภาคแรก แค่ภาคนี้ไม่เนิบมากเท่าภาคแรก แต่ก็เนิบอยู่

ถ้าไม่เน้นแอคชั่น ไม่เน้นบันเทิง ชอบความละเมียดละไมในการเล่า เรื่องนี้ก็น่าจะตอบโจทย์ใครหลายๆคน

ก็เข้าใจ ด้วยหนังสือมาประมาณนี้ ไม่เน้นแอคชั่น เน้นเล่าเรื่อง และผู้กำกับก็สไตล์นี้ เป็นแบบนี้
การที่เขาทำหนังจากหนังสือที่ทำหนังยากมาก ออกมาได้ดีขนาดนี้ นี่แค่เล่มแรกด้วย แสดงว่าเขาทำการบ้านมาดี อยู่ที่คนดู ว่าจะอินกับงานเขามั้ยแค่นั้น

สำหรับคะแนนความชอบ ให้ 7/10 คะแนน

ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ ภาคต่อก็คงจะไม่ดู แต่ถ้าเห็นตัวอย่างน่าสนุกอาจไม่แน่ ไม่ได้ผิดที่หนังนะ น่าจะผิดที่เรา ไม่น่าจะชอบสไตล์หนังผู้กำกับคนนี้ ตั้งแต่Blade Runnerละ

ใครที่ไปดูมาแล้ว คิดเห็น เหมือนกัน หรือคิดต่าง อย่างไร มาแชร์กันได้นะ

https://www.facebook.com/MouthMoyMovie?

#Dune2 #DunePart2





แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่