สามารถดูภาพประกอบได้ที่
https://bit.ly/4bwjplj ครับ มีคลิปที่ส่งมาแต่ขอเก็บไว้ก่อนครับ
สำหรับเรื่องราวเหล่านี้ ผมได้รับการถ่ายทอดมาจากคุณโอมอีกต่อนึงนะครับ โดยผมจะขออนุญาต เล่าเรื่องนี้เป็นตัวผมแทนครับ จะได้ไม่สะดุดในการอ่านของทุกๆท่านครับ
ก่อนจะเริ่มเรื่องราวที่ผมจะเล่าในวันนี้ ผมขอใช้เวลาสักนิส ในการเล่าคร่าวๆว่าตัวละครหลักๆ จะมีใครบ้าง นั่นคือ กลุ่มของผมนั้น จะมี ผม อาร์ม และ น้องเอก พวกเราอยู่กลุ่มเดียวกัน มักจะรวมตัวกันไปหาอะไรกินไม่ว่าจะเป็นบุฟเฟ่ หมูกะทะ ชาบู แนวๆนี้ที่ไหนเปิดใหม่ก็มักจะชวนไป รวมถึงชวนกันไปมูกันบ้าง พวกวัดต่างๆ ครับ
งั้นเรามาเข้าเนื้อหากันเลยนะครับ วันนั้นเป็นวันพฤหัส ผมจำได้อย่างดี อยู่ดีๆ ก็มีข้อความเข้ามาใน fb ในกลุ่มของพวกเรา 3 คน ไม่ใช่ใครที่ไหน นั่นคือ อาร์มนั่นเอง อาร์มทักมาว่า อาร์มิตย์นี้ พวกนายว่างกันไหม เบื่อๆ เราออกไปเที่ยวต่างจังหวัดกันดีไหม ไม่ได้ไปด้วยกันนานแล้วนะ ผมและเจ้าเอก ต่างก็ใจตรงกัน บอกไปว่าได้สิ เอาเลย เดี๋ยวรีบเคลียร์งานกัน แล้วมาเจอสักวันศุกร์ ออกเดินทางกันสักราวๆ 2-3 ทุ่มก็แล้วกัน ไปถึงดึกหน่อยก็หา โรงแรมนอนพัก แล้วค่อยไปเที่ยวกัน หลังจากตกลงกันเสร็จ
พวกเราต่างก็แยกย้ายกันไปทำงาน นั่นนี่นู๋น จนมาถึง วันศุกร์ วันที่พวกเรานัดกันว่า จะเจอกัน ด้วยความที่เราอาศัยรถเจ้าอาร์มในการไปลุยครั้งนี้ อาร์มบอก ขอทำงานแปปนะ
เดี๋ยวให้ น้องเอกมาหาผมก่อน รวมกันเสร็จ แล้วเดี๋ยวไปรับ ด้วยความฟิตของน้องเอก มันรีบมาหาผมเจอหน้ากันช่วงเวลา ทุ่มเศษๆ เห็นจะได้ หลังจากที่ผมลงไปรับเจ้าเอก
อ่อลืมบอก ไป ผมอยู่คอนโดนะครับ หลังจากขึ้นมาก็เม้ามอย แล้วก็ ส่งข้อความไปบอกในกลุ่มว่า เอกถึงแล้วนะ อาร์ม นายออกมารึยัง นัดกัน 2 ทุ่มนะ จะได้รีบเจอรีบออก
ไปหาข้าวกินกัน แต่แปลกครับ พวกเราต่างพยายาม ทั้งทักหา ทั้งพิมพ์หา ก็เงียบแต่ด้วยเวลาที่ยังไม่ถึงเวลานัดดี ก็เลยปล่อยเลยตามเลยไป พอสัก 2 ทุ่มผมบอกให้น้องเอก
ช่วยพิมพ์บอกหน่อย พอดีผมกำลังเชคของที่ต้องออกเดินทาง น้องเอกก็ขยันมาก ทั้งพิมพ์ ทั้งโทรไปหา แต่ก็เงียบกริบ ไม่มีสัญญาณตอบรับจากอาร์มเลย หลังจากเวลาผ่านไปนานมากจนถึง 4 ทุ่ม ผมและน้องเอก เลยลงความเห็นว่า ไม่ไปดีกว่าหมดอารมณ์กันอย่างแรง เลยพิมพ์ไปบอก อาร์มว่า เห้ย อาร์มพวกเรา สองคน
ตัดสินใจไม่ไปแล้วนะ เดี๋ยวเราพาเอกไปหาข้าวกินแถวนี้ดีกว่า ถ้านายเห็นข้อความรึ ว่างแล้ว ก็ไม่ต้องรีบนะ พวกเราไปหาข้าวกินกันละ นายทำอะไรทำไปเลยนะ หลังจากส่งนั้นไม่นาน อาร์มทักกลับมาน่าจะเกือบเที่ยงคืนได้ว่า ขอโทษที่ช้า ขอโทษที่สาย เราทะเลาะกับแฟนมาด้วย ขอมาหาได้ไหม พวกนายอยู่ไหนกัน
เอกบอกว่า ผมอยู่กับพี่โอมที่คอนโดครับพี่ อาร์มเลยบอกเออๆ งั้นขอไปนอนกับพวกนายได้ไหม ด้วยความที่พวกเราพอจะรู้อะไรๆ มาบ้าง พวกเราเลยบอก งั้นก็มาเถอะ ไม่เป็นไร มีที่นอนอยู่แล้ว หลังจากที่เรารอมาสักพักใหญ่ๆ พอได้เวลาปุ๊ป เหมือนด่าในใจได้สักพัก เจ้าอาร์มก็โทรมาบอกว่า ถึงแล้ว ลงมารับผมหน่อยคร้าบบบ
ผมจึงให้เจ้าเอกลงไปรับเจ้าอาร์มขึ้นมาบนคอนโด พอมาถึงห้องเสร็จมันก็บ่นแหลกนั่นนี่นู๋น พวกเราก็ถามว่า เอาตรงๆไปทำอะไรมาถึงเบี้ยวนัด ทั้งๆที่นายก็เป็นคนนัด
พวกเราว่าจะไปต่างจังหวัดนะ ถ้านายไม่นัด พวกเราคงแยกย้ายไปทำอย่างอื่นกันแล้ว หลังจากคาดคั้นอยู่นาน มันถึงมาบอกว่า มันไปกับผู้หญิงคนหนึ่ง แต่กะว่าไปหาไม่นาน
แล้วจะรีบตามมาหาพวกเรา แต่ด้วยการเล้าหลือ อะไรก็ตาม ทำให้ยืดเยื้อ จนเลยเวลาที่นั่นกัน พวกเราก็ได้แต่ถอนหายใจกัน เรียกว่า เบื่อกันเลยแต่คงเพราะความเป็นเพื่อนของพวกเรา
ที่ยังคงมีอยู่ ก็ได้แต่ ช่างมันไป แค่ด่าไปนิดๆหน่อยๆ คุยกันสักพักผมเริ่มจะง่วงๆเลยบอกว่านอนกันก่อนไหม เดี๋ยวค่อยคุยกันพรุ่งนี้ต่อละกัน
มันก็บอกว่าได้ๆ พวกเราจึงต่างเตรียมตัวนอนปิดไฟเรียบร้อย แต่หลังจากผมปิดไฟ….. นอนไปได้สักพักเดียวเท่านั้น อยู่ๆ.. ก็มีเสียงร้องไห้ของผู้หญิงดังขึ้นมา ฮือๆ โหยหวน กวนใจเป็นอย่างมาก ตรงบริเวณที่เจ้าเอกและอาร์มนอนอยู่ แต่ผมคิดในใจแบบดังๆว่า ช่างมันละกัน นอนก่อน พรุ่งนี้ค่อยคุยละกันว่าเกิดอะไรขึ้น
เช้าวันรุ่งขึ้นซึ่งเป็นวันเสาร์กว่าพวกเราจะตื่นกันมาสายแล้ว หลังจากที่ทุกคนตื่นมาพร้อมเพียงกัน ผมเดินไปนั่งอยู่ใกล้ๆ อาร์มและเอก จากนั้นผมก็เริ่มเปิดหัวข้อเลยว่า ทำไมถึงเบี้ยวพวกกู เอาตรงๆ ไม่ต้องอ้อมค้อม อาร์มทำหน้าตาซึมๆ แล้วบอกมาว่า กูขอโทษ กูรู้ว่ากูผิดนะ จริงๆกูอะ จะรีบมาหาพวกนั่นแหละ
แต่ว่า น้องเขาทักมาหากู บอกว่าอยากเจอ กูเห็นว่า พอมีเวลา เลยไปหาน้องเขา กะว่าไปหาแปปเดียว แล้วจะรีบมาหาพวก แต่ไม่รู้ทำไม กูถึงอยู่กับน้องลากยาวมากจนพวกทั้งโทร ทั้งตามกูนี่แหละ กูเลยบอกน้องเขาว่าต้องไปแล้ว เลยได้ออกมานี่แหละ แถมทะเลาะกับแฟนอีก เลยต้องมา นอนกับพวกตรงนี้นี่ไง สักพักอยู่ดีๆ อาร์มก็ร้องไห้บอกว่า กูรู้ กูผิด กูขอโทษ ยกโทษให้กูได้ไหม กูควบคุมตัวเองไม่ได้ กูอยากไป แต่ทำไมไม่รู้ กูถึงปฎิเสธน้องเขาไม่ได้ กูแค่อยากไปหาน้องเขา อยากไปมีความสุขกับน้องเขา
กูผิดด้วยหรอ เสียงร้องฮือๆ ของผู้ชายคนหนึ่ง ร้องออกมา ซึ่งมันไม่น่าจะฟังเท่าไหร่
ผมและน้องเอก มองหน้ากัน พูดพร้อมกันว่า น่าจะโดนทำของใส่แล้วแน่ๆ เพราะอะไรรู้ไหม ผมจึงหันไปถามน้องเอกว่า เมื่อคืนตอนที่พวกเราปิดไฟนอนกันแล้ว
เอกได้ยินเสียงอะไรไหม มันสวนมาว่า พี่ก็ได้ยินหรอ ผมได้ยินเสียงพี่เขาร้องไห้ แต่ไม่ใช่เสียงพี่เค้าครับ ผมตอบกลับไปว่าใช่สิ ไม่งั้นจะถามหรอว่าได้ยินเสียงอะไรไหมหลังจากผมนิ่งและคิดอยู่สักครู่ ผมจึงเดินไปหยิบน้ำเปล่า ยี่ห้อหนึ่งขึ้นมา จากนั้นเริ่มทำพิธีทำน้ำมนต์ ตามแบบฉบับที่ได้ร่ำเรียนมานั้น หลังจากบริกรรมพิธีไปได้ไม่นาน
ผมจึงไปหยิบแก้วน้ำมาแก้วหนึ่ง จากนั้นให้น้องเอก ส่งต่อให้เจ้าอาร์มไป แล้วบอก อาร์มว่า ถ้าไม่เชื่อลองกินน้ำมนต์ที่ปลุกเสกขึ้นมา เดี๋ยวก็รู้เองแหละว่าโดนทำของใส่หรือไม่
หลังจากอาร์มหยิบแก้วน้ำไป พร้อมปากดี บอกพวกผมว่า มันก็แค่น้ำเปล่า กินไปไม่อ้วก เหมือนครั้งนั้นหรอกที่ทำให้กิน ไม่เชื่อ เดี๋ยวจะกินให้พวกนายดูอาร์มกระดกน้ำมนต์ที่ผมทำให้ อึกๆ หมดแก้วเลย สักพักมันหันมาบอกว่าไม่เห็นเป็นอะไรนี่ เชื่อหรือไม่ครับ ไม่นานเกิน 3 วิได้ อาการจะอ้วกของอาร์มเริ่มออกมา
มันเริ่มวิ่งอย่างรวดเร็วพุ่งไปยังห้องน้ำ ที่เปิดประตูเอาไว้ จากนั้นผมได้ยินเสียงดังอ้วกๆ ผมรีบหันไปบอกให้น้องเอก เดินตามไปช่วยลูบหลังให้เจ้าอาร์มมัน หลังจากอ้วกไปได้สักพักเดียว ผมได้ยินเสียงกรี๊ด เป็นเสียงของผู้หญิงออกมา ขณะที่เจ้าอาร์มอ้วก ผมหันไปมองหน้า น้องเอก น้องเอกถามว่า พี่ได้ยินเสียงใหม่
โดยระหว่างนั้นพวกผมทำการอัดคลิปวีดีโอ เอาไว้ เพื่อให้อาร์มได้ดูในภายหลังว่า เกิดอะไรขึ้น หลังจากกินน้ำมนต์ของผมไป หลังจากที่มันอ้วกมาได้สักพัก น่าจะหมดแล้ว
พวกเราทั้ง 3 เดินออกมาจากห้องน้ำแล้วมานั่งคุยกัน คำถามแรกที่ อาร์มหันกลับมาถามผมว่า เห้ยยย จริงหรอเนี่ย กูโดนทำของอีกแล้วหรอ ผมตอบว่าใช่ นี่มันก็แค่น้ำเปล่า ไม่เชื่อให้เจ้าเอกกินดู เอกพยักหน้า พร้อมทั้งกินน้ำจากขวดๆ นั้นที่ผมได้ทำพิธีไว้ สรุป เอกกินแล้วไม่อ้วก ไม่เป็นไร แถมหันไปบอกว่า น้ำหวานเจี๊ยบเลยพี่
เท่านั้นแหละ เจ้าอาร์มบอก เหยยย น้องเขาทำของใส่กูหรอเนี่ย มิน่าทำไมกูถึงหลงน้องเขาขนาดนี้ อยากอยู่ใกล้ คิดถึง อยากโทรหา อยากได้ยินเสียงตลอดเวลา
ผมบอก ก็ทำให้ดูแล้วไง ว่าโดนจริงๆ คนบ้าอะไร กินแค่น้ำ แล้วจะวิ่งไปอ้วกได้ขนาดนั้น หลังจากผมเทศน์ไปได้สักพัก เริ่มหิว ดูเวลาแล้วบอกว่า เพื่อนๆ ถึงเวลาลงไปกินข้าวกันละ
หลังจากกินข้าวเสร็จเรียบร้อย พวกเราก็ขึ้นมา ทำกิจกรรมนั่นนี่นู่น น้องเอกนั่งดูการ์ตูน netflix ไป เล่นเกมส์กับอาร์มไป ส่วนผมก็นั่งอ่านการ์ตูน นอนเล่นไปเพราะเพลียๆอยู่
แต่ระหว่างนั้น อาร์มก็จะมักออกไปโทรศัพท์ข้างนอกบ้าง หยิบโทรศัพท์ chat แอบๆบ้างเป็นระยะๆ พวกผมก็ได้แต่เฝ้าจับตาดูอยู่แต่ไม่ได้พูดอะไรมากเท่าไหร่
ตัดภาพมาที่ตอนอาหารเย็น ผมดูเวลาแล้วว่าราวๆ 1 ทุ่มเห็นจะได้ ผมจึงบอกกับ 2 หนุ่มว่า เหย หิวข้าวแล้ว เวลากินข้าว ปะ ปิดทุกอย่างแล้วลงไปหาข้าวกินกัน
หลังจากลงข้างล่างคอนโด วันนี้ ผมอยากทานพวกอาหารตามสั่งแถม มีร้านสเต็กติดกัน เลยบอกว่า งั้นวันนี้พวกเรากินร้านนี้กัน พวกมันตอบว่าได้ๆ อยากกินพอดี
พอมานั่งที่โต๊ะได้ ต้องเล่าก่อนว่า ผมและอาร์มจะนั่งติดกัน ส่วนน้องเอกจะนั่งอยู่ตรงข้ามอาร์มครับ หลังจากเรานั่งไปได้สักพัก อาหารก็เริ่มมา ก็เม้ามอยคุยตามประสา จำได้ว่า ไม่น่าเกิน 5 นาทีได้ เจ้าเอก หันมาหาผมแล้ว ถามผมว่า พี่โอมๆ พี่ได้ยินเสียงผู้หญิงเรียกพี่อาร์มไหม ผมบอกแว่วๆ นะ เชื่อไหมครับ
จังหวะ มันโบ๊ะบ๊ะมากเลย มันมีสายหนึ่งโทรเข้ามาหาอาร์ม อาร์มรับสายแล้วก็คุยๆ สักพักก็วางสายไป พร้อมทั้งหันมาบอกพวกผมว่า พวกนายกินข้าวไปก่อนนะ เราอิ่มเรา
เดี๋ยวเราขอตัวไปรับน้องเขาหน่อยได้ไหม น้องเขาโทรมาหาบอกว่า อยากเจอ มารับไปกินข้าวหน่อย ผมหันไปมองหน้าแล้วบอกว่า หยุดเลย อาร์ม นายไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น
กินข้าวไปแล้วก็ไม่ต้องไปหาด้วย มันก็สวนมาว่า ขอเถอะ ชม เดียว เดี๋ยวกูกลับมาหาพวกเมิงนะๆ ผมบอกว่าไม่ต้อง กินข้าวไป มันบอกก็ได้ๆ กินข้าวก็กินข้าว หลังจากมันตักข้าวเข้าปากไปได้ไม่กี่คำ อยู่ดีๆ เจ้าเอกหันมาหาผมแล้วบอกว่า พี่โอมๆ ดูพี่อาร์มสิ เหงื่อแตกมากเลยพี่ อากาศมันก็ดูไม่ร้อนเท่าไหร่ ผมก็บอกว่าใช่
ผมไม่ร้อนนะ เฉยๆ มาก ทำไมตัวมันมีแต่เหงื่อเยอะมากขนาดนี้ สักพัก มือของเจ้าอาร์มสั่นพับๆ ข้าวกระจัดกระจายลงบนโต๊ะ บอกไม่ไหวอยากไปหาน้องเขาเหลือเกิน
ผมเห็นท่าไม่ดีแล้ว จึงได้กำหนดจิตอยู่ครู่หนึ่ง สักพักมีลมเย็นๆพัดเข้ามา พอช่วยทำให้คลายร้อนได้ ไม่นานอาการของอาร์มค่อยๆขึ้นดีขึ้น แต่ผมคิดว่า ถ้ายังจะดื้อ ฝืนกินข้าวต่อไป อาการน่าจะหนักมากกว่านี้เลยรีบบอกให้น้องเอกรีบกินข้าวไวๆ จะได้พาเจ้าอาร์มรีบเดินกลับห้องกัน อยู่ห้องของผมน่าจะปลอดภัยกว่าอยู่ข้างนอก
ต่อในคอมเม้นนะครับ
เรื่องเล่าจากทางบ้านตอน เสน่ห์หา คาวโลกีย์ ช่วงที่ 1
สำหรับเรื่องราวเหล่านี้ ผมได้รับการถ่ายทอดมาจากคุณโอมอีกต่อนึงนะครับ โดยผมจะขออนุญาต เล่าเรื่องนี้เป็นตัวผมแทนครับ จะได้ไม่สะดุดในการอ่านของทุกๆท่านครับ
ก่อนจะเริ่มเรื่องราวที่ผมจะเล่าในวันนี้ ผมขอใช้เวลาสักนิส ในการเล่าคร่าวๆว่าตัวละครหลักๆ จะมีใครบ้าง นั่นคือ กลุ่มของผมนั้น จะมี ผม อาร์ม และ น้องเอก พวกเราอยู่กลุ่มเดียวกัน มักจะรวมตัวกันไปหาอะไรกินไม่ว่าจะเป็นบุฟเฟ่ หมูกะทะ ชาบู แนวๆนี้ที่ไหนเปิดใหม่ก็มักจะชวนไป รวมถึงชวนกันไปมูกันบ้าง พวกวัดต่างๆ ครับ
งั้นเรามาเข้าเนื้อหากันเลยนะครับ วันนั้นเป็นวันพฤหัส ผมจำได้อย่างดี อยู่ดีๆ ก็มีข้อความเข้ามาใน fb ในกลุ่มของพวกเรา 3 คน ไม่ใช่ใครที่ไหน นั่นคือ อาร์มนั่นเอง อาร์มทักมาว่า อาร์มิตย์นี้ พวกนายว่างกันไหม เบื่อๆ เราออกไปเที่ยวต่างจังหวัดกันดีไหม ไม่ได้ไปด้วยกันนานแล้วนะ ผมและเจ้าเอก ต่างก็ใจตรงกัน บอกไปว่าได้สิ เอาเลย เดี๋ยวรีบเคลียร์งานกัน แล้วมาเจอสักวันศุกร์ ออกเดินทางกันสักราวๆ 2-3 ทุ่มก็แล้วกัน ไปถึงดึกหน่อยก็หา โรงแรมนอนพัก แล้วค่อยไปเที่ยวกัน หลังจากตกลงกันเสร็จ
พวกเราต่างก็แยกย้ายกันไปทำงาน นั่นนี่นู๋น จนมาถึง วันศุกร์ วันที่พวกเรานัดกันว่า จะเจอกัน ด้วยความที่เราอาศัยรถเจ้าอาร์มในการไปลุยครั้งนี้ อาร์มบอก ขอทำงานแปปนะ
เดี๋ยวให้ น้องเอกมาหาผมก่อน รวมกันเสร็จ แล้วเดี๋ยวไปรับ ด้วยความฟิตของน้องเอก มันรีบมาหาผมเจอหน้ากันช่วงเวลา ทุ่มเศษๆ เห็นจะได้ หลังจากที่ผมลงไปรับเจ้าเอก
อ่อลืมบอก ไป ผมอยู่คอนโดนะครับ หลังจากขึ้นมาก็เม้ามอย แล้วก็ ส่งข้อความไปบอกในกลุ่มว่า เอกถึงแล้วนะ อาร์ม นายออกมารึยัง นัดกัน 2 ทุ่มนะ จะได้รีบเจอรีบออก
ไปหาข้าวกินกัน แต่แปลกครับ พวกเราต่างพยายาม ทั้งทักหา ทั้งพิมพ์หา ก็เงียบแต่ด้วยเวลาที่ยังไม่ถึงเวลานัดดี ก็เลยปล่อยเลยตามเลยไป พอสัก 2 ทุ่มผมบอกให้น้องเอก
ช่วยพิมพ์บอกหน่อย พอดีผมกำลังเชคของที่ต้องออกเดินทาง น้องเอกก็ขยันมาก ทั้งพิมพ์ ทั้งโทรไปหา แต่ก็เงียบกริบ ไม่มีสัญญาณตอบรับจากอาร์มเลย หลังจากเวลาผ่านไปนานมากจนถึง 4 ทุ่ม ผมและน้องเอก เลยลงความเห็นว่า ไม่ไปดีกว่าหมดอารมณ์กันอย่างแรง เลยพิมพ์ไปบอก อาร์มว่า เห้ย อาร์มพวกเรา สองคน
ตัดสินใจไม่ไปแล้วนะ เดี๋ยวเราพาเอกไปหาข้าวกินแถวนี้ดีกว่า ถ้านายเห็นข้อความรึ ว่างแล้ว ก็ไม่ต้องรีบนะ พวกเราไปหาข้าวกินกันละ นายทำอะไรทำไปเลยนะ หลังจากส่งนั้นไม่นาน อาร์มทักกลับมาน่าจะเกือบเที่ยงคืนได้ว่า ขอโทษที่ช้า ขอโทษที่สาย เราทะเลาะกับแฟนมาด้วย ขอมาหาได้ไหม พวกนายอยู่ไหนกัน
เอกบอกว่า ผมอยู่กับพี่โอมที่คอนโดครับพี่ อาร์มเลยบอกเออๆ งั้นขอไปนอนกับพวกนายได้ไหม ด้วยความที่พวกเราพอจะรู้อะไรๆ มาบ้าง พวกเราเลยบอก งั้นก็มาเถอะ ไม่เป็นไร มีที่นอนอยู่แล้ว หลังจากที่เรารอมาสักพักใหญ่ๆ พอได้เวลาปุ๊ป เหมือนด่าในใจได้สักพัก เจ้าอาร์มก็โทรมาบอกว่า ถึงแล้ว ลงมารับผมหน่อยคร้าบบบ
ผมจึงให้เจ้าเอกลงไปรับเจ้าอาร์มขึ้นมาบนคอนโด พอมาถึงห้องเสร็จมันก็บ่นแหลกนั่นนี่นู๋น พวกเราก็ถามว่า เอาตรงๆไปทำอะไรมาถึงเบี้ยวนัด ทั้งๆที่นายก็เป็นคนนัด
พวกเราว่าจะไปต่างจังหวัดนะ ถ้านายไม่นัด พวกเราคงแยกย้ายไปทำอย่างอื่นกันแล้ว หลังจากคาดคั้นอยู่นาน มันถึงมาบอกว่า มันไปกับผู้หญิงคนหนึ่ง แต่กะว่าไปหาไม่นาน
แล้วจะรีบตามมาหาพวกเรา แต่ด้วยการเล้าหลือ อะไรก็ตาม ทำให้ยืดเยื้อ จนเลยเวลาที่นั่นกัน พวกเราก็ได้แต่ถอนหายใจกัน เรียกว่า เบื่อกันเลยแต่คงเพราะความเป็นเพื่อนของพวกเรา
ที่ยังคงมีอยู่ ก็ได้แต่ ช่างมันไป แค่ด่าไปนิดๆหน่อยๆ คุยกันสักพักผมเริ่มจะง่วงๆเลยบอกว่านอนกันก่อนไหม เดี๋ยวค่อยคุยกันพรุ่งนี้ต่อละกัน
มันก็บอกว่าได้ๆ พวกเราจึงต่างเตรียมตัวนอนปิดไฟเรียบร้อย แต่หลังจากผมปิดไฟ….. นอนไปได้สักพักเดียวเท่านั้น อยู่ๆ.. ก็มีเสียงร้องไห้ของผู้หญิงดังขึ้นมา ฮือๆ โหยหวน กวนใจเป็นอย่างมาก ตรงบริเวณที่เจ้าเอกและอาร์มนอนอยู่ แต่ผมคิดในใจแบบดังๆว่า ช่างมันละกัน นอนก่อน พรุ่งนี้ค่อยคุยละกันว่าเกิดอะไรขึ้น
เช้าวันรุ่งขึ้นซึ่งเป็นวันเสาร์กว่าพวกเราจะตื่นกันมาสายแล้ว หลังจากที่ทุกคนตื่นมาพร้อมเพียงกัน ผมเดินไปนั่งอยู่ใกล้ๆ อาร์มและเอก จากนั้นผมก็เริ่มเปิดหัวข้อเลยว่า ทำไมถึงเบี้ยวพวกกู เอาตรงๆ ไม่ต้องอ้อมค้อม อาร์มทำหน้าตาซึมๆ แล้วบอกมาว่า กูขอโทษ กูรู้ว่ากูผิดนะ จริงๆกูอะ จะรีบมาหาพวกนั่นแหละ
แต่ว่า น้องเขาทักมาหากู บอกว่าอยากเจอ กูเห็นว่า พอมีเวลา เลยไปหาน้องเขา กะว่าไปหาแปปเดียว แล้วจะรีบมาหาพวก แต่ไม่รู้ทำไม กูถึงอยู่กับน้องลากยาวมากจนพวกทั้งโทร ทั้งตามกูนี่แหละ กูเลยบอกน้องเขาว่าต้องไปแล้ว เลยได้ออกมานี่แหละ แถมทะเลาะกับแฟนอีก เลยต้องมา นอนกับพวกตรงนี้นี่ไง สักพักอยู่ดีๆ อาร์มก็ร้องไห้บอกว่า กูรู้ กูผิด กูขอโทษ ยกโทษให้กูได้ไหม กูควบคุมตัวเองไม่ได้ กูอยากไป แต่ทำไมไม่รู้ กูถึงปฎิเสธน้องเขาไม่ได้ กูแค่อยากไปหาน้องเขา อยากไปมีความสุขกับน้องเขา
กูผิดด้วยหรอ เสียงร้องฮือๆ ของผู้ชายคนหนึ่ง ร้องออกมา ซึ่งมันไม่น่าจะฟังเท่าไหร่
ผมและน้องเอก มองหน้ากัน พูดพร้อมกันว่า น่าจะโดนทำของใส่แล้วแน่ๆ เพราะอะไรรู้ไหม ผมจึงหันไปถามน้องเอกว่า เมื่อคืนตอนที่พวกเราปิดไฟนอนกันแล้ว
เอกได้ยินเสียงอะไรไหม มันสวนมาว่า พี่ก็ได้ยินหรอ ผมได้ยินเสียงพี่เขาร้องไห้ แต่ไม่ใช่เสียงพี่เค้าครับ ผมตอบกลับไปว่าใช่สิ ไม่งั้นจะถามหรอว่าได้ยินเสียงอะไรไหมหลังจากผมนิ่งและคิดอยู่สักครู่ ผมจึงเดินไปหยิบน้ำเปล่า ยี่ห้อหนึ่งขึ้นมา จากนั้นเริ่มทำพิธีทำน้ำมนต์ ตามแบบฉบับที่ได้ร่ำเรียนมานั้น หลังจากบริกรรมพิธีไปได้ไม่นาน
ผมจึงไปหยิบแก้วน้ำมาแก้วหนึ่ง จากนั้นให้น้องเอก ส่งต่อให้เจ้าอาร์มไป แล้วบอก อาร์มว่า ถ้าไม่เชื่อลองกินน้ำมนต์ที่ปลุกเสกขึ้นมา เดี๋ยวก็รู้เองแหละว่าโดนทำของใส่หรือไม่
หลังจากอาร์มหยิบแก้วน้ำไป พร้อมปากดี บอกพวกผมว่า มันก็แค่น้ำเปล่า กินไปไม่อ้วก เหมือนครั้งนั้นหรอกที่ทำให้กิน ไม่เชื่อ เดี๋ยวจะกินให้พวกนายดูอาร์มกระดกน้ำมนต์ที่ผมทำให้ อึกๆ หมดแก้วเลย สักพักมันหันมาบอกว่าไม่เห็นเป็นอะไรนี่ เชื่อหรือไม่ครับ ไม่นานเกิน 3 วิได้ อาการจะอ้วกของอาร์มเริ่มออกมา
มันเริ่มวิ่งอย่างรวดเร็วพุ่งไปยังห้องน้ำ ที่เปิดประตูเอาไว้ จากนั้นผมได้ยินเสียงดังอ้วกๆ ผมรีบหันไปบอกให้น้องเอก เดินตามไปช่วยลูบหลังให้เจ้าอาร์มมัน หลังจากอ้วกไปได้สักพักเดียว ผมได้ยินเสียงกรี๊ด เป็นเสียงของผู้หญิงออกมา ขณะที่เจ้าอาร์มอ้วก ผมหันไปมองหน้า น้องเอก น้องเอกถามว่า พี่ได้ยินเสียงใหม่
โดยระหว่างนั้นพวกผมทำการอัดคลิปวีดีโอ เอาไว้ เพื่อให้อาร์มได้ดูในภายหลังว่า เกิดอะไรขึ้น หลังจากกินน้ำมนต์ของผมไป หลังจากที่มันอ้วกมาได้สักพัก น่าจะหมดแล้ว
พวกเราทั้ง 3 เดินออกมาจากห้องน้ำแล้วมานั่งคุยกัน คำถามแรกที่ อาร์มหันกลับมาถามผมว่า เห้ยยย จริงหรอเนี่ย กูโดนทำของอีกแล้วหรอ ผมตอบว่าใช่ นี่มันก็แค่น้ำเปล่า ไม่เชื่อให้เจ้าเอกกินดู เอกพยักหน้า พร้อมทั้งกินน้ำจากขวดๆ นั้นที่ผมได้ทำพิธีไว้ สรุป เอกกินแล้วไม่อ้วก ไม่เป็นไร แถมหันไปบอกว่า น้ำหวานเจี๊ยบเลยพี่
เท่านั้นแหละ เจ้าอาร์มบอก เหยยย น้องเขาทำของใส่กูหรอเนี่ย มิน่าทำไมกูถึงหลงน้องเขาขนาดนี้ อยากอยู่ใกล้ คิดถึง อยากโทรหา อยากได้ยินเสียงตลอดเวลา
ผมบอก ก็ทำให้ดูแล้วไง ว่าโดนจริงๆ คนบ้าอะไร กินแค่น้ำ แล้วจะวิ่งไปอ้วกได้ขนาดนั้น หลังจากผมเทศน์ไปได้สักพัก เริ่มหิว ดูเวลาแล้วบอกว่า เพื่อนๆ ถึงเวลาลงไปกินข้าวกันละ
หลังจากกินข้าวเสร็จเรียบร้อย พวกเราก็ขึ้นมา ทำกิจกรรมนั่นนี่นู่น น้องเอกนั่งดูการ์ตูน netflix ไป เล่นเกมส์กับอาร์มไป ส่วนผมก็นั่งอ่านการ์ตูน นอนเล่นไปเพราะเพลียๆอยู่
แต่ระหว่างนั้น อาร์มก็จะมักออกไปโทรศัพท์ข้างนอกบ้าง หยิบโทรศัพท์ chat แอบๆบ้างเป็นระยะๆ พวกผมก็ได้แต่เฝ้าจับตาดูอยู่แต่ไม่ได้พูดอะไรมากเท่าไหร่
ตัดภาพมาที่ตอนอาหารเย็น ผมดูเวลาแล้วว่าราวๆ 1 ทุ่มเห็นจะได้ ผมจึงบอกกับ 2 หนุ่มว่า เหย หิวข้าวแล้ว เวลากินข้าว ปะ ปิดทุกอย่างแล้วลงไปหาข้าวกินกัน
หลังจากลงข้างล่างคอนโด วันนี้ ผมอยากทานพวกอาหารตามสั่งแถม มีร้านสเต็กติดกัน เลยบอกว่า งั้นวันนี้พวกเรากินร้านนี้กัน พวกมันตอบว่าได้ๆ อยากกินพอดี
พอมานั่งที่โต๊ะได้ ต้องเล่าก่อนว่า ผมและอาร์มจะนั่งติดกัน ส่วนน้องเอกจะนั่งอยู่ตรงข้ามอาร์มครับ หลังจากเรานั่งไปได้สักพัก อาหารก็เริ่มมา ก็เม้ามอยคุยตามประสา จำได้ว่า ไม่น่าเกิน 5 นาทีได้ เจ้าเอก หันมาหาผมแล้ว ถามผมว่า พี่โอมๆ พี่ได้ยินเสียงผู้หญิงเรียกพี่อาร์มไหม ผมบอกแว่วๆ นะ เชื่อไหมครับ
จังหวะ มันโบ๊ะบ๊ะมากเลย มันมีสายหนึ่งโทรเข้ามาหาอาร์ม อาร์มรับสายแล้วก็คุยๆ สักพักก็วางสายไป พร้อมทั้งหันมาบอกพวกผมว่า พวกนายกินข้าวไปก่อนนะ เราอิ่มเรา
เดี๋ยวเราขอตัวไปรับน้องเขาหน่อยได้ไหม น้องเขาโทรมาหาบอกว่า อยากเจอ มารับไปกินข้าวหน่อย ผมหันไปมองหน้าแล้วบอกว่า หยุดเลย อาร์ม นายไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น
กินข้าวไปแล้วก็ไม่ต้องไปหาด้วย มันก็สวนมาว่า ขอเถอะ ชม เดียว เดี๋ยวกูกลับมาหาพวกเมิงนะๆ ผมบอกว่าไม่ต้อง กินข้าวไป มันบอกก็ได้ๆ กินข้าวก็กินข้าว หลังจากมันตักข้าวเข้าปากไปได้ไม่กี่คำ อยู่ดีๆ เจ้าเอกหันมาหาผมแล้วบอกว่า พี่โอมๆ ดูพี่อาร์มสิ เหงื่อแตกมากเลยพี่ อากาศมันก็ดูไม่ร้อนเท่าไหร่ ผมก็บอกว่าใช่
ผมไม่ร้อนนะ เฉยๆ มาก ทำไมตัวมันมีแต่เหงื่อเยอะมากขนาดนี้ สักพัก มือของเจ้าอาร์มสั่นพับๆ ข้าวกระจัดกระจายลงบนโต๊ะ บอกไม่ไหวอยากไปหาน้องเขาเหลือเกิน
ผมเห็นท่าไม่ดีแล้ว จึงได้กำหนดจิตอยู่ครู่หนึ่ง สักพักมีลมเย็นๆพัดเข้ามา พอช่วยทำให้คลายร้อนได้ ไม่นานอาการของอาร์มค่อยๆขึ้นดีขึ้น แต่ผมคิดว่า ถ้ายังจะดื้อ ฝืนกินข้าวต่อไป อาการน่าจะหนักมากกว่านี้เลยรีบบอกให้น้องเอกรีบกินข้าวไวๆ จะได้พาเจ้าอาร์มรีบเดินกลับห้องกัน อยู่ห้องของผมน่าจะปลอดภัยกว่าอยู่ข้างนอก
ต่อในคอมเม้นนะครับ