กมธ.มั่นคงฯ ลุยสังขละบุรี 4-5 มี.ค. จับตาแก้ปัญหาลอบขนยางพาราข้ามแดน โวยกรมศุลฯร่วมมือน้อยสุด
https://www.matichon.co.th/politics/news_4428445
‘กมธ.มั่นคงฯ’ จ่อลงพื้นที่สังขละบุรี 4-5 มี.ค. หลังจับมือเกษตร สกัดขนยางพาราข้ามแดน-ยางสวมสิทธิ ชี้ กระทบราคายางในประเทศ หวังไม่เกิดซ้ำ ซัดกรมศุลฯให้ความร่วมมือน้อยสุด
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 16 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร นำโดยนาย
รังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธาน กมธ. แถลงว่า ทาง กมธ.ได้พิจารณาปัญหาการลักลอบการนำยางพาราเข้ามาในประเทศบริเวณจุดผ่านแดนชั่วคราว บริเวณด่านเจดีย์สามองค์ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี
ซึ่งเรื่องนี้แบ่งออกเป็น 2 ประเด็นหลักคือ มีการนำยางผ่านแดนจากฝั่งประเทศเมียนมา ส่งไปยังด่านสะเดา เพื่อส่งไปยังประเทศมาเลเซีย และปัญหายางสวมสิทธิ ประเทศไทยมีการคำนวณว่าปริมาณยางพาราในพื้นที่สามารถผลิตได้เท่าไหร่ แต่มีการนำยางผิดกฎหมายเข้ามาสวมสิทธิเป็นยางไทย เพื่อนำมาใช้ในประเทศ ซึ่งทั้ง 2 ปัญหาทำให้ราคายางพาราในประเทศไทยตกต่ำ ไม่สะท้อนความเป็นจริง โดยประเด็นที่เราให้น้ำหนักไปในเรื่องของยางผ่านแดน เนื่องจากตัวเลขของยางสูงเกินความเป็นจริง ซึ่งตัวเลขของกรมศุลกากร มีการนำยางผ่านแดนมากกว่า 51,000 ตัน แต่ในความเป็นจริง ที่เราได้รับข้อมูลในพื้นที่ ตัวเลขสูงถึง 140,000 ตัน ซึ่งกระทบปัญหาการท่องเที่ยวในพื้นที่ เนื่องจากยางที่ส่งผ่านแดนเป็นยางไม่ได้คุณภาพทำให้ส่งกลิ่นเหม็น รวมถึงส่งผลกระทบต่อกระบบนิเวศ
ทั้งนี้ เราได้ข้อสรุปสำคัญว่าการนำยางพาราข้ามผ่านแดน ในข้อกฎหมายไม่สามารถทำได้ นั่นหมายความว่าหลายเดือนที่ผ่านมา ที่มีการนำยางผ่านเข้ามาเป็นการากระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นความเสียหายที่ร้ายแรง
“
ประเด็นที่สำคัญคือเจ้าหน้าที่ของกรมวิชาการเกษตรถูกข่มขู่ในพื้นที่ ซึ่งไปประจำในพื้นที่ มีรถไปติดตามที่บ้าน รวมถึงมีคำแนะนำว่าอย่าไปใส่ยูนิฟอร์ม
เพราะจะถูกเพ่งเล็ง นี่คือเขตอิทธิพลที่กำลังเกิดขึ้นอย่างกว้างขวางในพื้นที่สังขละบุรี ทาง กมธ.ขอร้องกองทัพช่วยดูแลในเรื่องของความปลอดภัย เนื่องจากเป็นพื้นที่ปฏิบัติการของกองทัพอยู่แล้ว ส่วนกลุ่มอิทธิพล จะเป็นกลุ่มไหนนั้น เรายังไม่มีข้อมูลลึกขนาดนั้น ส่วนใครจะเป็นผู้เกี่ยวข้องจะต้องแสวงหาข้อเท็จจริงต่อไป แต่เรายังไม่ทราบว่าเป็นกลุ่มไหน แต่เรื่องนี้มีผู้ที่ได้และเสียประโยชน์ คงหาไม่ยากว่าเป็นกลุ่มไหน” นาย
รังสิมันต์
นาย
รังสิมันต์กล่าวว่า ที่สำคัญด่านเจดีย์สามองค์ในฝั่งเมียนมาปิด แต่มีการเปิดด่านชั่วคราว โดยมีจุดประสงค์เพื่อการท่องเที่ยว ซึ่งทาง กมธ.ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้ข้อมูล อาทิ กรมศุลกากร กระทรวงมหาดไทย สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ฯ และอีกหลายหน่วยงาน ซึ่งที่ผ่านมากรมศุลกากรให้ความร่วมมือกับ กมธ.น้อยที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการส่งบุคคลที่ไม่สามารถตัดสินใจได้ในเชิงนโยบายมาเข้าร่วมประชุม บางครั้งมีการเชิญผู้ชี้แจงจากกรมศุลกากรออกนอกห้องประชุม เนื่องจากไม่ให้การร่วมมือเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหา
อย่างไรก็ตาม นาย
รังสิมันต์กล่าวต่อว่า ทาง กมธ.ได้หารือกับนาย
ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมีข้อตกลงร่วมกันว่าจะมีการสกัดกั้นและปราบปรามยางพาราที่ผิดกฎหมาย ผ่านแดนเข้ามา ถือเป็นข่าวดีว่าต่อไปนี้เราสามารถตั้งความหวังว่ายางที่จะผ่านแดนเข้ามาจะไม่เกิดขึ้นอีก ซึ่งในวันที่ 4-5 มี.ค. ทาง กมธ.จะลงพื้นที่และทำหนังสือเชิญนายธรรมนัส ร่วมลงพื้นที่ด้วย เพื่อติดตามว่าการที่ กมธ.มีมติและให้ข้อแนะนำ ได้มีการนำไปปฏิบัติอย่างไร
โรม ท้าเปิดบัญชีผู้มีอิทธิพล อยากรู้อุทัยฯมีชื่อ ช.มั้ย แจงภาพคู่ ‘ตะวัน’ ช่วงทำหน้าที่ กมธ.
https://www.matichon.co.th/politics/news_4428518
‘โรม’ ลั่นเปิดเลยครับ อยากเห็นบัญชีผู้มีอิทธิพล เย้ย ‘อุทัยธานี’ จะมีนักการเมือง ช.หรือไม่ แจงภาพคู่ ‘ตะวัน’ ทำหน้าที่ กมธ. ลงพื้นที่พบ ‘ทะลุวัง’ ยันไม่มีหนุนหลัง ยินดีถูกสอบจริยธรรม หลัง ‘เต้ อาชีวะ’ ร้อง ‘วันนอร์’ สอบปมเปิดภาพในสภา บอกภาพปะทะ ตร.แค่ใช้สิทธิปกป้องเนื้อตัวร่างกาย
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 16 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา นาย
รังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกลุ่มภาคีราชภักดี นำโดย
เต้ อาชีวะ เรียกร้องให้สอบจริยธรรมว่าทำผิดข้อบังคับสภาหรือไม่ ภายหลังนำภาพของกลุ่มมาอภิปรายในญัตติมาตรการอารักขาขบวนเสด็จว่า ตนยินดี แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าผู้ร้องไม่ได้มีสิทธิแค่ร้องผู้อื่น แต่ต้องรับผิดชอบในคำร้องเช่นเดียวกัน และยืนยันว่าตนไม่ได้ตัดต่อภาพใดๆ และการนำภาพขึ้นที่ประชุมสภาก็ผ่านคณะกรรมการในการพิจารณาและอนุมัติ โดย นาย
พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมอยู่แล้ว
นาย
รังสิมันต์กล่าวว่า ถ้าเราไปดูกฎหมาย PDPA ก็ไม่ได้บังคับมาถึงการทำหน้าที่ในสภา เพราะการทำหน้าที่ในสภาได้รับการยกเว้น ซึ่งตนไม่ได้เป็นห่วงในเรื่องอะไร ถ้าจะร้องก็ร้องได้ ยินดี แต่อย่าลืมว่าผู้ร้องก็จะมีภาระหน้าที่ทางกฎหมายเช่นเดียวกัน ยืนยันว่าตนทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นปรากฏตามข้อมูลโดยที่ไม่ได้ตัดต่อ หรือปลอมแปลง
ส่วนที่กลุ่มภาคีฯนำภาพการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสมัยเป็นนักศึกษาในช่วงการชุมนุมเมื่อปี 2557 และกล่าวว่าใช้ความรุนแรงเหมือนกัน นาย
รังสิมันต์กล่าวว่า วันนั้นเป็นวันที่กลุ่มนิสิตนักศึกษาตกลงกันว่ามีการชุมนุมด้านหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ซึ่งเราตั้งใจว่าจะชุมนุมเพียงแค่ 15 นาที โดยจะไม่พูดอะไรเลย และหลังจาก 15 นาที จะพูดอะไรก็ได้ที่สะท้อนจิตใจของพวกเรา มั่นใจว่าการชุมนุมในตอนนั้น ไม่ได้ส่งผลกระทบ หรือขัดขวางการจราจร แต่ไม่มีใครเดือดร้อนทั้งสิ้น สิ่งที่เกิดขึ้นในเวลาประมาณ 18.00 น. มีการเข้าสลายการชุมนุม โดยเจ้าหน้าที่เข้าจับกลุ่มผู้ที่ไปชุมนุมในเวลานั้นส่วนใหญ่เป็นนิสิตนักศึกษา
“
หนึ่งในคนที่ผมรู้จักผมยังจำภาพได้ตอนนั้น เขาคิดว่าการชุมนุมทำได้ตามกฎหมาย และการจับกุมเป็นการกระทำไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะภาพที่เกิดขึ้นเขาไม่ได้ทำอะไรเลย อยู่ๆ เขาก็โดนจับ และเขาก็ปฏิบัติตามที่เขาเชื่อว่าเจ้าหน้าที่กระทำโดยไม่ชอบ สิ่งที่เกิดขึ้นคือทหาร เอา ว.ดำ (ว.สื่อสาร) ทุบไปที่มือเพื่อให้เขาปล่อยไม้ที่เกาะเอาไว้ ซึ่งเขาไม่ได้ไปทำอะไรใคร” นาย
รังสิมันต์กล่าว
นาย
รังสิมันต์กล่าวต่อว่า ปกติถ้าเราเห็นว่าการกระทำไม่ชอบด้วยกฎหมาย เราสามารถป้องกันตนเองได้ ดังนั้น ถ้าหากไปดูภาพวิดีโอทั้งหมดจะพบว่าตนก็เกาะแขนกับเพื่อนๆ และพยายามเดินไปช่วย ไม่ได้ไปทำร้ายหรือลงมือ เราแค่ต้องการไปหาเพื่อนที่ถูกจับไปแล้ว
“
ผมคิดว่าได้ไม่น่าอาย มีเจ้าหน้าที่ของรัฐบางคนชกมาที่เป้ากางเกงของผมเพื่อให้ผมเกิดอาการจุก ยอมจำนนและถูกจับไป ถ้าไปดูคลิปทั้งหมดผมแทบไม่ได้ทำอะไรเลยและไม่คิดจะทำด้วยเพราะก็คงสู้ไม่ได้ แต่ภาพคือผมต้องปกป้องตัวเอง ผมคิดว่ามีสิทธิในการปกป้องเนื้อตัวร่างกาย” นาย
รังสิมันต์กล่าว
นาย
รังสิมันต์ยังกล่าวอีกว่า การกระทำครั้งนั้นไม่ได้นำไปสู่การตัดสินจำคุก ดังนั้น เหตุการณ์ในวันนั้นจบไปแล้ว และพิสูจน์ได้ว่าประชาชนถูกรังแก ตนเป็นคนที่ปกป้องประชาธิปไตยเพื่อพวกเราทุกคน ดังนั้น คนที่ทำรัฐประหารต่างหากที่ทำผิดกฎหมาย ไม่อย่างนั้นคงไม่นิรโทษกรรมตนเอง
เมื่อถามว่า ที่นาย
รังสิมันต์และ ส.ส.พรรคก้าวไกลถ่ายภาพรวมกับกลุ่มทะลุวังด้วย นาย
รังสิมันต์กล่าวว่า ขณะนั้นตนอยู่ในคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ถ้ากรรมาธิการไม่ลงพื้นที่ คิดว่าจะทำหน้าที่ในการปกป้องสิทธิมนุษยชนได้อย่างไร ซึ่งเป็นหมวกที่ตนต้องทำหน้าที่ โดยไม่จำเป็นต้องรอคำสั่งก่อน สามารถลงพื้นที่และนำข้อมูลกลับมาได้
นอกจากนี้ นาย
รังสิมันต์ยังกล่าวว่า การที่ไปร่วมชุมนุมไม่ได้หมายความว่าตนเป็นท่อน้ำเลี้ยง ไม่ได้หมายความว่าม็อบนี้จะเกิดขึ้นได้เพราะตน และกลุ่มผู้ชุมนุมดังกล่าวก็ไม่ได้รับสิทธิใดๆ โดยน้องๆ นักศึกษาก็ยังต่อสู้คดีกันอยู่ แต่ในทางตรงข้ามตนก็ไม่แน่ใจว่า ศปปส.ที่ไปทำร้ายร่างกายประชาชนกลางเมืองหลวง จนถึงวันนี้มีการแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีอะไรแล้วบ้าง
เมื่อถามย้ำว่าไม่ได้อยู่เบื้องหลังใช่หรือไม่ นาย
รังสิมันต์ปฏิเสธว่าไม่ได้อยู่เบื้องหลัง วันที่ตนชุมนุมทางการเมือง ก็ยืนยันว่าไม่ได้มีใครอยู่เบื้องหลัง และในวันที่ตนเป็นนักการเมืองก็ไม่ได้ไปอยู่เบื้องหลังใคร ยืนยันว่าเยาวชนคนรุ่นใหม่ในยุคนี้ เขาไม่ยอมให้ใครไปอยู่เบื้องหลัง
เมื่อถามว่า นาย
ชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จะเปิดบัญชีผู้หนุนหลังม็อบเยาวชน ซึ่งอาจมีผู้ช่วย ส.ส.เกี่ยวข้องด้วย นาย
รังสิมันต์ระบุว่า เปิดเลยครับ ตอนที่นาย
ชาดาเดินมาหาตนในห้องประชุมสภา พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลงว่าตนไม่แฟร์ พวกเราเอง ส.ส.พรรคก้าวไกลเรียกร้องให้เปิดบัญชีออกมาเลย พวกเราก็อยากรู้เหมือนกัน ที่ผ่านมาอยู่กับข้อกล่าวหาที่เลื่อนลอยและจินตนาการไปเองทุกวัน
“
เราก็อยากดูเหมือนกัน ไอ้ที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยทำบัญชีผู้มีอิทธิพลเราก็อยากรู้เหมือนกันว่าใครบ้างที่เป็นผู้มีอิทธิพล ในเมื่อท่านมีข้อมูลต่างๆ ท่านเปิดเลยครับ จะได้ใช้กฎหมายในการแก้ปัญหา ผมขอแวะมาที่ผู้มีอิทธิพลแป๊บนึง ผมก็อยากจะรู้ว่าบัญชีผู้มีอิทธิพล สุดท้ายมันมีรายละเอียดอย่างไร สุดท้ายที่อุทัยธานีใครเป็นผู้มีอิทธิพล ชื่อขึ้นต้น ช.หรือไม่ หรือไม่มีผู้มีอิทธิพล ก็อยากจะทราบ ดังนั้น คิดว่าอยู่บนข้อเท็จจริงดีกว่าไหมครับ” นาย
รังสิมันต์กล่าว
นาย
รังสิมันต์กล่าวย้ำว่า อย่าใช้คำว่าผมมีข้อมูลนั้น ข้อมูลนี้ วันนี้นาย
ชาดาเป็นรัฐมนตรีแล้วอาจลืมตัวไป ต้องใจเย็นๆ ต้องตอบคำถามสังคม ตนเป็นนักการเมืองที่มีหน้าที่ตรวจสอบก็มีสิทธิจะถาม นาย
ชาดาก็มีสิทธิตอบ ถ้าไม่เปิดเผยข้อมูลออกมาอาจมีความผิด
เมื่อถามว่า นาย
ชาดาจะพูดคุยในกรรมาธิการเท่านั้น จะเรียกมาชี้แจงหรือไม่ นาย
รังสิมันต์กล่าวว่า ถ้าจะมากรรมาธิการตนยินดี โดยวันที่ 29 ก.พ.น่าจะมีการประชุมในเรื่องนี้
“
ท่านชาดาอาจจะใช้อารมณ์มากไปหน่อย น่าจะใช้โอกาสสภาในการนำเสนอว่าถ้าจะมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเรื่องขบวนเสด็จจะมีการเสนออะไร” นาย
รังสิมันต์กล่าว
ชาวบ้าน เตรียมยื่นหนังสือ ส.ส.ก้าวไกล สอบข้อเท็จจริง ทหารยึดที่ดิน
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_8099824
ชาวบ้าน เตรียมยื่นหนังสือ ส.ส.ก้าวไกล สอบข้อเท็จจริง ทหารยึดที่ดิน หลังยื่นหนังสือร้องเรียนแล้ว อยากรู้มีความคืบหน้าในการดำเนินงานไปถึงไหน
วันที่ 16 ก.พ.2567 นาย
สมชาติ รักษ์สองพลู ผู้ใหญ่บ้านบ้านกลาง หมู่ที่ 5 ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง และ สมาชิกสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ (สกน.) ให้สัมภาษณ์ว่า ชาวบ้านเตรียมยื่นหนังสือต่อคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร กรณีถูกทหารประจำค่ายประตูผา ยึดที่ 62 แปลง อ้างว่าชาวบ้านรุกป่าสงวนและเขตทหาร
นาย
สมชาติ กล่าวว่า ในวันที่ 17 ก.พ.2567 นี้ ที่ อบต.บ้านดง เวลา 15.00น. ชาวบ้านจำปุย ต.บ้านดง ที่ได้รับผลกระทบจากเขตทหาร จะยื่นหนังสือ 3 ฉบับให้ นาย
ชลธานี เชื้อน้อย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 3 พรรคก้าวไกล จ.ลำปาง เพื่อให้นำไปตั้งกระทู้ในการประชุมรัฐสภา และตามเรื่องที่ดินที่เคยยื่นหนังสือร้องเรียนว่ามีความคืบหน้าในการดำเนินงานไปถึงไหนแล้ว
JJNY : 5in1 กมธ.ลุยสังขละบุรี│โรมท้าเปิดบัญชี│ยื่นก้าวไกล ทหารยึดที่ดิน│ชาวเมียนมาแห่ขอวีซ่า│อเล็กเซ นาวาลนี เสียชีวิต
https://www.matichon.co.th/politics/news_4428445
‘กมธ.มั่นคงฯ’ จ่อลงพื้นที่สังขละบุรี 4-5 มี.ค. หลังจับมือเกษตร สกัดขนยางพาราข้ามแดน-ยางสวมสิทธิ ชี้ กระทบราคายางในประเทศ หวังไม่เกิดซ้ำ ซัดกรมศุลฯให้ความร่วมมือน้อยสุด
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 16 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร นำโดยนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธาน กมธ. แถลงว่า ทาง กมธ.ได้พิจารณาปัญหาการลักลอบการนำยางพาราเข้ามาในประเทศบริเวณจุดผ่านแดนชั่วคราว บริเวณด่านเจดีย์สามองค์ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี
ซึ่งเรื่องนี้แบ่งออกเป็น 2 ประเด็นหลักคือ มีการนำยางผ่านแดนจากฝั่งประเทศเมียนมา ส่งไปยังด่านสะเดา เพื่อส่งไปยังประเทศมาเลเซีย และปัญหายางสวมสิทธิ ประเทศไทยมีการคำนวณว่าปริมาณยางพาราในพื้นที่สามารถผลิตได้เท่าไหร่ แต่มีการนำยางผิดกฎหมายเข้ามาสวมสิทธิเป็นยางไทย เพื่อนำมาใช้ในประเทศ ซึ่งทั้ง 2 ปัญหาทำให้ราคายางพาราในประเทศไทยตกต่ำ ไม่สะท้อนความเป็นจริง โดยประเด็นที่เราให้น้ำหนักไปในเรื่องของยางผ่านแดน เนื่องจากตัวเลขของยางสูงเกินความเป็นจริง ซึ่งตัวเลขของกรมศุลกากร มีการนำยางผ่านแดนมากกว่า 51,000 ตัน แต่ในความเป็นจริง ที่เราได้รับข้อมูลในพื้นที่ ตัวเลขสูงถึง 140,000 ตัน ซึ่งกระทบปัญหาการท่องเที่ยวในพื้นที่ เนื่องจากยางที่ส่งผ่านแดนเป็นยางไม่ได้คุณภาพทำให้ส่งกลิ่นเหม็น รวมถึงส่งผลกระทบต่อกระบบนิเวศ
ทั้งนี้ เราได้ข้อสรุปสำคัญว่าการนำยางพาราข้ามผ่านแดน ในข้อกฎหมายไม่สามารถทำได้ นั่นหมายความว่าหลายเดือนที่ผ่านมา ที่มีการนำยางผ่านเข้ามาเป็นการากระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นความเสียหายที่ร้ายแรง
“ประเด็นที่สำคัญคือเจ้าหน้าที่ของกรมวิชาการเกษตรถูกข่มขู่ในพื้นที่ ซึ่งไปประจำในพื้นที่ มีรถไปติดตามที่บ้าน รวมถึงมีคำแนะนำว่าอย่าไปใส่ยูนิฟอร์ม
เพราะจะถูกเพ่งเล็ง นี่คือเขตอิทธิพลที่กำลังเกิดขึ้นอย่างกว้างขวางในพื้นที่สังขละบุรี ทาง กมธ.ขอร้องกองทัพช่วยดูแลในเรื่องของความปลอดภัย เนื่องจากเป็นพื้นที่ปฏิบัติการของกองทัพอยู่แล้ว ส่วนกลุ่มอิทธิพล จะเป็นกลุ่มไหนนั้น เรายังไม่มีข้อมูลลึกขนาดนั้น ส่วนใครจะเป็นผู้เกี่ยวข้องจะต้องแสวงหาข้อเท็จจริงต่อไป แต่เรายังไม่ทราบว่าเป็นกลุ่มไหน แต่เรื่องนี้มีผู้ที่ได้และเสียประโยชน์ คงหาไม่ยากว่าเป็นกลุ่มไหน” นายรังสิมันต์
นายรังสิมันต์กล่าวว่า ที่สำคัญด่านเจดีย์สามองค์ในฝั่งเมียนมาปิด แต่มีการเปิดด่านชั่วคราว โดยมีจุดประสงค์เพื่อการท่องเที่ยว ซึ่งทาง กมธ.ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้ข้อมูล อาทิ กรมศุลกากร กระทรวงมหาดไทย สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ฯ และอีกหลายหน่วยงาน ซึ่งที่ผ่านมากรมศุลกากรให้ความร่วมมือกับ กมธ.น้อยที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการส่งบุคคลที่ไม่สามารถตัดสินใจได้ในเชิงนโยบายมาเข้าร่วมประชุม บางครั้งมีการเชิญผู้ชี้แจงจากกรมศุลกากรออกนอกห้องประชุม เนื่องจากไม่ให้การร่วมมือเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหา
อย่างไรก็ตาม นายรังสิมันต์กล่าวต่อว่า ทาง กมธ.ได้หารือกับนายธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมีข้อตกลงร่วมกันว่าจะมีการสกัดกั้นและปราบปรามยางพาราที่ผิดกฎหมาย ผ่านแดนเข้ามา ถือเป็นข่าวดีว่าต่อไปนี้เราสามารถตั้งความหวังว่ายางที่จะผ่านแดนเข้ามาจะไม่เกิดขึ้นอีก ซึ่งในวันที่ 4-5 มี.ค. ทาง กมธ.จะลงพื้นที่และทำหนังสือเชิญนายธรรมนัส ร่วมลงพื้นที่ด้วย เพื่อติดตามว่าการที่ กมธ.มีมติและให้ข้อแนะนำ ได้มีการนำไปปฏิบัติอย่างไร
โรม ท้าเปิดบัญชีผู้มีอิทธิพล อยากรู้อุทัยฯมีชื่อ ช.มั้ย แจงภาพคู่ ‘ตะวัน’ ช่วงทำหน้าที่ กมธ.
https://www.matichon.co.th/politics/news_4428518
‘โรม’ ลั่นเปิดเลยครับ อยากเห็นบัญชีผู้มีอิทธิพล เย้ย ‘อุทัยธานี’ จะมีนักการเมือง ช.หรือไม่ แจงภาพคู่ ‘ตะวัน’ ทำหน้าที่ กมธ. ลงพื้นที่พบ ‘ทะลุวัง’ ยันไม่มีหนุนหลัง ยินดีถูกสอบจริยธรรม หลัง ‘เต้ อาชีวะ’ ร้อง ‘วันนอร์’ สอบปมเปิดภาพในสภา บอกภาพปะทะ ตร.แค่ใช้สิทธิปกป้องเนื้อตัวร่างกาย
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 16 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกลุ่มภาคีราชภักดี นำโดย เต้ อาชีวะ เรียกร้องให้สอบจริยธรรมว่าทำผิดข้อบังคับสภาหรือไม่ ภายหลังนำภาพของกลุ่มมาอภิปรายในญัตติมาตรการอารักขาขบวนเสด็จว่า ตนยินดี แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าผู้ร้องไม่ได้มีสิทธิแค่ร้องผู้อื่น แต่ต้องรับผิดชอบในคำร้องเช่นเดียวกัน และยืนยันว่าตนไม่ได้ตัดต่อภาพใดๆ และการนำภาพขึ้นที่ประชุมสภาก็ผ่านคณะกรรมการในการพิจารณาและอนุมัติ โดย นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมอยู่แล้ว
นายรังสิมันต์กล่าวว่า ถ้าเราไปดูกฎหมาย PDPA ก็ไม่ได้บังคับมาถึงการทำหน้าที่ในสภา เพราะการทำหน้าที่ในสภาได้รับการยกเว้น ซึ่งตนไม่ได้เป็นห่วงในเรื่องอะไร ถ้าจะร้องก็ร้องได้ ยินดี แต่อย่าลืมว่าผู้ร้องก็จะมีภาระหน้าที่ทางกฎหมายเช่นเดียวกัน ยืนยันว่าตนทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นปรากฏตามข้อมูลโดยที่ไม่ได้ตัดต่อ หรือปลอมแปลง
ส่วนที่กลุ่มภาคีฯนำภาพการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสมัยเป็นนักศึกษาในช่วงการชุมนุมเมื่อปี 2557 และกล่าวว่าใช้ความรุนแรงเหมือนกัน นายรังสิมันต์กล่าวว่า วันนั้นเป็นวันที่กลุ่มนิสิตนักศึกษาตกลงกันว่ามีการชุมนุมด้านหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ซึ่งเราตั้งใจว่าจะชุมนุมเพียงแค่ 15 นาที โดยจะไม่พูดอะไรเลย และหลังจาก 15 นาที จะพูดอะไรก็ได้ที่สะท้อนจิตใจของพวกเรา มั่นใจว่าการชุมนุมในตอนนั้น ไม่ได้ส่งผลกระทบ หรือขัดขวางการจราจร แต่ไม่มีใครเดือดร้อนทั้งสิ้น สิ่งที่เกิดขึ้นในเวลาประมาณ 18.00 น. มีการเข้าสลายการชุมนุม โดยเจ้าหน้าที่เข้าจับกลุ่มผู้ที่ไปชุมนุมในเวลานั้นส่วนใหญ่เป็นนิสิตนักศึกษา
“หนึ่งในคนที่ผมรู้จักผมยังจำภาพได้ตอนนั้น เขาคิดว่าการชุมนุมทำได้ตามกฎหมาย และการจับกุมเป็นการกระทำไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะภาพที่เกิดขึ้นเขาไม่ได้ทำอะไรเลย อยู่ๆ เขาก็โดนจับ และเขาก็ปฏิบัติตามที่เขาเชื่อว่าเจ้าหน้าที่กระทำโดยไม่ชอบ สิ่งที่เกิดขึ้นคือทหาร เอา ว.ดำ (ว.สื่อสาร) ทุบไปที่มือเพื่อให้เขาปล่อยไม้ที่เกาะเอาไว้ ซึ่งเขาไม่ได้ไปทำอะไรใคร” นายรังสิมันต์กล่าว
นายรังสิมันต์กล่าวต่อว่า ปกติถ้าเราเห็นว่าการกระทำไม่ชอบด้วยกฎหมาย เราสามารถป้องกันตนเองได้ ดังนั้น ถ้าหากไปดูภาพวิดีโอทั้งหมดจะพบว่าตนก็เกาะแขนกับเพื่อนๆ และพยายามเดินไปช่วย ไม่ได้ไปทำร้ายหรือลงมือ เราแค่ต้องการไปหาเพื่อนที่ถูกจับไปแล้ว
“ผมคิดว่าได้ไม่น่าอาย มีเจ้าหน้าที่ของรัฐบางคนชกมาที่เป้ากางเกงของผมเพื่อให้ผมเกิดอาการจุก ยอมจำนนและถูกจับไป ถ้าไปดูคลิปทั้งหมดผมแทบไม่ได้ทำอะไรเลยและไม่คิดจะทำด้วยเพราะก็คงสู้ไม่ได้ แต่ภาพคือผมต้องปกป้องตัวเอง ผมคิดว่ามีสิทธิในการปกป้องเนื้อตัวร่างกาย” นายรังสิมันต์กล่าว
นายรังสิมันต์ยังกล่าวอีกว่า การกระทำครั้งนั้นไม่ได้นำไปสู่การตัดสินจำคุก ดังนั้น เหตุการณ์ในวันนั้นจบไปแล้ว และพิสูจน์ได้ว่าประชาชนถูกรังแก ตนเป็นคนที่ปกป้องประชาธิปไตยเพื่อพวกเราทุกคน ดังนั้น คนที่ทำรัฐประหารต่างหากที่ทำผิดกฎหมาย ไม่อย่างนั้นคงไม่นิรโทษกรรมตนเอง
เมื่อถามว่า ที่นายรังสิมันต์และ ส.ส.พรรคก้าวไกลถ่ายภาพรวมกับกลุ่มทะลุวังด้วย นายรังสิมันต์กล่าวว่า ขณะนั้นตนอยู่ในคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ถ้ากรรมาธิการไม่ลงพื้นที่ คิดว่าจะทำหน้าที่ในการปกป้องสิทธิมนุษยชนได้อย่างไร ซึ่งเป็นหมวกที่ตนต้องทำหน้าที่ โดยไม่จำเป็นต้องรอคำสั่งก่อน สามารถลงพื้นที่และนำข้อมูลกลับมาได้
นอกจากนี้ นายรังสิมันต์ยังกล่าวว่า การที่ไปร่วมชุมนุมไม่ได้หมายความว่าตนเป็นท่อน้ำเลี้ยง ไม่ได้หมายความว่าม็อบนี้จะเกิดขึ้นได้เพราะตน และกลุ่มผู้ชุมนุมดังกล่าวก็ไม่ได้รับสิทธิใดๆ โดยน้องๆ นักศึกษาก็ยังต่อสู้คดีกันอยู่ แต่ในทางตรงข้ามตนก็ไม่แน่ใจว่า ศปปส.ที่ไปทำร้ายร่างกายประชาชนกลางเมืองหลวง จนถึงวันนี้มีการแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีอะไรแล้วบ้าง
เมื่อถามย้ำว่าไม่ได้อยู่เบื้องหลังใช่หรือไม่ นายรังสิมันต์ปฏิเสธว่าไม่ได้อยู่เบื้องหลัง วันที่ตนชุมนุมทางการเมือง ก็ยืนยันว่าไม่ได้มีใครอยู่เบื้องหลัง และในวันที่ตนเป็นนักการเมืองก็ไม่ได้ไปอยู่เบื้องหลังใคร ยืนยันว่าเยาวชนคนรุ่นใหม่ในยุคนี้ เขาไม่ยอมให้ใครไปอยู่เบื้องหลัง
เมื่อถามว่า นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จะเปิดบัญชีผู้หนุนหลังม็อบเยาวชน ซึ่งอาจมีผู้ช่วย ส.ส.เกี่ยวข้องด้วย นายรังสิมันต์ระบุว่า เปิดเลยครับ ตอนที่นายชาดาเดินมาหาตนในห้องประชุมสภา พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลงว่าตนไม่แฟร์ พวกเราเอง ส.ส.พรรคก้าวไกลเรียกร้องให้เปิดบัญชีออกมาเลย พวกเราก็อยากรู้เหมือนกัน ที่ผ่านมาอยู่กับข้อกล่าวหาที่เลื่อนลอยและจินตนาการไปเองทุกวัน
“เราก็อยากดูเหมือนกัน ไอ้ที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยทำบัญชีผู้มีอิทธิพลเราก็อยากรู้เหมือนกันว่าใครบ้างที่เป็นผู้มีอิทธิพล ในเมื่อท่านมีข้อมูลต่างๆ ท่านเปิดเลยครับ จะได้ใช้กฎหมายในการแก้ปัญหา ผมขอแวะมาที่ผู้มีอิทธิพลแป๊บนึง ผมก็อยากจะรู้ว่าบัญชีผู้มีอิทธิพล สุดท้ายมันมีรายละเอียดอย่างไร สุดท้ายที่อุทัยธานีใครเป็นผู้มีอิทธิพล ชื่อขึ้นต้น ช.หรือไม่ หรือไม่มีผู้มีอิทธิพล ก็อยากจะทราบ ดังนั้น คิดว่าอยู่บนข้อเท็จจริงดีกว่าไหมครับ” นายรังสิมันต์กล่าว
นายรังสิมันต์กล่าวย้ำว่า อย่าใช้คำว่าผมมีข้อมูลนั้น ข้อมูลนี้ วันนี้นายชาดาเป็นรัฐมนตรีแล้วอาจลืมตัวไป ต้องใจเย็นๆ ต้องตอบคำถามสังคม ตนเป็นนักการเมืองที่มีหน้าที่ตรวจสอบก็มีสิทธิจะถาม นายชาดาก็มีสิทธิตอบ ถ้าไม่เปิดเผยข้อมูลออกมาอาจมีความผิด
เมื่อถามว่า นายชาดาจะพูดคุยในกรรมาธิการเท่านั้น จะเรียกมาชี้แจงหรือไม่ นายรังสิมันต์กล่าวว่า ถ้าจะมากรรมาธิการตนยินดี โดยวันที่ 29 ก.พ.น่าจะมีการประชุมในเรื่องนี้
“ท่านชาดาอาจจะใช้อารมณ์มากไปหน่อย น่าจะใช้โอกาสสภาในการนำเสนอว่าถ้าจะมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเรื่องขบวนเสด็จจะมีการเสนออะไร” นายรังสิมันต์กล่าว
ชาวบ้าน เตรียมยื่นหนังสือ ส.ส.ก้าวไกล สอบข้อเท็จจริง ทหารยึดที่ดิน
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_8099824
ชาวบ้าน เตรียมยื่นหนังสือ ส.ส.ก้าวไกล สอบข้อเท็จจริง ทหารยึดที่ดิน หลังยื่นหนังสือร้องเรียนแล้ว อยากรู้มีความคืบหน้าในการดำเนินงานไปถึงไหน
วันที่ 16 ก.พ.2567 นายสมชาติ รักษ์สองพลู ผู้ใหญ่บ้านบ้านกลาง หมู่ที่ 5 ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง และ สมาชิกสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ (สกน.) ให้สัมภาษณ์ว่า ชาวบ้านเตรียมยื่นหนังสือต่อคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร กรณีถูกทหารประจำค่ายประตูผา ยึดที่ 62 แปลง อ้างว่าชาวบ้านรุกป่าสงวนและเขตทหาร
นายสมชาติ กล่าวว่า ในวันที่ 17 ก.พ.2567 นี้ ที่ อบต.บ้านดง เวลา 15.00น. ชาวบ้านจำปุย ต.บ้านดง ที่ได้รับผลกระทบจากเขตทหาร จะยื่นหนังสือ 3 ฉบับให้ นายชลธานี เชื้อน้อย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 3 พรรคก้าวไกล จ.ลำปาง เพื่อให้นำไปตั้งกระทู้ในการประชุมรัฐสภา และตามเรื่องที่ดินที่เคยยื่นหนังสือร้องเรียนว่ามีความคืบหน้าในการดำเนินงานไปถึงไหนแล้ว