***********เส้นทางและ จขกท.เดียวกันกับ     https://ppantip.com/topic/39458484 **********

เมื่อผมอยากนั่งเรือกลับกรุงเทพฯ จากเกาะสมุย  
      
                              จากที่ผมเล่าเรื่องการเดินทางทางเรือจากกรุงเทพฯ ไปสงขลา ในปี 2515 ลงในพันทิพแล้ว จำได้ว่า ยังมีอีกครั้งหนึ่งที่ผมไปเที่ยวแล้วอยากนั่งเรือกลับมากรุงเทพฯ มาดูกันว่าปีไหน เรืออะไร
                              ทริปนี้ ผมเดินทางคนเดียวไปเที่ยวเกาะพะงันเป็นครั้งแรก ไปนอนบังกาโลที่หาดแม่หาด หาดท้องตาปานและหาดยาว ราว ๆ 7-8 วัน ช่วงนั้นทราบว่ามีเรือโดยสารแล่นไปกลับเส้นทางกรุงเทพฯ-สมุย-สงขลา จึงอยากจะกลับเส้นทางนี้ ว่าจะต่างจากที่นั่งครั้งโน้นมั้ย โดยนั่งเรือข้ามมาที่เกาะสมุย ลงเดินถามแถวท่าเรือหน้าทอนจนพบร้านจำหน่ายตั๋ว จึงจองตั๋วได้รับแจ้งว่าเรือออกจากสงขลามาแล้ว จะมาถึงเกาะสมุยราว ๆ ห้าหกโมงเย็น โดยให้มารอที่อ๊อฟฟิตตอนสี่โมงเย็น
                             ปรากฎว่าเมื่อถึงเวลานัด ผมมาที่ร้านได้รับแจ้งว่า เนื่องจากมีผมเป็นผู้โดยสารคนเดียวที่ขึ้นที่นี่ เรือจะไม่เสียเวลาเข้าจอดเทียบท่าเพื่อมารับผม แต่จะให้นั่งเรือเล็กไปส่งขึ้นเรือใหญ่กลางทะเลแทน จนเริ่มจะมืดพาผมไปส่งขึ้นเรือเฟอร์รี่ลำใหญ่ ชื่อ “จุไรรัตน์” กลางทะเล แต่ไม่จอดเพียงแต่แล่นช้าลงให้เรือเราแล่นไปเทียบข้างแล้วให้ข้ามไปขึ้นเรือ อืม.ม..มันแปลกดีนะ ๆ (มีท่านใดเคยเจอแบบนี้บ้างครับ)
                             ข้างเรือเขียนว่า “กรุงเทพฯ-สมุย-สงขลา โทร...........” “Jumbo Ferry” ที่หัวเรือ “จุไรรัตน์ JURAIRAT”สูง 4 ชั้น ดูจะใหญ่กว่าที่แล่นโดยสารแถวนี้ ทั้งบรรทุกรถยนต์ได้ 2 ชั้น มีทั้งภัตตาคาร ห้องนอน VIP   ห้องนั่ง VIP ห้องนั่งธรรมดาที่มีเคาท์เตอร์จำหน่ายเครื่องดื่มและของว่าง 24 ชม.ห้องน้ำและห้องอาบน้ำ เรามาดูรูปประกอบการโม้ของผมดีกว่า.......555……


หาดแม่หาด(เกาะพะงัน) ถ่ายจากเกาะม้าตอนน้ำลง จะเห็นหาดทรายเชื่อมถึงกัน


เอดี วิว รีสอร์ท อ่าวท้องตาปาน ซึ่งผมเป็นผู้เข้าพักเพียงคนเดียว เกือบทั้งหาด สงสัยตั้งแต่ต่อเรือหางยาวมาลงแล้ว เค้าบอกว่าเที่ยวสุดท้ายให้กลับทางรถยนต์นะ เพราะว่าด้านนี้(ตะวันออก)ของเกาะเริ่มมีมรสุมแล้ว แต่ยุคนี้เปิดบริการได้ตลอดปีแล้ว



แซนดีเบย์บังกาโล หาดยาว(ผมชอบที่สุดอยู่หลายวัน)


เรือด่วนส่งเสริมบริการที่ท่าเรือท้องศาลา เกาะพะงัน นั่งข้ามไปเกาะสมุย


ท่าเรือหน้าทอน เกาะสมุย


เรือเฟอร์รี่จุไรรัตน์ สูง 4 ชั้น  อยู่บนเรือระหว่างวันที่ 14-15 ตุลาคม 2533

                      ***********  ขอไปทำพิธีวันพ่อก่อนนะครับ แล้วจะมาเล่าต่อ  **********

มาต่อนะครับ

ห้องนั่ง VIP ชั้น 4 


ภัตตาคารชั้น 4 เปิดบริการเฉพาะกลางวัน


ห้องนั่งธรรมดา ชั้น 3 ที่มีเคาท์เตอร์จำหน่ายเครื่องดื่มและของว่าง 24 ชม.และคนสวย ประจำ.เรือ


ห้องอาบน้ำ (น่าจะเป็นเรือเก่าจากญี่ปุ่น เนื่องจากมีภาษาญี่ปุ่นติดอยู่เป็นส่วนใหญ่ และห้องอาบน้ำให้นั่งอาบกับม้านั่งเตี้ย ๆ กับอ่างแช่ตัวแบบออนเซน) 

ถามว่าได้ทดลองอาบมั้ย?? .......หะๆๆๆ ............

***********   แล้วจะมาเล่าต่อนะครับ  **********



**********************มาต่อครับ

สะพานเดินเรือ(ห้องควบคุมเรือ) เค้าเห็นผมไปลับ ๆ ล่อๆ อยู่ เลยเชิญเข้าไปอธิบายอุปกรณ์ต่าง ๆ ในห้องนี้ พร้อมทั้งอนุญาตให้ผมถือพังงาเรือ(ที่ควบคุมเรือฯ แปลกนะครับเรือเล็กมีพังงาใหญ่มาก เรือยิ่งใหญ่กลับเหลือเล็กนิดเดียว) และถ่ายรูปให้ด้วย 555….. ขอบพระคุณทุกท่านเป็นอย่างสูง


ดาดฟ้าชั้น 2 เป็นที่จอดรถยนต์ขนาดเล็ก รถขนาดใหญ่จอดชั้นล่างใต้ท้องเรือ (ด้านหลังจะเห็นชั้น 3 และภัตตาคารบนชั้น 4)

           ************* มาให้จบนะครับ...........**********


เรือเข้าปากอ่าวแล่นทวนแม่น้ำเจ้าพระยาขณะผ่านศาลากลาง จ.สมุทรปราการ


เข้าจอดท่ายูเอ็ฟเอ็ม ปู่เจ้าสมิงพราย จ.สมุทรปราการ สุดปลายทางให้ผู้โดยสารและขนสินค้าลง


รูปเรือจุไรรัตน์

          **************อยู่บนเรือระหว่างวันที่ 14-15 ตุลาคม 2533 ในการเดินทางกลับ เรือจะต้องมาถึงท่าปลายทางในเวลา 11.00 น. แต่ปรากฎว่ามีพายุ เรือจำเป็นต้องเปลี่ยนเส้นทางหลบ ไปทาง อ.สัตหีบ ก่อนแล้วถึงกลับมาเข้าปากอ่าวไทย ทำให้ถึงปลายทางในเวลา 17.00 น. นับว่าได้ของแถมโดยไม่ต้องเสียเงินเพิ่มแต่อย่างใด 5 5 5 สุขใจจริง ๆ   ……………*************

  ************************* จบรูปชุดนี้แล้วนะครับ.............
หากยังไม่เบื่อเรื่อง รูป เก่า ๆ บอกมานะครับจะได้เอามาให้ชมต่อ
หรือเอาหัวเรื่องให้เลือกดี............
ขอบคุณทุกท่านเลยนะครับ ที่ให้ความสนใจอ่านและสอบถาม
ให้กำลังใจ โดยเฉพาะ อ.สมยวงฯ ที่ตรวจ แนะนำให้จนสำเร็จ *************

***************  มีเรื่องเก่าเล่าใหม่อีกแล้วนะครับ........

               "เมื่อผมอยากไปดูช้างที่สุรินทร์" (2515)           https://ppantip.com/topic/39488206