ช่วยด้วยครับ พอดีมีปัญหาสภาพแวดล้อมทางบ้าน คือน้องผมเล่นเกมกับเพื่อนเสียงดังมาก เป็นมาตั้งแต่ ม.1 จน ปัจจุบันกำลังขึ้น ม.4
แรกๆแค่เสียงดังผมก็ไม่อะไรหรอกครับเพราะแค่เด็กเข้าใจได้ (ไม่ใช่น้องแท้ๆนะครับ แต่โตมาด้วยกันสายเลือดตะกูลเดียวกัน)
แต่พอนานๆวันก็จะเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆเลยครับ เสียงก็เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ บวกกับคำหยาบที่ค่อยๆแทรกมาทีละนิดละน้อย จากตอนแรกที่เล่นกับเพื่อนเอามันส์ ตอนนี้มีหัวร้อนบ้าง ด่าเพื่อนบ้าง สภาพน้องผมตอนนี้อย่างกับเด็กร้านเกมส์เลยครับ
คือบ้านผมจะมีห้องแค่ 4 ห้อง ห้องผม ห้องพี่ ห้องแม่ผม แล้วก็ห้องพ่อแม่น้อง (ก็คือตากับยายผม) น้องกับพ่อแม่นอนกันห้องข้างล่าง
น้องปกติจะระวังคำพูดมากๆเวลาอยู่กับคนที่บ้านแบบ พูดได้ แต่เลือกไม่พูด อะไรประมาณนี้ครับ
แต่เดี๋ยวนี้คือ ไม่เกรงใจอะไรใครเลยอะครับ พอแม่พูดน้องผมก็จะใส่อารมณ์โวยวายใส่แม่ทำเหมือนแม่เป็นคนผิด
อารมณ์เหมือนแบบว่า "ก็อยู่ดีๆแล้ว จะมาด่าอะไรอีก" ประมาณนี้อะครับ ผมเองก็พยายามบอกแล้วว่าควรจะเกรงใจคนในบ้านกันบ้างมันเสียงดัง
แล้วเขาอยู่กันเยอะ (6 คน + เด็กเล็กอีก 1 คน) คือคนที่บ้านผมเขาเป็นคนเสียงดังกันอยู่แล้ว แต่ไม่ถึงขนาดกับดังจนขึ้นมาในห้องนอนชั้นสองอะครับ
ก่อนหน้าที่น้องผมจะติดเกมติดเพื่อนคือช่วงประถม น้องผมก็เป็นเด็กนิสัยขี้เล่น อยู่เงียบๆ เวลาเล่นของเล่นดูหนังก็เสียงดังตามประสาเด็ก
แต่เดี๋ยวนี้การเสียงดังของน้องผม มันเกินเยียวยาไปมากแล้วสำหรับผม เวลาเล่นเกมกับเพื่อนเขาก็จะ ไอเหี้* ไอสั* คว* คำด่าพ่อล่อแม่ มาครบทุกประโยค สำหรับผมคือมันใช้เกินความจำเป็นหรือไม่ก็ไม่ควรใช้เลย ไม่มีการเกรงใจคนที่บ้านไม่พอ เวลาคนที่บ้านดูทีวีแล้วเพิ่มเสียงทีวี
น้องผมเขาก็เหมือนจะดังแข่งกับทีวีอะครับ บางทีคนในบ้านคุยโทรศัพท์หรือเวลาผู้ใหญ่เขาคุยกันก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง
ก็เลยเร่งเสียงคุยกัน น้องผมก็ดังตามมาอีก คือผมไม่เข้าใจมากๆเลย
ตอนแรกผมคุยกับน้องผมถามเขาว่า พูดอะไรทำไมไม่เกรงใจคนในบ้านเลยอะ
น้องผมก็บอกว่า มันก็ปกติ คุยกันปกติ ผมตอบกลับไปว่า รู้ว่ามันปกติ แต่เสียงมันดังเกรงใจคนในบ้านหน่อยก็ดี น้องผมก็บอกว่าเขาเกรงใจนะครับ
แต่ผมสงสัยว่าทำไมน้องผมยังทำพฤติกรรมแบบนี้อยู่ จากนั้นผมก็ไม่อะไรครับ เพราะไม่อยากพูดมาก สุดท้ายก็แค่เตือนบอกไปว่า
เกรงใจคนในบ้านหน่อย ไม่ใช่แค่แม่นะ พี่ด้วย พ่อด้วย น้องด้วย คนอื่นๆที่อยู่ในบ้านด้วย เกรงใจเขากันหน่อย น้องผมก็พยักหน้ารับทราบ
ผมก็เออ คงเข้าใจละ ว่ามันกระทบคนอื่นคงจะเบาลงแล้วหล่ะ แต่น้องผมก็หยุดได้วันเดียว
มีช่วงนึงหมือนเริ่มหนักขึ้นกว่าเดิมแบบ เส้นกราฟพุ่งขึ้นเลยอะครับ ผมก็พูด เตือน บอกเขาดีๆทุกรอบ จนถึงวันที่ผมทนไม่ไหวแบบไม่ไหวจริงแล้ว
คือวันนั้นผมต้องใช้สมาธิทำงานหน้าคอม แล้วน้องผมก็เล่นเกมเสียงดังขึ้นมาอีก แรกๆผมก็ไม่อะไร ไม่อยากพูด เพราะรู้ตัวว่าหัวเริ่มอุ่นๆแล้ว
ผมก็เลยใส่หูฟัง เปิดเสียงดนตรีผ่อนคลายฟังเพราะๆ แต่เสียงน้องผมก็ยังรอดเข้ามาได้อีก ผมเลยเพิ่มเสียง แต่ก็อยู่อย่างงั้นได้ไม่นานครับ
เพราะต้องใช้สมาธิสูงมากๆ ผมเลยรำคาญเสียงดนตรีแล้วจะปิด เห็นว่า 2 ทุ่ม จะ 3 ทุ่มแล้ว คงเงียบแล้ว
แต่พอปิดปุ๊ปเสียงยังอยู่ แถมทำไมดังขึ้นกว่าเดิมอีก ผมก็ทน เพราะคิดว่ายังไงก็ต้องหยุดบ้างแหละ
ผมนั่งทนไปประมาณ 30-40 ปรากฏว่ายังไม่หยุดเลย ผมทนแบบทนมากๆเลยนะครับ ผมเลยตัดสินใจ เปิดประตูห้อง แล้วตะโกนลงไปว่า เห้ย เงียบๆหน่อย
น้องผมก็ตะโกนกลับมา อะไร! แบบอารมณ์เสียใส่เลย ด้วยความที่ตอนนั้นผมโมโหด้วย พอได้ยินน้ำเสียงงั้น ผมก็ลงไปด่ากราด ยับเลยครับ
ด่าไปว่า "เสียงดังเหี้* อะไรนักหนาวะมึ*อะ ไม่เกรงใจคนในบ้านบ้างรึไงวะ" น้องผมก็ตอบ "อะไรเนี่ย" ผมก็บอก "อะไร ก็เสียงดังเนี่ย กูบอกให้เบากี่รอบแล้ว ไม่สงสารไม่เกรงใจแม่ตัวเองบ้างรึไง เขาจะรู้สึกไง" มันก็บอกผม "เป็นเชี่ยอะไรเนี่ย" "กูอยู่ดีๆแล้วนะ" ผมก็ตอบ "อยู่ดีๆ แล้วจะเสียงดังทำเหี้*อะไรอะ" น้องผมก็ไม่ตอบ แต่เขวี้ยงข้าวของแทน ยายก็บอกผมว่า ไม่ต้องพูดอะไรละ เดี๋ยวจะย้ายบ้านละ จากนั้นผมก็ไม่พูดอะไร เดินขึ้นห้องไป ทำงานต่อก็หมดอารมณ์ และหลังจากนั้นก็เหมือนจะดีขึ้นนะครับ
เรื่องนี้ผมรู้สึกแย่มากครับ หลังจากเหตุการ์ณวันนั้น ผมก็มีการไปขอโทษน้อง น้องก็ขอโทษผม ผมก็โอเค ไม่อะไร แล้วก็จะไม่ยุ่งด้วย จะปล่อยเลย
แต่ไม่นาน ก็กลับมาเป็นอีก แต่คราวนี้ไม่ได้เป็นผมที่หมดความอดทน เป็นยายเองเลยที่หมดความอดทน (ก็คือแม่น้อง)
แล้วก็ด่าน้องแบบที่ผมด่าเลย น้องผมก็โต้ตอบกลับ แต่ไม่มีการใช้คำหยาบในการตอบนะครับ จะมีก็แค่ ตะโกน ตะคอก ใส่อารมณ์
ผมไม่รู้ว่ายังไง แต่ผมคิดว่าคือน้องผมชอบทำตัวเหมือนว่าตัวเองทนคำด่ามานานแล้วระเบิดออกมาอะครับ
ประเด็นคือแทบไม่มีใครกล้าด่าเลยยกเว้นผม ซึ่งผมก็ไม่อยากทำถ้าไม่จำเป็นก็ไม่คิดเลย
ซึ่งตอนนี้ ผมกับน้องก็ไม่ยุ่งกันแล้วครับ แม่ก็ไม่ค่อยยุ่งกับเขาด้วย คือเอาง่ายๆ ไม่มีใครในบ้านกล้ายุ่งแล้วครับ
ผมก็อยากย้ายไปอยู่ห้องเช่าคนเดียวนะครับ แต่ผมไม่อยากทิ้งคนที่บ้านให้เขาคิดว่าผมไม่พอใจอะไร แล้วผมเองก็อยากอยู่กับคนที่บ้านด้วยครับ
ทุกวันนี้ ทำงานเสร็จเข้าบ้าน วันหยุดก็อยู่บ้าน วันเทศกาลก็อยู่กับคนที่บ้าน คือพอเริ่มโตมาแล้ว ก็ชอบอยู่กับคนที่บ้านมากขึ้นอะครับ
แต่พอทีนี้หลังจากเหตุการ์ณนั้น ที่ยายผมบอก เออเดี๋ยวจะย้ายบ้านละ ผมรู้สึกเหมือนผมกลายเป็นตัวต้นเรื่องที่ทำให้บ้านแตกเลย
คือถ้าเขาจะย้ายแบบแยกกัน เขาก็จะไปอยู่แบบ 4-3 อะครับ ฝั่งนุ้น มี น้อง พี่ ตา ยาย และฝั่งนี้ ผม แม่ น้องชาย
ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาหลายๆอย่างตามมา หลักๆก็ค่าน้ำค่าบ้านที่เคยต้องช่วยกันหาร ถ้าแยกกัน อาจจะลำบากในเรื่องนี้กันหมด
ผมเลยคิดที่จะย้ายไปอยู่คนเดียว แต่ใจผมก็อยากอยู่กับคนที่บ้าน ไม่ใช่ว่ากลัวการอยู่คนเดียวนะครับ ชอบด้วยซ้ำครับ
แต่ก็อย่างว่าครับ ผมไม่อยากทนฟังอะไรที่มันทำให้สุขภาพจิตเสียอะครับ ทนฟังทุกวันเลย ตั้งแต่บ่าย 3 ยัน 3-4 ทุ่ม
คือผมพยายามไม่สนใจแบบพยายามเต็มที่แล้วอะครับ ตอนนี้ผมไม่รู้เลยว่าจะเอาไง ผมไม่รู้เลยว่าจะแก้ปัญหาที่ตรงไหนก่อนดี
จะพูดอะไรอีกก็ไม่กล้า ไปคุยกับน้องตรงๆก็ไม่เอาดีกว่า ตรงมาหลายรอบแล้ว
อยากรบกวนขอคำแนะนำจากเพื่อนๆพี่ๆ ว่าถ้าอยู่ในสถานการ์ณแบบนี้ จะจัดการกันยังไงบ้าง
ช่วยทีนะครับ ขอวิธีดีๆเลย ผมหมดหนทางแล้ว สุขภาพจิตแย่ลงทุกวัน ช่วยผมทีครับ ใครเคยเจอสถาณการ์ณงี้แล้วแก้ได้
ไม่ว่าจะทางจิตวิทยาอะไรก็ตามแต่ รบกวนแชร์หน่อยนะครับ🙏
น้องเล่นเกมกับเพื่อนเสียงดังมาก
แรกๆแค่เสียงดังผมก็ไม่อะไรหรอกครับเพราะแค่เด็กเข้าใจได้ (ไม่ใช่น้องแท้ๆนะครับ แต่โตมาด้วยกันสายเลือดตะกูลเดียวกัน)
แต่พอนานๆวันก็จะเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆเลยครับ เสียงก็เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ บวกกับคำหยาบที่ค่อยๆแทรกมาทีละนิดละน้อย จากตอนแรกที่เล่นกับเพื่อนเอามันส์ ตอนนี้มีหัวร้อนบ้าง ด่าเพื่อนบ้าง สภาพน้องผมตอนนี้อย่างกับเด็กร้านเกมส์เลยครับ
คือบ้านผมจะมีห้องแค่ 4 ห้อง ห้องผม ห้องพี่ ห้องแม่ผม แล้วก็ห้องพ่อแม่น้อง (ก็คือตากับยายผม) น้องกับพ่อแม่นอนกันห้องข้างล่าง
น้องปกติจะระวังคำพูดมากๆเวลาอยู่กับคนที่บ้านแบบ พูดได้ แต่เลือกไม่พูด อะไรประมาณนี้ครับ
แต่เดี๋ยวนี้คือ ไม่เกรงใจอะไรใครเลยอะครับ พอแม่พูดน้องผมก็จะใส่อารมณ์โวยวายใส่แม่ทำเหมือนแม่เป็นคนผิด
อารมณ์เหมือนแบบว่า "ก็อยู่ดีๆแล้ว จะมาด่าอะไรอีก" ประมาณนี้อะครับ ผมเองก็พยายามบอกแล้วว่าควรจะเกรงใจคนในบ้านกันบ้างมันเสียงดัง
แล้วเขาอยู่กันเยอะ (6 คน + เด็กเล็กอีก 1 คน) คือคนที่บ้านผมเขาเป็นคนเสียงดังกันอยู่แล้ว แต่ไม่ถึงขนาดกับดังจนขึ้นมาในห้องนอนชั้นสองอะครับ
ก่อนหน้าที่น้องผมจะติดเกมติดเพื่อนคือช่วงประถม น้องผมก็เป็นเด็กนิสัยขี้เล่น อยู่เงียบๆ เวลาเล่นของเล่นดูหนังก็เสียงดังตามประสาเด็ก
แต่เดี๋ยวนี้การเสียงดังของน้องผม มันเกินเยียวยาไปมากแล้วสำหรับผม เวลาเล่นเกมกับเพื่อนเขาก็จะ ไอเหี้* ไอสั* คว* คำด่าพ่อล่อแม่ มาครบทุกประโยค สำหรับผมคือมันใช้เกินความจำเป็นหรือไม่ก็ไม่ควรใช้เลย ไม่มีการเกรงใจคนที่บ้านไม่พอ เวลาคนที่บ้านดูทีวีแล้วเพิ่มเสียงทีวี
น้องผมเขาก็เหมือนจะดังแข่งกับทีวีอะครับ บางทีคนในบ้านคุยโทรศัพท์หรือเวลาผู้ใหญ่เขาคุยกันก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง
ก็เลยเร่งเสียงคุยกัน น้องผมก็ดังตามมาอีก คือผมไม่เข้าใจมากๆเลย
ตอนแรกผมคุยกับน้องผมถามเขาว่า พูดอะไรทำไมไม่เกรงใจคนในบ้านเลยอะ
น้องผมก็บอกว่า มันก็ปกติ คุยกันปกติ ผมตอบกลับไปว่า รู้ว่ามันปกติ แต่เสียงมันดังเกรงใจคนในบ้านหน่อยก็ดี น้องผมก็บอกว่าเขาเกรงใจนะครับ
แต่ผมสงสัยว่าทำไมน้องผมยังทำพฤติกรรมแบบนี้อยู่ จากนั้นผมก็ไม่อะไรครับ เพราะไม่อยากพูดมาก สุดท้ายก็แค่เตือนบอกไปว่า
เกรงใจคนในบ้านหน่อย ไม่ใช่แค่แม่นะ พี่ด้วย พ่อด้วย น้องด้วย คนอื่นๆที่อยู่ในบ้านด้วย เกรงใจเขากันหน่อย น้องผมก็พยักหน้ารับทราบ
ผมก็เออ คงเข้าใจละ ว่ามันกระทบคนอื่นคงจะเบาลงแล้วหล่ะ แต่น้องผมก็หยุดได้วันเดียว
มีช่วงนึงหมือนเริ่มหนักขึ้นกว่าเดิมแบบ เส้นกราฟพุ่งขึ้นเลยอะครับ ผมก็พูด เตือน บอกเขาดีๆทุกรอบ จนถึงวันที่ผมทนไม่ไหวแบบไม่ไหวจริงแล้ว
คือวันนั้นผมต้องใช้สมาธิทำงานหน้าคอม แล้วน้องผมก็เล่นเกมเสียงดังขึ้นมาอีก แรกๆผมก็ไม่อะไร ไม่อยากพูด เพราะรู้ตัวว่าหัวเริ่มอุ่นๆแล้ว
ผมก็เลยใส่หูฟัง เปิดเสียงดนตรีผ่อนคลายฟังเพราะๆ แต่เสียงน้องผมก็ยังรอดเข้ามาได้อีก ผมเลยเพิ่มเสียง แต่ก็อยู่อย่างงั้นได้ไม่นานครับ
เพราะต้องใช้สมาธิสูงมากๆ ผมเลยรำคาญเสียงดนตรีแล้วจะปิด เห็นว่า 2 ทุ่ม จะ 3 ทุ่มแล้ว คงเงียบแล้ว
แต่พอปิดปุ๊ปเสียงยังอยู่ แถมทำไมดังขึ้นกว่าเดิมอีก ผมก็ทน เพราะคิดว่ายังไงก็ต้องหยุดบ้างแหละ
ผมนั่งทนไปประมาณ 30-40 ปรากฏว่ายังไม่หยุดเลย ผมทนแบบทนมากๆเลยนะครับ ผมเลยตัดสินใจ เปิดประตูห้อง แล้วตะโกนลงไปว่า เห้ย เงียบๆหน่อย
น้องผมก็ตะโกนกลับมา อะไร! แบบอารมณ์เสียใส่เลย ด้วยความที่ตอนนั้นผมโมโหด้วย พอได้ยินน้ำเสียงงั้น ผมก็ลงไปด่ากราด ยับเลยครับ
ด่าไปว่า "เสียงดังเหี้* อะไรนักหนาวะมึ*อะ ไม่เกรงใจคนในบ้านบ้างรึไงวะ" น้องผมก็ตอบ "อะไรเนี่ย" ผมก็บอก "อะไร ก็เสียงดังเนี่ย กูบอกให้เบากี่รอบแล้ว ไม่สงสารไม่เกรงใจแม่ตัวเองบ้างรึไง เขาจะรู้สึกไง" มันก็บอกผม "เป็นเชี่ยอะไรเนี่ย" "กูอยู่ดีๆแล้วนะ" ผมก็ตอบ "อยู่ดีๆ แล้วจะเสียงดังทำเหี้*อะไรอะ" น้องผมก็ไม่ตอบ แต่เขวี้ยงข้าวของแทน ยายก็บอกผมว่า ไม่ต้องพูดอะไรละ เดี๋ยวจะย้ายบ้านละ จากนั้นผมก็ไม่พูดอะไร เดินขึ้นห้องไป ทำงานต่อก็หมดอารมณ์ และหลังจากนั้นก็เหมือนจะดีขึ้นนะครับ
เรื่องนี้ผมรู้สึกแย่มากครับ หลังจากเหตุการ์ณวันนั้น ผมก็มีการไปขอโทษน้อง น้องก็ขอโทษผม ผมก็โอเค ไม่อะไร แล้วก็จะไม่ยุ่งด้วย จะปล่อยเลย
แต่ไม่นาน ก็กลับมาเป็นอีก แต่คราวนี้ไม่ได้เป็นผมที่หมดความอดทน เป็นยายเองเลยที่หมดความอดทน (ก็คือแม่น้อง)
แล้วก็ด่าน้องแบบที่ผมด่าเลย น้องผมก็โต้ตอบกลับ แต่ไม่มีการใช้คำหยาบในการตอบนะครับ จะมีก็แค่ ตะโกน ตะคอก ใส่อารมณ์
ผมไม่รู้ว่ายังไง แต่ผมคิดว่าคือน้องผมชอบทำตัวเหมือนว่าตัวเองทนคำด่ามานานแล้วระเบิดออกมาอะครับ
ประเด็นคือแทบไม่มีใครกล้าด่าเลยยกเว้นผม ซึ่งผมก็ไม่อยากทำถ้าไม่จำเป็นก็ไม่คิดเลย
ซึ่งตอนนี้ ผมกับน้องก็ไม่ยุ่งกันแล้วครับ แม่ก็ไม่ค่อยยุ่งกับเขาด้วย คือเอาง่ายๆ ไม่มีใครในบ้านกล้ายุ่งแล้วครับ
ผมก็อยากย้ายไปอยู่ห้องเช่าคนเดียวนะครับ แต่ผมไม่อยากทิ้งคนที่บ้านให้เขาคิดว่าผมไม่พอใจอะไร แล้วผมเองก็อยากอยู่กับคนที่บ้านด้วยครับ
ทุกวันนี้ ทำงานเสร็จเข้าบ้าน วันหยุดก็อยู่บ้าน วันเทศกาลก็อยู่กับคนที่บ้าน คือพอเริ่มโตมาแล้ว ก็ชอบอยู่กับคนที่บ้านมากขึ้นอะครับ
แต่พอทีนี้หลังจากเหตุการ์ณนั้น ที่ยายผมบอก เออเดี๋ยวจะย้ายบ้านละ ผมรู้สึกเหมือนผมกลายเป็นตัวต้นเรื่องที่ทำให้บ้านแตกเลย
คือถ้าเขาจะย้ายแบบแยกกัน เขาก็จะไปอยู่แบบ 4-3 อะครับ ฝั่งนุ้น มี น้อง พี่ ตา ยาย และฝั่งนี้ ผม แม่ น้องชาย
ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาหลายๆอย่างตามมา หลักๆก็ค่าน้ำค่าบ้านที่เคยต้องช่วยกันหาร ถ้าแยกกัน อาจจะลำบากในเรื่องนี้กันหมด
ผมเลยคิดที่จะย้ายไปอยู่คนเดียว แต่ใจผมก็อยากอยู่กับคนที่บ้าน ไม่ใช่ว่ากลัวการอยู่คนเดียวนะครับ ชอบด้วยซ้ำครับ
แต่ก็อย่างว่าครับ ผมไม่อยากทนฟังอะไรที่มันทำให้สุขภาพจิตเสียอะครับ ทนฟังทุกวันเลย ตั้งแต่บ่าย 3 ยัน 3-4 ทุ่ม
คือผมพยายามไม่สนใจแบบพยายามเต็มที่แล้วอะครับ ตอนนี้ผมไม่รู้เลยว่าจะเอาไง ผมไม่รู้เลยว่าจะแก้ปัญหาที่ตรงไหนก่อนดี
จะพูดอะไรอีกก็ไม่กล้า ไปคุยกับน้องตรงๆก็ไม่เอาดีกว่า ตรงมาหลายรอบแล้ว
อยากรบกวนขอคำแนะนำจากเพื่อนๆพี่ๆ ว่าถ้าอยู่ในสถานการ์ณแบบนี้ จะจัดการกันยังไงบ้าง
ช่วยทีนะครับ ขอวิธีดีๆเลย ผมหมดหนทางแล้ว สุขภาพจิตแย่ลงทุกวัน ช่วยผมทีครับ ใครเคยเจอสถาณการ์ณงี้แล้วแก้ได้
ไม่ว่าจะทางจิตวิทยาอะไรก็ตามแต่ รบกวนแชร์หน่อยนะครับ🙏