ข่าวเวปช่อง7
https://news.ch7.com/detail/705536ช
กาฬสินธุ์พบหมู่บ้านอาถรรพ์ มีกฎเหล็กตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ ฝ่าฝืนผิดผีทยอยตายปริศนา เดือนเดียว 15 คน บางคนเจ็บไข้ไม่รุนแรง นิมนต์พระสวดปัดเป่า ขึ้นป้ายประกาศกฎเหล็กหน้าหมู่บ้าน ไม่เชื่ออย่าลบหลู่
หมู่บ้านอาถรรพ์ ผิดผีทยอยเสียชีวิตปริศนา วันนี้ (11 ก.พ.67) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตามที่ได้รับแจ้ง พบหมู่บ้านแห่งหนึ่งใน ต.หัวหิน อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งอยู่ลึกเข้าไปจากถนนกว่า 30 กิโลเมตร และอยู่ท้ายเขื่อนลำปาว โดยหมู่บ้านแห่งนี้ ขึ้นป้ายข้อความกฎระเบียบหมู่บ้าน บนแผ่นป้ายเหล็กสีน้ำเงิน ตัวอักษรสีขาวขนาดใหญ่ ติดประกาศไว้บริเวณปากทางเข้าหมู่บ้าน เพื่อให้คนที่จะเดินทางเข้าหมู่บ้านสังเกตได้อย่างชัดเจน ดังนี้
“หยุดอ่านกฎระเบียบหมู่บ้าน
1.ห้ามไม่ให้เอาศพคนตายจากที่อื่นเข้าบ้าน
2.ห้ามฆ่าสัตว์สี่เท้าในเขตแดนของหมู่บ้าน
3. ห้ามสีข้าวหรือขนข้าวขึ้นยุ้งฉางในวันศีล 8-14-15
4. ห้ามนำหญ้าคาเข้ามาภายในหมู่บ้านในวันศีล 8-14-15
5. ห้ามขนฟืนเข้ามาในหมู่บ้านในวันศีล 8-14-15
6. ห้ามรถขนดิน หิน เข้ามาในหมู่บ้านในวันศีล 8-14-15
7. ห้ามขนถ่านเข้าบ้านในวันศีล 8-14-15
8. ห้ามแขวนขาวัวเข้ามาในหมู่บ้าน
9. ห้ามไม่ให้เผาถ่านในเขตหมู่บ้าน
นางคำอุ อายุ 62 ปี ชาวบ้าน บ้านโคกกลางเหนือ บอกว่า กฎหมู่บ้านนี้ถูกำหนดมามาตั้งแต่สมัยรุ่นพ่อรุ่นแม่ เริ่มแรก คือ มีคนในหมู่บ้านเสียชีวิตติดต่อกันหลายคน จนคิดว่าเป็นเรื่องผิดธรรมชาติ เจ้าอาวาสวัด ผู้นำชุมชนและชาวบ้านจึงได้หารือกัน ไปเสาะหาพระเกจิอาจารย์ที่มีวิชาอาคม มาทำพิธี “สูตรถอด” หรือทำบุญสะเดาะเคราะห์เพื่อล้างอาถรรพ์ให้กับหมู่บ้าน เป็นการปัดเป่าเสนียด
จากนั้นร่วมกันตั้งกฎระเบียบหมู่บ้าน 9 ประการ เพื่อให้ “คะลำ” หรือให้งด ให้ละเว้นการกระทำนั้นๆ ตามที่ปรากฏในแผ่นป้าย เหตุการณ์เสียชีวิตแบบผิดธรรมชาติจึงคลี่คลายไป ชาวบ้านก็ทำมาหากินตามปกติเรื่อยมาหลายสิบปี
นางคำอุ เล่าด้วยว่า เมื่อช่วงเดือน ม.ค.67 ที่ผ่านมา กลับมีเหตุการณ์คนในหมู่บ้านทยอยเสียชีวิตติดต่อกัน 15 ศพ ชาวบ้านก็ตื่นกลัวกัน เพราะบางคนเจ็บไข้ได้ป่วยไม่รุนแรง ไม่น่าจะเสียชีวิต ก็เสียชีวิตก่อนวัยอันควร และไม่ทราบสาเหตุ เหมือนเหตุการณ์ที่เคยเกิดก่อนตั้งกฎระเบียบหมู่บ้าน บางคนว่าน่าจะเกิด
อาถรรพ์ หรือเกิดจากกระทำผิดต่อผีพระภูมิเจ้าที่ เนื่องจากพฤติกรรมของผู้คนเปลี่ยนไปตามยุคสมัย อาจะละเมิด ฝ่าฝืนกฎ กระทำผิด ทั้งที่เจตนาและรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เจ้าอาวาสวัด ผู้นำชุมชน ได้ร่วมกันปรึกษาหารือและมีมตินิมนต์หลวงพ่อ วัดหนองผักแว่น มาประกอบพิธีกรรมล้างอาถรรพ์ จากนั้นขึ้นป้ายประกาศอีกครั้ง เพื่อให้คนในหมู่บ้านหรือคนที่จะเข้ามาในหมู่บ้านปฏิบัติตาม ทุกวันนี้เหตุการณ์ภายในหมู่บ้านจึงกลับสู่ภาวะปกติ
ด้านนางปัทมาภรณ์ ประทุมวัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านโคกกลางเหนือ หมู่ 5 กล่าวว่า นอกจากจะตั้งกฎเหล็ก หรือกฎระเบียบหมู่บ้าน 9 ประการแล้ว ในทางปฏิบัติหากพบบุคคลใด ไม่ว่าจะเป็นคนในหมู่บ้านหรือบุคคลภายนอกฝ่าฝืน เช่น ฆ่าสัตว์สี่เท้า สีข้าว ขนฟืน ขนหิน นำหญ้าคาเข้ามาในหมู่บ้านในวันต้องห้าม ก็จะถูกปรับเป็นเงิน 500 บาท เพื่อนำเงินพัฒนาวัด
นางปัทมาภรณ์กล่าวอีกว่า กฎระเบียบทั้ง 9 ข้อ มีความหมายที่ดี แฝงด้วยคติธรรม ไม่ต่างกับเป็นกุศโลบายให้ถือศีลกินเจ ไม่เบียดเบียนชีวิตผู้อื่น ไม่ทำลายธรรมชาติ ให้หาเวลาเข้าวัด ปฏิบัติธรรม ที่หากปฏิบัติตามก็จะเกิดผลดีต่อตนเองและชุมชน หากละเมิดก็ไม่ต่างกับการผิดผีบรรพบุรุษ โดยส่วนตัวเชื่อว่าไม่งมงาย ชาวบ้านโคกกลางเหนือทุกคนก็มีความเชื่อเช่นนี้ ทุกวันนี้จึงดำเนินชีวิตกันอย่างปกติสุข ดังนั้น ใครไม่เชื่ออย่าลบหลู่ เพราะอาจจะมีอันเป็นไปถึงแก่ชีวิตก็อาจเป็นได้
จริงหรือ หมู่บ้านอาถรรพ์ ฝืนกฎ-ผิดผี ทยอยตายปริศนาเดือนเดียว 15 คน
กาฬสินธุ์พบหมู่บ้านอาถรรพ์ มีกฎเหล็กตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ ฝ่าฝืนผิดผีทยอยตายปริศนา เดือนเดียว 15 คน บางคนเจ็บไข้ไม่รุนแรง นิมนต์พระสวดปัดเป่า ขึ้นป้ายประกาศกฎเหล็กหน้าหมู่บ้าน ไม่เชื่ออย่าลบหลู่
หมู่บ้านอาถรรพ์ ผิดผีทยอยเสียชีวิตปริศนา วันนี้ (11 ก.พ.67) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตามที่ได้รับแจ้ง พบหมู่บ้านแห่งหนึ่งใน ต.หัวหิน อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งอยู่ลึกเข้าไปจากถนนกว่า 30 กิโลเมตร และอยู่ท้ายเขื่อนลำปาว โดยหมู่บ้านแห่งนี้ ขึ้นป้ายข้อความกฎระเบียบหมู่บ้าน บนแผ่นป้ายเหล็กสีน้ำเงิน ตัวอักษรสีขาวขนาดใหญ่ ติดประกาศไว้บริเวณปากทางเข้าหมู่บ้าน เพื่อให้คนที่จะเดินทางเข้าหมู่บ้านสังเกตได้อย่างชัดเจน ดังนี้
“หยุดอ่านกฎระเบียบหมู่บ้าน
1.ห้ามไม่ให้เอาศพคนตายจากที่อื่นเข้าบ้าน
2.ห้ามฆ่าสัตว์สี่เท้าในเขตแดนของหมู่บ้าน
3. ห้ามสีข้าวหรือขนข้าวขึ้นยุ้งฉางในวันศีล 8-14-15
4. ห้ามนำหญ้าคาเข้ามาภายในหมู่บ้านในวันศีล 8-14-15
5. ห้ามขนฟืนเข้ามาในหมู่บ้านในวันศีล 8-14-15
6. ห้ามรถขนดิน หิน เข้ามาในหมู่บ้านในวันศีล 8-14-15
7. ห้ามขนถ่านเข้าบ้านในวันศีล 8-14-15
8. ห้ามแขวนขาวัวเข้ามาในหมู่บ้าน
9. ห้ามไม่ให้เผาถ่านในเขตหมู่บ้าน
นางคำอุ อายุ 62 ปี ชาวบ้าน บ้านโคกกลางเหนือ บอกว่า กฎหมู่บ้านนี้ถูกำหนดมามาตั้งแต่สมัยรุ่นพ่อรุ่นแม่ เริ่มแรก คือ มีคนในหมู่บ้านเสียชีวิตติดต่อกันหลายคน จนคิดว่าเป็นเรื่องผิดธรรมชาติ เจ้าอาวาสวัด ผู้นำชุมชนและชาวบ้านจึงได้หารือกัน ไปเสาะหาพระเกจิอาจารย์ที่มีวิชาอาคม มาทำพิธี “สูตรถอด” หรือทำบุญสะเดาะเคราะห์เพื่อล้างอาถรรพ์ให้กับหมู่บ้าน เป็นการปัดเป่าเสนียด จากนั้นร่วมกันตั้งกฎระเบียบหมู่บ้าน 9 ประการ เพื่อให้ “คะลำ” หรือให้งด ให้ละเว้นการกระทำนั้นๆ ตามที่ปรากฏในแผ่นป้าย เหตุการณ์เสียชีวิตแบบผิดธรรมชาติจึงคลี่คลายไป ชาวบ้านก็ทำมาหากินตามปกติเรื่อยมาหลายสิบปี
นางคำอุ เล่าด้วยว่า เมื่อช่วงเดือน ม.ค.67 ที่ผ่านมา กลับมีเหตุการณ์คนในหมู่บ้านทยอยเสียชีวิตติดต่อกัน 15 ศพ ชาวบ้านก็ตื่นกลัวกัน เพราะบางคนเจ็บไข้ได้ป่วยไม่รุนแรง ไม่น่าจะเสียชีวิต ก็เสียชีวิตก่อนวัยอันควร และไม่ทราบสาเหตุ เหมือนเหตุการณ์ที่เคยเกิดก่อนตั้งกฎระเบียบหมู่บ้าน บางคนว่าน่าจะเกิด
อาถรรพ์ หรือเกิดจากกระทำผิดต่อผีพระภูมิเจ้าที่ เนื่องจากพฤติกรรมของผู้คนเปลี่ยนไปตามยุคสมัย อาจะละเมิด ฝ่าฝืนกฎ กระทำผิด ทั้งที่เจตนาและรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เจ้าอาวาสวัด ผู้นำชุมชน ได้ร่วมกันปรึกษาหารือและมีมตินิมนต์หลวงพ่อ วัดหนองผักแว่น มาประกอบพิธีกรรมล้างอาถรรพ์ จากนั้นขึ้นป้ายประกาศอีกครั้ง เพื่อให้คนในหมู่บ้านหรือคนที่จะเข้ามาในหมู่บ้านปฏิบัติตาม ทุกวันนี้เหตุการณ์ภายในหมู่บ้านจึงกลับสู่ภาวะปกติ
ด้านนางปัทมาภรณ์ ประทุมวัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านโคกกลางเหนือ หมู่ 5 กล่าวว่า นอกจากจะตั้งกฎเหล็ก หรือกฎระเบียบหมู่บ้าน 9 ประการแล้ว ในทางปฏิบัติหากพบบุคคลใด ไม่ว่าจะเป็นคนในหมู่บ้านหรือบุคคลภายนอกฝ่าฝืน เช่น ฆ่าสัตว์สี่เท้า สีข้าว ขนฟืน ขนหิน นำหญ้าคาเข้ามาในหมู่บ้านในวันต้องห้าม ก็จะถูกปรับเป็นเงิน 500 บาท เพื่อนำเงินพัฒนาวัด
นางปัทมาภรณ์กล่าวอีกว่า กฎระเบียบทั้ง 9 ข้อ มีความหมายที่ดี แฝงด้วยคติธรรม ไม่ต่างกับเป็นกุศโลบายให้ถือศีลกินเจ ไม่เบียดเบียนชีวิตผู้อื่น ไม่ทำลายธรรมชาติ ให้หาเวลาเข้าวัด ปฏิบัติธรรม ที่หากปฏิบัติตามก็จะเกิดผลดีต่อตนเองและชุมชน หากละเมิดก็ไม่ต่างกับการผิดผีบรรพบุรุษ โดยส่วนตัวเชื่อว่าไม่งมงาย ชาวบ้านโคกกลางเหนือทุกคนก็มีความเชื่อเช่นนี้ ทุกวันนี้จึงดำเนินชีวิตกันอย่างปกติสุข ดังนั้น ใครไม่เชื่ออย่าลบหลู่ เพราะอาจจะมีอันเป็นไปถึงแก่ชีวิตก็อาจเป็นได้