มีใครมีสามีเป็นคนขี้เกรงใจจนทำให้การใช้ชีวิตประจำวันที่มันเป็นเรื่องง่ายๆทำให้มันกลายเป็นเรื่องยากขึ้นในทุกๆเรื่องบ้างคะ

กระทู้คำถาม
คือเรากับสามีแต่งงานจดทะเบียนสมรสอยู่ด้วยกันเข้าปีที่4แล้วคะ เรารู้สึกว่าสามีเป็นคนค่อนข้างขี้เกรงใจคนมากแบบมากๆคะจนทำให้เราใช้ชีวิตด้วยกันมันทำให้เรื่องง่ายๆกลายเป็นเรื่องยากไปหมดสำหรับเรานะ
ยกตัวอย่างเช่นไปนั่งทานอาหารตามร้านขยะที่เราควรจะทิ้งในถังขยะร้านได้แต่ไม่ทิ้งสู้ถือออกจากร้านมาด้วยก็เข้าใจว่ามันคือขยะที่ติดมือเรามาจากที่อื่นแต่เราไปใช้บริการอีกร้านโต๊ะที่เรานั่งสามารถทิ้งขยะได้ มีถังขยะวางอยู่ทุกโต๊ะคะ เข้าใจว่าความมีมารยาทแต่ทำไมแบบมีมารยาทเกินไปมากๆเรื่องนี้พอหยุมหยิมได้แต่คือเอามาเป็นเรื่องเล่าคะ

เรื่องต่อไป ไปซื้อของตามตลาดเช่นพวกผักต่างๆถ้าไปกับสามีคือเราเลือกผักไม่ได้สามีจะยืนจ้องเเบบประมานเกรงใจแม่ค้าทั้งๆที่เราเป็นผู้บริโภคมีสิทจะเลือกแต่สามีมักจะกดดันยืนทำหน้างอ เอาจริงๆไม่แค่เรื่องซื้อผักคือการซื้อของทุกอย่างถ้าไปด้วยกันคือเลือกของไม่ได้เรารู้สึกอึดอัดมากเขาชอบกดดันอันนี้ไม่ได้คิดไปเองนะคือเห็นท่าทางสีหน้าเค้าบอกแบบชัดเจนมากคะ

ถ้าไปซื้อคนเดียวสมมุติถ้าใช้เขาไปซื้ออะไรมักจะไม่ได้ของกลับมาทั้งๆที่ไปถึงตลาดและของมันก็มีขายเขามักจะบอกว่าหาไม่เจอไม่มี

หรือถ้าได้ของมาก็จะซื้อมาทีละเยอะๆเหมือนของ1อย่างได้มาอย่างละหลายๆอันเหมือนเลือกไม่ได้เลือกไม่ถูกทั้งที่เกินความจำเป็นต้องใช้ประมานเกรงใจร้านไม่อยากยืนเลือกนานหยิบๆมาอะไรประมานนี้


เรื่องต่อมาเวลาเขานั่งรถไปไหนปวดฉี่ปวดหนักอะไรก็ช่างจะชอบอั้นไว้ไม่เคยกล้าปริปากบอกใครว่าปวดไม่กล้าบอกให้เขาแวะห้องน้ำแม้จะเปนคนที่ตัวเองสนิทขับก็ตามเขาไม่กล้าพอเราถามว่าทำไม เขาก็จะบอกว่าเกรงใจกลัวเขาบ่นเอา

เรื่องต่อมา ออกรถด้วยกันไปรอรับรถไปถึงร้านรถคือเรามีสิทจะเข้าไปถามร้านแจ้งร้านว่าเรามาถึงแล้วพร้อมรับรถแต่สามีห้ามไม่ให้ถามพนักงานบอกเกรงใจเค้าคือเราจะเข้าไปถามเองถ้าสามีเกรงใจมากก็นั่งอยู่เฉยๆเราติดต่อเอง แต่ก็ไม่ให้เราไปถามไปติดต่อมาพาเรานั่งรอสามีบอกเดวพนักงานก็เดินมาถามเราเองคือนั่งรอนานมากไม่มีใครมาถาม เราเลยเราคิดว่าคนมาติดต่อคือต้องไปติดต่อเดินไปแจ้งเค้าว่ามาทำอะไรใช่มั๊ยถ้ามัวแต่นั่งรอเพราะเกรงใจรอให้เขาเดินมาถามก็รอไปเถอะ คือสรุปวันนั้นรอนานมากจนเราคิดว่ามันนานเกินไปเราเลยดื้อสู้เดินไปถามพนักงานที่โต๊ะว่าพอดีมารับรถคะพนักงานพากันอุทานอ้าวเหนเข้ามานั่งตั้งนานนึกว่านั่งรอรถที่ซ่อมข้างนอกกันทำไมไม่แจ้งคะพนักงานก็พลอยไปโทษกันเองว่าทำไมไม่ดูแลลูกค้าเลยทั้งๆที่มานั่งรอกันนานมากแล้วทั้งๆที่พนักงานไม่ได้ต้อนรับหรือดูแลลูกค้าคนอื่นเลย

เรื่องต่อไปเวลาไปไหนมาไหนหลงทางปากพอมีจะถามคนอื่นได้ว่าไปทางไหนได้บ้าง เราไม่ได้ให้สามีถามนะคือเราจะถามเองสามีก็ห้ามไม่ให้ถามเขาพอเราถามพาลมาโกรธเพราะสามีบอกเกรงใจ มันเป็นเรื่องอะไรที่เล็กๆน้อยๆที่เราถามกันได้มั๊ยอ่ะ ตัวเองกลัวหรือเกรงใจก็อยู่เงียบๆอยู่เฉยๆเราจัดการเองพูดเองถามเอง แต่พาลมาโกรธตลอดเลย

ขนาดไปถ่ายบัตรประชาชนตัวเองไปนั่งรอครึ่งวันนั่งรอให้เขามาถามว่ามาทำอะไรถ้าพนักงานไม่ถามก็ไม่ได้ถ่าย(เรื่องนี้จำมาจากที่สามีเคยเล่าให้ฟัง)
คือมันทุกเรื่องมันมีอีกหลายเรื่องที่เราเก็บกดอึดอัดแบบเราก็เป็นคนขี้เกรงใจคนนะคะแต่ไม่ใช่ว่าเกรงใจจนอะไรมันดูยากไปหมด  เกรงใจให้ถูกเวลาถูกสถานการอันนี้เข้าใจไม่ว่ากันแต่เกรงใจในเรื่องที่มันเป็นสิทธิประโยชน์ของเรา

จะพูดไปอีกเรื่องขี่รถด้วยกันน้ำมันหมดไฟกระพริบไม่กล้าบอกเราว่าจะไปเติมน้ำมันบอกเกรงใจเราโมโหมากได้แต่ด่าในใจไม่เคยพูดจารุนแรงกับเขาเลย

ของกินอะไรซื้อไว้ในห้องก็ไม่กินต้องมาถามทุกครั้งอันนี้กินได้มั๊ยอันนั้นกินได้มั๊ย บางทีแม้กระทั่งกับข้าวที่ทำให้ทานวางยุต่อหน้าก็ยังถาม จะทำให้ใครกินมีกันยุสองคนของในตู้เย็นก็เปิดกินได้เลยถ้าจะกินแต่ต้องถามทุกครั้งถามตลอด ก็เหนื่อยที่จะตอบให้ทุกครั้งมันทุกเรื่องคะ

มีใครพอจะแชร์วิธีการปรับตัวต้องทำเช่นไรเมื่ออยู่กับคนแบบนี้ไม่เคยคิดจะเลิกคะเพราะอย่างอื่นเขาดีหมดคะดูแลแทคแคเอาใจใส่เราดีมากในทุกๆเรื่องคะแต่เราเก็บกดเราเหนื่อยกับเรื่องเล็กๆน้อยๆพวกนี้ที่มันซ้ำๆซากๆบางทีก็มาทะเลาะกันโกรธกันเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่องตลอดคิดในใจ อะไรว๊า ทำไมวะ ตัวเองกลัวเกรงใจ หรืออะไรก็ช่างแต่เราๆสามารถออกหน้าได้แทนหมดทุกเรื่องนะ แต่ ทำไมต้องมาห้ามเราเราก็กลัวก็เกรงใจแต่เราออกหน้าให้ได้ทุกเรื่องจนบางทีเราคิดว่าทำไมสามีเราขี้กลัวทุกเรื่องไม่มีความเป็นผุ้นำอะไรสักอย่างเลยคืออยู่ด้วยกันมาเรารู้สึกว่าเราเหนื่อยจังสามีจัดการปัญหาของตัวเองเรื่องเล็กๆน้อยๆก็ไม่ได้คือมันมีอีกหลายอย่างมากจริงๆมากๆ
ขอโทษนะคะที่ต้องพิมยาวๆ เพราะ3ปีกว่าที่ผ่านมา รู้สึกว่าตัวเองอดทนเหลือเกินกับทุกเรื่องที่เจอ

อยากหาคำตอบว่าสามีเป็นอะไรป่วยหรือเปล่ามีความผิดปกติในสมองตรงไหนหรือเปล่า

จะได้ทำความเข้าใจ

ต่อเลยนะคะ เรื่องความเข้าใจ สามีเป็นคนเข้าใจยากมากๆด้วยคะ พูดอย่างไปอีกอย่าง ขนาดอธิบายหาเหตุผลเอาเหตุผลมาคุยกัน บอกดีๆพยายามอธิบาย สามีก็หาว่าเราด่า

ยกตัวอย่าง เราคุยกับแม่สามี แม่สามีก็ประมานไปบ่นกับลูกชายตามประสาเราเข้าใจนะคะ บ่นประมานว่า เราชอบไปพูดสั่งสอนแก

ตกเย็นมาสามีมาโกรธแบบโกรธเรามากๆ เราก็ถามดีๆว่าเป็นอะไร สามีตอบว่า กุไม่รักแล้ว "มาด่าแม่กู"


เรื่องต่อมา ทำไมเราแสดงความเป็นห่วง ห่วงใยเพื่อน หรือ ญาติพี่น้องทางฝั่งสามีไม่ได้เลยคะ

ยกตัวอย่างเช่น ทักไปคุยกับป้าสามีถามปรึกษาคุยดีๆแบบคือไม่ได้คุยแบบพาลอะไรเลยคะ

สามีมาว่าเราอย่าไปพาลอย่าไปยุ่งกับป้า

เรื่องต่อมา เรื่องการโอนเงินจ่ายค่าลำโพง สามีซื้อลำโพงมาจากลูกพี่ที่ทำงานยังไม่ได้จ่ายเงิน เราก็เห็นว่ายังไม่จ่ายเราจะโอนจ่ายให้เอง ไม่ได้คุยเรื่องอื่นเลยคะ ถามแค่เลขบัญชี

สามีมาว่าเราว่าอย่าไปยุ่งกับเขา คืออันนี้เราก็มีส่วนผิดจริงๆแหละแต่เราหวังดีนะ

เรื่องต่อมา ทำไมใครขอให้สามีเลี้ยงอะไรเขาถึงเลี้ยงหมดเลยใครขอเงินก็ให้แบบตัวเองไม่มีตัวเองลำบากเมียลำบากกลายเป็นไม่พอใช้ พอคุยกันเรื่องนี้คือคุยดีๆไม่ได้บอกให้หาเงินมาให้ได้เยอะๆแต่บอกว่าเลี้ยงได้แต่ตามวาระตามโอกาสนะ ไม่ห้ามถ้าจะเลี้ยงจะให้ แต่ถ้าให้คือให้ตอนที่เรามีพอใช้ตัวเองแล้ว

สามีมาว่าบอกว่าอย่ามาคุยแต่เรื่องเงินอย่ามาทะเลาะเรื่องเงินคือ เรา งง

เรื่องต่อมา คือสามีเป็นคนที่รับฟังปัญหาอะไรไม่ค่อยได้ ชอบฟังแต่เรื่องดีๆที่ทำให้เขามีความสุข

คุยกันถ้าจะพูดถึงปัญหาไม่ใช่สิพูดถึงเรื่องเขานั่นละ ทำไมเขาบอกชอบปวดหัวไม่อยากคุย

เราไม่เคยด่าสามีเลยแต่ทำไมสามีชอบใช้คำพูดหรือว่าเราด่าทั้งที่เราคุยดีๆบอกดีๆ

เวลาไปซื้อของ ทำไมต้องรอให้แม่ค้าถามว่าจะเอาอะไร คือบางทีเราจะถามอันไหนอร่อยอันไหนดีกว่าเราทำไมไม่มีสิทถามเลย สามีเหมือนกดดันให้รีบๆซื้อ

เราพยายามเลี่ยงทุกเรื่องแล้วนะแต่ก็ต้องมีเรื่องที่ต้องไปด้วยกัน

การใช้ชีวิตในแต่ละวันของเราๆรู้สึกมันยากจังเหนื่อยจังเหนื่อยที่ต้องคอยอธิบายอะไรยาวๆแต่อีกคนไม่เข้าใจเลยสักนิด

เราเป็นคนใจร้อนมากแต่พยายามใจเย็นสุดๆไม่โวยวายไม่อะละวาดไม่กริ๊ดออกมาดังๆกับสิ่งที่เราต้องเจอในทุกๆวัน

เราคิดว่าเราอดทนเก่งมากนะหรือทุกคนคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติทั่วไปเราพูดไม่หมดทุกเรื่อง

มันจะยาวไปมันมีอีกหลายเรื่องมากที่เราเก็บสะสมมา

เรารู้สึกอยากหาคำตอบว่าสามีเราป่วยมีความผิดปกติทางสมองหรือไม่หรือเป็นเรื่องปกติที่คนอื่นก็เป็นกัน

ขอบคุณนะคะ^^


ขอบคุณที่อ่านจนจบคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
ตวามเกรงใจเป็นสิ่งที่ดี แต่มากไปก็ไม่ดี
สามีคุณไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้หรือเปล่า..
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
ปัญหาจริงๆของเรื่องนี้  ไม่ได้อยู่ที่ความเกรงใจของสามีที่มีต่อคนอื่นค่ะ
มันอยู่ที่ว่า  “สามีไม่ได้เกรงใจคุณ”

ถ้าเค้าจะนุ่มนิ่ม  กลัวทุกคน  กลัวไปหมดทุกอย่าง
เค้าต้องกลัวคุณด้วยถึงจะอยู่กันรอด

แต่นี่พอคุณจะออกหน้า  เค้ากลับโกรธคุณ  มาพาลทะเลาะเอากับคุณ
ตรงนี้แหละค่ะ คือจุดที่จะต้องแก้ไข

วิธีแก้
มีทั้งไม้อ่อนและไม้แข็ง

ไม้อ่อนคือ แจ้งให้เขาทราบว่า นิสัยของเค้าแต่ละอย่าง … แต่ละอย่างนั้น …
สร้างปัญหาอะไรให้กับคุณบ้าง

เช่น  ต้องไปรอพนักงาน  เสียเวลาชีวิตไปเท่าไหร่
แค่ไปถามพนักงานแค่นี้ มันไม่ได้ยากอะไรเลยเทียบกับเวลาที่จะต้องเสียไป  ชี้ให้เขาเห็นประเด็นนี้ให้ชัด

ถ้าเขายังดื้อ  ตรงนี้แหละ  ต้องมารื้อดูจริงๆว่า เค้าดื้อเพราะอะไรข้ออ้างว่าเกรงใจฟังไม่ขึ้น
ถ้าหาปมตรงนี้ไม่เจอ  อาจจะพากันไปพบผู้เชี่ยวชาญ (จิตแพทย์) เพื่อให้เค้าช่วยหาให้  ให้เค้าช่วยเคลียร์ให้

อีกวิธี …
ใช้ไม้แข็งคือ ทำตัวเหมือนเป็นคนอื่น

ทำให้เค้ารู้ว่า  คุณไม่ใช่ของตาย
มีทั้งคุณและโทษที่จะให้เขาได้  เทียบเท่ากับคนอื่นๆที่เค้าเกรงใจนั่นแหละเค้าจะได้กลับมาเกรงใจคุณบ้าง

อย่าไปทะเลาะกับเขาค่ะต้องการอะไรก็ทำเลย
แจ้งให้เขาทราบก่อนว่าจะทำ   แล้วทำแบบที่คุณสบายใจ

ถ้าไม่พอใจไม่ต้องไปด้วยกัน    เช่นไปซื้อของ  หรือไปรับรถจากพนักงานหรืออะไรก็แล้วแต่

บางเรื่องที่ไม่เป็นปัญหาต่อชีวิตมากเกินไปนัก  หยุมหยิมเล็กๆน้อยๆพอยอมเขาได้ก็ยอมไป
แต่ต้องบอกเขาว่า   นี่คือยอมเขาแล้วนะ   ยอมให้เค้าเกรงใจคนอื่นแล้วนะ

เพราะฉะนั้นถ้าเป็นเรื่องที่ใหญ่กว่านี้เค้าต้องยอมคุณ ___” ต้องเกรงใจคุณบ้าง”___
หากคุณจะออกหน้าเองหรือจัดการอะไรอะไรเองเค้าต้องไม่มายุ่ง

ประเด็นตรงนี้แหละต้องตกลงกันให้ดีจะได้ไม่ต้องทะเลาะกันอีก

ลองเอาไปปรับใช้กันดูนะคะ

เทียน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่