แชร์ประสบการณ์สัมภาษณ์วีซ่าไปอเมริกาครั้งแรก!

ที่เราไปทำคือวีซ่านักเรียนแลกเปลี่ยน J1 อายุวีซ่าอยู่ได้1ปี เราเข้าร่วมโครงการออร์แพร์(Au pair)ของ EurAupair ไปกับเอเจนซี่ Engenius International นะคะ พี่เจ้าหน้าที่ของโครงการจะเป็นคนช่วยเราเตรียมตัวตั้งแต่ขั้นตอนกรอกเอกสาร รวมถึงDS160ด้วย ช่วยเช็คความถูกต้องครบถ้วนของเอกสารที่เราต้องเตรียมไปในวันสัมภาษณ์ด้วยค่ะ
นอกจากนี้พี่เจ้าหน้าที่ของโครงการยังช่วยในส่วนของการเตรียมตัวสอบสัมภาษณ์ ช่วยยกตัวอย่างคำถามที่เราน่าจะโดนถามและแนะนำวีธีการตอบคำถามแต่ละคำถามให้ข้อมูลครบถ้วนและตรงประเด็นที่สำคัญต้องตอบให้ตรงกับข้อมูลที่เรากรอกล่วงหน้าไว้ในDS160ด้วยค่ะ

วันที่เราไปสัมภาษณ์ คิวสัมภาษณ์ของเราคือตอน 7:45 น. แต่ด้วยความที่เราบ้านไกลกลัวรถติดเลยเผื่อเวลาไปเยอะ เราถึงตั้งแต่ยังไม่6โมงเช้าเลย เผื่อเวลาเยอะเกินไปหน่อย แต่ตอนที่เราไปถึงก็คือยังไม่มีคิวเลย เราแนะนำให้ไปเช้าๆค่ะจะได้คิวแรกๆแบบเรา เรายืนรออยู่หน้าสถานทูตตรงใกล้ๆเต้นท์สีน้ำเงิน ระหว่างนั้นก็มีคนยืนอยู่แถวนั้นประมาณ2-3คน แต่สักพักคนก็เริ่มทยอยมากันเยอะค่ะ เราแนะนำให้ยืนใกล้ๆเต้นท์ไว้ เพราะว่า6โมงนิดๆเจ้าหน้าที่ก็จะเริ่มให้เราต่อแถวรอคิวแล้ว เราไปเร็วแถมยืนใกล้เต้นท์เลยได้คิวที่3เลยค่ะ เราสามารถต่อคิวได้เลยถึงแม้เวลานัดของเราจะกี่โมงเพราะจะมีคนดูใบนัดของเราอีกที่ ถ้ารอบใกล้ๆกันเขาจะปล่อยเข้าก่อนได้ค่ะ เราเข้าก่อนคนคิว 7:30น.อีก

พอเจ้าหน้าที่ตรงเต้นท์เริ่มรันคิวแล้วขั้นตอนต่อไปจะเร็วมากๆเลยค่ะ เขาจะให้เราปิดมือถือแล้วฝากไว้คู่กับบัตรประชาชน โดยจะมีกำไลข้อมือไว้รับของคืนให้เราใส่ไว้ค่ะ แล้วก็เดินผ่านเครื่องสแกนค่ะ หลังผ่านเครื่องสแกนก็เดินตามเส้นไปจะเจอเจ้าหน้าที่อีกคนคอยเช็คเอกสารแล้วบอกว่าเราต้องไปรอตรงไหน แล้วเขาก็จะเรียกให้เข้าไปในห้องเตรียมสัมภาษณ์ค่ะ ตอนเข้าไปตอนแรกจะต้องตรงไปเพื่อตรวจพาสปอร์ตกับเอกสารกับเจ้าหน้าที่คนไทยก่อน แล้วค่อยไปช่องซ้ายสุดเพื่อสแกนนิ้ว แล้วถึงจะได้ไปรอคิวสัมภาษณ์ตรงกลางห้องค่ะ

โดยตู้สัมภาษณ์จะมีทั้งหมด3ตู้ติดกันนะคะ ตอนที่เรารอคิวอยู่คือเจ้าหน้าที่สัมภาษณ์ยังไม่มาเลยค่ะ เราได้คิวที่3 ตอนนั้นเจ้าหน้าที่ตู้2กับ3มาก่อนค่ะ สองคนก่อนหน้าเราเลยได้สัมภาษณ์ก่อน ของเรารอจนเจ้าหน้าที่ตู้ที่1มา เขาก็จะเรียกเราเข้าไปสัมภาษณ์ค่ะ อาจจะเป็นความโชคดีของเราที่วันนั้นเจ้าหน้าที่ทุกคนอารมณ์ดีหมดเลย เดินถือกาแฟคุยกันหัวเราะเข้ามา เราเลยตื่นเต้นน้อยลง จากที่เราฟังสองคนก่อนหน้าเข้าไปสัมภาษณ์ เต้าหน้าที่ทักเป็นภาษาไทยก่อนนะคะ แบบ สวัสดีครับ/ค่ะ ใส่เราก่อนเลย แต่หลังจากนั้นก็จะถามคำถามเป็นภาษาอังกฤษค่ะ แนะนำให้เตรียมตัวไปดีๆเพราะถ้าเราตอบไม่ได้เลยก็โอกาสไม่ผ่านสูงค่ะ

พอเจ้าหน้าที่ตู้1เรียกเราเข้าไปเขาก็สวัสดีครับใส่เราก่อนเลย เราก็กู้ดมอนิ่งกลับไป5555 เราเป็นคิวแรกของตู้สัมภาษณ์ที่1ค่ะ พอทักทายเสร็จก็ยื่นพาสปอร์ตกับDS2019ไป เขาก็เริ่มพิมพ์ข้อมูลในคอมแล้วก็เริ่มถามคำถามเราค่ะ เราโดนประมาณ3-4คำถาม ถามประมาณว่า เราจะไปทำอะไรที่อเมริกา, เล่าประสบการณ์เลี้ยงเด็กให้ฟังหน่อย, เด็กที่เคยดูแลเป็นลูกใคร, หลังจากกลับมาแล้วจะทำอะไรต่อ คำถามก็จะประมาณนี้ค่ะ คือตรงกับที่พี่โครงการแนะนำให้เรา เราก็ตอบไปตามที่เราฝึกซ้อมไว้ จำได้บ้างไม่ได้บ้างก็ตอบๆไปเหมือนเล่าให้เค้าฟัง ระหว่างฟังเราเขาก็จะพิมพ์คอมไปด้วย พอเราตอบคำถามสุดท้ายเสร็จ เขาก็บอกเราว่า "Your visa has been approved" เขาจะส่งเอกสารตามมาให้เราที่หลังแล้วก็จะเก็บพาสปอร์ตกับDS2019เราไปค่ะ แล้วก็จะให้สมุดรู้ไว้ก่อนเข้าอเมริกาเล่มเล็กๆมาให้เรา แล้วก็ออกมาจากห้องได้เลยค่ะ ออกมาก็มารับบัตรประชาชนกับมือถือคืนตรงหน้าทางออกก็เสร็จเรียบร้อยกลับบ้านได้ค่ะ วีซ่าจะถูกส่งตามหลังมาประมาณ3-4วันค่ะ

หวังว่าเรื่องราวประสบการณ์ของเราจะสามารถเป็นประโยชน์ให้คนที่กำลังจะไปสอบสัมภาษณ์ได้ลดความกังวลเพราะบางคนอาจจะไม่รู้ว่าไปถึงแล้วจะเจอกับอะไร ต้องทำยังไงบ้าง ให้เห็นภาพรวมชัดเจนขึ้นนะคะ ขอให้คนที่จะไปสอบสัมภาษณ์วีซ่าทุกคนสอบผ่านได้บินไปอเมริกากันทุกคนเลยนะคะ ขอให้โชคดีค่ะ.




เต้นท์ที่เราต้องไปยืนรอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่