ทำไมรู้สึกว่าการช่วยคน ต้องเตรียมตัวที่จะ ถูกเกลียด

ไม่ว่าจะญาติ พ่อ แม่ พี่น้อง เพื่อน แฟน ลูกค้า และทุกๆ คนใครเดือดร้อนมาหาเรา เราก็เต็มใจยินดีช่วยทุกคน ไม่ว่าจะทางเงิน การซัพพอร์ทคอนแทคเราเพื่อผลประโยชน์บางอย่าง ตอนช่วยเขาก็มองเราเป็นคนดี  ใจดี มีบุญคุณ แต่พอนานๆ ไปเขารอนแรมมาให้ช่วยอีก หรือบางคนช่วยไปแล้วห่างหายกันไป ไม่ได้ติดต่อกันก็เยอะ

ทุกคนกลับมามองเราว่า ทำไมตอนนั้นช่วยได้ตอนนี้ไม่ช่วยแล้วมาโจมตีว่า เห็นแก่ตัว ส่วนคนที่ห่างหายไป ดันมองว่าเราเป็นเจ้าหนี้ หรือเป็นผู้ร้าย เพราะทำให้เขารู้สึกเหมือนโดนเราดูถูก หรือเขาจะสัมผัสได้ว่าจริงๆ แล้วเราสมเพช

ตัวอย่างเช่น ครั้งนึง เคยช่วยเพื่อนที่เดือดร้อนการเงินไป เขาบอกจะทยอยคืนเดือนละ….แต่ผ่านไปเป็นปีก็ทำเฉย เราก็ไม่เคยทวง แต่เลือกที่จะห่างเพราะเหมือนซื้อใจไปแล้ว แต่ลูกหนี้กลับเกลียดเราทำเหมือนเราเป็นคนที่จ้องจะเอาเงินเขา ทั้งๆ ที่เราก็ไม่โอเค เลยไม่อยากยุ่ง

เหมือนเขาคงมองว่าเรามีเงิน ไม่เดือดร้อนหนิ ทำไมต้องคืน คิดว่าเราเห็นแก่ตัวตัว ไม่ยอมยกหนี้ให้กับเพื่อน ? ทั้งที่เราก็เห็นๆอยู่ว่าเขา กินหรู ซื้อแต่ของแพงมาอวด เรายังไม่ทวงซักครั้งเลย

กับบางคน หนักมากกว่านี้หลายเท่า แต่เราไม่นับว่าเพื่อนเลยไม่ลำบากใจซักเท่าไหร่ ตัดได้ก็ตัดเลย
ทุกวันนี้ก็ยังไม่เข็ดหลาบ ยังคอยช่วยคนอยู่เหมือนเดิม แต่เริ่มเตรียมใจแล้วว่าต้องโดนเกลียดเข้าซักวัน แล้วเกลียดกว่าคนที่ไม่เคยช่วย คนไม่ทำอะไรดันเป็นคนดีกว่าคนช่วยซ่ะงั้น

มันน่าเจ็บใจ มนุษย์ทุกวันนี้เป็นอะไรไปกันหมด แยกแยะผิดชอบ ชั่ว ดี ไม่ออกกันแล้วหรอ

ปล.ไม่รู้จะแท็กห้องไหนดึครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่