ผมจ่ายเบี้ยประกันรวมๆเกือบ 300,000 ต่อปี มากเกินไปหรือเปล่าครับ

ผมมีค่าเบี้ยประกันที่ต้องจ่ายต่อปี 297,279 บ. ส่วนรายได้ต่อปีผมประมาณ 2,600,000 

ผมอายุ 30 ต้นๆ ไม่มีหนี้สิน  มีแฟนแต่ยังไม่แต่งงาน ไม่มีแพลนว่าจะมีลูก 
มีแค่พ่อแม่ที่ต้องเลี้ยงดู พ่อแม่เป็นข้าราชการบำนาน  ผมส่งเงินให้พ่อแม่ใช้เดือนละ2หมื่น 
อย่างประกันทุพพลภาพเนี่ย  ผมคิดว่ายอมตายเลยดีกว่าถ้าจะนอนเป็นผักรอวันตาย ควรจะยกเลิกไปเลยดีมั๊ยครับ
ส่วนประกันชีวิตผมก็คิดว่าเยอะไปหน่อยสำหรับดูแลแค่พ่อแม่
หรือมีส่วนไหนที่พอจะตัดออกดีครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 38
คนส่วนใหญ่จะบอกว่าเยอะไป แต่คนที่รู้ดีที่สุดน่าจะเป็นเจ้าตัว

ประกันเป็นสัญญาระยะยาว แต่ก็เปลี่ยนได้ ยกเลิกได้

จากตาราง
แบบอะไรทุพพลภาพ จ่ายตั้ง 5หมื่น ทุน 5 ล้านเอง ไม่น่าจะใช่ มันน่าจะมีรายละเอียดมากกว่าแค่ทุพพลภาพ ถ้าจ่ายเบี้ยขนาดนี้ (ปกติเบี้ยจะล้านละหลักร้อยถึงพันต้น ๆ)

คุ้มครองโรคร้าย คาดว่าเป็นพวกสะสมไว้ ไม่เป็นมีคืน เบี้ยจะประมาณนี้ เสมือนเป็นเงินเก็บในอนาคตถ้าไม่ป่วย แต่ถ้าป่วย ซึ่งเมื่อไรไม่รู้ ก็ได้ทุนล้านออกมา พวกนี้ทำอายุกลางคน ก็จะจ่ายเบี้ยรวมน้อยกว่าทุน

ประกันสุขภาพ HSPG น่าจะของAIA แบบเหมาจ่ายรุ่นเก่า ของดี แต่ตอนนี้มีดีกว่า ติดต่อตัวแทนให้เปลี่ยนได้

บำนาญ เห็นบางเมนต์ จ่ายเยอะได้น้อย ก็ต้องถามว่าไปเทียบกับผลตอบแทนอะไร ไม่อยากให้เมนต์แบบไร้ความรับผิดชอบ
เข้าใจว่าที่ซื้อเพื่อลดหย่อนภาษีด้วย ก็เป็นเรื่องที่ควร แต่ประกันบำนาญก็ออกแบบมาให้มีเงินที่แน่นอนในอนาคตที่ถ้าเราอยู่ถึง ต้องมีเงินก้อนนี้ออกมาแน่ ๆ แนะให้ทำเพิ่มให้เต็มลดหย่อน 2 แสนไปเลย รายได้ขนาดนี้ ควรวางแผนเก็บเงินเพื่อเก็บจริง ๆ ไว้เพื่อคนที่หน้าเหมือนเราอีก 30-40ปีข้างหน้า

ไม่รู้ จขกท ประกอบอาชีพอะไร อายุเพียงเท่านี้ถึงสร้างรายได้ได้ขนาดนี้
ประกันชีวิตยุคใหม่ ยุคที่คนเข้าใจจุดประสงค์ประกันดีขึ้น มันไม่ได้แค่มีทุนให้คนข้างหลังอย่างเดียว
มันออกแบบให้สร้างมูลค่าค่าตัวเอง ณ ตอนนี้คูณไป 20-30 ปีข้างหน้า เพื่อการันตี ค่าความสามารถของตัวคุณ ที่ผลิตรายได้ต่อปีได้ขนาดนี้ ซึ่ง การจะนอนเป็นผักแล้วขอตายซะดีกว่า เป็นคำพูดที่สวยหรู แต่ในชีวิตจริง ถ้า จขกท เกิดประสบเหตุนั้นขึ้นมาจริง ๆ คิดว่าคนรอบกายอยากจะให้ไปง่าย ๆ หรอ แน่นอน ถ้าไม่มีเงินมาดูแล ทุกคนคงมีใจอยากให้ไปให้พ้นทุกข์ แต่จะทำไงละ ให้หมอฉีดยาหรอ... สุดท้ายกรรมภาระตกเป็นของคนรอบกายที่ต้องดูแล แต่... ถ้ามีเงินจากประกันละ จะจ้างคนมาดูแลไปตลอดก็ไม่เสียดาย

ค่าความสามารถของคนมันประเมินไม่ได้อยู่แล้ว ทุนที่ว่าจะมากจะน้อยไม่ได้อยู่ที่เรา คนรอบข้างที่คุณรักมากกว่า ว่าคุณมีค่ากับเค้าแค่ไหน ยุคนี้ทุน 10 ล้านใช้เงินไม่ถึงแสนก็ทำกันถมเถไป นับภาษาอะไรกับทุน 100-1000 ล้านก็มีในระดับรายได้ 2-3 ล้านต่อปี ของคุณถือว่าทุนแค่เริ่มต้น เปรียบเปรยกับรถละกัน ถ้าคุณมีรถมูลค่า 5 ล้านแต่ทำทุนไว้เพียง 5แสน พอเห็นภาพไหมว่ามันไม่สมส่วนกับค่าตัวคุณ

ถึงจุดนี้ ขอให้เข้าใจโครงสร้าง port ทางการเงินตัวเองว่าดีพอ มั่นคงพอในฐานล่างสุดแล้วหรือยัง ควรหาที่ปรึกษาการเงินที่ส่วนใหญ่มาจากตัวแทนประกันทั้งนั้น ซึ่งคนที่เป็นมืออาชีพ เค้าจะวางแผนให้คุณเห็นภาพรวมก่อนที่จะขายประกัน ใช้บริการเค้าให้เต็มที่ แล้วจะอุดหนุนประกันค่อยว่ากันอีกที
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่