สวัสดีค่ะ วันนี้จะมาแนะนำการเตรียมตัวสอบ TOEFL ITP ด้วยตัวเองค่ะ โดยเราได้ไปสอบมาเมื่อปลายเดือนธันวาคม ปี 2566 ที่ผ่านมา ได้คะแนน 637/677 แปลผลว่าระดับภาษาอังกฤษอยู่ที่ระดับ C1 หรือ Advanced ในทุกพาร์ตค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
TOEFL ITP เป็นข้อสอบที่ออกโดยสถาบันการศึกษา ETS มีจุดประสงค์หลัก ๆ เพื่อใช้ยื่นเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา ส่วนจุดประสงค์อื่น ๆ ก็เช่น เพื่อวัดระดับภาษาอังกฤษของผู้สอบค่ะ
ลักษณะข้อสอบของ TOEFL ITP จะเป็นข้อสอบกาหรือ choice ล้วน ๆ ประกอบด้วย
Section 1: Listening จำนวน 50 ข้อ เวลาสอบ 35 นาที
Section 2: Grammar จำนวน 40 ข้อ เวลาสอบ 25 นาที
Section 3: Reading จำนวน 50 ข้อ เวลาสอบ 55 นาที
รวม 140 ข้อ 115 นาทีค่ะ
จะเห็นว่าเวลาสอบน้อยมาก ๆ ดังนั้นการบริหารเวลาระหว่างการสอบสำคัญมากค่ะ เราแนะนำมาก ๆ ถึงมากที่สุดให้ใส่นาฬิกาข้อมือค่ะ เพราะส่วนใหญ่ผู้คุมสอบจะบอกแค่ตอนเหลือเวลาแค่ 10, 5, และ 1 นาที ซึ่งเราอยากดูเวลาบ่อยกว่านั้น แล้วก็บางศูนย์สอบจะให้ใส่แค่นาฬิกาแบบเข็ม ห้ามแบบดิจิทัลด้วยนะคะ
*ข้อสอบ TOEFL ITP อนุญาตให้ผู้เข้าสอบทำข้อสอบแต่ละพาร์ตตามเวลาที่กำหนดเท่านั้น สมมติว่าทำข้อสอบ Reading เสร็จก่อนหมดเวลา จะย้อนกลับไปทำข้อสอบ Listening หรือ Grammar ไม่ได้นะคะ*
รายละเอียดของแต่ละพาร์ต การเตรียมตัว และข้อแนะนำของเรา
- Listening
พาร์ต Listening จะเป็นการฟังการสนทนาระหว่างคน 2 คน และการฟังเลกเชอร์ มีการพูดเพียงครั้งเดียว ไม่มีการเปิดเทปซ้ำ ผู้พูดจะใช้สำเนียงแบบอเมริกัน ซึ่งก็สมเหตุสมผลเพราะ TOEFL เป็นข้อสอบสำหรับคนที่จะไปเรียนต่อที่อเมริกาค่ะ
พาร์ต Listening ประกอบด้วย 3 ส่วนย่อย คือ
A. Short conversation เป็นการสนทนาประโยคสั้น ๆ ระหว่างคน 2 คน (1 การสนทนา ต่อคำถาม 1 ข้อ)
B. Long conversation ประโยคจะยาวกว่า A (1 การสนทนา จะมีคำถามประมาณ 2-3 ข้อ)
C. Lecture คล้ายกับการฟังเลกเชอร์อาจารย์ในห้องเรียนมหาวิทยาลัย จะยาวกว่า long conversation มาก ๆ (ใน 1 เลกเชอร์ จะมีคำถามประมาณ 3-5 ข้อ)
*พอดีจำรายละเอียดข้อสอบไม่ค่อยได้แล้ว ถ้าเขียนข้อมูลผิดตรงไหน คอมเมนต์บอกได้เลยนะคะ
การเตรียมตัวสำหรับพาร์ต Listening ก็เป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจากฟังภาษาอังกฤษให้เยอะเข้าไว้ค่ะ ลองเลือกสิ่งที่คุณสนใจแล้วฟังสิ่งนั้นเป็นภาษาอังกฤษ คือพอเป็นสิ่งที่เราชอบ เราจะไม่รู้สึกฝืนในการฟังค่ะ ส่วนนี้เราแนะนำซีรีส์ หนัง วิดีโอ หรือพอดแคสต์ต่าง ๆ ที่มีการพูดคุยกันค่ะ เพราะคล้ายกับในข้อสอบที่สุดแล้ว ถ้าคุณฟังอย่างเดียวแล้วไม่เข้าใจ ช่วงแรก ๆ อาจจะลองเปิดซับไทยหรือซับอังกฤษดูก่อน แล้วค่อย ๆ ปรับเป็นเปิดซับแค่บางช่วงที่ฟังไม่ออกจริง ๆ ไปจนถึงฟังทั้งหมดแบบไม่มีซับค่ะ
ข้อแนะนำของเราสำหรับพาร์ตนี้ คือสนใจแค่ข้อสอบนะคะ สมมติว่าคนข้าง ๆ ทำยางลบตกก็ไม่ต้องไปมองนะคะ มันจะทำให้เราเสียสมาธิค่ะ เราอาจจะลืมฟังโจทย์ข้อต่อไปถ้ามัวแต่มอง แล้วก็จะเสียคะแนนไปแบบน่าเสียดายเลยค่ะ แล้วก็ถ้าข้อไหนฟังไม่ทันก็เลือกข้อที่คิดว่าน่าจะใช่ที่สุดค่ะ แล้วขยับไปข้อถัดไปเลยนะคะ ไม่ต้องแบบกังวลว่าแบบ ตายละ ข้อนี้ฟังไม่ทัน ทำไงดี ถ้ามัวแต่ไปคิดถึงข้อที่แล้ว จะเสียสมาธิในการทำข้อต่อ ๆ ไป เผลอ ๆ จากที่เสียข้อเดียวอาจจะเสียหลายข้อเลยค่ะ
- Grammar
พาร์ต Grammar ประกอบด้วย 2 ส่วนคือ
1. เติมคำลงในช่องว่าง
2. Error Identification
การเตรียมตัวสำหรับพาร์ต Grammar คือใช้ภาษาอังกฤษให้มาก ๆ ทั้งฟัง พูด อ่าน เขียน จนคุ้นเคยกับรูปแบบประโยคต่าง ๆ ค่ะ เราว่าวิธีที่ง่ายสุดคือเล่นโซเชียล หรือเขียนไดอารี่เป็นภาษาอังกฤษค่ะ สมมติว่าคุณอยู่ในด้อมด้อมนึง คุณอาจจะลองไปส่องหรือไปมีส่วนร่วมกับแฟน ๆ นานาชาติของด้อมนั้นดูค่ะ อย่างใน Twitter ที่หลายคนน่าจะมีกันอยู่แล้ว หรือ Reddit ที่คล้าย ๆ Pantip แต่ใช้ภาษาอังกฤษค่ะ แล้วก็ถ้าไม่แน่ใจอะไร ถาม Google เป็นวิธีที่ง่ายและรวดเร็วที่สุดค่ะ
วิธีใช้ Google ตรวจไวยากรณ์ของประโยคที่เราเขียน
- สมมติว่าคุณไม่แน่ใจว่าประโยค "She can swim" ต้องเติม s ที่คำว่า swim มั้ย ลองค้นหาคำว่า “she can swim or swims” คุณก็จะเห็นผลการค้นหาแรก ๆ มีการอธิบายไว้ว่า ไม่ต้องเติม s เพราะอะไร
- หรือสมมติคุณไม่แน่ใจว่าคำนาม conversation ที่แปลว่าการสนทนา เป็นนามนับได้หรือนับไม่ได้ ลองค้นหาว่า “conversation countable or uncountable”
*ที่สำคัญคืออย่าลืมดูความน่าเชื่อถือของเว็บด้วย เช่นเว็บ Quora ที่มักจะเป็นผลการค้นหาแรก ๆ Quora เป็นเว็บบอร์ด ใครจะมาตอบก็ได้ คนที่มาตอบอาจจะรู้จริงหรือไม่ก็ได้ แต่ว่าส่วนใหญ่ก็ถูกนะคะ ถ้ามีเวลาก็อยากให้ดูคร่าว ๆ หลาย ๆ เว็บ ถ้าบอกตรงกันก็มีโอกาสถูกสูงค่ะ
ข้อแนะนำของเราสำหรับพาร์ตนี้คือ เลือกเติมคำแบบที่เราคุ้น ๆ เคยเห็น เคยได้ยิน และเลือกตัว error แบบที่ดูแปลก ๆ ไม่เคยเห็นใครใช้กัน บางคนอาจจะคิดว่าก็แหงดิวะ แต่เราใช้วิธีนี้จริง ๆ ค่ะ คือถ้ามีความคุ้นเคยกับรูปประโยคต่าง ๆ ระดับนึง พอเจอประโยคที่ใช้ไวยากรณ์ผิด มันจะรู้สึกแบบ เอ๊ะ ใช่เหรอ (แต่การใช้เซนส์ก็ไม่ได้ถูกเสมอไปนะคะ 555) ส่วนการท่องจำโครงสร้างประโยค ส่วนใหญ่เราไม่ค่อยได้จำค่ะ คือเวลาสอบมีน้อยมาก กว่าจะนึกออกว่าประโยคแบบนี้เรียกว่าอะไร มีโครงสร้างยังไง อาจจะทำไม่ทันได้ค่ะ แต่สำหรับคนที่จำโครงสร้างจนเชี่ยวชาญแล้วก็ไม่มีปัญหาเช่นกันค่ะ
- Reading
พาร์ต Reading จะมีรูปแบบเดียวคือ มีบทความให้อ่านเพื่อตอบคำถามประมาณ 8-10 ข้อค่ะ มีทั้งหมด 4-5 บทความ รวม 50 ข้อ พาร์ตนี้มีความท้าทายเรื่องการบริหารเวลามาก ๆ ค่ะ คำถามจะมีหลายแนว เน้นตรวจสอบความเข้าใจของเราเป็นหลัก
การเตรียมตัวสำหรับพาร์ต Reading คืออ่านบทความ ข่าว หรืออะไรก็ได้ที่คุณสนใจเป็นภาษาอังกฤษบ่อย ๆ ค่ะ ถ้าเป็นไปได้ อ่านให้มากจนเข้าใจโดยไม่ต้องแปลเป็นภาษาไทยก่อน เช่น สมมติว่าคุณเห็นประโยค “She can run really fast” คุณจะเข้าใจเลยหรือมีภาพในหัวเป็นผู้หญิงวิ่งเร็ว โดยที่ไม่ต้องนึกว่าประโยคนี้แปลเป็นไทยว่า “เธอสามารถวิ่งได้เร็วมาก” ก่อนที่จะ อ๋อ แบบนี้นี่เอง
ส่วนเรื่องคำศัพท์ เราแนะนำให้เล่นเกมหรือฟังเพลงภาษาอังกฤษค่ะ สมมติว่าเรานั่งจดศัพท์ที่ออกข้อสอบบ่อยแล้วนั่งท่อง เราคิดว่าน่าจะจำได้ไม่ดีเท่าคำศัพท์ที่เจอในเกม เพลง หรืออะไรที่เราสนใจค่ะ แต่การท่องศัพท์ หรือการใช้ flash card ก็เป็นวิธีที่หลายคนใช้แล้วได้ผลเช่นกันค่ะ และที่สำคัญ คุณไม่จำเป็นต้องรู้คำศัพท์ทุกคำนะคะ เพราะบางทีเราสามารถอาศัย context หรือบริบทแวดล้อมของคำนั้นแล้วเดาความหมายได้ค่ะ
ข้อแนะนำของเราคือ ถ้าคุณสามารถเข้าใจภาษาอังกฤษโดยไม่ต้องแปลเป็นไทยทุกคำก่อน คุณน่าจะทำพาร์ตนี้ได้ดีค่ะ เพราะเวลาสอบมีน้อยมาก ถ้าคุณแปลเป็นไทยทุกคำอาจจะทำไม่ทันค่ะ
สุดท้ายคือ
แหล่งเรียนรู้ฟรีสำหรับการเตรียมตัวสอบ TOEFL ITP ค่ะ
-
https://www.ets.org/toefl/itp/prepare.html เว็บออฟฟิเชียลของ ETS ผู้ออกข้อสอบ TOEFL ในเว็บนี้จะมีตัวอย่างข้อสอบหลายฉบับให้ได้ลองทำค่ะ
-
https://www.youtube.com/@TSTPrep ช่อง TST Prep TOEFL ใน YouTube เป็นสถาบันติวออนไลน์ แต่เขามีคลิปฟรีดี ๆ เยอะเลยค่ะ ช่องนี้ช่วยบอกข้อแนะนำที่มีประโยชน์ รวมถึงข้อผิดพลาดของผู้สอบส่วนใหญ่ด้วย ถ้าคุณเป็นสายดูวิดีโอสอน เราแนะนำช่องนี้ค่ะ
-
https://www.ets.org/s/toefl-itp/l1v3_ebook/itp-practice-test-level-1-volume-3-ebook.pdf ส่วน PDF นี้ เราไปเจอมาจาก Google ค่ะ คิดว่าไม่ได้ผิดลิขสิทธิ์นะคะเพราะมาจากเว็บของ ETS เอง แต่เวลาหาจากเว็บ ETS เราหาไม่เจอค่ะ งงไปอีก 555 อีกอย่างคือไม่รู้ว่าจะฟังคลิปเสียงพาร์ต Listening ได้ที่ไหน ใครรู้แหล่งช่วยบอกบุญด้วยนะคะ
หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจสอบทุกท่าน และขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ
แชร์วิธีเตรียมตัวสอบ TOEFL ITP ด้วยตัวเอง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
TOEFL ITP เป็นข้อสอบที่ออกโดยสถาบันการศึกษา ETS มีจุดประสงค์หลัก ๆ เพื่อใช้ยื่นเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา ส่วนจุดประสงค์อื่น ๆ ก็เช่น เพื่อวัดระดับภาษาอังกฤษของผู้สอบค่ะ
ลักษณะข้อสอบของ TOEFL ITP จะเป็นข้อสอบกาหรือ choice ล้วน ๆ ประกอบด้วย
Section 1: Listening จำนวน 50 ข้อ เวลาสอบ 35 นาที
Section 2: Grammar จำนวน 40 ข้อ เวลาสอบ 25 นาที
Section 3: Reading จำนวน 50 ข้อ เวลาสอบ 55 นาที
รวม 140 ข้อ 115 นาทีค่ะ
จะเห็นว่าเวลาสอบน้อยมาก ๆ ดังนั้นการบริหารเวลาระหว่างการสอบสำคัญมากค่ะ เราแนะนำมาก ๆ ถึงมากที่สุดให้ใส่นาฬิกาข้อมือค่ะ เพราะส่วนใหญ่ผู้คุมสอบจะบอกแค่ตอนเหลือเวลาแค่ 10, 5, และ 1 นาที ซึ่งเราอยากดูเวลาบ่อยกว่านั้น แล้วก็บางศูนย์สอบจะให้ใส่แค่นาฬิกาแบบเข็ม ห้ามแบบดิจิทัลด้วยนะคะ
*ข้อสอบ TOEFL ITP อนุญาตให้ผู้เข้าสอบทำข้อสอบแต่ละพาร์ตตามเวลาที่กำหนดเท่านั้น สมมติว่าทำข้อสอบ Reading เสร็จก่อนหมดเวลา จะย้อนกลับไปทำข้อสอบ Listening หรือ Grammar ไม่ได้นะคะ*
รายละเอียดของแต่ละพาร์ต การเตรียมตัว และข้อแนะนำของเรา
- Listening
พาร์ต Listening จะเป็นการฟังการสนทนาระหว่างคน 2 คน และการฟังเลกเชอร์ มีการพูดเพียงครั้งเดียว ไม่มีการเปิดเทปซ้ำ ผู้พูดจะใช้สำเนียงแบบอเมริกัน ซึ่งก็สมเหตุสมผลเพราะ TOEFL เป็นข้อสอบสำหรับคนที่จะไปเรียนต่อที่อเมริกาค่ะ
พาร์ต Listening ประกอบด้วย 3 ส่วนย่อย คือ
A. Short conversation เป็นการสนทนาประโยคสั้น ๆ ระหว่างคน 2 คน (1 การสนทนา ต่อคำถาม 1 ข้อ)
B. Long conversation ประโยคจะยาวกว่า A (1 การสนทนา จะมีคำถามประมาณ 2-3 ข้อ)
C. Lecture คล้ายกับการฟังเลกเชอร์อาจารย์ในห้องเรียนมหาวิทยาลัย จะยาวกว่า long conversation มาก ๆ (ใน 1 เลกเชอร์ จะมีคำถามประมาณ 3-5 ข้อ)
*พอดีจำรายละเอียดข้อสอบไม่ค่อยได้แล้ว ถ้าเขียนข้อมูลผิดตรงไหน คอมเมนต์บอกได้เลยนะคะ
การเตรียมตัวสำหรับพาร์ต Listening ก็เป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจากฟังภาษาอังกฤษให้เยอะเข้าไว้ค่ะ ลองเลือกสิ่งที่คุณสนใจแล้วฟังสิ่งนั้นเป็นภาษาอังกฤษ คือพอเป็นสิ่งที่เราชอบ เราจะไม่รู้สึกฝืนในการฟังค่ะ ส่วนนี้เราแนะนำซีรีส์ หนัง วิดีโอ หรือพอดแคสต์ต่าง ๆ ที่มีการพูดคุยกันค่ะ เพราะคล้ายกับในข้อสอบที่สุดแล้ว ถ้าคุณฟังอย่างเดียวแล้วไม่เข้าใจ ช่วงแรก ๆ อาจจะลองเปิดซับไทยหรือซับอังกฤษดูก่อน แล้วค่อย ๆ ปรับเป็นเปิดซับแค่บางช่วงที่ฟังไม่ออกจริง ๆ ไปจนถึงฟังทั้งหมดแบบไม่มีซับค่ะ
ข้อแนะนำของเราสำหรับพาร์ตนี้ คือสนใจแค่ข้อสอบนะคะ สมมติว่าคนข้าง ๆ ทำยางลบตกก็ไม่ต้องไปมองนะคะ มันจะทำให้เราเสียสมาธิค่ะ เราอาจจะลืมฟังโจทย์ข้อต่อไปถ้ามัวแต่มอง แล้วก็จะเสียคะแนนไปแบบน่าเสียดายเลยค่ะ แล้วก็ถ้าข้อไหนฟังไม่ทันก็เลือกข้อที่คิดว่าน่าจะใช่ที่สุดค่ะ แล้วขยับไปข้อถัดไปเลยนะคะ ไม่ต้องแบบกังวลว่าแบบ ตายละ ข้อนี้ฟังไม่ทัน ทำไงดี ถ้ามัวแต่ไปคิดถึงข้อที่แล้ว จะเสียสมาธิในการทำข้อต่อ ๆ ไป เผลอ ๆ จากที่เสียข้อเดียวอาจจะเสียหลายข้อเลยค่ะ
- Grammar
พาร์ต Grammar ประกอบด้วย 2 ส่วนคือ
1. เติมคำลงในช่องว่าง
2. Error Identification
การเตรียมตัวสำหรับพาร์ต Grammar คือใช้ภาษาอังกฤษให้มาก ๆ ทั้งฟัง พูด อ่าน เขียน จนคุ้นเคยกับรูปแบบประโยคต่าง ๆ ค่ะ เราว่าวิธีที่ง่ายสุดคือเล่นโซเชียล หรือเขียนไดอารี่เป็นภาษาอังกฤษค่ะ สมมติว่าคุณอยู่ในด้อมด้อมนึง คุณอาจจะลองไปส่องหรือไปมีส่วนร่วมกับแฟน ๆ นานาชาติของด้อมนั้นดูค่ะ อย่างใน Twitter ที่หลายคนน่าจะมีกันอยู่แล้ว หรือ Reddit ที่คล้าย ๆ Pantip แต่ใช้ภาษาอังกฤษค่ะ แล้วก็ถ้าไม่แน่ใจอะไร ถาม Google เป็นวิธีที่ง่ายและรวดเร็วที่สุดค่ะ
วิธีใช้ Google ตรวจไวยากรณ์ของประโยคที่เราเขียน
- สมมติว่าคุณไม่แน่ใจว่าประโยค "She can swim" ต้องเติม s ที่คำว่า swim มั้ย ลองค้นหาคำว่า “she can swim or swims” คุณก็จะเห็นผลการค้นหาแรก ๆ มีการอธิบายไว้ว่า ไม่ต้องเติม s เพราะอะไร
- หรือสมมติคุณไม่แน่ใจว่าคำนาม conversation ที่แปลว่าการสนทนา เป็นนามนับได้หรือนับไม่ได้ ลองค้นหาว่า “conversation countable or uncountable”
*ที่สำคัญคืออย่าลืมดูความน่าเชื่อถือของเว็บด้วย เช่นเว็บ Quora ที่มักจะเป็นผลการค้นหาแรก ๆ Quora เป็นเว็บบอร์ด ใครจะมาตอบก็ได้ คนที่มาตอบอาจจะรู้จริงหรือไม่ก็ได้ แต่ว่าส่วนใหญ่ก็ถูกนะคะ ถ้ามีเวลาก็อยากให้ดูคร่าว ๆ หลาย ๆ เว็บ ถ้าบอกตรงกันก็มีโอกาสถูกสูงค่ะ
ข้อแนะนำของเราสำหรับพาร์ตนี้คือ เลือกเติมคำแบบที่เราคุ้น ๆ เคยเห็น เคยได้ยิน และเลือกตัว error แบบที่ดูแปลก ๆ ไม่เคยเห็นใครใช้กัน บางคนอาจจะคิดว่าก็แหงดิวะ แต่เราใช้วิธีนี้จริง ๆ ค่ะ คือถ้ามีความคุ้นเคยกับรูปประโยคต่าง ๆ ระดับนึง พอเจอประโยคที่ใช้ไวยากรณ์ผิด มันจะรู้สึกแบบ เอ๊ะ ใช่เหรอ (แต่การใช้เซนส์ก็ไม่ได้ถูกเสมอไปนะคะ 555) ส่วนการท่องจำโครงสร้างประโยค ส่วนใหญ่เราไม่ค่อยได้จำค่ะ คือเวลาสอบมีน้อยมาก กว่าจะนึกออกว่าประโยคแบบนี้เรียกว่าอะไร มีโครงสร้างยังไง อาจจะทำไม่ทันได้ค่ะ แต่สำหรับคนที่จำโครงสร้างจนเชี่ยวชาญแล้วก็ไม่มีปัญหาเช่นกันค่ะ
- Reading
พาร์ต Reading จะมีรูปแบบเดียวคือ มีบทความให้อ่านเพื่อตอบคำถามประมาณ 8-10 ข้อค่ะ มีทั้งหมด 4-5 บทความ รวม 50 ข้อ พาร์ตนี้มีความท้าทายเรื่องการบริหารเวลามาก ๆ ค่ะ คำถามจะมีหลายแนว เน้นตรวจสอบความเข้าใจของเราเป็นหลัก
การเตรียมตัวสำหรับพาร์ต Reading คืออ่านบทความ ข่าว หรืออะไรก็ได้ที่คุณสนใจเป็นภาษาอังกฤษบ่อย ๆ ค่ะ ถ้าเป็นไปได้ อ่านให้มากจนเข้าใจโดยไม่ต้องแปลเป็นภาษาไทยก่อน เช่น สมมติว่าคุณเห็นประโยค “She can run really fast” คุณจะเข้าใจเลยหรือมีภาพในหัวเป็นผู้หญิงวิ่งเร็ว โดยที่ไม่ต้องนึกว่าประโยคนี้แปลเป็นไทยว่า “เธอสามารถวิ่งได้เร็วมาก” ก่อนที่จะ อ๋อ แบบนี้นี่เอง
ส่วนเรื่องคำศัพท์ เราแนะนำให้เล่นเกมหรือฟังเพลงภาษาอังกฤษค่ะ สมมติว่าเรานั่งจดศัพท์ที่ออกข้อสอบบ่อยแล้วนั่งท่อง เราคิดว่าน่าจะจำได้ไม่ดีเท่าคำศัพท์ที่เจอในเกม เพลง หรืออะไรที่เราสนใจค่ะ แต่การท่องศัพท์ หรือการใช้ flash card ก็เป็นวิธีที่หลายคนใช้แล้วได้ผลเช่นกันค่ะ และที่สำคัญ คุณไม่จำเป็นต้องรู้คำศัพท์ทุกคำนะคะ เพราะบางทีเราสามารถอาศัย context หรือบริบทแวดล้อมของคำนั้นแล้วเดาความหมายได้ค่ะ
ข้อแนะนำของเราคือ ถ้าคุณสามารถเข้าใจภาษาอังกฤษโดยไม่ต้องแปลเป็นไทยทุกคำก่อน คุณน่าจะทำพาร์ตนี้ได้ดีค่ะ เพราะเวลาสอบมีน้อยมาก ถ้าคุณแปลเป็นไทยทุกคำอาจจะทำไม่ทันค่ะ
สุดท้ายคือแหล่งเรียนรู้ฟรีสำหรับการเตรียมตัวสอบ TOEFL ITP ค่ะ
- https://www.ets.org/toefl/itp/prepare.html เว็บออฟฟิเชียลของ ETS ผู้ออกข้อสอบ TOEFL ในเว็บนี้จะมีตัวอย่างข้อสอบหลายฉบับให้ได้ลองทำค่ะ
- https://www.youtube.com/@TSTPrep ช่อง TST Prep TOEFL ใน YouTube เป็นสถาบันติวออนไลน์ แต่เขามีคลิปฟรีดี ๆ เยอะเลยค่ะ ช่องนี้ช่วยบอกข้อแนะนำที่มีประโยชน์ รวมถึงข้อผิดพลาดของผู้สอบส่วนใหญ่ด้วย ถ้าคุณเป็นสายดูวิดีโอสอน เราแนะนำช่องนี้ค่ะ
- https://www.ets.org/s/toefl-itp/l1v3_ebook/itp-practice-test-level-1-volume-3-ebook.pdf ส่วน PDF นี้ เราไปเจอมาจาก Google ค่ะ คิดว่าไม่ได้ผิดลิขสิทธิ์นะคะเพราะมาจากเว็บของ ETS เอง แต่เวลาหาจากเว็บ ETS เราหาไม่เจอค่ะ งงไปอีก 555 อีกอย่างคือไม่รู้ว่าจะฟังคลิปเสียงพาร์ต Listening ได้ที่ไหน ใครรู้แหล่งช่วยบอกบุญด้วยนะคะ
หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจสอบทุกท่าน และขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ