(ค่าใช้จ่าย; หนังสือฝึก 336 + ค่าสอบ 1,850 รวม 2,186 บาท)
_____________________________________
ต้องบอกก่อนว่าตั้งใจสอบ TOEIC มาตลอดหลังฝึกสอนเสร็จ เพราะคิดว่าน่าจะง่ายกว่า TOEFL (เอกภาษาอังกฤษ TOEIC 600/990 หรือ TOEFL ITP 510/677) แต่ศูนย์สอบยังปิดลากยาวมาจนถึงปัจจุบัน พอดีมีเพื่อนบอกว่า TOEFL ITP ยังเปิดตามปกติ สำหรับบางที่ ผมก็เลยเปลี่ยนจาก TOEIC มาอันนี้แทน ตอนนั้นมีเวลาเตรียมตัวประมาณ 2 สัปดาห์ ไม่เคยมีประสบการณ์สอบอันไหนมาก่อนเลย ทำโพสนี้มาเพื่อเป็นกำลังใจให้เพื่อนครูคืนถิ่นทุกคนที่จะต้องยื่นคะแนนภายในปี 2564 นี้ และแนะนำให้มาสอบอันนี้แทนการรอครับ
(บทความนี้นำมาจากเฟสบุ๊ค Bas Desu ของผมเองครับ)
_____________________________________
1. การเตรียมตัวก่อนสอบ❤️
- ผมซื้อหนังสือมาเพื่อฝึกทำข้อสอบ 1 เล่ม ซึ่งก็คือเล่มในภาพ 👇(1)
มีขายในชอปปี้ เป็นหนังสือแนะนำการสอบ และฝึกทำข้อสอบที่มีแนวข้อสอบจริงให้ทำ 6 ชุด วิธีการฝึกก็คือ
วันที่ 1 💪
- ฝึกทำข้อสอบแบบจับเวลาจริง หากระดาษคำตอบแบบฝนเหมือนจริงมาด้วยครับ 👇(2)
หากมีข้อไหนที่ไม่มั่นใจ ให้เราตอบข้อที่คิดว่าเป็นไปได้มากสุด แต่อย่าลืมติ๊กไว้ ว่าข้อนี้เราเดา
- เมื่อทำเสร็จแล้ว เฉลยก่อนเลยครับ เพื่อให้เราได้มีกำลังใจทำต่อไป แล้วจึงเปรียบเทียบคะแนนตามตารางการแปลงคะแนน มีวิธีการแปลงคะแนนในภาพด้านล่าง 👇(3)
(วิธีแปลงคะแนน
ให้นับจำนวนข้อถูกจากทั้ง 3 Section
Ex. หากได้ 35-28-36 จะได้คะแนนสูงต่ำดังนี้
Section 1: 35 = 51-52
Section 2 : 28 = 53-55
Section 3 : 36 = 55-56
นำคะแนนต่ำสุดทั้ง 3 จำนวนมารวมกัน จะได้ 51+53+55=159 จากนั้นเอาจำนวนนี้ไป ×10 จะได้ 1590 และนำมาหาร 3 จะได้เป็นคะแนน 530
สำหรับคะแนนสูงสุดก็คิดเช่นเดียวกัน เมื่อคิดเรียบร้อยแล้วจะได้คะแนนประมาณคือ 530-543 (ต่ำกว่า 0.5 ปัดลง)
ปล. นี่ไม่ใช่คะแนนที่จะได้จริงเมื่อสอบ แต่เป็นค่าประมาณ ความเป็นไปได้ และให้ยึดเลขค่าน้อย สำหรับผมคือฝึกไป 6 ชุด ได้น้อยสุดคือ 553 แต่สอบจริงได้ 563)
แต่ไม่ต้องดูสาเหตุที่ผิดก่อนครับ พอแล้ววันนี้ เหนื่อย
วันที่ 2 🦾
- เอาข้อสอบที่สอบแล้วมาไล่ดูแต่ละข้อว่าข้อไหนที่ผิด ผิดเพราะอะไร ข้อไหนที่เดาแล้วถูก ถ้าจะตอบให้ถูกต้องทำไง
- ทุกพาร์ท หากเราเจอศัพท์ที่เราไม่รู้ ให้เราจดโน้ตไว้ในกระดาษเล็กๆ แปะไว้ข้างฝาหน้าโต๊ะเรา พร้อมหาความหมายและ Part of Speech ของคำนั้นครับ 👇(4)
(จดไว้ข้างฝาเลยครับ แว๊บๆไปดูคำเรื่อยๆ มีเนซึโกะคอยจ้องว่าแอบขี้เกียจรึเปล่า)
ความหมายศัพท์นั้น ผมจะเขียนด้วยดินสอให้มันจางๆ เวลาเราแว๊บมาดู เราจะได้พยายามนึกความหมายเอง ก่อนอ่านคำแปล
- พาร์ท Reading คำศัพท์จะแบ่งเป็นเรื่องๆ อยู่แล้ว ให้เราจัดกลุ่มคำศัพท์เลยครับ ว่าศัพท์เซตนี้ มาจากการอ่านบทความเรื่องนี้ จะช่วยให้เราจำง่ายขึ้น
- จดคำศัพท์ชุดเดิมแบบไม่ใส่ความหมายไว้ในสมุดโน้ตเล่มเล็กๆ เวลาออกไปไหนเราจะได้ดูศัพท์ฆ่าเวลาพอแล้วสำหรับวันที่ 2 เหนื่อยเช่นเดิม
วันที่ 3 เป็นต้นไป✊✊
- ตื่นขึ้นมาดูคำศัพท์ ทำตามตารางวันที่ 1 และ 2 ไปเรื่อยๆ
เพิ่มเติม💨
- หากเราสมัครสอบกับเพื่อนซักคน เราจะได้กำลังใจและได้ฝึกทำข้อสอบไปพร้อมๆ กันในเวลาว่าง ยกตัวอย่างเช่น อาจคอลกันทำพาร์ท Error ไปพร้อมกัน ข้อที่เราผิดแล้วเพื่อนทำได้ เพื่อนจะได้อธิบายให้เราฟังได้ บางข้อที่เราทำได้แล้วเพื่อนผิด ก็อธิบายเพื่อนได้ การได้ทำแบบนี้ จะทำให้เราจำได้ดีขึ้น
เวลาว่างแต่ละวัน 💤
- พอเสร็จจากการทำอะไรเครียดๆ เช่นฝึกทำข้อสอบจริง หรือท่องคำศัพท์ ให้เราหาอะไรทำที่ทำให้เราคุ้นเคยกับภาษาอังกฤษมากขึ้น จากสิ่งที่เราสนใจ ยกตัวอย่างเช่น ผมชอบดูคลิปคนคุยเกี่ยวกับเกมต่าง ๆ ก็ฟังไปเรื่อยๆ หรือ ดูการ์ตูนซับอังกฤษ หรือสิ่งที่เพื่อนๆ สนใจเลยครับ
- ฟังข้อสอบ Part Listening จากยูทูป ให้คุ้นในหัว Channel: Dunia Toefl มี 50 กว่าชุด 👇(5)
(พาร์ทฟังที่ฝึกนอกเวลา ฝึกแบบ ฟังไปเรื่อย ฟังแบบไม่จริงจัง ฟังตอนเล่นเกม ตอบได้ก็ตอบ ตอบไม่ได้ไม่เป็นไร ให้ผ่านหู)
เอามาเปิดเป็น Background เวลาเราขับรถเล่น หรือออกกำลังกาย หรือบางทีเราอาจเล่นเกมก็ได้ครับ อย่างเช่นผมเล่นเกม แต่ปิดเสียงในเกม เปิดเป็นเสียง Part Listening แทน
- เวลาฟัง เราก็พยายามสมมติว่าเราอยู่ในสถานการณ์ พอมีคำถามมา เราก็ลองตอบดู แบบไม่ต้องดูชอยส์ ตอบได้ก็ดี ไม่ได้ก็ข้าม ทำให้เหมือนกับว่าไม่ได้จริงจังน่ะครับ
- Reading ฝึกเพิ่มโดยการอ่านข่าวที่เราสนใจ หรือทวนย้อนบทความเก่า จากข้อสอบที่เราทำไปแล้วหลังจากแปลทุกคำที่ไม่เข้าใจแล้ว อ่านเรื่องอีกครั้งให้เข้าใจ
- นอนให้พอ อย่านอนดึก พยายามอย่ากดดัน หาเวลาว่าง ทำอะไรก็ได้ที่อยากทำ เพื่อความสบายใจ
ถ้ามีเพื่อนไปสอบด้วยก็ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน
______________________________________
2. วันสอบจริง🧡
- สอบที่มีฟ้าสงขลา ต้องสมัครล่วงหน้า 1 หรือ 2 สัปดาห์ ไม่แน่ใจครับ
- สอบ 9.00 ต้องมาก่อนเวลาประมาณ 30 นาที เพื่อนยืนยันตัวตนครับ (แต่ผมมาก่อน 1 ชม. ตื่นเต้น ที่สอบยังไม่เปิด เวียนไปมาหลายรอบเลย)
- ก่อนเข้าห้องสอบ เข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย เริ่มทำข้อสอบแล้วเค้าไม่ให้ออกจนกว่าจะหมดเวลาครับ (ผมพลาดตรงนี้ ทั้งเบาทั้งหนักตีกันไม่ไหว สุดท้ายผมต้องบอกพี่เค้าว่าไม่ไหวแล้วต้องไปฉี่จริงๆ ตอนเริ่มพาร์ทReading เสียเวลาไปใช้ได้เลยครับ)
- เค้าให้พาเข้าไปได้แค่บัตรประชาชนนะครับ นาฬิกาก็ต้องถอด เมื่อเรานั่งที่เรียบร้อย พร้อมทุกคน เค้าจะเริ่มแจกกระดาษคำตอบ บนโต๊ะเราจะมีบัตรประจำตัวผู้เข้าสอบอยู่แล้ว มีดินสอ 2 เล่ม และยางลบ
- เริ่มจากให้เรากรอกและฝนข้อมูลประจำตัว มีชื่อ นามสกุล รหัสภาษาแม่ รหัสประเทศ ชื่อศูนย์สอบ ชุดข้อสอบที่ได้ไป นู่นนี่นั่น ซึ่งทุกอย่างมีอยู่บนบัตรประจำตัวผู้เข้าสอบแล้วครับ เค้าให้ทำไปพร้อมๆกันกับเสียง
- จากนั้นเค้าจะเอาเล่มข้อสอบมาให้ ขนาดครึ่งเอ 4 ได้มั้งครับ ปิดซีลอยู่ ห้ามแกะซีลจนกว่าเค้าจะบอกให้แกะ ตอนแกะไม่ต้องใช้เล็บจิกนะครับ ใช้ดินสอรูดไปเลย ตัวหนังสือค่อนข้างเล็กเทียบกับข้อสอบที่ฝึกมา
- ข้อสอบจริงผมว่ายากกว่าที่ฝึกนะครับ แต่คำศัพท์ที่เราท่องมา การฟังที่เราฝึกมา พอช่วยได้อยู่ ได้อยู่ที่แปลว่าได้นิดๆครับ
- อันนี้ผมงงครับ เสียงภาษาไทยก่อนสอบบอกว่า จดโน้ตได้ตอนสอบพาร์ทฟัง แต่พอเสียง Directions จริง เค้าบอกว่าห้ามขีดเขียนใดๆลงไปครับ สรุปคือผมไม่ได้จดอะไรลงไปครับในข้อสอบทุกพาร์ท
- Directions พาร์ทฟัง เหมือนกันกับที่ฟังในหนังสือเตรียมสอบเลยครับ (เหมือนเฉพาะ คำสั่ง กับข้อตัวอย่าง) ทั้ง 3 พาร์ทจะมีสถานการณ์แบบคล้ายๆกับที่ฝึกในหนังสือบ้าง แต่ถามเหมือนกันเป๊ะๆนี่ไม่เจอนะครับ
- ตอนฟัง Part A ผมอ่านช้อยส์ก่อน (เค้าไม่พิมพ์ข้อคำถามมาให้ ต้องรอฟัง)ดูว่าน่าจะเกี่ยวกับเรื่องอะไร แต่พอตอนฟัง ผมไม่ดูช้อยส์แล้วครับ มันทำให้สมาธิหลุด พอคำถามขึ้นมาก็ตอบไปเรื่อยๆ ครับ
ตอนฟังพาร์ท B กับ C หลังจากที่เราแวบไปดูช้อยนิดๆ แล้ว เราพยายามโฟกัสสายตาไปที่จุดๆ เดียว แล้วเก็บข้อมูลเท่าที่จะเก็บได้ครับ อันนี้สำหรับผมคือยากมาก ตกข้อมูลสำคัญไปเยอะ
- Section แกรมมามีเวลาน้อยครับ 15 ข้อแรกให้เลือกคำที่เหมาะมาเติม ผมเน้นว่าคำที่ดูแล้วเข้าสุดครับ แกรมมาผมไม่ค่อยแม่น ต่อมา 25 ข้อหลัง พยายามหาประธานกับกริยาหลักของประโยคให้ได้ แล้วตัดชอยส์ที่คิดว่าถูกแล้วทิ้ง ถ้าเกิดว่า ไม่มั่นใจ เอาข้อที่เซ้นส์เราบอกมากสุดแล้วไปต่อเลยครับ
- Section Reading ผมใช้วิธีการคืออ่านเรื่องคร่าว ๆ ก่อนครับ และระหว่างอ่านให้สังเกตว่า แถวไหนพูดถึงเรื่องอะไรเป็นหลัก แถวไหนมีเลขปี แถวไหนมีคำแปลกๆ แต่อย่าอ่านนานเกินครับ
- จากนั้นไปอ่านคำถาม ถ้าถามคำศัพท์ ไล่ดูประโยคนั้น และประโยคแถวนั้นมาช่วยคิดครับ ถ้าถามเกี่ยวกับเรื่องไหน หรือปีไหน ให้เราไล่ดูหาสิ่งที่เค้าพูดถึงครับ ถ้าเราพอเข้าใจบทความบ้างเราก็น่าจะตอบได้ครับ แต่ผมก็ เอาจริง 5 บทความ เข้าใจจริงๆ ก็บทความเดียว
______________________________________
3. หลังสอบ💙
- กินไม่ค่อยได้ นอนไม่ค่อยหลับครับ ลุ้นผลมาก
- รับผลทางไลน์ประมาณ 3 วันครับ ผมสอบวันเสาร์ที่ 5 เค้าแจ้งผลทางไลน์ ตอนวันที่ 7 เวลา 4 ทุ่มครับ ตอนนั้นจะนอนแล้ว ตื่นเลยครับ พ่อหลับแล้ว ไปปลุกพ่อแล้วบอกคะแนนครับ
- หลังจากนั้นก็โล่งเลยครับ มีกะจิตกะใจจะทำทุกอย่างเลย ดีใจมากเลย
______________________________________
4. สรุป💛
ก็ขอบคุณสำหรับเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ และที่บ้านทุกคนที่ให้กำลังใจและให้ความช่วยเหลือนะครับ ทำได้แล้วว สำหรับเพื่อนๆ ครูคืนถิ่นทุกคนที่ต้องยื่นคะแนนภายในปีนี้ก็ขอให้สู้ๆ นะครับ ขอให้ทำได้อย่างที่หวัง หวังว่าสิ่งที่ผมได้พิมพ์บอกไปอาจช่วยได้บ้างไม่มากก็น้อย โชคดีนะครับผม
💪🦾💪🦾💪🦾💪🦾💪🦾💪🦾💪🦾💪🦾💪🦾
2021 รีวิว ครูคืนถิ่น สอบ TOEFL ITP ครั้งแรก ✨563/677 ✨
_____________________________________
ต้องบอกก่อนว่าตั้งใจสอบ TOEIC มาตลอดหลังฝึกสอนเสร็จ เพราะคิดว่าน่าจะง่ายกว่า TOEFL (เอกภาษาอังกฤษ TOEIC 600/990 หรือ TOEFL ITP 510/677) แต่ศูนย์สอบยังปิดลากยาวมาจนถึงปัจจุบัน พอดีมีเพื่อนบอกว่า TOEFL ITP ยังเปิดตามปกติ สำหรับบางที่ ผมก็เลยเปลี่ยนจาก TOEIC มาอันนี้แทน ตอนนั้นมีเวลาเตรียมตัวประมาณ 2 สัปดาห์ ไม่เคยมีประสบการณ์สอบอันไหนมาก่อนเลย ทำโพสนี้มาเพื่อเป็นกำลังใจให้เพื่อนครูคืนถิ่นทุกคนที่จะต้องยื่นคะแนนภายในปี 2564 นี้ และแนะนำให้มาสอบอันนี้แทนการรอครับ
(บทความนี้นำมาจากเฟสบุ๊ค Bas Desu ของผมเองครับ)
_____________________________________
1. การเตรียมตัวก่อนสอบ❤️
- ผมซื้อหนังสือมาเพื่อฝึกทำข้อสอบ 1 เล่ม ซึ่งก็คือเล่มในภาพ 👇(1)
มีขายในชอปปี้ เป็นหนังสือแนะนำการสอบ และฝึกทำข้อสอบที่มีแนวข้อสอบจริงให้ทำ 6 ชุด วิธีการฝึกก็คือ
วันที่ 1 💪
- ฝึกทำข้อสอบแบบจับเวลาจริง หากระดาษคำตอบแบบฝนเหมือนจริงมาด้วยครับ 👇(2)
หากมีข้อไหนที่ไม่มั่นใจ ให้เราตอบข้อที่คิดว่าเป็นไปได้มากสุด แต่อย่าลืมติ๊กไว้ ว่าข้อนี้เราเดา
- เมื่อทำเสร็จแล้ว เฉลยก่อนเลยครับ เพื่อให้เราได้มีกำลังใจทำต่อไป แล้วจึงเปรียบเทียบคะแนนตามตารางการแปลงคะแนน มีวิธีการแปลงคะแนนในภาพด้านล่าง 👇(3)
(วิธีแปลงคะแนน
ให้นับจำนวนข้อถูกจากทั้ง 3 Section
Ex. หากได้ 35-28-36 จะได้คะแนนสูงต่ำดังนี้
Section 1: 35 = 51-52
Section 2 : 28 = 53-55
Section 3 : 36 = 55-56
นำคะแนนต่ำสุดทั้ง 3 จำนวนมารวมกัน จะได้ 51+53+55=159 จากนั้นเอาจำนวนนี้ไป ×10 จะได้ 1590 และนำมาหาร 3 จะได้เป็นคะแนน 530
สำหรับคะแนนสูงสุดก็คิดเช่นเดียวกัน เมื่อคิดเรียบร้อยแล้วจะได้คะแนนประมาณคือ 530-543 (ต่ำกว่า 0.5 ปัดลง)
ปล. นี่ไม่ใช่คะแนนที่จะได้จริงเมื่อสอบ แต่เป็นค่าประมาณ ความเป็นไปได้ และให้ยึดเลขค่าน้อย สำหรับผมคือฝึกไป 6 ชุด ได้น้อยสุดคือ 553 แต่สอบจริงได้ 563)
แต่ไม่ต้องดูสาเหตุที่ผิดก่อนครับ พอแล้ววันนี้ เหนื่อย
วันที่ 2 🦾
- เอาข้อสอบที่สอบแล้วมาไล่ดูแต่ละข้อว่าข้อไหนที่ผิด ผิดเพราะอะไร ข้อไหนที่เดาแล้วถูก ถ้าจะตอบให้ถูกต้องทำไง
- ทุกพาร์ท หากเราเจอศัพท์ที่เราไม่รู้ ให้เราจดโน้ตไว้ในกระดาษเล็กๆ แปะไว้ข้างฝาหน้าโต๊ะเรา พร้อมหาความหมายและ Part of Speech ของคำนั้นครับ 👇(4)
(จดไว้ข้างฝาเลยครับ แว๊บๆไปดูคำเรื่อยๆ มีเนซึโกะคอยจ้องว่าแอบขี้เกียจรึเปล่า)
ความหมายศัพท์นั้น ผมจะเขียนด้วยดินสอให้มันจางๆ เวลาเราแว๊บมาดู เราจะได้พยายามนึกความหมายเอง ก่อนอ่านคำแปล
- พาร์ท Reading คำศัพท์จะแบ่งเป็นเรื่องๆ อยู่แล้ว ให้เราจัดกลุ่มคำศัพท์เลยครับ ว่าศัพท์เซตนี้ มาจากการอ่านบทความเรื่องนี้ จะช่วยให้เราจำง่ายขึ้น
- จดคำศัพท์ชุดเดิมแบบไม่ใส่ความหมายไว้ในสมุดโน้ตเล่มเล็กๆ เวลาออกไปไหนเราจะได้ดูศัพท์ฆ่าเวลาพอแล้วสำหรับวันที่ 2 เหนื่อยเช่นเดิม
วันที่ 3 เป็นต้นไป✊✊
- ตื่นขึ้นมาดูคำศัพท์ ทำตามตารางวันที่ 1 และ 2 ไปเรื่อยๆ
เพิ่มเติม💨
- หากเราสมัครสอบกับเพื่อนซักคน เราจะได้กำลังใจและได้ฝึกทำข้อสอบไปพร้อมๆ กันในเวลาว่าง ยกตัวอย่างเช่น อาจคอลกันทำพาร์ท Error ไปพร้อมกัน ข้อที่เราผิดแล้วเพื่อนทำได้ เพื่อนจะได้อธิบายให้เราฟังได้ บางข้อที่เราทำได้แล้วเพื่อนผิด ก็อธิบายเพื่อนได้ การได้ทำแบบนี้ จะทำให้เราจำได้ดีขึ้น
เวลาว่างแต่ละวัน 💤
- พอเสร็จจากการทำอะไรเครียดๆ เช่นฝึกทำข้อสอบจริง หรือท่องคำศัพท์ ให้เราหาอะไรทำที่ทำให้เราคุ้นเคยกับภาษาอังกฤษมากขึ้น จากสิ่งที่เราสนใจ ยกตัวอย่างเช่น ผมชอบดูคลิปคนคุยเกี่ยวกับเกมต่าง ๆ ก็ฟังไปเรื่อยๆ หรือ ดูการ์ตูนซับอังกฤษ หรือสิ่งที่เพื่อนๆ สนใจเลยครับ
- ฟังข้อสอบ Part Listening จากยูทูป ให้คุ้นในหัว Channel: Dunia Toefl มี 50 กว่าชุด 👇(5)
(พาร์ทฟังที่ฝึกนอกเวลา ฝึกแบบ ฟังไปเรื่อย ฟังแบบไม่จริงจัง ฟังตอนเล่นเกม ตอบได้ก็ตอบ ตอบไม่ได้ไม่เป็นไร ให้ผ่านหู)
เอามาเปิดเป็น Background เวลาเราขับรถเล่น หรือออกกำลังกาย หรือบางทีเราอาจเล่นเกมก็ได้ครับ อย่างเช่นผมเล่นเกม แต่ปิดเสียงในเกม เปิดเป็นเสียง Part Listening แทน
- เวลาฟัง เราก็พยายามสมมติว่าเราอยู่ในสถานการณ์ พอมีคำถามมา เราก็ลองตอบดู แบบไม่ต้องดูชอยส์ ตอบได้ก็ดี ไม่ได้ก็ข้าม ทำให้เหมือนกับว่าไม่ได้จริงจังน่ะครับ
- Reading ฝึกเพิ่มโดยการอ่านข่าวที่เราสนใจ หรือทวนย้อนบทความเก่า จากข้อสอบที่เราทำไปแล้วหลังจากแปลทุกคำที่ไม่เข้าใจแล้ว อ่านเรื่องอีกครั้งให้เข้าใจ
- นอนให้พอ อย่านอนดึก พยายามอย่ากดดัน หาเวลาว่าง ทำอะไรก็ได้ที่อยากทำ เพื่อความสบายใจ
ถ้ามีเพื่อนไปสอบด้วยก็ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน
______________________________________
2. วันสอบจริง🧡
- สอบที่มีฟ้าสงขลา ต้องสมัครล่วงหน้า 1 หรือ 2 สัปดาห์ ไม่แน่ใจครับ
- สอบ 9.00 ต้องมาก่อนเวลาประมาณ 30 นาที เพื่อนยืนยันตัวตนครับ (แต่ผมมาก่อน 1 ชม. ตื่นเต้น ที่สอบยังไม่เปิด เวียนไปมาหลายรอบเลย)
- ก่อนเข้าห้องสอบ เข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย เริ่มทำข้อสอบแล้วเค้าไม่ให้ออกจนกว่าจะหมดเวลาครับ (ผมพลาดตรงนี้ ทั้งเบาทั้งหนักตีกันไม่ไหว สุดท้ายผมต้องบอกพี่เค้าว่าไม่ไหวแล้วต้องไปฉี่จริงๆ ตอนเริ่มพาร์ทReading เสียเวลาไปใช้ได้เลยครับ)
- เค้าให้พาเข้าไปได้แค่บัตรประชาชนนะครับ นาฬิกาก็ต้องถอด เมื่อเรานั่งที่เรียบร้อย พร้อมทุกคน เค้าจะเริ่มแจกกระดาษคำตอบ บนโต๊ะเราจะมีบัตรประจำตัวผู้เข้าสอบอยู่แล้ว มีดินสอ 2 เล่ม และยางลบ
- เริ่มจากให้เรากรอกและฝนข้อมูลประจำตัว มีชื่อ นามสกุล รหัสภาษาแม่ รหัสประเทศ ชื่อศูนย์สอบ ชุดข้อสอบที่ได้ไป นู่นนี่นั่น ซึ่งทุกอย่างมีอยู่บนบัตรประจำตัวผู้เข้าสอบแล้วครับ เค้าให้ทำไปพร้อมๆกันกับเสียง
- จากนั้นเค้าจะเอาเล่มข้อสอบมาให้ ขนาดครึ่งเอ 4 ได้มั้งครับ ปิดซีลอยู่ ห้ามแกะซีลจนกว่าเค้าจะบอกให้แกะ ตอนแกะไม่ต้องใช้เล็บจิกนะครับ ใช้ดินสอรูดไปเลย ตัวหนังสือค่อนข้างเล็กเทียบกับข้อสอบที่ฝึกมา
- ข้อสอบจริงผมว่ายากกว่าที่ฝึกนะครับ แต่คำศัพท์ที่เราท่องมา การฟังที่เราฝึกมา พอช่วยได้อยู่ ได้อยู่ที่แปลว่าได้นิดๆครับ
- อันนี้ผมงงครับ เสียงภาษาไทยก่อนสอบบอกว่า จดโน้ตได้ตอนสอบพาร์ทฟัง แต่พอเสียง Directions จริง เค้าบอกว่าห้ามขีดเขียนใดๆลงไปครับ สรุปคือผมไม่ได้จดอะไรลงไปครับในข้อสอบทุกพาร์ท
- Directions พาร์ทฟัง เหมือนกันกับที่ฟังในหนังสือเตรียมสอบเลยครับ (เหมือนเฉพาะ คำสั่ง กับข้อตัวอย่าง) ทั้ง 3 พาร์ทจะมีสถานการณ์แบบคล้ายๆกับที่ฝึกในหนังสือบ้าง แต่ถามเหมือนกันเป๊ะๆนี่ไม่เจอนะครับ
- ตอนฟัง Part A ผมอ่านช้อยส์ก่อน (เค้าไม่พิมพ์ข้อคำถามมาให้ ต้องรอฟัง)ดูว่าน่าจะเกี่ยวกับเรื่องอะไร แต่พอตอนฟัง ผมไม่ดูช้อยส์แล้วครับ มันทำให้สมาธิหลุด พอคำถามขึ้นมาก็ตอบไปเรื่อยๆ ครับ
ตอนฟังพาร์ท B กับ C หลังจากที่เราแวบไปดูช้อยนิดๆ แล้ว เราพยายามโฟกัสสายตาไปที่จุดๆ เดียว แล้วเก็บข้อมูลเท่าที่จะเก็บได้ครับ อันนี้สำหรับผมคือยากมาก ตกข้อมูลสำคัญไปเยอะ
- Section แกรมมามีเวลาน้อยครับ 15 ข้อแรกให้เลือกคำที่เหมาะมาเติม ผมเน้นว่าคำที่ดูแล้วเข้าสุดครับ แกรมมาผมไม่ค่อยแม่น ต่อมา 25 ข้อหลัง พยายามหาประธานกับกริยาหลักของประโยคให้ได้ แล้วตัดชอยส์ที่คิดว่าถูกแล้วทิ้ง ถ้าเกิดว่า ไม่มั่นใจ เอาข้อที่เซ้นส์เราบอกมากสุดแล้วไปต่อเลยครับ
- Section Reading ผมใช้วิธีการคืออ่านเรื่องคร่าว ๆ ก่อนครับ และระหว่างอ่านให้สังเกตว่า แถวไหนพูดถึงเรื่องอะไรเป็นหลัก แถวไหนมีเลขปี แถวไหนมีคำแปลกๆ แต่อย่าอ่านนานเกินครับ
- จากนั้นไปอ่านคำถาม ถ้าถามคำศัพท์ ไล่ดูประโยคนั้น และประโยคแถวนั้นมาช่วยคิดครับ ถ้าถามเกี่ยวกับเรื่องไหน หรือปีไหน ให้เราไล่ดูหาสิ่งที่เค้าพูดถึงครับ ถ้าเราพอเข้าใจบทความบ้างเราก็น่าจะตอบได้ครับ แต่ผมก็ เอาจริง 5 บทความ เข้าใจจริงๆ ก็บทความเดียว
______________________________________
3. หลังสอบ💙
- กินไม่ค่อยได้ นอนไม่ค่อยหลับครับ ลุ้นผลมาก
- รับผลทางไลน์ประมาณ 3 วันครับ ผมสอบวันเสาร์ที่ 5 เค้าแจ้งผลทางไลน์ ตอนวันที่ 7 เวลา 4 ทุ่มครับ ตอนนั้นจะนอนแล้ว ตื่นเลยครับ พ่อหลับแล้ว ไปปลุกพ่อแล้วบอกคะแนนครับ
- หลังจากนั้นก็โล่งเลยครับ มีกะจิตกะใจจะทำทุกอย่างเลย ดีใจมากเลย
______________________________________
4. สรุป💛
ก็ขอบคุณสำหรับเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ และที่บ้านทุกคนที่ให้กำลังใจและให้ความช่วยเหลือนะครับ ทำได้แล้วว สำหรับเพื่อนๆ ครูคืนถิ่นทุกคนที่ต้องยื่นคะแนนภายในปีนี้ก็ขอให้สู้ๆ นะครับ ขอให้ทำได้อย่างที่หวัง หวังว่าสิ่งที่ผมได้พิมพ์บอกไปอาจช่วยได้บ้างไม่มากก็น้อย โชคดีนะครับผม
💪🦾💪🦾💪🦾💪🦾💪🦾💪🦾💪🦾💪🦾💪🦾