เริ่มเรื่อง
คนในทีมมี 6 คน เราทำงานมา 1 ปี เข้าปีที่ 2 ก่อนไปเที่ยวประจำปีบริษัท คนในทีม คุยกัน เล่นกันปกติ ปรึกษาปัญหา เรื่องงานปกติ แต่พอกลับจากไปเที่ยวประจำปีของบริษัท ตั้งแต่เดือน ต.ค 66 คนในทีม
คนที่ 1 ผู้ชาย ก็เริ่มไม่คุยกับเรา แค่คนเดียว คนอื่นคุยทักเล่นปกติ เราคล่องใจ ทักไปถาม แชทส่วนตัว เขาก็บอกไม่มีอะไร แต่ไม่คุยกับเราเลย ตั้งแต่เดือน ต.ค 66 คุยแค่ ส่งงาน เรามีเรื่องงาน ปรึกษา ต้องทำงานเป็นทีม ต้องคุยเคสกัน ไม่คุย ไม่ช่วย เราต้องหาทางแก้ด้วยตัวเอง พยายามคุย แต่เขาก็ไม่คุย เราก็เลยเลือกที่ โอเค งั้นไม่คุย ก็ไม่คุย (ไม่มองหน้า เดินผ่านไปเลยเหมือนคนไม่รู้จัก ตอนนี้เป็นแบบนี้ 4 เดือนแล้ว)
พี่คนที่ 2 ผู้หญิง เริ่มไม่คุยกับเราเพราะเราเริ่มปฏิเสธ เรื่องการให้ยืมเงิน เริ่มเป็นช่วงเดือน ก.พ 67 เราเคยสนิทกับพี่เขา กลับบ้านด้วยกัน (ช่วยค่าน้ำตลอด 100-200 ลงระหว่างทาง) ตอนหลังๆ เราเริ่มเฟดตัวออก เพราะเขาเริ่มมีพฤติกรรมยืมเงินเรา เราให้ครั้งแรก และเริ่มยืมบ่อยขึ้นเรื่อยๆ เราไม่สบายใจเลย เลยขอกลับบ้านเอง เขาทักมา เราก็ปฏิเสธ ตลอด จนเขาไปยืมเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ จนทำให้เพื่อนคนนั้นอึดอัดและลาออกไป เมื่อเดือน ม.ค 67
และกลับมายืมเราต่อ แต่เราปฏิเสธ จนเขาไม่คุยกับเรา เราต้องคุยงาน ปรึกษางาน ตามเดิม เขาตอบเราส่งๆ ทดสอบแล้วไม่ได้ ก็ส่งเรื่องไปแก้ต่อ (ซึ่งผิดปกติจากแต่ก่อนที่จะสามารถปรึกษาและช่วยกันหาทางออก ก่อนจะส่งเรื่องต่อ เพื่อแก้ไข ) และ พี่เขา กับผู้ชาย ในทีม 2 คน ก็คุย และสนิทกัน เหมือนเราโดนแบนออกจากกลุ่มเลย ทั้งที่เราก็ทำงานของเราปกติ (เราเป็นคนคิดมาก พอถาม เขาก็ไม่ตอบกัน เรากำลังจะเปิดประเด็นนี้ในช่วงประชุมทีม เพราะว่าเราไม่ไหวจริงๆ รู้สึกอึดอัดมากๆ แต่ชอบงาน ชอบบริษัทมาก สวัสดิการดี ตอนนี้เราคิดแค่ว่า ถ้าเขาไม่ลาออก ก็คงต้องเป็นเราที่ลาออกเอง แต่เราอยากทน เพื่อประสบการณ์การทำงานจากที่นี่ก่อน อีก 1 ปี เพราะได้ความรู้ค่อนข้างเยอะแต่จะทนไหวไหม ) เราถึงกลับต้องมองย้อนดูตัวเองเลย แต่เราว่าเราวางตัวดีนะ
จนตอนนี้ น้องคนใหม่ที่เข้ามาก็จะลาออกอีกคนเร็วๆนี้ เหลือเราที่ยังอดทน 🤣😭😭😥
ทำยังไงดี จะผ่านช่วงเวลาอึดอัดแบบนี้ และทนอยู่ อีก 1 ปี เพื่อประสบการณ์
คนในที่ทำงานในทีม เปลี่ยนไปเริ่ม Toxic
คนในทีมมี 6 คน เราทำงานมา 1 ปี เข้าปีที่ 2 ก่อนไปเที่ยวประจำปีบริษัท คนในทีม คุยกัน เล่นกันปกติ ปรึกษาปัญหา เรื่องงานปกติ แต่พอกลับจากไปเที่ยวประจำปีของบริษัท ตั้งแต่เดือน ต.ค 66 คนในทีม
คนที่ 1 ผู้ชาย ก็เริ่มไม่คุยกับเรา แค่คนเดียว คนอื่นคุยทักเล่นปกติ เราคล่องใจ ทักไปถาม แชทส่วนตัว เขาก็บอกไม่มีอะไร แต่ไม่คุยกับเราเลย ตั้งแต่เดือน ต.ค 66 คุยแค่ ส่งงาน เรามีเรื่องงาน ปรึกษา ต้องทำงานเป็นทีม ต้องคุยเคสกัน ไม่คุย ไม่ช่วย เราต้องหาทางแก้ด้วยตัวเอง พยายามคุย แต่เขาก็ไม่คุย เราก็เลยเลือกที่ โอเค งั้นไม่คุย ก็ไม่คุย (ไม่มองหน้า เดินผ่านไปเลยเหมือนคนไม่รู้จัก ตอนนี้เป็นแบบนี้ 4 เดือนแล้ว)
พี่คนที่ 2 ผู้หญิง เริ่มไม่คุยกับเราเพราะเราเริ่มปฏิเสธ เรื่องการให้ยืมเงิน เริ่มเป็นช่วงเดือน ก.พ 67 เราเคยสนิทกับพี่เขา กลับบ้านด้วยกัน (ช่วยค่าน้ำตลอด 100-200 ลงระหว่างทาง) ตอนหลังๆ เราเริ่มเฟดตัวออก เพราะเขาเริ่มมีพฤติกรรมยืมเงินเรา เราให้ครั้งแรก และเริ่มยืมบ่อยขึ้นเรื่อยๆ เราไม่สบายใจเลย เลยขอกลับบ้านเอง เขาทักมา เราก็ปฏิเสธ ตลอด จนเขาไปยืมเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ จนทำให้เพื่อนคนนั้นอึดอัดและลาออกไป เมื่อเดือน ม.ค 67
และกลับมายืมเราต่อ แต่เราปฏิเสธ จนเขาไม่คุยกับเรา เราต้องคุยงาน ปรึกษางาน ตามเดิม เขาตอบเราส่งๆ ทดสอบแล้วไม่ได้ ก็ส่งเรื่องไปแก้ต่อ (ซึ่งผิดปกติจากแต่ก่อนที่จะสามารถปรึกษาและช่วยกันหาทางออก ก่อนจะส่งเรื่องต่อ เพื่อแก้ไข ) และ พี่เขา กับผู้ชาย ในทีม 2 คน ก็คุย และสนิทกัน เหมือนเราโดนแบนออกจากกลุ่มเลย ทั้งที่เราก็ทำงานของเราปกติ (เราเป็นคนคิดมาก พอถาม เขาก็ไม่ตอบกัน เรากำลังจะเปิดประเด็นนี้ในช่วงประชุมทีม เพราะว่าเราไม่ไหวจริงๆ รู้สึกอึดอัดมากๆ แต่ชอบงาน ชอบบริษัทมาก สวัสดิการดี ตอนนี้เราคิดแค่ว่า ถ้าเขาไม่ลาออก ก็คงต้องเป็นเราที่ลาออกเอง แต่เราอยากทน เพื่อประสบการณ์การทำงานจากที่นี่ก่อน อีก 1 ปี เพราะได้ความรู้ค่อนข้างเยอะแต่จะทนไหวไหม ) เราถึงกลับต้องมองย้อนดูตัวเองเลย แต่เราว่าเราวางตัวดีนะ
จนตอนนี้ น้องคนใหม่ที่เข้ามาก็จะลาออกอีกคนเร็วๆนี้ เหลือเราที่ยังอดทน 🤣😭😭😥
ทำยังไงดี จะผ่านช่วงเวลาอึดอัดแบบนี้ และทนอยู่ อีก 1 ปี เพื่อประสบการณ์