ภาระกิจ1วัน3รพ.กับผู้ป่วยจิตเวช

ผู้ป่วยคือพี่สาว แก่ โสดไม่เคยมีครอบครัว ออกงานตามอายุ จน มีภาระเครียด ซึมเศร้า ดูแลตัวเองไม่ได้ สรุปคือป่วยทางจิต จึงต้องรับมาดูแล จนระยะนึงที่ถึงเวลาต้องเข้ารับการบำบัด เพราะจนทางเดียวที่จะนำไปสู่การรักษาก้อคือสิทธสวัสดิการถ้วนหน้า หรือ..บัตรทอง(ฝังเพชร) การเดินทางจึงได้เริ่มขึ้น
     08.00น.รถจากมูลนิธิกู้ภัยที่ว่าจ้างมาในราคา 2000บ.มารับที่หน้าบ้านเพื่อนำพี่สาวที่คลุ้มคลั่งใส่ท้ายรถไปยังคลีนิคตามสิทธิที่ทำไว้เพื่อขอใบส่งตัวไปรักษาที่รพ.ปากเกร็ด ซึ่งออกให้โดยหมอที่ก่อนมาอาจจะมีปัญหาทางบ้านหรือเพราะความไม่แม่นเรื่องการออกใบส่งตัวซึ่งต้องใส่อารมย์กันนิดหน่อยสรุปสุดท้ายจนท.คลีนิคบอกว่าเป็นความผิดของหมอ
   10.30น.คนป่วยพร้อมใบส่งตัวถึงรพ.ปากเกร็ด เวรเปลฉุดกระชากลากถูคนป่วยที่ดื้อดึงลงจากรถซึ่งเป็นวิธีการเดียวที่จะทำได้ก้อไม่ว่ากัน แต่ที่จะยากที่จะยอมรับก้อคือจนท.พยาบาลบางคนพูดจาทำร้ายความรู้สึกญาติที่ไปด้วยซึ่งจนท.แบบนี้ทุกรพ.ต้องมีประจำและต้องเจอ
       เข้าสู่ช่วงการรักษา มีการเจาะเลือดนำไปตรวจ4รายการระหว่างนั้นหมอได้ซักประวัติและอาการเพื่อวินิจฉัยโรคซึ่งเป็นคำถามง่ายๆที่ตอบยากเนื่องจากเราไม่ได้อยุ่กับคนป่วยข้อมูลจึงไม่ชัดเจนที่จะหาสาเหตได้
    15.30น.มีการนำคนป่วยไปตรวจสแกนสมองหาความผิดปกติที่รพ.เกษมราษฎร์กลับมาดูผลที่รพ.เดิมซึ่งกว่าจะรุ้ผลก้อนานมาก สุดท้ายหมอได้เรียกไปฟังผลการตรวจรักษา พี่สาวผมที่ป่วยที่ไม่ได้กินอาหารตั้งแต่เช้ามีร่างกายที่ปกติรวมถึงสมองที่ผ่านการสแกนพร้อมทั้งแจ้งว่ามีอาการทางจิตต้องส่งตัวไปรักษาที่ศรีธัญญาซึ่งเป็นความประสงค์ของผมตั้งแต่แรกอยู่ก่อนแล้ว แต่ก้อเป็นที่น่าสงสัยว่าการรักษาและการส่งมีความล่าช้าจนถึงเวลาปิดทำการของรพ.ในเวลาปกติ
      17.00น.ผมและใบส่งตัวคนป่วยเดินทางสู่ศรีธัญญาอย่างมีความหวังว่าพี่สาวจะได้รับการรักษาอาการทางจิตที่เป็นให้หายปกติจากรพ.ที่เชี่ยวชาญเมื่อไปถึงผมทำหน้าที่ลงทะเบียนคนไข้ได้รับการซักประวัติและอาการตามขั้นตอนในขณะที่คนป่วยถูกส่งเข้าห้องดูอาการซึ่งใช้เวลานานระยะนึงจนจนท.ได้เรียกเข้าไปฟังคำวินิจฉัยจากหมอ สิ่งที่หมอบอกก้อคือ จากการตรวจร่างกายพบว่ามีความไม่ปกติของค่าที่ตรวจต้องได้รับการรักษาทางกาย ส่วนอาการทางจิตที่เป็นอยุ่เกิดจากความเครียด ญาติต้องไปหาสาเหตุของความเครียดนั้น หมอแนะนำให้ไปรักษาโรงบาลทางกายที่ใกล้สุดเป็นรพ.พระนั่งเกล้าแต่ต้องเสียค่าใช่จ่ายเอง หรือรพ.ปากเกร็ดที่เพิ่งส่งตัวมา
      ผมออกมาแจ้งให้คนที่ไปด้วยกันได้รู้ ทุกคนอึ้งกับสิ่งที่ได้ยิน ทำอะไรไม่ถูก ตั้งสติแล้วคิดว่า สิ่งนี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร จะทำอย่างไรต่อไป
ผมมีเวลาำม่มากนัก เนื่องจากหกโมงเย็นแล้วต้องตัดสินใจระหว่างกลับไปรพ.ปากเกร็ดกับไปรพ.พระนั่งเกล้าที่จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง สุดท้ายตัดสินใจว่าไปปากเกร็ดเนื่องจากเวลาค่ำแล้ว รพ.น่าจะรับตัวไว้ เมื่อไปถึงเข้าไปติดต่อพร้อมรับการรักษา มีเจ้าหน้าที่บางคนจำได้เข้ามาสอบถามแต่ไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่านั้น เนื่องจากเป็นห้องฉุกเฉินมีผู้ป่วยทยอยเข้ามาเป็นระยะ ทำให้ต้องคิดว่าแล้วเมื่อไรจะได้รับการรักษา หรือเมื่อถึงมือหมอแล้วจะได้อยุ่พักฟื้นที่รพ.หรือจะต้องพากลับบ้าน
     20.00น.ตัดสินใจออกจากรพ.ปากเกร็ด มุ่งหน้าไปรพ.พระนั่งเกล้า ยอมที่เสียค่าฝช้จ่ายรักษาเอง ขอให้ถึงหมอและได้รับการให้นอนพักรักษาตัวสักระยะเพราะสภาพผู้ป่วยแย่มาก แต่เมื่อไปถึงห้องฉุกเฉิน ผู้ป่วยกลับหนาแน่นแออัดยิ่งกว่า จนท.ซักประวัติ ถามอาการแล้วส่งเข้าห้อง รู้สึกมีความหวังมากขึ้น
    21.00น.คนเจ็บอุบัติเหตุ คนแก่อาการหนัก และอื่นๆทยอยเข้ามารักษาไม่ขาดสาย วุ่นวายมาก รวมทั้งญาติเต็มห้อง
    22.00น.เริ่มเห็นรายชื่อพี่สาวขึ้นบนจอแสดงลำดับและขั้นตอนการรักษา เริ่มมีความหวัง ความเหนื่อยล้าที่มีเริ่มเบาบางลง
    23.00น.หลังมีการผลัดเปลี่ยนทีมแพทย์และพยาบาล ความวุ่นวายเริ่มอีกครั้ง ไม่มีการขยับเคลื่อนไหวในการรักษา
    24.00น. การรักษาพี่ผมหยุดนิ่ง ไม่เคลื่อนไหว คนไข้ที่มาหลังบางส่วนกลับไปแล้ว
    01.00น.  ทนอยู่เฉยไม่ได้ ตัดสินใจถามหมอที่ออกมาจากห้องว่าเมื่อไรพี่ผมจะรักษาแล้วเสร็จ ซึ่งหมอก้อรับปากว่าจะติดตามให้
    02.00น.  มีการประกาศเรียกให้ผมเข้าห้อง เป็นความดีใจสุดๆครั้งนึง เข้าห้องไปเพื่อจะฟังข่าวดี แต่ที่ได้ยินจากจนท.พยาบาลคือ ยังต้องตรวจปัสสวะและรอผลตรวจอีก3ชม. ซึ่งคนไข้ไม่สามารถให้ได้ และถ้าตรวจเรียบร้อยคนไข้ต้องกลับบ้านเนื่องจากคนไข้ไม่เป็นอะไรปกติดีไม่จำเป็นต้องนอนโรงบาลแต่คนไข้มีอาการทางจิต ทางโรงบาลจะออกใบส่งตัวให้ไปรักษาที่รพ.ศรีธัญญา
   03.10น. ผมและพี่สาวที่เป็นคนป่วยจิตเวชกลับมาถึงบ้าน ในสภาพที่อ่อนล้า ทั้งกายและใจ รีบเข้านอนเพื่อจะตื่นขึ้นมาคิดต่อว่าหลังจากนี้จะทำอย่างไรต่อไป ในประเทศที่ได้ชื่อว่าระบบสาธาระณสุขที่ดีที่สุดประเทศหนึ่งในโลก
                        ค่ารถ 4000 บาท (เพิ่มจากเดิม2000)
             ค่าใช้จ่ายที่ศรีธัญญา  430บาท
       รับยา รพ.ปากเกร็ด 2 เม็ด (โปรแตสเซี่ยม)
                 รพ. ศรีธัญญา 1 เม็ด (แบ่งกินครั้งละครึ่งเม็ด)
                 รพ. พระนั่งเกล้า 5 เม็ด (ช่วยให้นอนหลับ)

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่