ชีวิตของผมในช่วงเวลานี้ ผมอายุได้30 ปี ซึ่งบอกเลยว่าการที่เราโตขึ้นนั่น อาจจะต้องทำให้เรามีการวางแผนการใช้ชีวิตมากขึ้นแต่กลับกลายเป็นว่า
มันเป็นภาระที่หนักอึ่งในจิตใจเป็นอย่างมากในการวางแผนการใช้ชีวิต ซึ่งเล่าเท้าความกลับไปกระผมอยู่ในครอบครัวที่ไม่ได้ร่ำรวยอะไร แต่ก็พอมีพอกินไปได้ และได้อาศัยอยู่กับ พ่อและแม่และพี่สาวมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งในช่วง 6 ปีก่อนหน้านี้พี่สาวได้เสียชีวิตไป ซึ่งทำให้แม่นั้นยิ่งเป็นหวงเรามากขึ้นไม่อยากให้เราไปไหน ซึ่งในช่วงชีวิต ณ ปัจจุบันนี้ ก็ได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเรามองแล้วว่าเขาน่าจะเป็นภรรยาที่สามารถดูแลครอบครัวเราได้ในอนาคต ซึ่งในความคิดของเราก็ต้องการอยากจะมีครอบครัวที่สมบูรณ์ แต่เมื่อตัดสินใจแบบนี้แล้ว ก็ได้มีคิดและวางแผนครอบครัวไว้ว่าจะทำอย่างไรให้มันมั่นคงที่สุดและอยู่อย่างสมบูรณ์ที่สุด โดยแม่ของเรานั้นก็ไม่ได้อยากให้เราจากไปไหน ซึ่งเราและ แฟนของเราทำงานอยู่ในพื้นที่เดี๋ยวกันซึ่งเป็นในพื้นที่เดียวกับบ้านเราด้วย และก้ได้มีความคิดว่า จะสร้างบ้านอีกหลังในพื้นที่ของเรา ซึ่งมองว่าพื้นที่ใน กทม นั่นมีราคาสูงมากๆ ถ้าไปซื้ออยู่ใหม่ ก็จะมีภารระค่าใช่จ่ายมากขึ้น ซึ่งเรามองว่า ถ้าทำการสร้างบ้านอีกหลัง แล้วอยู่ด้วยกัน ครบทั้งผม พ่อแม่และแฟนของผม แต่อยู่คนละหลัง น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพราะจะไม่ได้ทิ้งแม่ไปไหนด้วย และได้อยู่กับครอบครัว แต่ถ้าคืดแบบนี้เราทุกอย่างมันลงตัวก็คงจบ แต่ปัญหาก็มีมาตามเคยให้เราคิดไม่ตก อยู่ตลอดเวลา เพราะแม่ของเรานั้นเขามีความคิดบางอย่างว่า แฟนของผมนั้นไม่โอเคในบางเรื่อง (ซึ่งได้ฟังจากแม่แล้วผมมองว่าไม่ควรเอามาเป็นปัญหาด้วยซ้ำ) ซึ่งโดยปกติแม่เป็นคนไม่ค่อยรับใครอยู่แล้วเพราะแม่เป็นคนไม่เข้าสังคมหรือชอบคนเยอะๆอยู่แล้ว โดยแฟนผมก็ได้มีการบอกเรามาว่า อยากมีครอบครัวแต่งงาน เพราะมองว่าก็อายุได้ในระดับนึงกันแล้ว ซึ่งเขาก็ได้ถามผมเสมอว่าเมื่อไหร่จะพร้อมเพราะ ผู้หญิงเมื่ออายุมากขึ้น ก็ย่อมอยากเห็นความชัดเจนในการสร้างครอบครัว แต่เราจะอยู่ยังไงกันให้โอเคที่สุด เพราะแม่ก็ดูจะไม่ชอบเขา ซึ่งทำให้เขาก็ค่อนข้างกดดัน ซึ่งผมเข้าใจไม่มีใครชอบสถานะการแบบนี้หรอก แต่ปัญหามันก็มาหนักอึ่งที่ตัวของผม ว่าจะจัดการกับปัญหานี่อย่างไร ซึ่งเข้าอยู่ในพื้นที่บ้านก็ไม่ได้ ออกไปอยู่ข้างนอกก็ไม่ได้ เพราะแม่จะบอกว่าเราทิ้งเขาไป แต่อีกส่วนนึงแฟนผม บอกว่าถ้าอยู่ในบ้านไม่ได้ก็ออกไปอยู่ข้างนอกกันเถอะ ผมก็ออกไปอยู่ไม่ได้ ซึ่งที่เล่ามานี่ก็เป็นเรื่องคร่าวๆ กับปัญหาที่มันเกิดขึ้น ซึ่งผมบอกเลยว่าเครียดมากๆ ผมเคยเก็บเอามาคิดในหลายๆครั้ง มันทำให้บางช่วงผมเกิดความเครียดมากๆ ผมกลัวมากๆว่าวันนึงผมจะขึ้นสั้น เพราะผมเคยเจอหลายๆที่ฆ่าตัวตายเพราะไม่มีทางออก มาแล้วในหลายๆเคสที่เคยรับฟังมา (ผมอยู่ในสถาณการ์ณที่คนตายหลายๆเคส ก็ได้ส่วนใหญ่ทำไปเพราะไม่มีทางออกแก้ปัญหาที่เกิดไม่ได้) แต่ผมคิดเสมอว่าการตายไม่ใช่ทางออก ใครจะไปรู้ว่าในอนาคตมันอาจจะดีก็ได้ถ้าตายก่อนคงเสียดาย แต่ที่เล่ามาทั้งหมดมันก็เป็นปัญหาที่ยังแก้ไม่ได้ ณ ปัจจุบัน ผมกลัวมากๆ ว่าวันใดวันนึงถ้าทุกอย่างมันกดดันจนถึงจุดที่จิตใจมันไม่มีทางออก วันนั้นผมจะเป็นเหมือนคนพวกนั้นรึป่าว มีใครจะพอแนะนำได้ไหมครับ
ปัญหาชีวิตแบบนี้ใครแก้ได้ไหม😭
มันเป็นภาระที่หนักอึ่งในจิตใจเป็นอย่างมากในการวางแผนการใช้ชีวิต ซึ่งเล่าเท้าความกลับไปกระผมอยู่ในครอบครัวที่ไม่ได้ร่ำรวยอะไร แต่ก็พอมีพอกินไปได้ และได้อาศัยอยู่กับ พ่อและแม่และพี่สาวมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งในช่วง 6 ปีก่อนหน้านี้พี่สาวได้เสียชีวิตไป ซึ่งทำให้แม่นั้นยิ่งเป็นหวงเรามากขึ้นไม่อยากให้เราไปไหน ซึ่งในช่วงชีวิต ณ ปัจจุบันนี้ ก็ได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเรามองแล้วว่าเขาน่าจะเป็นภรรยาที่สามารถดูแลครอบครัวเราได้ในอนาคต ซึ่งในความคิดของเราก็ต้องการอยากจะมีครอบครัวที่สมบูรณ์ แต่เมื่อตัดสินใจแบบนี้แล้ว ก็ได้มีคิดและวางแผนครอบครัวไว้ว่าจะทำอย่างไรให้มันมั่นคงที่สุดและอยู่อย่างสมบูรณ์ที่สุด โดยแม่ของเรานั้นก็ไม่ได้อยากให้เราจากไปไหน ซึ่งเราและ แฟนของเราทำงานอยู่ในพื้นที่เดี๋ยวกันซึ่งเป็นในพื้นที่เดียวกับบ้านเราด้วย และก้ได้มีความคิดว่า จะสร้างบ้านอีกหลังในพื้นที่ของเรา ซึ่งมองว่าพื้นที่ใน กทม นั่นมีราคาสูงมากๆ ถ้าไปซื้ออยู่ใหม่ ก็จะมีภารระค่าใช่จ่ายมากขึ้น ซึ่งเรามองว่า ถ้าทำการสร้างบ้านอีกหลัง แล้วอยู่ด้วยกัน ครบทั้งผม พ่อแม่และแฟนของผม แต่อยู่คนละหลัง น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพราะจะไม่ได้ทิ้งแม่ไปไหนด้วย และได้อยู่กับครอบครัว แต่ถ้าคืดแบบนี้เราทุกอย่างมันลงตัวก็คงจบ แต่ปัญหาก็มีมาตามเคยให้เราคิดไม่ตก อยู่ตลอดเวลา เพราะแม่ของเรานั้นเขามีความคิดบางอย่างว่า แฟนของผมนั้นไม่โอเคในบางเรื่อง (ซึ่งได้ฟังจากแม่แล้วผมมองว่าไม่ควรเอามาเป็นปัญหาด้วยซ้ำ) ซึ่งโดยปกติแม่เป็นคนไม่ค่อยรับใครอยู่แล้วเพราะแม่เป็นคนไม่เข้าสังคมหรือชอบคนเยอะๆอยู่แล้ว โดยแฟนผมก็ได้มีการบอกเรามาว่า อยากมีครอบครัวแต่งงาน เพราะมองว่าก็อายุได้ในระดับนึงกันแล้ว ซึ่งเขาก็ได้ถามผมเสมอว่าเมื่อไหร่จะพร้อมเพราะ ผู้หญิงเมื่ออายุมากขึ้น ก็ย่อมอยากเห็นความชัดเจนในการสร้างครอบครัว แต่เราจะอยู่ยังไงกันให้โอเคที่สุด เพราะแม่ก็ดูจะไม่ชอบเขา ซึ่งทำให้เขาก็ค่อนข้างกดดัน ซึ่งผมเข้าใจไม่มีใครชอบสถานะการแบบนี้หรอก แต่ปัญหามันก็มาหนักอึ่งที่ตัวของผม ว่าจะจัดการกับปัญหานี่อย่างไร ซึ่งเข้าอยู่ในพื้นที่บ้านก็ไม่ได้ ออกไปอยู่ข้างนอกก็ไม่ได้ เพราะแม่จะบอกว่าเราทิ้งเขาไป แต่อีกส่วนนึงแฟนผม บอกว่าถ้าอยู่ในบ้านไม่ได้ก็ออกไปอยู่ข้างนอกกันเถอะ ผมก็ออกไปอยู่ไม่ได้ ซึ่งที่เล่ามานี่ก็เป็นเรื่องคร่าวๆ กับปัญหาที่มันเกิดขึ้น ซึ่งผมบอกเลยว่าเครียดมากๆ ผมเคยเก็บเอามาคิดในหลายๆครั้ง มันทำให้บางช่วงผมเกิดความเครียดมากๆ ผมกลัวมากๆว่าวันนึงผมจะขึ้นสั้น เพราะผมเคยเจอหลายๆที่ฆ่าตัวตายเพราะไม่มีทางออก มาแล้วในหลายๆเคสที่เคยรับฟังมา (ผมอยู่ในสถาณการ์ณที่คนตายหลายๆเคส ก็ได้ส่วนใหญ่ทำไปเพราะไม่มีทางออกแก้ปัญหาที่เกิดไม่ได้) แต่ผมคิดเสมอว่าการตายไม่ใช่ทางออก ใครจะไปรู้ว่าในอนาคตมันอาจจะดีก็ได้ถ้าตายก่อนคงเสียดาย แต่ที่เล่ามาทั้งหมดมันก็เป็นปัญหาที่ยังแก้ไม่ได้ ณ ปัจจุบัน ผมกลัวมากๆ ว่าวันใดวันนึงถ้าทุกอย่างมันกดดันจนถึงจุดที่จิตใจมันไม่มีทางออก วันนั้นผมจะเป็นเหมือนคนพวกนั้นรึป่าว มีใครจะพอแนะนำได้ไหมครับ