เรื่องเล่าจากทางบ้าน ตอน  เสียงสุดท้ายก่อนลาจาก...



ก่อนจะเริ่มเล่า เรื่องเล่าจากทางบ้านในตอนนี้ เนื่องจากเรื่องนี้กินเวลาอย่างยาวนานจากที่ได้รับฟังมา ผมจึงขอแบ่งเรื่องย่อยชุดนี้ โดยแบ่งเป็น 3 ตอนนะครับ
1. วันนี้ที่รอคอย… เราได้เจอกันสักที  คลิกอ่านได้ที่นี่
2. พวกกระผมของตามไปงานบวชได้ไหมขอรับ  คลิกอ่านได้ที่นี่
3. เสียงสุดท้ายก่อนลาจาก… คลิกอ่านได้ที่นี่
สำหรับเรื่องนี้ ผมได้รับการถ่ายทอดมาจากคุณทีครับ โดยผมจะขออนุญาต เล่าเรื่องนี้เป็นตัวผมแทนครับ จะได้ไม่สะดุดในการอ่านของทุกๆท่านครับ
 
และแล้วก็มาถึงตอนที่ 3 ของเรื่องนี้นะครับ บทสรุปที่เป็นปมปริศนาที่ได้ทิ้งไว้ และ หลายๆเรื่องที่ยังไม่รู้คำตอบ หลายๆคำถาม จะเริ่มมาเฉลยในตอนนี้ ถ้ายังไงลองติดตามกันดูนะครับ เพื่อไม่ให้เสียเวลางั้นเรามาเริ่มเรื่องกันเลยครับ
หลังจากที่ผมการทำงานมาอย่างยาวนาน จนถึงวันนึงที่ผมเริ่มๆคิดว่า
ชีวิตน่าจะได้ลองหาประสบการณ์ทำงานใหม่ๆ ( ได้ลองจริงๆเลยคราวนี้!!! ) จึงได้ลองสมัครงานดู ไม่นานนัก ผมก็ได้เริ่มทำงานเกี่ยวกับงานอสังหาฯ แนวๆ งานก่อสร้างแห่งหนึ่ง นี่แหละครับ
โดยในโครงการก่อสร้างในครั้งนี้ เราไปทำงานที่ไซต์งาน ที่จังหวัดแห่งหนึ่งไม่ใกล้ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ โดยไซต์งานก่อสร้างโครงการนี้ จะมีรีสอร์ทที่อยู่ติดกันกับตัวพื้นที่ของโครงการเรา เป็นรีสอร์ทที่ร่มรื่นมากๆครับ โดยรอบๆรีสอร์ทจะมีทางน้ำอยู่ใกล้ๆ รวมถึง ตัวรีสอร์ทเองก็มีบ่อน้ำขนาดใหญ่อยู่ตรงกลางทำให้ บรรยากาศร่มรื่นมากครับ อีกทั้งที่พักก็สวย อาหารก็อร่อยผมชอบเดินมาทานบ่อยๆ ทำให้ ในบางครั้งพวกเราเหนื่อยๆ ก็จะมาพักค้างคืนกันที่ รีสอร์ทแห่งนี้อยู่เป็นประจำ จนเริ่มที่จะได้พูดคุยกับพี่ๆ ทีมงานของทางรีสอร์ท ทั้งตัวผู้จัดการเอง รวมถึงเหล่าบรรดาแม่บ้านของที่นี่
หลังจากเปิดตัวโครงการของที่นี่ได้ไม่นาน รวมถึงมีการจองเข้ามาเรื่อยๆ ทำให้พวกเราทีมงานได้คิดกิจกรรมขึ้นมา เพื่อให้คนที่มาจองได้เข้ามาสัมผัสบรรยากาศของธรรมชาติโดยรอบ รวมถึงทำเลที่ตั้งของโครงการ
โดยในกิจกรรมครั้งนี้ เราจะทำเป็นกิจกรรมแบบค้างคืน โดยจะให้เข้าพักกับทางรีสอร์ที่อยู่ติดกันรวมถึงทำแคมป์ไฟ ปิ้งย่าง บาบีคิว ด้วยกัน
โดยเราขอใช้พื้นที่ของทางรีสอร์ท รวมถึงเรื่องอาหารการกินต่างๆ
ก็จะขอแรงงานพวกพี่ๆแม่บ้านในการช่วยเตรียมให้กับพวกเรา….
 
และแล้วก็ถึงวันงาน พวกทีมงานของพวกเราก็ได้ไป เริ่มเชคสถานที่ต่างๆ
รวมถึง ตัวผมเอง เข้าไปช่วยแม่บ้าน ช่วยดูในส่วนของอาหาร การกิน
ในระหว่างที่เดินเข้ามาในห้องครัวนั้น ทางแม่บ้านก็ได้จับกลุ่มกัน
เสียบไม้บาบีคิวกันอย่างขมักเขม้นเลยทีเดียวเชียว หลังจากที่นั่งลงได้ไม่นาน ก็มีเสียงนึงพูดขึ้นมา คุณทีๆ สนใจอยากลอง
เสียบดูบ้างไหม ไม่ยากเลยนะคะ หลังจากที่ผมได้ยินเสียงผมก็รู้ได้ทันทีว่าคือใคร ก็คนกันเองนั่นคือ เสียงของพี่เกด แม่บ้านที่มักจะทักทายเราบ่อยๆ
ผมจึงบอกกลับไปว่า ไม่เป็นไรครับพี่ กลัวทำพวกพี่ๆช้า แถมต้องมานั่งสอน
เอาเป็นว่า ให้ผมช่วยยก ช่วยหยิบ ช่วยเป็นกำลังใจให้ดีกว่าครับพี่….
หลังจากในครัวเรียบร้อยกันแล้ว ก็ถึงเวลา ช่วยกันหยิบ ช่วยกันยก
ของออกมาตั้งตรงพื้นที่จัดงาน
หลังจากเสร็จเรียบร้อยพวกเราค่อยๆเดินมาถึงบริเวณที่จัดงาน ซึ่งมีกลุ่มทีมงานยืนรออยู่กันมากมาย มีคนพูดขึ้นมา และ ชี้ไปยัง กลุ่มเมฆ ก้อนนั้นที่อยู่ใกล้ๆ แล้วพูดขึ้นว่า
“เหยย แย่แล้ว อยู่ดีๆ เมฆมันมาจากไหนเนี่ยะ ถ้าฝนตกขึ้นมาแย่แน่เลย”
พอมีคนพูดหนึ่งคน คนอื่นๆ ก็เริ่มพูดตาม รวมถึงคิดว่าจะทำไงกันดี
ระหว่างนั้นเอง ด้วยความที่เป็นกังวลว่าฝนจะตกและงานจะล่มแน่ๆ
พวกเราเตรียมงานกันมาขนาดนี้ จะทำไงดี
ผมจึงได้ ………………………………… บางอย่างขึ้น
และเรื่องอัศจรรย์ใจก็เกิดขึ้นมา ณ ช่วงเวลานั้นไม่นานมีลมแรงๆ มาจากไหนไม่รู้ครับ มาแรงมากๆ รวมถึงค่อยๆ พัดพา
เมฆดำชุดนั้น ค่อยๆ ลอยห่างออกไปเรื่อยๆ จนทำให้งานในคืนนั้น สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี เห้อ รอดจากฝนตกได้สักที
 
ภาพตัดกลับมาในวันรุ่งขึ้น ผมรีบตื่นนอนแต่เช้า เพราะอยากจะเดินออกมาหาอะไรทานในครัว ระหว่างนั้นเอง ผมได้เจอกับ พี่เกดแม่บ้านประจำ
รีสอร์ทแห่งนี้ ก็ทักทายกันตามปกติเหมือนเดิม แต่วันนี้ มันแปลกกว่าทุกวันคือ พี่เกด พูดขึ้นมาว่า “คุณที ตอนนี้พอจะมีเวลาว่าง คุยกับเกดได้ไหมคะ?”
ด้วยความที่ว่างอยู่แล้ว ก็เลยบอก ได้ๆครับพี่เกด มีอะไรรึเปล่าครับ
พี่เกดจึงพาผม เดินหลบแยกมา เพื่อที่จะได้คุยกัน
หลังจากที่นั่งลงได้ไม่นาน พี่เกดพูดขึ้นมาว่า พี่มีเรื่องอยากจะถามคุณที
หน่อยได้ไหมคะ พอดีว่า ไม่รู้ว่า คุณทีจะเชื่อพี่ไหม ผมจึงบอกกลับไปว่า
พูดมาก่อนก็ได้ครับ
พี่เกดจึงพูดขึ้นมาว่า “เรื่องเมื่อวาน ที่ฝนไม่ตก และ มีลมแรงๆมา เป็นฝีมือคุณที ใช่ไหมคะ? ” เพราะว่า พี่เกดมองไปที่คุณที รวมถึงมองไปบนฟ้า
มันมีบางอย่างอยู่บนนั้น และหลายๆอย่าง ที่อยู่รอบๆตัวคุณที
จึงทำให้ทั้งลมแรง รวมถึง เมฆก้อนนั้นก็พัดลอยออกไป….
ผมอมยิ้มและถามต่อว่า แล้วอะไรที่อยู่รอบๆตัวผมละครับ ที่พี่เห็น
พี่เกดจึงบอกไปว่า ที่พี่เห็นหรอคะ ก็….
ทุกครั้งที่ คุณที เดินไปไหน มาไหน ที่รีสอร์ท พี่มักจะเห็นว่า
มีผู้ชาย 2 คนท่าทางใจดี ใส่ชุดทหาร เขาเป็นเทวดานะคะ ไม่ใช่ผีรึสิ่งไม่ดี
รวมถึง จะมีผู้หญิงน่ารักสวย ผมยาวๆ ใส่สไบยาวๆ จูงมือเด็กคนนึง
เดินตามคุณตลอดเวลาเลยคะ ผมจึงถามกลับไปตรงๆว่า
พี่เห็นพวกเขาเหล่านี้ด้วยหรอครับ พี่เห็นจริงๆใช่ไหม?
พี่เกดบอกกับผมว่า พี่เห็นสิ่งเหล่านี้อยู่แล้วคะ อ้าว!! แล้วพี่เห็นได้อย่างไรครับผมจึงรีบถามกลับไป พี่เกดบอกว่า พี่เคยเป็นร่างทรงคะ แต่ถ้ายังไงพี่ขอเล่าชีวิตของพี่คร่าวๆก่อนนะคะ ว่าเป็นยังไง?
พี่เกด เป็นคนในพื้นที่ของจังหวัดนี้ มาเนิ่นนาน ตั้งแต่บรรพบุรษเลยก็ว่าได้
หลังจากนั้นไม่นาน ชีวิตมันเหมือนโดนลิขิตละมั้งคะ คุณที
พี่เลยต้องมารับขันธ์ของพ่อปู่ที่นั่น รวมถึงต้องทำพิธีต่างๆ ในตำหนักแห่งหนึ่งที่คนพื้นที่แถวนั้น จะรุ้จักกันเป็นอย่างดี… แต่มันเหมือนมีอะไรบางอย่าง
ทำให้พี่หยุดเป็นร่างทรง คนทรง และ ได้มาสมัครทำงานเป็นแม่บ้านที่รีสอร์ทแห่งนี้
พี่มีความเชื่อลึกๆว่า พี่มาที่ตรงนี้ เพื่อที่จะมารอ พบเจอคุณทีนี่แหละคะ
หลังจากที่เราได้คุยกันในหลายๆเรื่อง ผมเชื่อได้เลยว่า พี่เกดเห็นสิ่งเหล่านี้จริงๆ เพราะหลายๆ พี่เกดไม่น่ารู้ ก็สามารถตอบได้อย่างแม่นยำ
จนเวลาผ่านไปๆ ผ่านไป นานหลายเดือน พวกเราก็มีเรื่องที่คุยกัน
และสอบถามกันมาเรื่อยๆ จนเริ่มสนิทกันมากขึ้น…
 
จนมีอยู่วันหนึ่ง หลังจากที่ผมกำลังเดินไปยังรีสอร์ท ก็ได้พบกับ
พี่เกด เหมือนเช่นเคย รวมถึงพี่ๆแม่บ้านที่กำลังนั่งคุยกันอยู่
และ พี่เกด ก็พูดขึ้นว่า คุณทีคะ เมื่อคืนตอน 3-4 ทุ่ม คุณที
เดินมาที่พักของแม่บ้านหรือเปล่าคะ พอดีพวกพี่ได้ยินเสียงคุณที
ตะโกนเรียก ชื่อพี่อยู่ และบอกว่า…
“พี่เกดครับ พี่เกด เดี๋ยวผมจะไม่ได้เจอพี่เกดแล้วนะครับ ดูแลรักษาตัวด้วย”
พอพวกพี่ออกมาดูว่า เสียงใคร ปรากฎว่า ไม่เจอตัวใครเลย
แต่พวกพี่จำได้นะ ว่าเสียงที่พูดนั้น เป็นเสียงของคุณทีจริงๆ
หืม…. ไม่นะครับพี่ พี่น่าจะได้ยินเสียงแว่วๆ ไม่ใช่ผมครับ ผมยังอยู่
กรุงเทพฯ อยู่เลย จะมาที่รีสอร์ท ที่นี่ได้อย่างไรครับ น่าจะไม่ใช่ผมนะ
แต่ คุณทีคะ พวกพี่ทุกคนที่อยู่ตรงนี้ คุยกันและยืนยันว่า เป็นเสียงของคุณทีจริงๆ ผมจึงกล่าวไปว่า โอ๊ยพี่ จะไม่เจอพี่ได้ไง เดี๋ยวอาทิตย์หน้าผมก็ต้องมาเจอพี่อีกอยู่แล้ว อย่าไปคิดมากครับ สบายใจได้… แล้วผมก็ค่อยๆเดินไปทำธุระ เตรียมนั้นนี่ต่อของผมเหมือนเดิม
แต่…..
ชีวิตมันเหมือนเล่นตลกจริงๆ หลังจากกลับจาก รีสอร์ทได้ไม่นาน
มันก็มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย นับจากวันนั้นก็น่าจะราวๆ 5-6 ปีแล้ว
ที่ผม ไม่ได้กลับไป เจอกับพี่เกดจริงๆ อย่างที่พี่เขาว่าไว้
และนั่นคือ “เสียงสุดท้ายก่อนลาจาก…” ของผมกับพี่เกด
ที่เราสองคน ไม่ได้มีโอกาสกลับไปเจอกันได้อีกเลย….ครับ
เรื่องราวนี้จบลงตรงที่
เมื่อชีวิตเราโคจรมาให้พบเจอกัน
หมั่นคิดดี พูดดี ทำดีต่อกันไว้
แม้อยากเจอก็มิได้เจอ
แม้ไม่อยากจาก ก็จากกัน  
จบแล้วครับกับ ปฐมบท ทั้ง 3 ตอนที่ได้รับฟังมาจากคุณที
สำหรับในเรื่องต่อๆไปนั้น คุณจะได้พบกับเรื่องราว ต่างๆดังนี้
– พี่ๆ พี่คือใครครับ?
– ข้ามภาพข้ามชาติ
– คนนี้ กูขอแล้วกัน..
– พลบค่ำ … เรามาเจอกัน
– แสงนั้นคือแสงอะไร…
– ฉันและเธอ… เกิดมาคู่กัน
– คำชะโนด… ชื่อนี้ มีเรื่องเล่า
– เฝ้ารอคอย จะเป็นส่วนขยายของพี่เกดและคุณที
– อื่นๆ อีกมากมาย
ทุกเรื่องราว ถูกร้อยเรียงกันมาจาก 3 ตอนที่ทุกๆท่านได้
อ่านกันมา ตัวละครแต่ละคน แต่ละตอน ต่างมีเรื่องเล่า
และเรื่องราวเข้ามา ให้ทุกๆท่านได้ ค้นหาร่วมกันกับผม
นายที คนเดิมคนนี้ครับผม
 
บางส่วนอาจไม่สามารถลงรายละเอียดได้
เนื่องจาก ขอละไว้ครับ สงสัยส่วนไหน
สอบถามเข้ามาได้ครับ  
ปล. ขอขอบคุณ เจ้าของเรื่องนี้คุณที พี่เกด
รวมถึงเหล่าดวงวิญญาณ ทุกๆดวงจิตที่ได้กล่าวถึงเพื่อนำเรื่องราวต่างๆ เหล่านี้ นั้นมาถ่ายทอด เป็นวิทยาทาน ต่อเพื่อนๆ ที่ได้อ่าน หรือ รับฟัง มา ณ ที่นี้ด้วยครับ ขอบคุณครับ
ภาพประกอบ สำหรับเล่าเรื่อง… 

และสามารถติดตามเรื่องราวต่างๆ อีกมากมายได้ที่ https://www.mamooma.com
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่