เรื่องเล่าจากทางบ้านตอน ใครพักอยู่ห้องชั้นบนกันว้า?



จำได้ว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นราวๆ ปี พศ 2565 ก็ผ่านมาได้ 1-2 ปีเอง วันนั้นเป็นวันศุกร์ เห็นจะได้
เนื่องจากอาทิตย์นี้ พวกเรานัดกันเดินทางเพื่อไปยังสำนักสงฆ์แห่งหนึ่งครับ โดยปกติแล้ว พวกเราจะเดินทางกันกลางคืนวันศุกร์
โดยจะนัดกันราวๆ 2 ทุ่ม และ เดินทางไป โดยปกติจะใช้เวลาราวๆ 4-5 ชม. ถึงอย่างช้าก็สักตี 1 เห็นจะได้ครับ
ในการเดินทางครั้งนี้ก็อีกเช่นเคย แต่ที่มันไม่เหมือนเดิมคือ โอครับ โอจะเป็นเพื่อนในกลุ่มของเราที่เป็นตัวหลักในการขับรถ
กลับมาดึกกว่าปกติครับ จากเดิมที่เคยมาช่วง 2 ทุ่มวันนี้ บอกว่าติดงาน ทำธุระ นั่นนี่นู่น กว่าจะมาได้ก็ 3 ทุ่มกว่าๆแล้ว พอมาถึงบ้านของผม
มันเริ่มบ่นๆ ว่าเหนื่อยมากเมื่อคืนไม่ค่อยได้นอนเลย ทำนั่นนี่อยู่ แถมลูกก็กวนตอนกลางคืน ผมจึงถามโอกลับไปว่า แล้วเอายังไงละจะไปกันไหม?
รึไปนอนก่อนแล้วค่อยไป? โอตอบกลับมาว่า ไหนๆ ก็มากันแล้วก็ไปเถอะ  อ่อ ในทริปนี้ พวกเราไปกันทั้งหมด 4 คนนะครับ
ลืมแนะนำตัวเลยครับ ผมทีนะครับ แล้วก็มีโอ คนขับรถประจำการ , เจ้าเอฟน้องเล็กสุด และ น้องใบบัว สาวสวยของกลุ่ม เพราะเป็นผู้หญิงคนเดียว ฮ่า
หลังจากเราคุยกัน ก็ตามใจเจ้าโอ คนขับรถ ครับ ระหว่างเดินทางกันผ่านดอนเมือง ตรงมาเรื่อยๆ จนถึง ถนนหลักของจังหวัดๆ หนึ่ง
ระหว่างทางผมสังเกตเห็นว่าเจ้าโอเริ่มมาอาการตาปรือๆ ง่วง คล้ายๆ จะหลับใน ..... ผมเห็นแบบนั้นเลยคุยๆกับแก๊งว่า งั้นหาที่พักที่จังหวัดนี้กันดีกว่า
หลังจากตกลงกันแล้ว จึงบอกให้เอฟช่วยหาที่พักให้หน่อยครับ เพราะหลายๆที่ที่พวกเราไปนั้น เอฟจะเป็นคนช่วยหารวมถึงช่วยเชคว่ามีตรงไหน อะไรยังไงบ้าง

ผมบอกได้ไม่นาน เอฟก็บอกว่า เอาโรงแรมนี้ รึ โรงแรมนี้ดี ผมลองบอกให้ น้องใบบัวคนสวยดู  ใบบัวบอกขอโรงแรมนี้ดีกว่า มันดูใหม่มากกว่าอีกโรงแรมนึง
แพงกว่าหน่อยไม่เป็นไร ขอความปลอดภัยดีกว่า ไม่รู้ว่าปลอดภัยจากคน รึ ว่าอะไรนะ แต่เมื่อใบบัวเลือกแล้วก็ต้องตามใจเขาหน่อย
ภาพตัดมาใกล้ๆ จะถึงโรงแรมนี้แล้ว โดยโรงแรมนี้จากถนนใหญ่ จะค่อยๆเข้ามาในซอยเลยครับ ก่อนจะถึงโรงแรมที่เราเลือกที่จะพัก มันจะผ่านหน้าโรงแรมอีกโรงแรมที่เราดูๆไว้
แต่หลังจากที่ผ่านไป เราหันมาคุยกันว่า ดีแล้วแหละ ที่ไม่ได้เลือกโรงแรมนี้ เพราะมันค่อนข้างดูมืดๆ ต้นไม้ค่อนข้างเยอะ ตัวโรงแรมมองไกลๆ จะเป็นเรือนไม้ยุคก่อน ยิ่งย้อนกลับไปคิดยิ่งหลอนๆ
หลังจากเราขับตรงมาได้ไม่นานก็เลี้ยวซ้ายนิดนึง พวกเราก็มาถึงโรงแรมที่เราจองไว้ครับ โอขับรถมาอย่างช้าเบาๆ แล้วหาที่จอดรถ  ดูจากจำนวนรถคิดว่าในคืนนี้น่าจะมีคนมาพักไม่มากทั้งๆที่ขนาดโรงแรมที่ดูก็ค่อนข้างใหม่และที่จอดรถ ก็ค่อนข้างกว้าง แต่ที่พวกเรากะๆด้วยสายตาเวลา 4 ทุ่มกว่าๆ จะ 5 ทุ่มแล้วมีรถจอดเพียง 4-5 คันเท่านั้นเอง 

 อ่อ พวกเรามาดึกกันไปหน่อย เพราะว่าระหว่างทางเราแวะกิน burger king  อาหารโปรดระหว่างทางของพวกเรากันมาครับ แฮร่  หลังจากเราหยิบกระเป๋าสัมภาระ ลงมาเรียบร้อยแล้ว
จะเป็นหน้าที่ของเอฟและผมที่เดินเข้าไปลงทะเบียนเข้าพัก พอเสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกเราทั้ง 4 ได้พักที่ชั้น 2 ห้องติดกันครับ อ่อลืมบอกไป ที่โรงแรมมีจำนวนชั้นทั้งสิ้น 3 ชั้นนะครับ
โดยส่วนกลางจะเปิดโล่งมองเห็นทุกชั้นครับ รวมถึงมีบันไดอยู่ตรงกลางสำหรับเชื่อมทางเดินขึ้นลงในแต่ละชั้น พวกเราค่อยๆขึ้นบันไดอย่างช้าๆ เพราะเดินๆจะมีเสียงฝีเท้าเราค่อนข้างดังกังวาลหน่อย
แอบเกรงใจ หลังจากเรามาถึงห้องที่พักของพวกเรา 4 คน เราก็เลือกห้องกันระหว่าง ซ้ายรึขวามือ สรุปจับเลขห้อง โอและเอฟจะอยู่ห้องทางซ้าย ส่วนผมและน้องใบบัว จะอยู่ทางขวามือ
ภาพตัดมาในห้องนอน เมื่อเปิดประตูแล้ว เตียงจะอยู่ทางขวามือของผม  ตรงข้ามเตียงก็มีโต๊ะเครื่องแป้ง ที่วางทีวี บนหัวเตียงก็มีที่วางของได้ พวกเราเดินไปเก็บของในตู้เสื้อผ้า จากนั้นก็เม้ามอยนิดหน่อย แยกกันไปอาบน้ำกัน หลังจากนั้นบ่นๆกันว่าง่วงแล้ว ค่อยเม้าต่อละกันเนอะ เวลานั้นน่าจะเที่ยงคืนกว่าๆได้แล้ว โดยประมาณครับ

 เราทั้งคู่นอนบนเตียงจำได้ว่า ผมจะนอนด้านซ้าย ส่วนน้องใบบัวจะนอนด้านขวามือของผม น่าจะผ่านไปได้สักพักคิดว่าไม่เกิน 10 - 15 นาทีได้ครับ
ผมเริ่มได้ยินเสียงคนลากเก้าอี้อยู่แบบ ลากไปลากมา จากห้องชั้นบนเหนือห้องเราไป ผมคิดในใจว่าเอ๊ะ ดึงขนาดนี้นี่มันจะตี 1 แล้วมั้งทำไมยังมีคนมาลากเก้าอี้อยู่หว่า
แต่ก็ช่างมันเพราะว่าอยากจะนอนแล้วก็ข่มตาไปได้แปปเดียว เอาอีกละ ครืดๆ ลากไปลากมา รวมถึงไม่ใช่แค่เสียงลากจากด้านบนเสียงเดียว 
แต่ข้างๆห้องอีกฝั่งหนึ่ง มันมีเสียงทุบกำแพง ตุบๆ ดังมาจากอีกฝั่งหนึ่งในใจก็คิดว่า ทำไมคืนนี้เสียงดังกันจัง ไม่หลับไม่นอนอีกหรอ ผมเลยหันหน้าไปมองใบบัวคิดว่าเธอต้องหลับแล้วแน่ๆ เลยพูดเบาๆว่า บัวๆ บัวน้องนอนแล้วรึยังเจ้า  เสียงบัวตอบกลับมาเบาๆว่า ยังไม่ได้นอนเลย ข้างห้องกับห้องข้างบนเขาทำอะไรกัน

ทำไมไม่หลับไม่นอนเนี่ย เอ๊า เราก็คิดว่าได้ยินเสียงคนเดียวซะอีก น้องบัวก็ได้ยินเหมือนกันหรอเนี่ยะ  ผมจึงบอกกับบัวว่าสงสัยกำลังเก็บของทำนั่นนี่มั้ง
ไม่มีอะไรหรอก นอนเลยดีกว่า พรุ่งนี้ต้องออกแต่เช้านะ น้องบัวบอกกับผมว่าได้ๆ แล้วหันหลังให้กับผมไป จากนั้นผมพยายามข่มตานอนต่อไป 
แต่มันเรียกว่าไงดีนะ เลยช่างมันละกัน เลยข่มๆตานอนไป รู้ตัวอีกทีก็เช้าแล้ว หลังจากพวกเราทำกิจวัตร ยามเช้าจบเรียบร้อยแต่งตัวเสร็จ 
ผมก็ถามย้ำกับบัวอีกทีว่า เมื่อคืนได้ยินเสียงคนลากของ กับทุบข้างๆห้องจริงๆใช่ไหม กลัวแบบเผลอคิดไปเองคนเดียว บัวบอกว่าได้ยินจริงๆนะ 
ผมบอกไปว่า อืมๆ แล้วค่อยๆเดินออกมาจากห้อง เพื่อที่จะดูด้วยว่าข้างๆห้องมีคนอยู่ไหมเห็นเมื่อคืนมีทุบมา รึอาจจะเป็นห้องของเพื่อนผมก็ได้  
ตอนนี้ผมมายืนอยู่หน้าห้องของเพื่อนกำลังเคาะที่ห้องของเพื่อน ตึงๆ ตึงๆ น้องเอฟเดินออกมาเปิดประตูให้แล้วถามว่า เสร็จแล้วหรอพี่ 
พวกผมใกล้เสร็จแล้ว ตอนที่เปิดประตู ผมชะโงกหน้าไปดูที่ห้องของเอฟ ต้องอธิบายแบบนี้ให้ทุกๆ คนเห็นภาพด้วยกันนะครับ
หากเปิดประตูห้องของเอฟ จะเห็นว่า ตำแหน่งว่างเตียง โต๊ะเครื่องแป้งทีวี จะเป็นมุมตรงข้ามกับผม ผมเลยเอ่ยปากถามเอฟไปว่า
เออเมื่อคืนเคาะกำแพงอะไรไหม มันบอกเปล่าพี่ แล้วเมื่อคืนได้ยินเสียงคนลากเก้าอี้ นั่นนี่ไหม มันบอกไม่นะพี่ พวกผมสองคน หลังจากเข้ามา
ก็ผลัดกันไปอาบน้ำแล้วก็นอนเลย ไม่มีใครไปเคาะกำแพงเล่นหรอกพี่ รวมถึงเสียลากเก้าอี้ไม่มีนะ รึผมไม่ได้ยิน แต่คงไม่มั้ง มันดึกมาแล้ว ใครจะมาลากเก้าอี้เล่นกัน

ผมได้แต่งงๆ แต่ก็ตอบรับไปว่า หรอ อืมๆ โอเค ก็เลยกำลังเดินกลับไปที่ห้องตัวเอง แต่มันยังคาใจเลย เดินจากห้องของเอฟ และ เดินผ่านห้องผมไปเพื่อไปดูห้องข้างๆว่ามีคนอยู่ไหมแต่.... ปรากฎว่าข้างๆห้องไม่มีห้องครับ มันคือ บันไดข้างๆ เพื่อขึ้นไปยังชั้นที่ 3  เอ้ยมันจะเป็นบันไดได้อย่างไรกัน เลยเดินถอยหลังกลับไป เปิดประตูห้องของตัวเอง แล้วเรียกบัวๆ บัวมานี่หน่อย บัวบอกได้ๆ แล้วลุกเดินมาหาผม ผมดึงมือบัวบอก ตามมาๆ มาดูนี่  บัวเดินตามผมมาทันที
และมาหยุดอยู่ตรงหน้าทางขึ้นบันได ผมบอกกับบัวว่า บัวจำได้ไหม เมื่อคืนมันมีเสียงเคาะมาจากกำแพงฝั่งหัวนอน บัวบอกจำได้ๆ อ้าวแล้วทำไม มันเป็นทางขึ้นบันไดไปได้ละพี่

ผมก็บอกว่านั่นสิ มันเริ่มจะเอ๊ะๆ หลายอย่างแล้ว แต่ก็เก็บความสงสัยไว้ในใจอยู่ ผมบอกปะ เราเก็บของแล้วไปเรียก โอและเอฟดีกว่า บัวบอกได้ๆ 
หลังจากที่พวกเรา 4 คนเดินลงมาเพื่อเช็คเอาท์โรงแรม ผมจึงคุยกับน้องที่อยู่ตรงด้านหน้า น้องยืนอยู่ 2 คนผมจึงลองคุยกับน้องอีกคนที่ว่างอยู่
โดยแกล้งถามไปว่าน้องครับ เออไม่แน่ใจว่า เมื่อคืนนี้มีคนมาเข้าพักเยอะไหม น้องบอกเมื่อคืนเป็นเข้าพักกันไม่มากค่ะพี่  มีพวกห้องพี่ 2 ห้อง กับคนอื่นๆ
ก็จะอยู่ที่ชั้น 2 กันนะคะ แล้วชั้น 3 ละครับ มีไหม น้องบอกมีบ้าง แต่อยู่คนละฝั่งกับห้องพี่ค่ะ มีอะไรรึเปล่าครับพี่ ผมย้ำน้องอีกทีเพื่อให้หายสงสัยไปเลย
น้องบอกว่า ไม่มีจริงๆค่ะ จะมีก็อีกแค่ 1 ห้องที่เข้าพักหลังจากพี่ได้ ไม่นานเองหนูจำได้ แต่เขาไปอยู่อีกฝั่งหนึ่งค่ะ ผมจึงได้แต่ตอบไปว่า โอเคครับ ขอบคุณครับ

หลังจากเราจัดการต่างๆ เรียบร้อยแล้ว พวกเราเก็บสัมภาระต่างๆไว้ในรถและได้ออกเดินทางกันต่อเพื่อมุ่งหน้าไปยังสำนักสงฆ์ และเรื่องเล่าเรื่องนี้ก็จบลง....

ปล. ระหว่างทางผมก็เล่าเรื่องแบบนี้ให้ฟัง โอและเอฟบอกไม่เห็นได้ยินเลย หลับสบายมาก.... แล้วตูเจออะไรกับน้องบัวอีกเนี่ยะ
แล้วพบกับเรื่องเล่าเกี่ยวกับโรงแรมในตอนต่อไปในชื่อเรื่องว่า  แถวนี้มีผับด้วยหรอครับ?
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่