หลังจากเพลิดเพลินในเมือง Salisbury แล้ว
ฉันกับแมรี่ก็ขึ้นรถไฟกลับลอนดอน
ฉันแวะมาเอาสัมภาระที่ Palmers Lodge ก่อน
หลังจากนั้น ฉันก็มองอาคารนี้อีกครั้ง ถึงจะอยู่แค่ไม่นาน
แต่ฉันก็ประทับใจใน Palmers Lodge มาก
จุดหมายต่อไปก็คือ Victoria Coach Station
ก่อนจะมาถึงที่นี่ พวกเราแวะทานมื้อเย็นกันมาเรียบร้อย
พอใกล้ 4 ทุ่ม พวกเราก็ขึ้นไปนั่งตรงที่นั่งกันแล้ว
รถ Coach ของที่นี่ สะดวกสบายมากจริงๆ
จนฉันรู้สึกรักมันมากๆ
พอรถออก พวกเราก็หลับทันที
มาตื่นกันอีกที ก็ประมาณ 6 โมงเช้าแล้ว
รถมีจอดให้แวะทานอาหารเช้าประมาณ 15 นาที
ซึ่งน่าจะอยู่ในเขตสกอตแลนด์แล้ว
แต่ฉันไม่แน่ใจว่าเมืองอะไร
พอกินอาหารเช้าเสร็จ ก็ขึ้นรถเพื่อเดินทางต่อ
เรามาถึง Aberdeen ประมาณ 11 โมง
หลังจากหาอาหารกลางวันกินแล้ว
เราสองคนก็มีเวลาพอที่จะเดินเล่นในเมือง
มันเป็นช่วงเวลาที่มีค่ามากสำหรับฉันกับแมรี่
ฉันจะไม่มีวันลืมมิตรภาพดีๆของเราสองคนเลย
มันเป็นมิตรภาพที่งดงามมาก
แมรี่มีไอเดียว่าจะค้างที่นี่สักสองคืนก่อนจะกลับลอนดอน
เธอเองต้องใช้เวลาในการเดินหาที่พักในเมืองสวยแห่งนี้
และก็มาถึงเวลาที่เราต้องจากกัน
ชีวิตต้องดำเนินต่อไป ฉันกอดแมรี่แน่นก่อนอำลา
แมรี่บอกกับฉันว่าขอให้ฉันพบกับชีวิตใหม่ที่ดีบนเกาะเช็ตแลนด์
มันยากมากที่ต้องกล่าวคำอำลาเพื่อนใหม่
ที่เพิ่งจะพบกันไม่นาน แต่สุดท้ายเราก็ต้องจากกัน
ฉันเดินมาถึงท่าเรือก่อนเวลาที่เรือจะออกประมาณ 45 นาที
ฉันเดินเข้าไปติดต่อด้านใน เพื่อโชว์เอกสารอิเลคทรอนิกให้เขาดู
แล้วฉันก็เดินออกไปตรงท่าที่เรือจอดอยู่ เรือลำนี้ใหญ่มากสำหรับฉัน
มันใหญ่มากจริงๆ
ฉันโชว์ตั๋วก่อนจะขึ้นเรือ
พอขึ้นไปข้างใน ฉันรู้สึกว่าเรือลำนี้ ใหญ่กว่าที่ฉันคิด
ภายในงามสง่ามาก และกว้างมากๆด้วย
ฉันเริ่มหิว เลยไปที่ภัตตาคารบนเรือ ซึ่งมีอาหารจำหน่ายหลายหลากมาก
ราคาก็ถือว่าไม่ค่อยแพงมาก
พอทราบว่าสามารถกินได้เลย ไม่ต้องรอเรือออก
ฉันก็ไม่รอแล้วนะ
หลังจากกินอิ่มแล้ว ฉันก็เดินสำรวจรอบๆ
ภายในเรือมีแหลางสำราญเยอะมาก
แต่ที่ฉันชอบคือโรงหนังบนเรือ
แม้หนังจะเก่าหน่อย แต่ก็น่าดูทุกเรื่อง
เขาคัดมาดีมากๆเลย
ฉันจองตั๋วรอบ 1 ทุ่มไว้ กะว่าดูหนังจบตอนสองทุ่มครึ่งแล้วค่อยนอน
ตอนเรือกำลังออกจากท่า ฉันขึ้นไปดูวิวเมือง Aberdeen บนดาดฟ้าเรือเป็นครั้งสุดท้าย
ตอนนี้แมรี่คงหาที่พักเจอแล้ว และคงกำลังนอนพักอย่างสบาย
ฉันลงไปดูหนังตามเวลาที่จองไว้ หลังจากนั้นฉันก็เข้านอนบนเรือ
พอฉันเคลิ้มหลับ เรือเฟอร์รี่ของ Northlink ก็เดินทางของมันต่อไป
มันคือเรือลำสวยที่กำลังพาฉันไปสู่ชีวิตใหม่
เส้นทางเรือลำนี้ ออกจากท่าที่เมือง Aberdeen แล้วตรงไปจอด
ที่ท่า Lerwick ของหมู่เกาะเช็ตแลนด์
......................................................................................................
ฉันตื่นมาตอนเช้า รีบเข้าห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัว
เรือใกล้จะถึงท่า Lerwick แล้ว
ตอนนี้ ท่า Lerwick กำลังรอเรือเข้ามาเทียบท่าตามนัดหมาย
พอถึงเวลา เรือก็เข้าเทียบท่า
และในที่สุด ฉันก็มาถึงหมู่เกาะเช็ตแลนด์แล้ว
มันคือสถานที่ทำงานแห่งใหม่ของฉัน
ที่สำคัญ มันสวยงามมาก
ยิ่งเดินเข้าไปเรื่อยๆ ฉันก็สัมผัสได้ถึงความงาม ความสงบ
และความน่าทึ่งของเกาะนี้
ฉันเพลิดเพลินกับความงามของที่แห่งนี้มาก
ในที่สุด ฉันก็ได้กินอาหารเช้าเสียที
ในที่สุด ฉันก็เดินมาจนถึงจุดนัดพบของฉันกับเจอโรม
ใช่ค่ะ เจ้านายคนใหม่ของฉันมีชื่อว่าเจอโรม
จุดนัดพบของเราก็คือ Viking bus station
ฉันยืนรอประมาณ 30 นาที ก็มีรถบัสเล็กวิ่งเข้ามา
มันเหมือนกับที่เจอโรมบอกไว้ทางอีเมล
ฉันตื่นเต้นมาก ไม่รู้ว่าเขาจะรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร
มีชายวัยกลางคนค่อนข้างท้วมเดินลงมาหาฉัน
เขาทักฉันเป็นภาษาอังกฤษ
"แขกของคุณเจอโรมใช่ไหมครับ"
"ค่ะฉันเอง"
"เชิญขึ้นรถเลยครับ เรายังต้องไปอีกไกล
เรียกผมว่าทอมมี่นะครับ"
ฉันขึ้นรถตามที่เขาบอก
มองออกไปนอกหน้าต่าง ยังเห็นเรือที่ฉันมาจอดอยู่เลย
ฉันถามทอมมี่ "อีกนานไหมคะกว่าจะถึง"
ทอมมี่บอกว่าตอนนี้เราอยู่ที่ Lerwick
รถต้องแล่นขึ้นเหนือ และขึ้นแพเพื่อไปยังเกาะ Yell
จากนั้นก็ต้องขับไปอีกพักใหญ่ๆ
ขึ้นแพอีกครั้ง เพื่อไปยังเกาะ Unst
พอไปถึงเกาะ Unst แล้ว รถต้องแล่นจนไปถึงเหนือสุดของเกาะ
ตรงบริเวณ wick of skaw บ้านของเจอโรมอยู่ตรงนั้น
ฉันรู้สึกว่ามันไกลมาก แต่พอรถออกจนพ้นเขตเมือง
ก็จะพบภูมิทัศน์อัศจรรย์ที่ฉันตื่นตะลึงมาก
จนมาถึงช่วงที่รถต้องขึ้นแพเพื่อไปเกาะ yell
ทอมมี่บอกกับฉันว่า "คุณผู้หญิงจะลงไปสูดอากาศ
ตรงขอบแพชั้นบนสุดก็ได้นะครับ"
ฉันทำตามที่เขาบอก
รู้สึกดีเหมือนกันที่ได้มายืนบนนี้
บนนี้อากาศดีมาก
พอถึงเกาะ Yell รถก็แล่นต่อ
และเราก็ต้องข้ามแพอีกครั้ง
เมื่อมาถึงเกาะ Unst รถก็แล่นขึ้นเหนือเต็มที่
เพื่อตรงไปยัง wick of skaw ที่อยู่เหนือสุด
พอรถเลี้ยวอีกครั้ง ทอมมี่ก็จอดนิ่งสนิท
"ถึงบ้านของคุณเจอโรมแล้วครับ"
รักเอย ... ไม่เคยลับ ตอนที่ 3 ถึงจุดหมายปลายทางซะที แต่ ...............
ฉันกับแมรี่ก็ขึ้นรถไฟกลับลอนดอน
ฉันแวะมาเอาสัมภาระที่ Palmers Lodge ก่อน
หลังจากนั้น ฉันก็มองอาคารนี้อีกครั้ง ถึงจะอยู่แค่ไม่นาน
แต่ฉันก็ประทับใจใน Palmers Lodge มาก
จุดหมายต่อไปก็คือ Victoria Coach Station
ก่อนจะมาถึงที่นี่ พวกเราแวะทานมื้อเย็นกันมาเรียบร้อย
พอใกล้ 4 ทุ่ม พวกเราก็ขึ้นไปนั่งตรงที่นั่งกันแล้ว
รถ Coach ของที่นี่ สะดวกสบายมากจริงๆ
จนฉันรู้สึกรักมันมากๆ
พอรถออก พวกเราก็หลับทันที
มาตื่นกันอีกที ก็ประมาณ 6 โมงเช้าแล้ว
รถมีจอดให้แวะทานอาหารเช้าประมาณ 15 นาที
ซึ่งน่าจะอยู่ในเขตสกอตแลนด์แล้ว
แต่ฉันไม่แน่ใจว่าเมืองอะไร
พอกินอาหารเช้าเสร็จ ก็ขึ้นรถเพื่อเดินทางต่อ
เรามาถึง Aberdeen ประมาณ 11 โมง
หลังจากหาอาหารกลางวันกินแล้ว
เราสองคนก็มีเวลาพอที่จะเดินเล่นในเมือง
มันเป็นช่วงเวลาที่มีค่ามากสำหรับฉันกับแมรี่
ฉันจะไม่มีวันลืมมิตรภาพดีๆของเราสองคนเลย
มันเป็นมิตรภาพที่งดงามมาก
แมรี่มีไอเดียว่าจะค้างที่นี่สักสองคืนก่อนจะกลับลอนดอน
เธอเองต้องใช้เวลาในการเดินหาที่พักในเมืองสวยแห่งนี้
และก็มาถึงเวลาที่เราต้องจากกัน
ชีวิตต้องดำเนินต่อไป ฉันกอดแมรี่แน่นก่อนอำลา
แมรี่บอกกับฉันว่าขอให้ฉันพบกับชีวิตใหม่ที่ดีบนเกาะเช็ตแลนด์
มันยากมากที่ต้องกล่าวคำอำลาเพื่อนใหม่
ที่เพิ่งจะพบกันไม่นาน แต่สุดท้ายเราก็ต้องจากกัน
ฉันเดินมาถึงท่าเรือก่อนเวลาที่เรือจะออกประมาณ 45 นาที
ฉันเดินเข้าไปติดต่อด้านใน เพื่อโชว์เอกสารอิเลคทรอนิกให้เขาดู
แล้วฉันก็เดินออกไปตรงท่าที่เรือจอดอยู่ เรือลำนี้ใหญ่มากสำหรับฉัน
มันใหญ่มากจริงๆ
ฉันโชว์ตั๋วก่อนจะขึ้นเรือ
พอขึ้นไปข้างใน ฉันรู้สึกว่าเรือลำนี้ ใหญ่กว่าที่ฉันคิด
ภายในงามสง่ามาก และกว้างมากๆด้วย
ฉันเริ่มหิว เลยไปที่ภัตตาคารบนเรือ ซึ่งมีอาหารจำหน่ายหลายหลากมาก
ราคาก็ถือว่าไม่ค่อยแพงมาก
พอทราบว่าสามารถกินได้เลย ไม่ต้องรอเรือออก
ฉันก็ไม่รอแล้วนะ
หลังจากกินอิ่มแล้ว ฉันก็เดินสำรวจรอบๆ
ภายในเรือมีแหลางสำราญเยอะมาก
แต่ที่ฉันชอบคือโรงหนังบนเรือ
แม้หนังจะเก่าหน่อย แต่ก็น่าดูทุกเรื่อง
เขาคัดมาดีมากๆเลย
ฉันจองตั๋วรอบ 1 ทุ่มไว้ กะว่าดูหนังจบตอนสองทุ่มครึ่งแล้วค่อยนอน
ตอนเรือกำลังออกจากท่า ฉันขึ้นไปดูวิวเมือง Aberdeen บนดาดฟ้าเรือเป็นครั้งสุดท้าย
ตอนนี้แมรี่คงหาที่พักเจอแล้ว และคงกำลังนอนพักอย่างสบาย
ฉันลงไปดูหนังตามเวลาที่จองไว้ หลังจากนั้นฉันก็เข้านอนบนเรือ
พอฉันเคลิ้มหลับ เรือเฟอร์รี่ของ Northlink ก็เดินทางของมันต่อไป
มันคือเรือลำสวยที่กำลังพาฉันไปสู่ชีวิตใหม่
เส้นทางเรือลำนี้ ออกจากท่าที่เมือง Aberdeen แล้วตรงไปจอด
ที่ท่า Lerwick ของหมู่เกาะเช็ตแลนด์
......................................................................................................
ฉันตื่นมาตอนเช้า รีบเข้าห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัว
เรือใกล้จะถึงท่า Lerwick แล้ว
ตอนนี้ ท่า Lerwick กำลังรอเรือเข้ามาเทียบท่าตามนัดหมาย
พอถึงเวลา เรือก็เข้าเทียบท่า
และในที่สุด ฉันก็มาถึงหมู่เกาะเช็ตแลนด์แล้ว
มันคือสถานที่ทำงานแห่งใหม่ของฉัน
ที่สำคัญ มันสวยงามมาก
ยิ่งเดินเข้าไปเรื่อยๆ ฉันก็สัมผัสได้ถึงความงาม ความสงบ
และความน่าทึ่งของเกาะนี้
ฉันเพลิดเพลินกับความงามของที่แห่งนี้มาก
ในที่สุด ฉันก็ได้กินอาหารเช้าเสียที
ในที่สุด ฉันก็เดินมาจนถึงจุดนัดพบของฉันกับเจอโรม
ใช่ค่ะ เจ้านายคนใหม่ของฉันมีชื่อว่าเจอโรม
จุดนัดพบของเราก็คือ Viking bus station
ฉันยืนรอประมาณ 30 นาที ก็มีรถบัสเล็กวิ่งเข้ามา
มันเหมือนกับที่เจอโรมบอกไว้ทางอีเมล
ฉันตื่นเต้นมาก ไม่รู้ว่าเขาจะรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร
มีชายวัยกลางคนค่อนข้างท้วมเดินลงมาหาฉัน
เขาทักฉันเป็นภาษาอังกฤษ
"แขกของคุณเจอโรมใช่ไหมครับ"
"ค่ะฉันเอง"
"เชิญขึ้นรถเลยครับ เรายังต้องไปอีกไกล
เรียกผมว่าทอมมี่นะครับ"
ฉันขึ้นรถตามที่เขาบอก
มองออกไปนอกหน้าต่าง ยังเห็นเรือที่ฉันมาจอดอยู่เลย
ฉันถามทอมมี่ "อีกนานไหมคะกว่าจะถึง"
ทอมมี่บอกว่าตอนนี้เราอยู่ที่ Lerwick
รถต้องแล่นขึ้นเหนือ และขึ้นแพเพื่อไปยังเกาะ Yell
จากนั้นก็ต้องขับไปอีกพักใหญ่ๆ
ขึ้นแพอีกครั้ง เพื่อไปยังเกาะ Unst
พอไปถึงเกาะ Unst แล้ว รถต้องแล่นจนไปถึงเหนือสุดของเกาะ
ตรงบริเวณ wick of skaw บ้านของเจอโรมอยู่ตรงนั้น
ฉันรู้สึกว่ามันไกลมาก แต่พอรถออกจนพ้นเขตเมือง
ก็จะพบภูมิทัศน์อัศจรรย์ที่ฉันตื่นตะลึงมาก
จนมาถึงช่วงที่รถต้องขึ้นแพเพื่อไปเกาะ yell
ทอมมี่บอกกับฉันว่า "คุณผู้หญิงจะลงไปสูดอากาศ
ตรงขอบแพชั้นบนสุดก็ได้นะครับ"
ฉันทำตามที่เขาบอก
รู้สึกดีเหมือนกันที่ได้มายืนบนนี้
บนนี้อากาศดีมาก
พอถึงเกาะ Yell รถก็แล่นต่อ
และเราก็ต้องข้ามแพอีกครั้ง
เมื่อมาถึงเกาะ Unst รถก็แล่นขึ้นเหนือเต็มที่
เพื่อตรงไปยัง wick of skaw ที่อยู่เหนือสุด
พอรถเลี้ยวอีกครั้ง ทอมมี่ก็จอดนิ่งสนิท
"ถึงบ้านของคุณเจอโรมแล้วครับ"