“ศิริกัญญา” ลับมีดรอเตรียมข้อมูล ศก.เปิดอภิปรายรัฐบาล เปรยอาจมี “ทักษิณ” เกี่ยวด้วย
https://www.matichon.co.th/clips/news_4439962

ศิริกัญญา ตันสกุล สส.พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมการเปิดอภิปรายรัฐบาล เผยตอนนี้เก็บข้อมูลได้ค่อนข้างมาก เป็นโอกาสดีที่จะได้เสนอแนะถึงคณะรัฐมนตรี ยังไม่เคาะจะเป็นการอภิปรายทั่วไปหรืออภิปรายไม่ไว้วางใจ เผยอาจมีเรื่อง “ทักษิณ ชินวัตร” รวมอยู่ด้วย เพราะเกี่ยวข้องกับเรื่องมาตรฐานในการปฏิบัติโดยที่ไม่มีการเลือกปฏิบัติ เป็นผู้ต้องขังแบบใด ติดตามรายละเอียดจากคลิปด้านล่างนี้

---

นักวิชาการโวยรัฐไม่รับฟัง ประกาศล่าชื่อเลิก ‘คุมเหล้า’ จี้ดันสุราชุมชนเข้าลิสต์ซอฟต์พาวเวอร์
https://www.matichon.co.th/local/news_4440138

นักวิชาการโวยรัฐไม่รับฟัง ประกาศล่าชื่อเลิก ‘คุมเหล้า’ จี้ดันสุราชุมชนเข้าลิสต์ซอฟต์พาวเวอร์
 
เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ที่ร้าน Hop & Hope Craft Beer อาคาร The Quarter ลาดพร้าว ซอย 4 สมาคมผู้ประกอบการท่องเที่ยวและบริการ โรงแรม และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นำโดย สมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจคราฟท์เบียร์ (สมาคมคราฟท์เบียร์) รวมตัวจัดงานเสวนาเพื่อแสดงเจตจำนงคัดค้านร่างประกาศคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เรื่อง หลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขเกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์ฉลาก พร้อมทั้งข้อความคำเตือน สำหรับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ผลิตหรือนำเข้า พ.ศ. …
 
บรรยากาศเวลา 15.00 น. ตัวแทนเครือข่ายผู้ประกอบการธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ร่วมพูดคุยถึงข้อเท็จจริง พร้อมแสดงความคิดเห็นต่อร่างประกาศดังกล่าว ท่ามกลางผู้ประกอบการเข้าร่วมรับฟังอย่างล้นหลาม รวมถึง นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ร่วมฟังความคิดเห็นครั้งนี้
ในตอนหนึ่งของการแสดงความเห็น ผศ.ดร.เจริญ เจริญชัย นักวิชาการผู้เสนอร่าง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กล่าวว่า ตนทำงานเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มา 3-4 ปีแล้ว ตอนนั้นถามเขาว่าจะแก้อะไรไหม เขาก็ไม่แก้ ต่อมาได้ข่าวจากเพื่อนฝูงเห็น ม.77 ที่ออกมาพร้อมรัฐธรรมนูญ 2560 เราเลยบอกประชาชนให้ไปแก้ร่าง ตั้งใจล่าหมื่นรายชื่อยื่นเข้าสภา หลังจากเรายื่นแก้ไปแล้วกลับมีประกาศออกมาอีก
 
“เขาหลับหูหลับตา ค้านหัวชนฝา เขาไม่น่ารับฟัง ประชาชน แม้แต่ ส.ส.ที่เขาขึ้นไปอภิปรายเขาก็อยากให้ผ่อนคลายทั้งนั้นเลย เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่พอออกมาแบบนี้แสดงว่าหลับหูหลับตา ไม่สนใจ หัวชนฝา เหมือนแค่จะทำ” ผศ.ดร.เจริญเผย
 
ผศ.ดร.เจริญกล่าวว่า เรื่องนี้ต่อสู้มา 10 ปีแล้ว ตั้งแต่ตอนนั้นเขาไม่เซ็นแก้ไข แล้วการรับฟังความคิดเห็นของเขามันก็ทำเป็นพิธี เหมือนเรื่องการห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ออนไลน์ จัดงานเสวนาหมดค่าใช้จ่ายไปเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้เอาอะไรฟังเลย ทั้งที่เราถือป้ายอะไรเต็มไปหมด คัดค้านเขาแต่เขาก็ไม่ฟัง
 
ผศ.ดร.เจริญกล่าวต่อว่า รัฐบาลตอนนี้ส่งเสริม ซอฟต์พาวเวอร์ ซึ่งเขาน่าจะต้องสนใจเรื่อง สุราพื้นบ้าน ที่วันนี้เราเอามาหลายขวด แต่กลับต้องติดสติ๊กเกอร์ทับไว้
 
“สุราชุมชนมันทำให้เศรษฐกิจกระเตื้องขึ้นจำนวนมาก เขาจะมีการจ้างงานกันในท้องถิ่น โดยเขามีกฎว่าทุก 1,000 ขวด ต้องเปลี่ยนแบบ 1 ครั้ง และต้องมีถึง 6 แบบ ผมว่าผู้ผลิตกว่า 50 เปอร์เซ็นต์จะเลิกทำ” ผศ.ดร.เจริญชี้
 
ผศ.ดร.เจริญกล่าวว่า เราไปญี่ปุ่น เหล้าสาเกมันดังไปทั่วโลกแล้ว แต่สุราท้องถิ่นของเราไม่เป็นที่รู้จัก มีแต่แบรนด์ที่ผูกขาดมานานแล้ว โดยเฉพาะสำหรับช่วงที่เลือกตั้งที่ผ่านมา เกิดปรากฏการณ์ขายเหล้ากันหมดโรงงานเลย
 
“ซอฟต์พาวเวอร์ตอนนี้กลายเป็นการลดภาษีไวน์นำเข้า แต่ยาดอง 2-3 ยี่ห้อ ที่ทำมาในรูปแบบของเครื่องดื่มบำรุงร่างกาย เขาต้องขึ้นราคา 3 บาทต่อขวด ซึ่งเป็นราคาไม่น้อย จนต้องขายราคา 27 บาท ทำให้คนต้องกลับไปกินยาดองโหลแล้ว มันกลายเป็นกินของผิดกฎหมาย แต่กลับจะช่วยแค่ของต่างประเทศ” ผศ.ดร.เจริญชี้
 
ผศ.ดร.เจริญกล่าวว่า ตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีอีกหลายมาตรการที่คณะกรรมการเห็นว่าอยากจะออกมาอีก ทั้งกรรมการด้านนโยบาย และกรรมการควบคุม ซึ่งก็มอบหมายจะให้กระทรวงสาธารณสุขดูแล
 
“ทีมงานเราจะผลักดันยกเลิก พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จากที่ครั้งก่อนเราส่งเข้าไปแก้ แต่ครั้งนี้เราจะขอยกเลิก คุณไม่ยอมอยู่เฉยๆ งั้นเราจะกำจัดคุณซะเลย ประชาชน 1 หมื่นคน เตรียมลงชื่อได้เลย” ผศ.ดร.เจริญกล่าว
 
ขณะที่ นายพงษ์พันธุ์ สืบแสงไทย นายกสมาคมบาร์เทนเดอร์ประเทศไทย กล่าวว่า เราต่อสู้เรื่องนี้มาตั้งแต่ปี 2014 ปัญหาฉลากมันเกิดขึ้นหลายปีแล้ว เราเคยชี้แจงว่ามันเป็นเพียงเหตุ
 
“เวลาเราทำงานเราจะพรีเซ็นต์ไวน์ 1 ขวด แล้วภาพที่มันออกมา กับสเต๊กที่กำลังจะแล่มันไม่สมเหตุสมผลระหว่างกัน มันเป็นเรื่องของอาหารและเครื่องดื่ม มันไม่เหมือนบุหรี่ที่คุณซื้อแล้วยัดใส่กระเป๋า ถ้าประกาศออกมาจริง เราก็คงต้องปรับตัวแล้ว ใส่ปลอกหุ้มขวด ติดโลโก้ไว้ข้างหน้า มันต้องไปถึงจุดนั้นเลยหรือ มันเป็นการแก้ที่ปลายเหตุ” นายพงษ์พันธุ์เผย
 
นายพงษ์พันธุ์กล่าวว่า ถ้าเราไปสิงคโปร์ ญี่ปุ่น เราเห็นเหล้าเบียร์เต็มไปหมด มันสร้างผลกระทบต่อเยาวชนตรงไหน ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศหรือไม่
 
“สถิติของการลดการสูบบุหรี่คุณก็ไม่ได้สำเร็จ คุณต้องให้ความรู้กับเยาวชน กับเด็ก ทำให้เขารู้ว่าดื่มเครื่องดื่มที่ถูกต้องป็นยังไง กินแบบไหน นี่คือสิ่งที่เราพยายามทำ แต่กำลังเราไม่พอ
 
ถ้าบอกว่าเครื่องดื่มทำให้คนเมาแล้วขับ คุณไปแก้กฎหมายเอาผิดตรงนั้นนั้น ฉลากของเรามันเป็นฉลากมันเป็นตำนาน เมื่อก่อนมันเป็นยารักษาโรคมาก่อน โดยเฉพาะฉลากเหล้า ไวน์ มันบอกเรื่องราวต่างๆ คุณเคยกินสก๊อตวิสกี้ ฉลาก 1 อันบอกวิธีการทำ วิธีการเล่าเรื่อง แต่เรื่องแบบนี้ไม่เคยบอกในห้องเรียน แต่เด็กต้องปีนรั้วออกมาลองเอง” นายพงษ์พันธุ์เผย
 
นายพงษ์พันธุ์กล่าวอีกว่า ฉลากเหล้ามันไม่ใช่แค่เครื่องดื่ม แอลกอฮอล์มันสร้างอาชีพและของสะสม คุณค่าของสินค้ามันมีมูลค่าหมด ฉลากที่ติดขึ้นอยู่ข้างขวดไวน์มันบอกปีผลิต หรือเปอร์เซ็นต์แอลกอฮอล์ จะมาบีบให้เล็กลงเพื่ออะไร มันทำให้ผู้บริโภคไม่เห็นข้อมูล
 
“หน้าที่ของบาร์เทนเดอร์คือคนที่พูดถึงเหล้าและควบคุมการดื่มของลูกค้า ไม่ใช่แค่กรอกให้เมาแล้วรับเงินลูกค้า มันต้องทำให้ลูกค้าเมาในระดับที่พอดี ให้เขากลับมาใหม่ ต่างประเทศถ้าเขาจับคนเมาแล้วบอกว่าเมาเพราะบาร์เทนเดอร์คนไหน ถูกจับนะ” นายพงษ์พันธุ์เผย
 
นายพงษ์พันธุ์กล่าวว่า ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้วที่ตนเสียเวลากับเรื่องนี้ 10 ปีผ่านไปยังวนอยู่เหมือนเดิม ตนก็ไปให้ความรู้กับน้องๆ และพยายามแก้ตำราเรียนของเขา กระทรวงก็ไม่รับ ตอนนี้มันกลายเป็นแก้ปลายเหตุ จังหวะนี้สุราชุมชนของเราดีหลายแบรนด์ น่าเสียดายมากถ้าของดีของเรามาติดทับโลโก้ ตอนส่งออกไปต่างประเทศ อยากบอกว่ามันไม่ใช่แค่เรื่องการผลิต แต่มันเป็นเรื่องประวัติศาสตร์ของเขา อยู่ในแสตมป์ อยู่ในโลโก้เขาด้วย
 
“ถ้ากฎหมายออกมาจริง ลูกค้าไทยอาจจะเข้าใจ แต่นักท่องเที่ยวไม่เข้าใจ ผมถามคำหนึ่งว่าถ้าจังหวะที่บาร์เทนเดอร์กำลังเสิร์ฟ ภาพของเขาต้องมาเจออะไรแบบนี้ ผมต้องทำอย่างไร ต้องเอากระดาษมาปิดหรือ” นายพงษ์พันธุ์เผย
 
นายพงษ์พันธุ์กล่าวด้วยว่า ถ้ามองถึงภาพกว้างไปเลย แค่ด้านการส่งออก เขาจะยอมให้เราส่งออกหรือเปล่า มันเป็นเรื่องที่ไม่น่าเป็นเรื่องเลย ตนคิดว่าทีมที่จะออกกฎมาอยากให้ศึกษาก่อน ไม่ใช่แค่เหมารวมว่าเหล้าเป็นเรื่องอันตราย แต่น้ำดื่มสีๆ ก็อันตราย ไม่งั้นต่อไปนี้ร้านหมูกรอบคงต้องติดฉลากบอกแคลอรี
 
นายพงษ์พันธุ์ระบุว่า ในส่วนของซอฟต์พาวเวอร์ พอเป็นแอลกอฮอล์เราไม่สามารถออกสื่ออะไรได้ เรารวมกลุ่มเอกชนผลักดันกันเอง ตามจริงแล้วบาร์เทนเดอร์เราเก่งมากๆ จนบางคนได้รางวัลระดับโลก จนต่างชาติบางคนบินตามมาลอง
 
“ค็อกเทลเป็นเหมือนศิลปะ ที่มีการสร้างสรรค์รสชาติ พอเราไม่ได้มีภาพในการสื่อสารออกไป มันจะทำให้ภาพติดอยู่กับภาพ เมื่อ 30 ปีที่แล้วมองว่าเหมือนเหล้าปั่น ที่ใส่อะไรก็ได้ให้แค่เมา เป็นแค่คนชงเหล้า” นายพงษ์พันธุ์เผย
 
นายพงษ์พันธุ์กล่าวว่า ทุกวันนี้เราต้องจัดงานกันแบบไม่สามารถออกสื่อได้ แต่เมื่อก่อนเราสามารถจัดการแข่งขันออกสื่อ ทีวี หนังสือพิมพ์ได้ แต่ตอนนี้จัดแบบอำเภอ หรือโพสต์ออนไลน์ยังจะถูกจับ ประเทศอื่นเขามีค็อกเทลของเขา เช่น สิงคโปร์ มีสิงคโปร์สลิง แต่ไทยไม่มี เรามีของที่จะทำได้แบบนั้น สามารถทำได้ว่าถ้านักท่องเที่ยวมาไทยต้องดื่มเครื่องดื่มนี้นะ แต่ตอนนี้เราเอาออกสื่อไม่ได้ เราจะโดนจับ
 
นายพงษ์พันธุ์กล่าวต่อว่า ประเทศไทยมี 77 จังหวัด ซึ่งมีเบียร์แตกต่างกัน มีสุราชุมชนต่างกัน มีรสชาติหลากหลาย พร้อมทั้งมีวัตถุดิบที่ดีอีกด้วย เรามีบาร์เทนเดอร์ที่เก่ง เราควรสื่อสารออกไป
 
“อยากให้รัฐบาลเอาไปอยู่ในนโยบายแล้วผลักดันเป็นซอฟต์พาวเวอร์หน่อย ทุกวันนี้ที่เราไปแข่งขันต่างประเทศกัน เขาก็ถามว่าทำไมคนไทยไม่ถ่ายรูป หรือทำข่าว เราอธิบายเรื่องกฎหมายเขาก็จะงงกัน มาถึงจุดหนึ่งถ้าเขาอยากจะทำฉลากอย่างนั้นจริงก็ทำฉลากขาวไปเลย จบ” นายพงษ์พันธุ์กล่าวทิ้งท้าย
 

---

ห่วงขายกระบะดิ่ง พิษหนี้ครัวเรือน โดนปฏิเสธสินเชื่อ 50% หวังงบ67 ฟื้นยอดขายปีนี้
https://www.matichon.co.th/economy/news_4440933

ห่วงขายกระบะดิ่ง พิษหนี้ครัวเรือน โดนปฏิเสธสินเชื่อ 50% หวังงบ67 ฟื้นยอดขายปีนี้

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า การผลิตรถยนต์ทั้งหมดในเดือนมกราคม 2567 ทั้งสิ้น 142,102 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 12.46% ขณะที่การผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) มกราคมอยู่ที่ 652 คัน จากปีที่แล้วผลิตได้แค่ 7 คัน คาดว่าปีนี้จะมีอีวีจดทะเบียนใหม่เกินกว่า 10,000 คัน ส่วนยอดผลิตทั้งปีคาดอยู่ที่ 50,000-100,000 คัน เนื่องจากผู้ผลิตและจำหน่ายรับเงื่อนไขสนับสนุนจากรัฐบาลจากแพคเกจอีวี3.0 ในช่วง 2 ปีที่มียอดนำเข้าระดับ 80,000-90,000 หมื่นคัน จึงต้องผลิตชดเชยอัตรา 1 ต่อ 1

ด้านยอดขายรถยนต์ภายในประเทศเดือนมกราคม จำนวน 54,814 คัน ลดลง 16.42% เพราะรถกระบะมียอดขายแค่ 14,864 คัน ลดลงถึง 43.47% จากการเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงิน เนื่องจากหนี้ครัวเรือนสูงมาก ขณะที่รถบรรทุกขายลด 32.01% จากงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ล่าช้าหลายเดือน ทำให้การลงทุน การใช้จ่าย และการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลล่าช้าไปไปด้วย เศรษฐกิจของประเทศขยายตัวระดับต่ำตั้งแต่ไตรมาสสี่ปี 2566 ขณะที่ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภทไฟฟ้า100% หรือบีอีวี เดือนมกราคม มียอดจดทะเบียนใหม่ 15,943 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้ว 238.71% ทำให้มียานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภทบีอีวี ณ วันที่ 31 มกราคม 2567 จำนวน 147,743 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 301.75%