สวัสดีค่ะ แนะนำตัวคร่าวๆ อายุ 16 ปีบริบูรณ์พรุ่งนี้ค่ะ
อาการแบบนี้เริ่มเป็นมาตั้งแต่ช่วง ป.6 เริ่มมีอาการที่สับสน มึนงง หลงลืม ค่ะ ผ่านมาสักพักมันเริ่มอึดอัด หัวเสียเนื่องจากพ่อแม่มีปัญหากันในบ้าน ตะโกนด่า คว้างของไปมา จะฟ้องหย่าบ้าง อะไรบ้าง เรามีพี่น้อง 2 คน พี่เราอายุ 18 ปี อดีตเคยเป็นเด็กออทิสติกค่ะตอนนี้คุยรู้เรื่องแล้ว แต่ยังไม่ค่อยบรรลุเท่าไหร่ค่ะ ไม่รู้อะไรถูกจริงๆผิดจริงๆ ส่วนน้องเราอายุ 9 ขวบ ค่ะ
ณ ตอนที่เรา ป.6 เราเริ่มมีอาการทำร้ายตัวเองค่ะแต่ไม่รุ่นแรง แค่เอาดินสอมาขูดๆที่แขนตัวเองให้มันเจ็บ แสบค่ะ จนมันบวมแดง ผ่านมาสักพักเริ่มที่จะใช้คัตเตอร์ แต่ก็ใช้ด้านที่ไม่คมกรีดให้มันเป็นแผลถลอก
ขึ้นมา ม.1 เริ่มมีปัญหาเรื่องความรัก อกหักบ้าง บวกกับแม่เป็นคนอารมณ์ร้อน ชอบวีน ส่วนพ่อเป็นคนมีอีโก้สูง ไม่ค่อยฟังความเห็นใคร พอมีปัญหาก็ปรึกษาใครไม่ได้ เริ่มเครียด ทนไม่ไหว ใช้คัตเตอร์ด้านคมกรีดจนเลือดครั้งแรก พ่อแม่ที่ทะเลาะกันก็จะชอบมาปรึกษาและระบายกับเรา พ่อก็ชอบให้มุมมองแย่ๆเกี่ยวกับแม่ แม่ก็ให้มุมมองแย่ๆเกี่ยวกับพ่อ เราต้องมีหน้ากาก 2 ใบตลอดเวลาคุยกับท่าน ต้องสร้างว่าเกลียดแม่ตอนอยู่กับพ่อ ต้องเกลียดพ่อตอนอยู่กับแม่ (ที่ไม่ปรึกษาพี่เรา เพราะพี่เราเป็นคนเข้าใจยาก) ตอนนั้นเริ่มเครียดและสับสนกับความรู้สึกของตัวเอง เริ่มไม่เป็นตัวของตัวเอง เริ่มรู้สึกว่างเปล่าครั้งแรก
ขึ้นมา ม.2 ถึง ม.3 อาการเหมือนเริ่มเบาลง เนื่องจากมีเพื่อนที่ดีเยอะ คอยให้คำปรึกษาคอยซัพพอร์ต คอยช่วยเหลือ การเรียนดีขึ้นภายใน 1 ปี จากที่ 47 สู่ที่ 5 ใน 1 ภาคเรียนการศึกษา เราชอบวาดรูปมากๆ แต่บางครั้งพ่อก็ชอบบังคับให้เราใช้ Adobe AI ซึ่งเราไม่ชอบมากๆเพราะเราโดนบังคับและกดดัน แล้วพ่อก็ชอบพูดว่า ถ้าไม่ทำระวังไม่มีอนาคต เราโดนขู่แบบนี้มาตลอด แล้วพ่อเราก็ชอบให้ความหวัง ให้ความฝัน"ชอบเล่นดนตรีหรอ อยากเล่นมั้ย เดี๋ยวพ่อส่งเรียน ก็ไม่ส่ง อยากทำอันนี้หรอ ลองมั้ยพ่อช่วย ก็ไม่ช่วย" เราเคยขอพ่อเลี้ยงหมาตั้งแต่ อ.3 เขาบอกว่า ถ้าโตเขาจะให้ จนมา ม.4 เขาพึ่งหักความฝันเราว่า ไม่เคยอยากให้เลี้ยงอยู่แล้ว
ขึ้น ม.4 มา (ปัจจุบัน)
เพื่อนสนิทถดถอย ย้ายรร.บ้าง อยู่คนละห้องบ้าง บวกกับการเริ่มในแบบแผนวิทย์คณิตที่ยุ่งยากและซับซ้อนมากขึ้น ช่วงแรกๆที่ขึ้นมามั่นใจมากว่าทำได้ผ่านมาสักพักเริ่มที่จะไม่มีสมาธิเท่าที่ควร สติล่องลอย ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว การเรียนเริ่มตก
[เพิ่มเติมหน่อยค่ะ ตอนนี้มีแฟนอายุรุ่นราวคราวเดียวกันคนนึงค่ะ แต่อยู่ศิลปภาษา]
แล้วอยู่ดีๆอาการที่เหมือนตอน ป.6 และ ม.1 เริ่มกลับมา เริ่มมีอารมณ์ที่รุนแรงขึ้น อ่อนไหวกับคำพูดคน และไม่สนใจการเรียน มีปัญหาไม่ค่อยมีใครให้ปรึกษา ต้องคอยปรึกษาแฟน บางทีแฟนก็เริ่มปลงลง เพราะเราเป็นแบบนี้ซ้ำๆเดิมๆ บ่นอยากตายบ้าง ทำร้ายตัวเองมากขึ้น จากที่กรีดแค่ข้อมือ มันลามไปทั้งแขน เริ่มชวนแฟนไป ฆตต. ไม่อยากเจอผู้คน ไม่อยากเล่น ไม่อยากทำอะไรเลย ความจำเริ่มไม่ดีขึ้นมากๆ ปฏิสัมพันธ์กับครอบครัวน้อยลง
จนตอนนี้ เรารู้สึกว่างเปล่า ไม่รู้สึกถึงอะไร กินน้อยลง (จาก นน. 52 ตอนนี้ 49) เล่นน้อยลง เหนื่อยง่ายขึ้น อยากตุยเย่บ่อยขึ้น
เราเคยบอกพ่อแม่เรื่องอาการเหล่านี้แล้ว เขาบอกว่าเราเป็นเด็กติสท์ๆ เป็นคนมีจินตนาการสูงมีโลกเป็นของตัวเองไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราทำแบบนี้ พอเขารู้ว่าเราทำร้ายตัวเอง เขาก็จะมาด่าเราบอกว่า "เป็นเพราะพ่อแม่เลี้ยงไม่ดีหรอ ตามใจเกินไปหรอ หรือลูกไม่พอใจพ่อแม่ตรงไหน พ่อแม่ต้องตามใจมากกว่านี้ใช่มั้ย?" เราเลยเลือกที่จะไม่ปรึกษาเขาอีกเลย
และเลือกที่จะปรึกษาแฟนแทน แต่เขาก็ยังห้าม บอกว่าห้ามปรึกษาคนนอก ไม่งั้นเขาจะเอารหัสโทรศัพท์เราออก ถ้าเขาอยากอ่านต้องได้อ่าน
ตอนนี้เราทำอะไรได้บ้างหรอคะ เราอยากรู้จริงๆ 😔
อาการแบบนี้ เป็นโรคจิตเวชรึป่าวนะ?
อาการแบบนี้เริ่มเป็นมาตั้งแต่ช่วง ป.6 เริ่มมีอาการที่สับสน มึนงง หลงลืม ค่ะ ผ่านมาสักพักมันเริ่มอึดอัด หัวเสียเนื่องจากพ่อแม่มีปัญหากันในบ้าน ตะโกนด่า คว้างของไปมา จะฟ้องหย่าบ้าง อะไรบ้าง เรามีพี่น้อง 2 คน พี่เราอายุ 18 ปี อดีตเคยเป็นเด็กออทิสติกค่ะตอนนี้คุยรู้เรื่องแล้ว แต่ยังไม่ค่อยบรรลุเท่าไหร่ค่ะ ไม่รู้อะไรถูกจริงๆผิดจริงๆ ส่วนน้องเราอายุ 9 ขวบ ค่ะ
ณ ตอนที่เรา ป.6 เราเริ่มมีอาการทำร้ายตัวเองค่ะแต่ไม่รุ่นแรง แค่เอาดินสอมาขูดๆที่แขนตัวเองให้มันเจ็บ แสบค่ะ จนมันบวมแดง ผ่านมาสักพักเริ่มที่จะใช้คัตเตอร์ แต่ก็ใช้ด้านที่ไม่คมกรีดให้มันเป็นแผลถลอก
ขึ้นมา ม.1 เริ่มมีปัญหาเรื่องความรัก อกหักบ้าง บวกกับแม่เป็นคนอารมณ์ร้อน ชอบวีน ส่วนพ่อเป็นคนมีอีโก้สูง ไม่ค่อยฟังความเห็นใคร พอมีปัญหาก็ปรึกษาใครไม่ได้ เริ่มเครียด ทนไม่ไหว ใช้คัตเตอร์ด้านคมกรีดจนเลือดครั้งแรก พ่อแม่ที่ทะเลาะกันก็จะชอบมาปรึกษาและระบายกับเรา พ่อก็ชอบให้มุมมองแย่ๆเกี่ยวกับแม่ แม่ก็ให้มุมมองแย่ๆเกี่ยวกับพ่อ เราต้องมีหน้ากาก 2 ใบตลอดเวลาคุยกับท่าน ต้องสร้างว่าเกลียดแม่ตอนอยู่กับพ่อ ต้องเกลียดพ่อตอนอยู่กับแม่ (ที่ไม่ปรึกษาพี่เรา เพราะพี่เราเป็นคนเข้าใจยาก) ตอนนั้นเริ่มเครียดและสับสนกับความรู้สึกของตัวเอง เริ่มไม่เป็นตัวของตัวเอง เริ่มรู้สึกว่างเปล่าครั้งแรก
ขึ้นมา ม.2 ถึง ม.3 อาการเหมือนเริ่มเบาลง เนื่องจากมีเพื่อนที่ดีเยอะ คอยให้คำปรึกษาคอยซัพพอร์ต คอยช่วยเหลือ การเรียนดีขึ้นภายใน 1 ปี จากที่ 47 สู่ที่ 5 ใน 1 ภาคเรียนการศึกษา เราชอบวาดรูปมากๆ แต่บางครั้งพ่อก็ชอบบังคับให้เราใช้ Adobe AI ซึ่งเราไม่ชอบมากๆเพราะเราโดนบังคับและกดดัน แล้วพ่อก็ชอบพูดว่า ถ้าไม่ทำระวังไม่มีอนาคต เราโดนขู่แบบนี้มาตลอด แล้วพ่อเราก็ชอบให้ความหวัง ให้ความฝัน"ชอบเล่นดนตรีหรอ อยากเล่นมั้ย เดี๋ยวพ่อส่งเรียน ก็ไม่ส่ง อยากทำอันนี้หรอ ลองมั้ยพ่อช่วย ก็ไม่ช่วย" เราเคยขอพ่อเลี้ยงหมาตั้งแต่ อ.3 เขาบอกว่า ถ้าโตเขาจะให้ จนมา ม.4 เขาพึ่งหักความฝันเราว่า ไม่เคยอยากให้เลี้ยงอยู่แล้ว
ขึ้น ม.4 มา (ปัจจุบัน)
เพื่อนสนิทถดถอย ย้ายรร.บ้าง อยู่คนละห้องบ้าง บวกกับการเริ่มในแบบแผนวิทย์คณิตที่ยุ่งยากและซับซ้อนมากขึ้น ช่วงแรกๆที่ขึ้นมามั่นใจมากว่าทำได้ผ่านมาสักพักเริ่มที่จะไม่มีสมาธิเท่าที่ควร สติล่องลอย ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว การเรียนเริ่มตก
[เพิ่มเติมหน่อยค่ะ ตอนนี้มีแฟนอายุรุ่นราวคราวเดียวกันคนนึงค่ะ แต่อยู่ศิลปภาษา]
แล้วอยู่ดีๆอาการที่เหมือนตอน ป.6 และ ม.1 เริ่มกลับมา เริ่มมีอารมณ์ที่รุนแรงขึ้น อ่อนไหวกับคำพูดคน และไม่สนใจการเรียน มีปัญหาไม่ค่อยมีใครให้ปรึกษา ต้องคอยปรึกษาแฟน บางทีแฟนก็เริ่มปลงลง เพราะเราเป็นแบบนี้ซ้ำๆเดิมๆ บ่นอยากตายบ้าง ทำร้ายตัวเองมากขึ้น จากที่กรีดแค่ข้อมือ มันลามไปทั้งแขน เริ่มชวนแฟนไป ฆตต. ไม่อยากเจอผู้คน ไม่อยากเล่น ไม่อยากทำอะไรเลย ความจำเริ่มไม่ดีขึ้นมากๆ ปฏิสัมพันธ์กับครอบครัวน้อยลง
จนตอนนี้ เรารู้สึกว่างเปล่า ไม่รู้สึกถึงอะไร กินน้อยลง (จาก นน. 52 ตอนนี้ 49) เล่นน้อยลง เหนื่อยง่ายขึ้น อยากตุยเย่บ่อยขึ้น
เราเคยบอกพ่อแม่เรื่องอาการเหล่านี้แล้ว เขาบอกว่าเราเป็นเด็กติสท์ๆ เป็นคนมีจินตนาการสูงมีโลกเป็นของตัวเองไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราทำแบบนี้ พอเขารู้ว่าเราทำร้ายตัวเอง เขาก็จะมาด่าเราบอกว่า "เป็นเพราะพ่อแม่เลี้ยงไม่ดีหรอ ตามใจเกินไปหรอ หรือลูกไม่พอใจพ่อแม่ตรงไหน พ่อแม่ต้องตามใจมากกว่านี้ใช่มั้ย?" เราเลยเลือกที่จะไม่ปรึกษาเขาอีกเลย
และเลือกที่จะปรึกษาแฟนแทน แต่เขาก็ยังห้าม บอกว่าห้ามปรึกษาคนนอก ไม่งั้นเขาจะเอารหัสโทรศัพท์เราออก ถ้าเขาอยากอ่านต้องได้อ่าน
ตอนนี้เราทำอะไรได้บ้างหรอคะ เราอยากรู้จริงๆ 😔