นิด้าโพล ชี้ คนส่วนใหญ่เชื่อ มีนักการเมืองอยู่เบื้องหลังขัดแย้ง หวั่นเศรษฐกิจย่ำแย่
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_8101403
 
 
เปิดผลสำรวจ นิด้าโพล คนส่วนใหญ่เชื่อ ความขัดแย้งทางการเมือง มีนักการเมืองอยู่เบื้องหลัง หวั่นเศรษฐกิจแย่ลง ห่วงนำไปสู่ขัดแย้งรอบใหม่
 
วันที่ 18 ก.พ. 2567 ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “ความขัดแย้งทางการเมือง” ทำการสำรวจระหว่าง วันที่ 13-15 ก.พ. จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับความขัดแย้งทางการเมืองภายในประเทศ
 
จากการสำรวจเมื่อถามถึงความกังวลของประชาชนเกี่ยวกับผลกระทบจากความขัดแย้งทางการเมือง พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 38.93 ระบุว่า เศรษฐกิจที่ย่ำแย่ลง ร้อยละ 20.08 ระบุว่า ความแตกแยกในสังคม ร้อยละ 19.39 ระบุว่า ไม่กังวลใดๆ เลย
 
ร้อยละ 11.75 ระบุว่า การใช้ความรุนแรงในสังคม ร้อยละ 9.54 ระบุว่า ความไม่มีเสถียรภาพของระบอบประชาธิปไตย และร้อยละ 0.31 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
 
ด้านความเชื่อของประชาชนเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการเมือง ส่วนใหญ่มีนักการเมือง พรรคการเมือง กลุ่มทางการเมืองอยู่เบื้องหลัง พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 44.73 ระบุว่า เชื่อมาก
 
ร้อยละ 27.18 ระบุว่า ค่อนข้างเชื่อ ร้อยละ 12.06 ระบุว่า ไม่ค่อยเชื่อ ร้อยละ 10.84 ระบุว่า ไม่เชื่อเลย และร้อยละ 5.19 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
 
ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงความกังวลของประชาชนเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบัน จะนำไปสู่ความขัดแย้งทางการเมืองรอบใหม่ พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 29.85 ระบุว่า ค่อนข้างกังวล ร้อยละ 27.02 ระบุว่า ไม่กังวลเลย

ร้อยละ 22.75 ระบุว่า กังวลมาก ร้อยละ 19.62 ระบุว่า ไม่ค่อยกังวล และร้อยละ 0.76 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

---

แหล่งข่าวระดับสูงเชื่อ “ทักษิณ” ไม่ถูกอายัดตัวคดี ม.112
https://www.pptvhd36.com/news/การเมือง/217375

แหล่งข่าวระดับสูงเชื่อ “ทักษิณ” ไม่ถูกอายัดตัวคดี ม.112

เรื่องคดี ม.112 ของ “ทักษิณ” แหล่งข่าวระดับสูงสำนักงานอัยการสูงสุดเผย เชื่อว่าไม่น่าจะมีการอายัดตัว
 
ความคืบหน้าเรื่องการอายัดตัว นายทักษิณ คดี ม.112 ทีมข่าว PPTV เคยได้สอบถามไปที่นายประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ระบุกับทีมข่าวว่าในส่วนขั้นตอนของอัยการสูงสุด ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะมีคำสั่งคดีออกมาอย่างไร
 
ส่วนแหล่งข่าวระดับสูงในสำนักงานอัยการสูงสุด ให้ข้อมูลว่า คำสั่งคดีของอัยการสูงสุดในคดี ม.112 น่าจะออกมาไม่ทันวันครบกำหนดพักโทษ 18 ก.พ. 67 นี้ ซึ่งนายทักษิณ เมื่อได้รับการพักโทษ ก็กลับบ้านได้ตามปกติ เพราะกระบวนการทางกฎหมาย การอายัดตัวนายทักษิณ ในคดี ม.112 เป็นคนละส่วนกัน

แต่ถึงแม้ไม่มีการอายัดตัว ก็ต้องบอกว่า ตามขั้นตอน อัยการก็จะต้องนำตัวนายทักษิณ มาพบพนักงานอัยการเจ้าของคดีก่อนเพื่อเซ็นรับทราบว่า คดีอยู่ระหว่างการรอคำสั่งอัยการสูงสุดชี้ขาดว่าจะฟ้องหรือไม่ฟ้อง ส่วนสุดท้าย อัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้องนายทักษิณ ก็ไม่ต้องกลับเข้าเรือนจำ สามารถไปต่อสู้คดีในศาลอาญา ซึ่งสามารถสู้ได้ถึงชั้นฎีกาได้ 
 
ทั้งนี้ คดีนี้ ไม่ได้มีการกำหนดกรอบเวลาว่าอัยการสูงสุดจะต้องสั่งฟ้อง หรือไม่ฟ้อง เมื่อไร ขึ้นอยู่กับอายุความ ถ้ายังไม่หมดก็สามารถฟ้องได้

---

 
เนื้อหมูขึ้นราคากิโลกรัมละ 2 บาท พุ่งเกือบแตะ 80 บาท
https://www.matichon.co.th/economy/news_4430602

เนื้อหมูขึ้นราคากิโลกรัมละ 2 บาท พุ่งเกือบแตะ 80 บาท
 
สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งประเทศไทย ขยับราคาหมูหน้าฟาร์มเงียบกิโลกรัมละ 2 บาท เกือบแตะ 80 บาท หลังสมาคมการค้าผู้เลี้ยงสุกรภาคใต้นำร่องประกาศราคาแนะนำสุกรล่วงหน้า สุกรซีกกิโลกรัมละ 80 บาท แต่ปรับสูตรคำนวณ เป็น “ราคารถใหญ่คละขนาด” จากเดิมที่กำหนดราคาเป็น
รายภูมิภาค
 
เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งประเทศไทยเตรียมจะปรับขึ้นราคาสุกรหน้าฟาร์มประจำวันพระที่ 17 กุมภาพันธ์ 2567 อีกกิโลกรัมละ 2 บาท จากวันพระก่อนหน้านี้ (9 กุมภาพันธ์ 2567)
 
ขณะที่สมาคมการค้าผู้เลี้ยงสุกรภาคใต้ประกาศราคาแนะนำสุกร วันพระที่ 17 กุมภาพันธ์ 2567 ไปก่อนแล้ว โดยส่งผลให้ราคาสุกรขุน กิโลกรัมละ 70 บาท สุกรซีก ราคากิโลกรัมละ 80 บาท และแม่พันธุ์คัดทิ้ง ราคา 44 บาท ส่วนลูกสุกร 16 กิโลกรัม ราคา 1,500+-70 บาท
ทั้งนี้ การขยับราคาล่าสุดคาดว่าจะทำให้ราคาสุกรหน้าฟาร์มภาพรวมของประเทศ เปลี่ยนแปลงจากรอบก่อน ดังนี้
 
ภาคตะวันตก จาก 66-68 เป็น 68-70 บาท/กก.
ภาคตะวันออก จาก 66-72 เป็น 68-74 บาท/กก.
ภาคอีสาน จาก 66-72 เป็น 68-74 บาท/กก.
ภาคเหนือ จาก 66-72 เป็น 68-74 บาท/กก.
ภาคใต้ 76 เป็น 78 บาท/กก.
 
อย่างไรก็ตาม เป็น ที่น่าสังเกตว่า ล่าสุดการออกรายงานข้อมูลสภาวะตลาดสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์ม (สัปดาห์ที่ 7/2567) วันพระที่ 17 กุมภาพันธ์ 2567 ได้มีการปรับเปลี่ยนจสดราคารายภาค เป็นราคาเฉลี่ยที่เรียกว่า “ราคารถใหญ่คละขนาด”
 
นายสิทธิพันธ์ ธนาเกียรติภิญโญ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ เปิดเผยว่า หลังการร่วมหารือล่าสุดระหว่างกรมปศุสัตว์ สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ บริษัทครบวงจร ห้างค้าส่งค้าปลีก เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2567 ได้ฉันทามติร่วมกัน เพื่อช่วยเกษตรกรผู้เลี้ยงให้ใช้ราคาการซื้อขายสุกรขุนคละ
ขนาดจำนวนมาก(รถใหญ่) หน้าฟาร์ม เป็นราคากลางทั้งการซื้อขายตามจำนวน และคุณภาพซากที่แตกต่างกันไป โดยบวกจากราคากลางโดยกรมปศุสัตว์จะดูแลการซื้อขายอย่างใกล้ชิด เพื่อการดึงราคาให้สูงขึ้นในวันพระต่อไป ฟาร์มที่ประสบปัญหาการกดราคาสามารถแจ้งความเดือดร้อนผ่าน Application DLD 4.0
 
ล่าสุด ราคารถใหญ่คละขนาด 66 บาทต่อกิโลกรัม และลูกสุกรขุนเล็ก 16 กิโลกรัม วันจันทร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2567: 1,500 บาท บวกลบ 68