คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 102
ตอนนี้ผมเริ่มเห็นประโยชน์จากมันแล้วครับเพื่อนๆ
https://ppantip.com/topic/42606385
https://ppantip.com/topic/42606385
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 60
1. คนถาม ถามถึง Bitcoin คนตอบ ตอบ Crypto มีความหมายว่า ยังไม่เข้าใจ ถึงความแตกต่างของสองสิ่งนี้ ความน่าเชื่อถือในคำตอบจึงลดลง ถ้ายังแยกสองสิ่งนี้ไม่ออก อยากให้ลองไปศึกษา หาความรู้ใหม่ๆ ให้เพิ่มเติมกว่านี้ก่อน เพื่อจะได้เข้าใจถึงความแตกต่างอย่างแท้จริง เอามารวมกัน คุยทั้งวันก็ไม่เข้าใจ
2. ผมก็เคยไม่เข้าใจ Bitcoin เข้าใจว่ามันเป็นแค่ตัวเลข digital ที่คนให้ค่าแค่นั้นเลย มันเลยมีราคา และ ซื้อขายกันราคาก็เลยผันผวน แต่เมื่อได้ศึกษาลงไปจริงๆ ที่มากกว่าแค่ White paper ตัวเดียวนั้น มันมีรายละเอียดเยอะกว่านั้นมาก
3. จริงอยู่ว่า ตอนที่มันถูกสร้าง มันถูกสร้างขึ้นมาให้ทดแทนเงิน อย่างที่เรารู้จักกัน แต่ว่าโครงสร้างที่มันสร้าง และข้อกำหนดต่างๆในโค้ดของมัน ดันไปใกล้เคียงกับ ทองคำ เสียมากกว่า
4.พอมันเป็นแบบนั้นแล้ว หน้าที่ของมันแทนที่จะเป็นเงิน ก็เลยดันเปลี่ยนไปคล้ายทองคำ นั่นคือ เป็นที่เอาไว้เก็บมูลค่า หรือเก็บความมั่งคั่ง เปรียบง่ายๆว่า เวลาเราซื้อทองแท่ง เราต้องการเก็บมูลค่า ความมั่งคั่งเอาไว้ในทองแท่ง ไม่ได้เอาทองแท่งมาซื้อก๋วยเตี๋ยว
5.นักพัฒนาก็พยายามรักษาเส้นทางนี้เอาไว้ด้วยนะ โดยการพยายาม ไม่เปลี่ยนตัว bitcoin เอง ที่มันทำธุรกรรมได้ช้ามากๆ นาน 10 นาที และ รองรับธุรกรรมได้น้อยมาก แค่ประมาณ 7 tx ต่อวินาที ไม่ใช่ว่านักพัฒนาเค้าไม่รู้ เค้ารู้ และรักษาให้มันเป็นแบบนี้ เพราะเราคงไม่เอาทองแท่งมาซื้อก่วยเตี๋ยว แต่ว่าเราเอาทองแท่งไปจำนำ ไปขายเปลี่ยนเป็นเงิน ซึ่งมันทำได้ แต่ไม่ใช่สิ่งที่จะทำกันบ่อยๆ
6.หลักการที่ต้องยึดถือของมัน มีไม่กี่ข้อ ที่ห้ามถูกทำลายหรือเปลี่ยนแปลง และถึงวันนี้ ยังไม่เปลี่ยนแปลงไป คือ
- ไม่มีใครแอบสร้างขึ้นมาใหม่ได้
- ใครที่เป็นเจ้าของแล้ว จะเป็นเจ้าของตลอดไป ไม่มีใครมาแอบเอาไป ยึด อายัด ได้
- กำลังการผลิตคงที่ และลดลงทุกๆประมาณ 4 ปี
- ทุกธุรกรรมเปิดเผยทั้งหมด ชัดเจน โปร่งใส และไม่มีถูกลบออกตั้งแต่วันแรกที่สร้างขึ้นมาจนวันนี้
- คนที่จะได้มาไม่เคยมีคำว่าฟรี ต้องจ่ายค่าไฟ ค่าอุปกรณ์ ในการขุดมาทั้งนั้น
- จำนวนสูงสุดที่จะมีในระบบคือ 21 ล้าน Bitcoin โดย 1 Bitcoin มี 100,000,000 หน่วยย่อย เรียกว่า satoshi (ปัจจุบันปล่อยมาหมุนเวียน 19 เกือบ 20 ล้านแล้ว)
- ทำลายได้ยาก
แถม ถ้าใครสามารถสร้าง bitcoin ของจริงได้ฟรี ติดต่อผมหลังไมค์ ผมให้ค่าครู 4 ล้านบาท พร้อมจ่าย (ราคาตลาด ณ วันนี้ ประมาณ 1.9 ล้านบาท ต่อ 1 BTC) พร้อมอธิบายหลักการสร้าง bitcoin ฟรีมาให้ผมด้วย เพื่อให้ผมเอาไปสร้างฟรีได้เอง ถ้าพิสูจน์ได้จริง ไม่ต้องห่วงผม ผมมีวิธีทำกำไรได้มากกว่านั้นแน่นอน
ต้องจำเรื่องพวกนี้ไว้ให้ดีๆ หลักการเหล่านี้ คือตัวชี้ความเป็นความตายของมัน
7. ดังนั้น มันไม่ใช่แค่เลข digital อย่างที่เราเข้าใจกันโดยทั่วไป เพราะหลักการข้อ 6
8. ดังนั้น มันไม่ใช่ใครอยากสร้าง ก็สร้างได้ฟรี (ผมรับซื้อราคา 2x ถ้าสร้างได้ฟรี)
9. ดังนั้น ใครครอบครองมันแล้ว ไม่มีใครมายึด อายัด มันได้ตลอดไป มันจะเป็นของคุณตลอดไป
10. ดังนั้น ใครได้ครอบครอง ก็จะเป็นเจ้าของตามสัดส่วน ใน 21 ล้าน Bitcoin นั่นแหล่ะ มันมีสูงสุดเท่านั้น
11. มันจึงเหมือนทองคำเข้าไปทุกที ส่วนเรื่องความผันผวนของราคา ก็เป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าใครอ่านกราฟราคาออก จะเห็นว่า ความผันผวนของมันมีค่าลดต่ำลงเรื่อยๆ ตามระยะเวลาที่ผ่านไป
12. ตอบคำถาม "ใช้ประโยนช์อะไรที่เห็นจับต้องได้" คำตอบ "ใช้เป็นที่เก็บสะสมมูลค่า สะสมความมั่งคั่ง" ในฐานะเงินที่ดี ตามหลักการของเงินที่ดีที่ควรจะเป็น นั่นคือหน้าที่หลัก
13.บริบทของเงิน ไมได้มีมิติเดียวอย่างที่หลายคนเข้าใจ คือเอามาเก็บในกระเป๋ารอใช้ซื้อก่วยเตี๋ยว (จริงๆตอนนี้ ใช้ bitcoin ซื้อก่วยเตี่ยวได้ ด้วยโอนเร็ว โอนถูก ผ่าน lightning network ที่ทำงานเหมือน bitcoin layer2) แต่มันใช้เป็นเงิน สำรองเพื่อสร้างเงินชั้นถัดไปได้ เช่น เมื่อก่อน ใช้ทองคำ เพื่อสร้างตั๋วแลกทองคำ จากนั้นก็สร้างเงิน เพื่อแลกเปลี่ยนกับตั๋วแลกทองคำอีกที (3ชั้นเข้าไปละ) ตอนนี้พฤติกรรมของ bitcoin มันกำลังมุ่งไปสู่ทางนั้น
14. ล่าสุด USA เพิ่มการบริการ ETF ของ Bitcoin SPOT นั่นเป็นเครื่องหมายนึงว่า "มันเป็นทรัพย์สิน" อย่างนึง เหมือนกันที่ได้รับการรับรองตามกฎหมาย
15. สำหรับการเข้าใจว่า ransomware รับ bitcoin แล้วตามตัวได้ยากนั้น ขอให้คิดใหม่อีกที เพราะหลายคดีถูกจับ เนื่องจากการรับด้วย bitcoin นี่แหล่ะ ธุรกรรมใน bitcoin 100% เปิดเผยทั้งหมด และไม่มีการถูกลบออกด้วย ถ้าคนที่เข้าใจ Bitcoin จริงๆ เค้าจะไม่ใช้กัน พวกคดีใหญ่ๆ ไม่รอดสักรายโดนจับเรียบ เค้าย้ายไปใช้ privacy coin กันหมดแล้ว จน privacy coin ก็โดนไล่แบนจาก exchange ต่างๆไปเยอะมากแล้ว ล่าสุด ตัวเลขประกาศออกมาก็ชัดเจนว่าเงินสดถูกใช้ในขบวนการผิดกฏหมาย มากกว่า bitcoin หลายเท่าตัวมาก ซึ่งมันเป็นแบบนั้นแหล่ะ
16. คิดว่าของดีขนาดนี้ ผู้ค้าทองคำ ที่เสียผลประโยชน์ กลุ่มการเมือง การเงิน การธนาคาร อยากทำลายมันมั้ย? แน่นอน อยากทำลายให้สิ้นซาก มานานมากแล้วด้วย แต่มันทำไม่ได้ เพราะอะไร ตรงนี้อธิบายยาว ไปลองหาอ่านศึกษาเอง จะได้เข้าใจ แต่ถ้ายังมีความคิดว่า มันทำลายได้ง่าย แค่กลุ่มเงินทุนใหญ่ลองสักทีก็พังแล้ว ลองไปหาอ่านศึกษาใหม่อีกที ย้ำเลย ถ้ายังเข้าใจแบบนั้น แปลว่ายังไม่เข้าใจไม่ใช่ว่าเราเห็นต่างกันนะ แต่ว่ายังไม่เข้าใจการทำงานของมันอย่างจริงจัง ว่ามันต้องใช้เงินเยอะขนาดไหน และ ต้องใช้เวลา พลังงาน เยอะขนาดไหน ในการทำลายมัน
17. ตัดอินเตอร์เน็ตทั่วโลกพร้อมกันก็ทำลายได้แล้ว? ไม่ใช่เลย มันแค่หยุดชั่วคราว internet มาก็ทำงานต่อเลย ทุกอย่างมีระบบตรวจสอบภายในทั้งหมดแล้ว แต่ธนาคาร ตู้ ATM อาหารการกิน การใช้เงินโอน ที่น่าห่วงกว่านะ ยังไงต้องมีการจราจลแน่นอน ตอนนั้นไม่ต้องห่วง Bitcoin หรอก เอาชีวิตตัวเองให้รอดให้ได้ก่อน สำคัญกว่าเยอะ
18."ใช้เป็นที่เก็บสะสมมูลค่า สะสมความมั่งคั่ง"แล้วราคาตก ไม่ขาดทุนบักโกรกรึ? ตอบ : เนื่องจากมันเป็นสินทรัพย์ ก็เอามันไปจำนำไว้ ใน DeFi เหมือนทองราคาตก ก็จำนำไว้ในโรงรับจำนำ มีเงินเมื่อไร ก็ไปไถ่คืน เพื่อให้เอามาขายตอนที่มันสูงเกินทุน แค่นั้นเอง ทรัพย์สินทุกอย่าง มันไม่มีขึ้นแล้วไม่ลง หรือ ลงแล้วไม่ขึ้น ไปดูราคาทองก็ได้ 2011 ก็ลงไปยาวๆ จน 2015 กว่าจะกลับขึ้นมาเท่าเดิมก็ปี 2020 นี่ แต่มันก็กลับขึ้นมาได้ (และสูงกว่าเดิมด้วย) แต่ก่อนหน้านั้น ราคาทอง ก็ขึ้นมายาว 10 ปี ตั้งแต่ 2001 เหมือนกันนะ นี่คือชี้ให้เห็นว่า ไม่มีอะไรที่ขึ้น แล้วขึ้นตลอดไป ขึ้นต้องมีลง ลงก็ต้องมีขึ้น เป็นปกติ ธรรมชาติ
สำหรับคนที่เข้าใจ และใช้งานเป็น การแปลงจาก Bitcoin ที่เก็บใน Bitcoin network จนมาเป็นเงินบาทอยู่ในบัญชีได้ ใช้เวลาไม่เกิน 20 นาทีแน่นอน
สำหรับคนที่เก็บทองแท่ง หยิบเอาทองแท่งไปโรงรับจำนำใช้เวลา 20 นาที พึ่งจะถึงหน้าโรงรับจำนำเอง ยังไม่ได้เงินเลย
19. คนขุดจะได้ bitcoin น้อยลงเรื่อยๆ กำลังขุดในอนาคตจะลดลงเรื่อยๆ > ลองไปดูตัวเลขจริงก่อน กำลังขุดระยะยาว เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และ คนขุด ก็ได้เงินจากการปิด block + เงิน transaction fee จากธุรกรรมด้วย มีคำอธิบายเชิงเศรษฐศาสตร์ด้วยนะ แต่มันยาววววว ลองไปหาข้อมูลดูใหม่อีกทีก่อน คีย์หลัก ก็คือ "เครื่องขุดมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ในรุ่นใหม่ที่ออก" + "การค้นหาพลังงานไฟฟ้า ที่มีต้นทุนต่ำลง" + "ค่าธรรมเนียมธุรกรรมที่สูงขึ้น" ห้อยท้ายด้วย ราคาที่เพิ่มขึ้น ตามหลัก stock to flow
20. มีเงินทุน เปิดเหมือง ระดมทุน คุณรวย สุดท้ายไปไม่รอด ปิดเหมือง หอบเงินหนี > กรณีนี้คุณ scam โดยใช้ BTC เป็นข้ออ้าง ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ bitcoin เลย มันเป็นเหยื่อด้วยซ้ำ don't blame the victim แต่ BTC ได้ประโยชน์ตรงได้กำลังขุดมาเพิ่ม "เสริมความแข็งแกร่ง" ไม่ใช่ทำลาย ต้องแยกเรื่องออกให้ดีๆ
21. มันย้ายข้ามประเทศได้ง่าย หลายคนยังไม่รู้ว่า ทองคำแท่ง ห้ามเอาออกโดยไม่ได้รับอนุญาต และหลายประเทศก็ห้ามนำเข้าโดยไม่ได้รับอนุญาตด้วยเช่นกัน ตรวจเจอ โดนยึด โดยปรับ ดีไม่ดี จะติดคุกด้วย
22.เงิน fiat ที่เราใช้ ข้อดีคือ สภาพคล่องสูงมาก ซื้อลูกอม ก๋วยเตี๋ยวได้ ใช้สะดวกไม่มีค่าธรรมเนียมโอน มูลค่าก็ไม่ผันผวน ซึ่งถูกแล้ว และมันต้องเป็นแบบนั้น
Bitcoin ไม่ได้จะทำลาย Fiat ที่ถูกต้องคือ มันจะต้องไปด้วยกัน จะเกิดมาทำลายกันทำไม Bitcoin เอาไว้เก็บ เอาไว้สะสม ถึงเวลาใช้ก็แปลงมาเป็น Fiat ซึ่งมันก็ควรมีสภาพคล่องในระดับที่ดีด้วย (ทุกวันนี้ก็ดีแล้วนะ)
ส่วนเงิน fiat ทำอะไรได้หลายอย่างอยู่แล้ว ก็ทำต่อไปนั่นแหล่ะ
แต่ต้องไม่ลืมนะ ว่า fiat มีเงินเฟ้อเป็นบวกเรื่อยๆ ในระยะยาว
หมายความว่าจำนวนที่เรามีเท่าเดิม เมื่อเวลาผ่านไป อำนาจในการซื้อมันลดลงเอง ตามเงินเฟ้อ
และด้วยอำนาจ ในการพิมพ์เงิน มันก็จะยิ่งทำให้เฟ้อมากขึ้นไปอีก
บางทีเงินเฟ้อเราดูแต่ตัวเลขประกาศอย่างเดียวไม่ได้ เราดูราคาข้าวของที่เราจ่ายจริงๆในชีวิตประจำวันด้วย ว่ามันวิ่งเร็วกว่าตัวเลขประกาศขนาดไหน
ลองเปลี่ยนมุมมองใหม่นะ
กำหนดให้ ทอง กับ bitcoin ราคามันไม่เปลี่ยนแปลงเลย
แต่ถ้าเงิน fiat มูลค่ามันเฟ้อไปเอง ฝั่งเดียว ทองกับ bitcoin ก็แพงขึ้นมาเฉยๆ เหมือนราคาก๋วยเตี๋ยวที่เราซื้อในราคาชามละ 5 สตางค์ไม่ได้แล้วในปัจจุบันนี้ แตกต่างจากที่ จอมพล ป เคยบอกไว้ว่า มี 1 บาท คนไทยจะซื้อก๋วยเตี๋ยวกินได้เสมอ
นั่นคือความจริง ไม่ใช่การใส่ร้ายแต่อย่างใด ลองดูตัวเลขสมการใหม่ดีๆแล้วจะเข้าใจ
23.คนถือ bitcoin ไม่ได้เกลียด fiat เพราะเค้ายังต้องใช้ชีวิตด้วย fiat แต่เค้าแค่รู้สึกว่า fiat มันไม่แฟร์ เพราะเงินที่ถูกพิมพ์เพิ่ม มันไปตกอยู่กับกลุ่มคนแค่ไม่กี่กลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากการพิมพ์
ดังนั้น คนถือ bitcoin เค้าคือตัวแทนคนทั่วไป ที่ออกมาเรียกร้องความถูกต้อง เป็นธรรม โดยบอกให้เข้าใจว่าเงิน fiat มันไม่ดีอย่างไร เพื่อหวังให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เพราะเค้าก็คือคนที่ได้รับผลกระทบด้วยไง (เพราะใช้ fiat อยู่)
แต่คนส่วนใหญ่กลับปาขี้ใส่คนกลุ่มที่ช่วยเรียกร้องความเป็นธรรม มันก็ดูแปลกๆอยู่นะ เพราะทุกคนที่ใช้ fiat ได้รับผลกระทบหมด
จะว่ามือไม่พายเอาเท้าราน้ำ ก็อาจจะรุนแรงไป แต่ก็เข้าใจ ด้วยระดับความรู้ ความเข้าใจที่ยังแตกต่างกัน ก็เอา fact มา debate กันสิ แบบนี้ ประเทศจะได้เจริญ
Bitcoin มันโชว์ fact ไปเยอะแล้ว แต่ฝั่ง fiat เองต่างหาก ที่ไม่อยากเอา fact มาโชว์
ทุกวันนี้ ทองคำสำรองในไทย เก็บไว้ที่ไหนบ้าง มีอยู่จริงมั้ย ยังไม่มีใครรู้เลย และไม่บอกด้วย แต่ bitcoin ใครถือเท่าไร เคลื่อนย้ายยังไง โค้ดเขียนไว้แบบไหน รู้กันทั้งโลกอ่ะ
นี่ยังไม่นับว่า ตั๋วแลกทองที่เราถือ ถ้าถึงวันที่เราไปขอรับคืน แล้วเค้าชัดดาบ เราจะทำยังไงกันดี เพราะคนที่ออกตั๋วให้เรา ก็มีประวัติชักดาบมาเรื่อยๆด้วยสิ ล่าสุด พึ่งชักดาบไปไม่กี่ปี่นี้เอง
24.ถ้ายุคที่เงิน fiat มันแข็งแรง โปร่งใสเท่าเทียม เป็นธรรม อย่างในยุคที่ใช้ gold standard กัน เมื่อนั้น "bitcoin จะตาย 100% เพราะไม่มีเหตุผลในการอยู่ต่อไปของ bitcoin อีกแล้ว" แค่นี้เอง ถ้าต้องการทำลาย Bitcoin มันเกิดมา เพื่อเหตุผลง่ายๆแค่นี้แหล่ะ แต่ย้อนไปอ่านดีๆ จะทำให้เกิดสิ่งนั้นได้จริงมั้ย ยังไง คนเสียผลประโยชน์จากการพิมพ์เงินมาตลอด จะยอมมั้ย นี่ต่างหาก คือสิ่งที่ Bitcoin มันสู้อยู่ มันไม่ได้มาสู้ fiat คนละเรื่องกัน ถึงได้บอก ถ้าทันทำลายง่ายๆ จมดินไปนานแล้ว
เรามีหน้าที่แค่ศึกษา และ เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเอง นั่นก็ดีมากเกินพอแล้ว
ยินดีที่จะ discuss ด้วย fact ครับ
2. ผมก็เคยไม่เข้าใจ Bitcoin เข้าใจว่ามันเป็นแค่ตัวเลข digital ที่คนให้ค่าแค่นั้นเลย มันเลยมีราคา และ ซื้อขายกันราคาก็เลยผันผวน แต่เมื่อได้ศึกษาลงไปจริงๆ ที่มากกว่าแค่ White paper ตัวเดียวนั้น มันมีรายละเอียดเยอะกว่านั้นมาก
3. จริงอยู่ว่า ตอนที่มันถูกสร้าง มันถูกสร้างขึ้นมาให้ทดแทนเงิน อย่างที่เรารู้จักกัน แต่ว่าโครงสร้างที่มันสร้าง และข้อกำหนดต่างๆในโค้ดของมัน ดันไปใกล้เคียงกับ ทองคำ เสียมากกว่า
4.พอมันเป็นแบบนั้นแล้ว หน้าที่ของมันแทนที่จะเป็นเงิน ก็เลยดันเปลี่ยนไปคล้ายทองคำ นั่นคือ เป็นที่เอาไว้เก็บมูลค่า หรือเก็บความมั่งคั่ง เปรียบง่ายๆว่า เวลาเราซื้อทองแท่ง เราต้องการเก็บมูลค่า ความมั่งคั่งเอาไว้ในทองแท่ง ไม่ได้เอาทองแท่งมาซื้อก๋วยเตี๋ยว
5.นักพัฒนาก็พยายามรักษาเส้นทางนี้เอาไว้ด้วยนะ โดยการพยายาม ไม่เปลี่ยนตัว bitcoin เอง ที่มันทำธุรกรรมได้ช้ามากๆ นาน 10 นาที และ รองรับธุรกรรมได้น้อยมาก แค่ประมาณ 7 tx ต่อวินาที ไม่ใช่ว่านักพัฒนาเค้าไม่รู้ เค้ารู้ และรักษาให้มันเป็นแบบนี้ เพราะเราคงไม่เอาทองแท่งมาซื้อก่วยเตี๋ยว แต่ว่าเราเอาทองแท่งไปจำนำ ไปขายเปลี่ยนเป็นเงิน ซึ่งมันทำได้ แต่ไม่ใช่สิ่งที่จะทำกันบ่อยๆ
6.หลักการที่ต้องยึดถือของมัน มีไม่กี่ข้อ ที่ห้ามถูกทำลายหรือเปลี่ยนแปลง และถึงวันนี้ ยังไม่เปลี่ยนแปลงไป คือ
- ไม่มีใครแอบสร้างขึ้นมาใหม่ได้
- ใครที่เป็นเจ้าของแล้ว จะเป็นเจ้าของตลอดไป ไม่มีใครมาแอบเอาไป ยึด อายัด ได้
- กำลังการผลิตคงที่ และลดลงทุกๆประมาณ 4 ปี
- ทุกธุรกรรมเปิดเผยทั้งหมด ชัดเจน โปร่งใส และไม่มีถูกลบออกตั้งแต่วันแรกที่สร้างขึ้นมาจนวันนี้
- คนที่จะได้มาไม่เคยมีคำว่าฟรี ต้องจ่ายค่าไฟ ค่าอุปกรณ์ ในการขุดมาทั้งนั้น
- จำนวนสูงสุดที่จะมีในระบบคือ 21 ล้าน Bitcoin โดย 1 Bitcoin มี 100,000,000 หน่วยย่อย เรียกว่า satoshi (ปัจจุบันปล่อยมาหมุนเวียน 19 เกือบ 20 ล้านแล้ว)
- ทำลายได้ยาก
แถม ถ้าใครสามารถสร้าง bitcoin ของจริงได้ฟรี ติดต่อผมหลังไมค์ ผมให้ค่าครู 4 ล้านบาท พร้อมจ่าย (ราคาตลาด ณ วันนี้ ประมาณ 1.9 ล้านบาท ต่อ 1 BTC) พร้อมอธิบายหลักการสร้าง bitcoin ฟรีมาให้ผมด้วย เพื่อให้ผมเอาไปสร้างฟรีได้เอง ถ้าพิสูจน์ได้จริง ไม่ต้องห่วงผม ผมมีวิธีทำกำไรได้มากกว่านั้นแน่นอน
ต้องจำเรื่องพวกนี้ไว้ให้ดีๆ หลักการเหล่านี้ คือตัวชี้ความเป็นความตายของมัน
7. ดังนั้น มันไม่ใช่แค่เลข digital อย่างที่เราเข้าใจกันโดยทั่วไป เพราะหลักการข้อ 6
8. ดังนั้น มันไม่ใช่ใครอยากสร้าง ก็สร้างได้ฟรี (ผมรับซื้อราคา 2x ถ้าสร้างได้ฟรี)
9. ดังนั้น ใครครอบครองมันแล้ว ไม่มีใครมายึด อายัด มันได้ตลอดไป มันจะเป็นของคุณตลอดไป
10. ดังนั้น ใครได้ครอบครอง ก็จะเป็นเจ้าของตามสัดส่วน ใน 21 ล้าน Bitcoin นั่นแหล่ะ มันมีสูงสุดเท่านั้น
11. มันจึงเหมือนทองคำเข้าไปทุกที ส่วนเรื่องความผันผวนของราคา ก็เป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าใครอ่านกราฟราคาออก จะเห็นว่า ความผันผวนของมันมีค่าลดต่ำลงเรื่อยๆ ตามระยะเวลาที่ผ่านไป
12. ตอบคำถาม "ใช้ประโยนช์อะไรที่เห็นจับต้องได้" คำตอบ "ใช้เป็นที่เก็บสะสมมูลค่า สะสมความมั่งคั่ง" ในฐานะเงินที่ดี ตามหลักการของเงินที่ดีที่ควรจะเป็น นั่นคือหน้าที่หลัก
13.บริบทของเงิน ไมได้มีมิติเดียวอย่างที่หลายคนเข้าใจ คือเอามาเก็บในกระเป๋ารอใช้ซื้อก่วยเตี๋ยว (จริงๆตอนนี้ ใช้ bitcoin ซื้อก่วยเตี่ยวได้ ด้วยโอนเร็ว โอนถูก ผ่าน lightning network ที่ทำงานเหมือน bitcoin layer2) แต่มันใช้เป็นเงิน สำรองเพื่อสร้างเงินชั้นถัดไปได้ เช่น เมื่อก่อน ใช้ทองคำ เพื่อสร้างตั๋วแลกทองคำ จากนั้นก็สร้างเงิน เพื่อแลกเปลี่ยนกับตั๋วแลกทองคำอีกที (3ชั้นเข้าไปละ) ตอนนี้พฤติกรรมของ bitcoin มันกำลังมุ่งไปสู่ทางนั้น
14. ล่าสุด USA เพิ่มการบริการ ETF ของ Bitcoin SPOT นั่นเป็นเครื่องหมายนึงว่า "มันเป็นทรัพย์สิน" อย่างนึง เหมือนกันที่ได้รับการรับรองตามกฎหมาย
15. สำหรับการเข้าใจว่า ransomware รับ bitcoin แล้วตามตัวได้ยากนั้น ขอให้คิดใหม่อีกที เพราะหลายคดีถูกจับ เนื่องจากการรับด้วย bitcoin นี่แหล่ะ ธุรกรรมใน bitcoin 100% เปิดเผยทั้งหมด และไม่มีการถูกลบออกด้วย ถ้าคนที่เข้าใจ Bitcoin จริงๆ เค้าจะไม่ใช้กัน พวกคดีใหญ่ๆ ไม่รอดสักรายโดนจับเรียบ เค้าย้ายไปใช้ privacy coin กันหมดแล้ว จน privacy coin ก็โดนไล่แบนจาก exchange ต่างๆไปเยอะมากแล้ว ล่าสุด ตัวเลขประกาศออกมาก็ชัดเจนว่าเงินสดถูกใช้ในขบวนการผิดกฏหมาย มากกว่า bitcoin หลายเท่าตัวมาก ซึ่งมันเป็นแบบนั้นแหล่ะ
16. คิดว่าของดีขนาดนี้ ผู้ค้าทองคำ ที่เสียผลประโยชน์ กลุ่มการเมือง การเงิน การธนาคาร อยากทำลายมันมั้ย? แน่นอน อยากทำลายให้สิ้นซาก มานานมากแล้วด้วย แต่มันทำไม่ได้ เพราะอะไร ตรงนี้อธิบายยาว ไปลองหาอ่านศึกษาเอง จะได้เข้าใจ แต่ถ้ายังมีความคิดว่า มันทำลายได้ง่าย แค่กลุ่มเงินทุนใหญ่ลองสักทีก็พังแล้ว ลองไปหาอ่านศึกษาใหม่อีกที ย้ำเลย ถ้ายังเข้าใจแบบนั้น แปลว่ายังไม่เข้าใจไม่ใช่ว่าเราเห็นต่างกันนะ แต่ว่ายังไม่เข้าใจการทำงานของมันอย่างจริงจัง ว่ามันต้องใช้เงินเยอะขนาดไหน และ ต้องใช้เวลา พลังงาน เยอะขนาดไหน ในการทำลายมัน
17. ตัดอินเตอร์เน็ตทั่วโลกพร้อมกันก็ทำลายได้แล้ว? ไม่ใช่เลย มันแค่หยุดชั่วคราว internet มาก็ทำงานต่อเลย ทุกอย่างมีระบบตรวจสอบภายในทั้งหมดแล้ว แต่ธนาคาร ตู้ ATM อาหารการกิน การใช้เงินโอน ที่น่าห่วงกว่านะ ยังไงต้องมีการจราจลแน่นอน ตอนนั้นไม่ต้องห่วง Bitcoin หรอก เอาชีวิตตัวเองให้รอดให้ได้ก่อน สำคัญกว่าเยอะ
18."ใช้เป็นที่เก็บสะสมมูลค่า สะสมความมั่งคั่ง"แล้วราคาตก ไม่ขาดทุนบักโกรกรึ? ตอบ : เนื่องจากมันเป็นสินทรัพย์ ก็เอามันไปจำนำไว้ ใน DeFi เหมือนทองราคาตก ก็จำนำไว้ในโรงรับจำนำ มีเงินเมื่อไร ก็ไปไถ่คืน เพื่อให้เอามาขายตอนที่มันสูงเกินทุน แค่นั้นเอง ทรัพย์สินทุกอย่าง มันไม่มีขึ้นแล้วไม่ลง หรือ ลงแล้วไม่ขึ้น ไปดูราคาทองก็ได้ 2011 ก็ลงไปยาวๆ จน 2015 กว่าจะกลับขึ้นมาเท่าเดิมก็ปี 2020 นี่ แต่มันก็กลับขึ้นมาได้ (และสูงกว่าเดิมด้วย) แต่ก่อนหน้านั้น ราคาทอง ก็ขึ้นมายาว 10 ปี ตั้งแต่ 2001 เหมือนกันนะ นี่คือชี้ให้เห็นว่า ไม่มีอะไรที่ขึ้น แล้วขึ้นตลอดไป ขึ้นต้องมีลง ลงก็ต้องมีขึ้น เป็นปกติ ธรรมชาติ
สำหรับคนที่เข้าใจ และใช้งานเป็น การแปลงจาก Bitcoin ที่เก็บใน Bitcoin network จนมาเป็นเงินบาทอยู่ในบัญชีได้ ใช้เวลาไม่เกิน 20 นาทีแน่นอน
สำหรับคนที่เก็บทองแท่ง หยิบเอาทองแท่งไปโรงรับจำนำใช้เวลา 20 นาที พึ่งจะถึงหน้าโรงรับจำนำเอง ยังไม่ได้เงินเลย
19. คนขุดจะได้ bitcoin น้อยลงเรื่อยๆ กำลังขุดในอนาคตจะลดลงเรื่อยๆ > ลองไปดูตัวเลขจริงก่อน กำลังขุดระยะยาว เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และ คนขุด ก็ได้เงินจากการปิด block + เงิน transaction fee จากธุรกรรมด้วย มีคำอธิบายเชิงเศรษฐศาสตร์ด้วยนะ แต่มันยาววววว ลองไปหาข้อมูลดูใหม่อีกทีก่อน คีย์หลัก ก็คือ "เครื่องขุดมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ในรุ่นใหม่ที่ออก" + "การค้นหาพลังงานไฟฟ้า ที่มีต้นทุนต่ำลง" + "ค่าธรรมเนียมธุรกรรมที่สูงขึ้น" ห้อยท้ายด้วย ราคาที่เพิ่มขึ้น ตามหลัก stock to flow
20. มีเงินทุน เปิดเหมือง ระดมทุน คุณรวย สุดท้ายไปไม่รอด ปิดเหมือง หอบเงินหนี > กรณีนี้คุณ scam โดยใช้ BTC เป็นข้ออ้าง ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ bitcoin เลย มันเป็นเหยื่อด้วยซ้ำ don't blame the victim แต่ BTC ได้ประโยชน์ตรงได้กำลังขุดมาเพิ่ม "เสริมความแข็งแกร่ง" ไม่ใช่ทำลาย ต้องแยกเรื่องออกให้ดีๆ
21. มันย้ายข้ามประเทศได้ง่าย หลายคนยังไม่รู้ว่า ทองคำแท่ง ห้ามเอาออกโดยไม่ได้รับอนุญาต และหลายประเทศก็ห้ามนำเข้าโดยไม่ได้รับอนุญาตด้วยเช่นกัน ตรวจเจอ โดนยึด โดยปรับ ดีไม่ดี จะติดคุกด้วย
22.เงิน fiat ที่เราใช้ ข้อดีคือ สภาพคล่องสูงมาก ซื้อลูกอม ก๋วยเตี๋ยวได้ ใช้สะดวกไม่มีค่าธรรมเนียมโอน มูลค่าก็ไม่ผันผวน ซึ่งถูกแล้ว และมันต้องเป็นแบบนั้น
Bitcoin ไม่ได้จะทำลาย Fiat ที่ถูกต้องคือ มันจะต้องไปด้วยกัน จะเกิดมาทำลายกันทำไม Bitcoin เอาไว้เก็บ เอาไว้สะสม ถึงเวลาใช้ก็แปลงมาเป็น Fiat ซึ่งมันก็ควรมีสภาพคล่องในระดับที่ดีด้วย (ทุกวันนี้ก็ดีแล้วนะ)
ส่วนเงิน fiat ทำอะไรได้หลายอย่างอยู่แล้ว ก็ทำต่อไปนั่นแหล่ะ
แต่ต้องไม่ลืมนะ ว่า fiat มีเงินเฟ้อเป็นบวกเรื่อยๆ ในระยะยาว
หมายความว่าจำนวนที่เรามีเท่าเดิม เมื่อเวลาผ่านไป อำนาจในการซื้อมันลดลงเอง ตามเงินเฟ้อ
และด้วยอำนาจ ในการพิมพ์เงิน มันก็จะยิ่งทำให้เฟ้อมากขึ้นไปอีก
บางทีเงินเฟ้อเราดูแต่ตัวเลขประกาศอย่างเดียวไม่ได้ เราดูราคาข้าวของที่เราจ่ายจริงๆในชีวิตประจำวันด้วย ว่ามันวิ่งเร็วกว่าตัวเลขประกาศขนาดไหน
ลองเปลี่ยนมุมมองใหม่นะ
กำหนดให้ ทอง กับ bitcoin ราคามันไม่เปลี่ยนแปลงเลย
แต่ถ้าเงิน fiat มูลค่ามันเฟ้อไปเอง ฝั่งเดียว ทองกับ bitcoin ก็แพงขึ้นมาเฉยๆ เหมือนราคาก๋วยเตี๋ยวที่เราซื้อในราคาชามละ 5 สตางค์ไม่ได้แล้วในปัจจุบันนี้ แตกต่างจากที่ จอมพล ป เคยบอกไว้ว่า มี 1 บาท คนไทยจะซื้อก๋วยเตี๋ยวกินได้เสมอ
นั่นคือความจริง ไม่ใช่การใส่ร้ายแต่อย่างใด ลองดูตัวเลขสมการใหม่ดีๆแล้วจะเข้าใจ
23.คนถือ bitcoin ไม่ได้เกลียด fiat เพราะเค้ายังต้องใช้ชีวิตด้วย fiat แต่เค้าแค่รู้สึกว่า fiat มันไม่แฟร์ เพราะเงินที่ถูกพิมพ์เพิ่ม มันไปตกอยู่กับกลุ่มคนแค่ไม่กี่กลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากการพิมพ์
ดังนั้น คนถือ bitcoin เค้าคือตัวแทนคนทั่วไป ที่ออกมาเรียกร้องความถูกต้อง เป็นธรรม โดยบอกให้เข้าใจว่าเงิน fiat มันไม่ดีอย่างไร เพื่อหวังให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เพราะเค้าก็คือคนที่ได้รับผลกระทบด้วยไง (เพราะใช้ fiat อยู่)
แต่คนส่วนใหญ่กลับปาขี้ใส่คนกลุ่มที่ช่วยเรียกร้องความเป็นธรรม มันก็ดูแปลกๆอยู่นะ เพราะทุกคนที่ใช้ fiat ได้รับผลกระทบหมด
จะว่ามือไม่พายเอาเท้าราน้ำ ก็อาจจะรุนแรงไป แต่ก็เข้าใจ ด้วยระดับความรู้ ความเข้าใจที่ยังแตกต่างกัน ก็เอา fact มา debate กันสิ แบบนี้ ประเทศจะได้เจริญ
Bitcoin มันโชว์ fact ไปเยอะแล้ว แต่ฝั่ง fiat เองต่างหาก ที่ไม่อยากเอา fact มาโชว์
ทุกวันนี้ ทองคำสำรองในไทย เก็บไว้ที่ไหนบ้าง มีอยู่จริงมั้ย ยังไม่มีใครรู้เลย และไม่บอกด้วย แต่ bitcoin ใครถือเท่าไร เคลื่อนย้ายยังไง โค้ดเขียนไว้แบบไหน รู้กันทั้งโลกอ่ะ
นี่ยังไม่นับว่า ตั๋วแลกทองที่เราถือ ถ้าถึงวันที่เราไปขอรับคืน แล้วเค้าชัดดาบ เราจะทำยังไงกันดี เพราะคนที่ออกตั๋วให้เรา ก็มีประวัติชักดาบมาเรื่อยๆด้วยสิ ล่าสุด พึ่งชักดาบไปไม่กี่ปี่นี้เอง
24.ถ้ายุคที่เงิน fiat มันแข็งแรง โปร่งใสเท่าเทียม เป็นธรรม อย่างในยุคที่ใช้ gold standard กัน เมื่อนั้น "bitcoin จะตาย 100% เพราะไม่มีเหตุผลในการอยู่ต่อไปของ bitcoin อีกแล้ว" แค่นี้เอง ถ้าต้องการทำลาย Bitcoin มันเกิดมา เพื่อเหตุผลง่ายๆแค่นี้แหล่ะ แต่ย้อนไปอ่านดีๆ จะทำให้เกิดสิ่งนั้นได้จริงมั้ย ยังไง คนเสียผลประโยชน์จากการพิมพ์เงินมาตลอด จะยอมมั้ย นี่ต่างหาก คือสิ่งที่ Bitcoin มันสู้อยู่ มันไม่ได้มาสู้ fiat คนละเรื่องกัน ถึงได้บอก ถ้าทันทำลายง่ายๆ จมดินไปนานแล้ว
เรามีหน้าที่แค่ศึกษา และ เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเอง นั่นก็ดีมากเกินพอแล้ว
ยินดีที่จะ discuss ด้วย fact ครับ
แสดงความคิดเห็น
เอาจริงๆ นะครับเพื่อนๆ บิทคอยน์ ณ ตอนนี้ ใช้ประโยนช์อะไรที่เห็นจับต้องได้นอกจาก เรียกค่าไถ่แรนซั่มแวร์
คือผมก็ไม่ได้มีฟามรู้อะไรมากหรอกนะครับ ช่วงที่ บิทคอยน์ มาใหม่ๆ ซิงๆ ผมก็ตื่นเต้น รู้แบบตื้นๆ ว่า เป็นเทคโนบล็อกเชน ไม่รวมศูนย์ เข้ารหัสปลอดภัย โปร่งใส(รึเปล่า อันนี้ไม่ค่อยแน่ใจ) ชำระสินค้าบริการ ไม่ต้องผ่านธนาคาร
แต่พักหลังๆ ผมเจอบ่อยมาก พวก Hacker มันชอบเอามาขู่ขูดรีดค่าไถ่ข้อมูล แรนซั่มแวร์ แล้วให้โอนเป็น บิทคอยน์ ที่ผมเจอเห็นบ่อยแบบนี้จริงๆ
ช่วงยุคแรก ตื่น บิทคอยน์ ผมมองว่า ตอนช่วงแรก มันทำให้กระตุ้นเอาเทคโนบล็อกเชน มาใช้ชำระสินค้าบริการผ่านออนไลน์มากขึ้น ในรูปแบบ Wallet ต่างๆ ทำให้เข้าสู่ cashless society สังคงไร้เงินสดมากขึ้น อันนี้ที่ผมคิดว่าอาจจะเป็นผลพลอยได้มาจาก เทคโนบล็อกเชน แต่กับ บิทคอยน์ จากเทคโนบล็อกเชน เอาจริงๆ นะครับ ประโยชน์ที่ใช้ในสายขาวจริงๆ ผมยังไม่เห็นเป็นรูปธรรมเท่าไหร่ ออกแนวเทาๆ โดยเฉพาะพวก เรียกค่าไถ่แรนซั่มแวร์ เอาไว้ขู่โอนบิทคอนย์ และ เกร็งกำไร
แต่อย่างทองคำ นี่ผมคิดว่ามันยังจับต้องได้นะครับ เป็นสร้อยเป็นแท่งเป็นต่อนๆ
หรือผมเข้าไม่ถึงประโยชน์ของบิทคอยน์ เพื่อนๆ ท่านได้มีฟามรู้เรื่อง บิทคอยน์ ช่วยยกตัวอย่างให้เห็นภาพได้ไหมครับ ว่าประโยชน์สายขาว ไม่เทา เขาเอา บิทคอยน์ ไปใช้ประโยชน์งานอะไรกันบ้าง อย่างทองเขายังสามารถใส่แผงวงจรได้ หรือว่า บิทคอยน์ มันเหมือนเพชร ที่เป็นเครื่องประดับครับ แต่มันก็จับต้องไม่ได้อยู่ดี
เพื่อนๆ มีมุมมองอย่างไร ครับ
คือผมอาจจะฟามรู้เท่าหางอึ่ง เลยไม่รู้ว่ามันใช้ประโยชน์อย่างไรได้บ้าง ณ ตอนนี้ครับ