สวัสดีค่ะ ทุกคนหากใครแวะเข้ามาอ่านก็แวะตอบเราหน่อยนะคะ
คือตอนนี้เราเครียดกับที่ทำงานมาก ... เริ่มเกริ่นก่อนนะคะ เราเป็นเซลขายรถแห่งหนึ่งเป็นงานที่แรกที่เราทำงานเกี่ยวกับรถ เราไม่มีความรู้เรื่องรถเลยแต่ปกติเป็นคนชอบขายของอยู่แล้ว เฟลนลี่และชอบคุยกับผู้คน เลยลองตัดสินใจมาสมัครที่แห่งนี้เพราะรู้จักกับคนนึง ในนามว่า พี่A แล้วกันค่ะ
เราได้ทักมาหาพี่เอว่ายังมีตำแหน่งเซลว่างไหม เค้าบอกให้ลองมาสมัครและ ก็ได้เข้ามาทำงานในที่แห่งนี้
เราพยายามศึกษาทุกอย่างเกี่ยวกับรถ แต่จะบอกว่ารถมันเยอะมากๆๆ และสเปคแตกต่างกัน รวมๆรุ่นย่อยน่าจะ 30+ รวมทุกรุ่น
เราค่อนข้างสนิทกับพี่ A ในช่วงแรกมากจะปรึกษาเค้าตลอดเพราะเค้าจะมีตำแหน่งสุงกว่าเซลนิดนึงเป็นอาวุโซเซล เดือนแรกของการทำงานเค้ายังไม่ให้เราขายให้เราอ่านสเปครถ พอเข้าเดือนที่ 2 ก็ให้เริ่มขายได้ เราเองไม่ได้แม่นสเปคมากเพราะรถมาหลายรุ่นหลายแบบ หลายฟังชั่น แต่ ณ ปัจจุบันเราทำงานมา 4 เดือนเราขายได้เยอะมากอาจจะด้วยเพราะดวงดีด้วยที่เจอลูกค้าไม่ได้ถามเยอะมากเลยปิดจบง่าย แต่มันจะมีเคสลูกค้าฝรั่ง (ซึ่งเราไม่ค่อยรู้คำศัพท์เกี่ยวกับรถภาษอังกฤษเท่าไหร่) พี่ A เนี่ยก็เลยมาช่วยขาย ช่วยพูดแต่เอกสารและบริการหลังการขายเราเป็นคนทำเองทั้งหมด เราตั้งใจไว้อยู่แล้วว่าจะต้องแบ่งให้ พี่A บ้างอย่างน้อย 5000 - 10,000 ค่าคอมประมาน 2 หมื่นนิดๆ แต่หลังจากจบวันนั้นพี่ A โทรมาขอค่าคอมเรา 50% รวมถึงค่าคอมของแต่งที่เราเป็นคนขายของเองทั้งหมด เราไม่พอใจที่เค้ามาช่วยเพื่อหวังผลประโยชน์จากเราและเซลคนเก่าที่อยู่ ก็บอกว่าไม่เคยมีเซลรุ่นไหนมาขอหารกันนะ พอหลังจากที่เค้ารู้ว่าเราไม่พอใจเค้าก็มีการเปิดใจคุยกัน และแน่นอนเราก็ชัดเจนและพูดทุกอย่างที่รู้สึก เราเลยตกลงว่าต่อไปนี้ไม่ต้องมีใครมาช่วยเราถ้าคิดว่ามันคือผลประโยชเราจะจัดการทุกอย่างด้วยตัวเอง ถ้ามันไม่ได้ก็ขอให้มันไม่ได้ที่เรา ... ใช่ค่ะหลังจากนั้นชีวิตการทำงานก็เปลี่ยนไป เราโดนเพ่งเร่งตลอด
จ้องจะเล่นเราทุกทางให้เรารู้สึกอึดอัด กดดัน บีบเราสารพัด ฟ้องนายว่าเรายังไม่แม่นสเปค ยังไม่ต้องให้ขายบ้าง
เรารู้ว่าสิ่งที่เราควรทำตอนนี้คือทำให้ตัวเองเก่งขึ้นเร็วๆ แต่ระหว่างทางตรงนี้ที่เราโดนบีบเราควรจะผ่านมันไปยังไง
หรือมันผิดตั้งแต่แรกแล้ว ที่เราไปเปิดศึกกับเขาว่าเราไม่พอใจนะที่เค้ามาขอแบ่ง ...
เซลขายรถ กับปัญหาเพื่อนร่วมงาน
คือตอนนี้เราเครียดกับที่ทำงานมาก ... เริ่มเกริ่นก่อนนะคะ เราเป็นเซลขายรถแห่งหนึ่งเป็นงานที่แรกที่เราทำงานเกี่ยวกับรถ เราไม่มีความรู้เรื่องรถเลยแต่ปกติเป็นคนชอบขายของอยู่แล้ว เฟลนลี่และชอบคุยกับผู้คน เลยลองตัดสินใจมาสมัครที่แห่งนี้เพราะรู้จักกับคนนึง ในนามว่า พี่A แล้วกันค่ะ
เราได้ทักมาหาพี่เอว่ายังมีตำแหน่งเซลว่างไหม เค้าบอกให้ลองมาสมัครและ ก็ได้เข้ามาทำงานในที่แห่งนี้
เราพยายามศึกษาทุกอย่างเกี่ยวกับรถ แต่จะบอกว่ารถมันเยอะมากๆๆ และสเปคแตกต่างกัน รวมๆรุ่นย่อยน่าจะ 30+ รวมทุกรุ่น
เราค่อนข้างสนิทกับพี่ A ในช่วงแรกมากจะปรึกษาเค้าตลอดเพราะเค้าจะมีตำแหน่งสุงกว่าเซลนิดนึงเป็นอาวุโซเซล เดือนแรกของการทำงานเค้ายังไม่ให้เราขายให้เราอ่านสเปครถ พอเข้าเดือนที่ 2 ก็ให้เริ่มขายได้ เราเองไม่ได้แม่นสเปคมากเพราะรถมาหลายรุ่นหลายแบบ หลายฟังชั่น แต่ ณ ปัจจุบันเราทำงานมา 4 เดือนเราขายได้เยอะมากอาจจะด้วยเพราะดวงดีด้วยที่เจอลูกค้าไม่ได้ถามเยอะมากเลยปิดจบง่าย แต่มันจะมีเคสลูกค้าฝรั่ง (ซึ่งเราไม่ค่อยรู้คำศัพท์เกี่ยวกับรถภาษอังกฤษเท่าไหร่) พี่ A เนี่ยก็เลยมาช่วยขาย ช่วยพูดแต่เอกสารและบริการหลังการขายเราเป็นคนทำเองทั้งหมด เราตั้งใจไว้อยู่แล้วว่าจะต้องแบ่งให้ พี่A บ้างอย่างน้อย 5000 - 10,000 ค่าคอมประมาน 2 หมื่นนิดๆ แต่หลังจากจบวันนั้นพี่ A โทรมาขอค่าคอมเรา 50% รวมถึงค่าคอมของแต่งที่เราเป็นคนขายของเองทั้งหมด เราไม่พอใจที่เค้ามาช่วยเพื่อหวังผลประโยชน์จากเราและเซลคนเก่าที่อยู่ ก็บอกว่าไม่เคยมีเซลรุ่นไหนมาขอหารกันนะ พอหลังจากที่เค้ารู้ว่าเราไม่พอใจเค้าก็มีการเปิดใจคุยกัน และแน่นอนเราก็ชัดเจนและพูดทุกอย่างที่รู้สึก เราเลยตกลงว่าต่อไปนี้ไม่ต้องมีใครมาช่วยเราถ้าคิดว่ามันคือผลประโยชเราจะจัดการทุกอย่างด้วยตัวเอง ถ้ามันไม่ได้ก็ขอให้มันไม่ได้ที่เรา ... ใช่ค่ะหลังจากนั้นชีวิตการทำงานก็เปลี่ยนไป เราโดนเพ่งเร่งตลอด
จ้องจะเล่นเราทุกทางให้เรารู้สึกอึดอัด กดดัน บีบเราสารพัด ฟ้องนายว่าเรายังไม่แม่นสเปค ยังไม่ต้องให้ขายบ้าง
เรารู้ว่าสิ่งที่เราควรทำตอนนี้คือทำให้ตัวเองเก่งขึ้นเร็วๆ แต่ระหว่างทางตรงนี้ที่เราโดนบีบเราควรจะผ่านมันไปยังไง
หรือมันผิดตั้งแต่แรกแล้ว ที่เราไปเปิดศึกกับเขาว่าเราไม่พอใจนะที่เค้ามาขอแบ่ง ...