นับเป็นข่าวร้ายล่าสุดที่สร้างความหดหู่ให้กับอุตสาหกรรมที่ปรึกษาซึ่งเป็นปีที่มืดมนอยู่แล้ว เมื่อ McKinsey & Company บริษัทที่ปรึกษายักษ์ใหญ่ของโลก ได้เตือนพนักงาน 3,000 คนให้ ‘เร่งปรับปรุงการทำงาน’ ภายใน 3 เดือน ไม่อย่างนั้นจะแนะนำให้ ‘ลาออก’
Bloomberg รายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวที่คุ้นเคยกับวงการที่ปรึกษาว่า McKinsey ได้จัดทำแบบประเมินผลงานโดยวัดระดับความน่ากังวล (Concern) เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยที่พนักงานจะได้รับมอบหมายงานและทำให้เกิดการพัฒนาหรือปรับปรุงการทำงานภายในเวลา 3 เดือน ซึ่งหากพนักงานไม่สามารถทำได้ตามเป้าหมาย บริษัทอาจเริ่มให้คำปรึกษาให้ลาออกจากบริษัท
ท่ามกลางสัดส่วนพนักงานที่มีคะแนน ‘ความน่ากังวล’ อยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา แต่จากจำนวนพนักงานของบริษัทที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หรือเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 45,000 คน หรือขึ้น 60% จาก 28,000 คน ในปี 2018 ก็ทำให้มีจำนวนพนักงานที่ถูกวัดระดับความน่ากังวลนี้มากกว่าในช่วงก่อนหน้า
การเคลื่อนไหวของ McKinsey & Company กำลังสะท้อนข้อเท็จจริงที่ว่าอุตสาหกรรมที่ปรึกษากำลังเข้าสู่ขาลงแล้ว หลังจากที่เติบโตอย่างมากในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด โดยสถานการณ์ล่าสุด บางบริษัทที่ปรึกษาที่ใหญ่ที่สุดของโลกยอมรับว่าลูกค้าใหม่ที่เพิ่มเข้ามาตัดสินใจเลื่อนการลงทุนระยะยาว เนื่องจากต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจมหภาคที่ไม่แน่นอน ซึ่งหมายความว่ามีงานน้อยลงสำหรับ Consultant ในการเข้าไปให้คำปรึกษากับบริษัท
ตัวอย่างเช่น Accenture Plc ที่เมื่อปีก่อนประกาศว่าจะลดตำแหน่งงาน 19,000 ตำแหน่ง Ernst & Young LLP ก็เพิ่งเปิดเผยเมื่อเดือนธันวาคมว่ากำลังลดตำแหน่ง และเลื่อนวันเริ่มงานสำหรับพนักงานใหม่ที่เพิ่งจ้างในสหรัฐฯ ในขณะที่ PricewaterhouseCoopers LLP ได้เปิดโปรแกรมลาออกโดยสมัครใจ
ขณะที่ด้าน McKinsey ก็มีแผนการลดพนักงานประมาณ 1,400 ตำแหน่งในปีที่แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่พนักงานที่ได้รับผลกระทบรอบนี้คือกลุ่มที่ไม่ได้ติดต่อประสานงานกับลูกค้าโดยตรง และมักจะเป็นฝ่ายสนับสนุน อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวในครั้งนี้ถือเป็นเรื่องที่ผิดปกติ เพราะ McKinsey จะไม่ค่อยปลดพนักงานที่ทำหน้าที่ให้คำปรึกษา
สำหรับ McKinsey & Company เป็นบริษัทที่ปรึกษาที่ก่อตั้งมาแล้ว 98 ปี และเติบโตจนมีผู้ให้คำปรึกษา หรือ Consultant ราว 30,000 คนทั่วโลก ซึ่งรวมถึงพันธมิตรมากกว่า 2,900 คน บริษัทมีสำนักงานมากกว่า 60 ประเทศทั่วโลก ซึ่งปีที่แล้วเพิ่งทำสถิติรายได้ 1.6 หมื่นดอลลาร์ หรือราว 5.6 แสนล้านบาท
เราได้รักษามาตรฐานการทำงานที่สูงอยู่เสมอ ตลอดจนดึงดูดและพัฒนาบุคลากรที่มีความสามารถโดดเด่น” โฆษกของ McKinsey กล่าวในแถลงการณ์ “สิ่งนี้รับประกันว่าเราสามารถให้บริการด้านการสนับสนุนที่โดดเด่นแก่ลูกค้าของเรา รวมทั้งการชี้นำแนวทางการพัฒนาความสามารถให้โดดเด่นของพนักงานของบริษัทด้วย”
อย่างไรก็ตาม มีรายงานจาก Business Insider ว่าคำเตือนหรือข้อแนะนำให้ ‘เร่งปรับปรุงการทำงาน’ นั้นไม่ใช่ความเป็นจริงทั้งหมด
“มีงานไม่เพียงพอสำหรับจำนวนผู้เชี่ยวชาญด้านการบริการลูกค้าในบริษัท” พนักงานรายหนึ่งเขียนบนเว็บไซต์เครือข่ายวิชาชีพ Fishbowl “นี่ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว ทุกคนอยู่ในโหมดการเอาตัวรอดกันทั้งนั้น”
เครดิตจาก The Standard
https://thestandard.co/mckinsey-warned-3000-employees-improve-work/
McKinsey เตือนพนักงาน 3,000 คนให้ ‘เร่งปรับปรุงการทำงาน’ ภายใน 3 เดือน ไม่อย่างนั้นถูกให้ ‘ลาออก’
นับเป็นข่าวร้ายล่าสุดที่สร้างความหดหู่ให้กับอุตสาหกรรมที่ปรึกษาซึ่งเป็นปีที่มืดมนอยู่แล้ว เมื่อ McKinsey & Company บริษัทที่ปรึกษายักษ์ใหญ่ของโลก ได้เตือนพนักงาน 3,000 คนให้ ‘เร่งปรับปรุงการทำงาน’ ภายใน 3 เดือน ไม่อย่างนั้นจะแนะนำให้ ‘ลาออก’
Bloomberg รายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวที่คุ้นเคยกับวงการที่ปรึกษาว่า McKinsey ได้จัดทำแบบประเมินผลงานโดยวัดระดับความน่ากังวล (Concern) เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยที่พนักงานจะได้รับมอบหมายงานและทำให้เกิดการพัฒนาหรือปรับปรุงการทำงานภายในเวลา 3 เดือน ซึ่งหากพนักงานไม่สามารถทำได้ตามเป้าหมาย บริษัทอาจเริ่มให้คำปรึกษาให้ลาออกจากบริษัท
ท่ามกลางสัดส่วนพนักงานที่มีคะแนน ‘ความน่ากังวล’ อยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา แต่จากจำนวนพนักงานของบริษัทที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หรือเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 45,000 คน หรือขึ้น 60% จาก 28,000 คน ในปี 2018 ก็ทำให้มีจำนวนพนักงานที่ถูกวัดระดับความน่ากังวลนี้มากกว่าในช่วงก่อนหน้า
การเคลื่อนไหวของ McKinsey & Company กำลังสะท้อนข้อเท็จจริงที่ว่าอุตสาหกรรมที่ปรึกษากำลังเข้าสู่ขาลงแล้ว หลังจากที่เติบโตอย่างมากในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด โดยสถานการณ์ล่าสุด บางบริษัทที่ปรึกษาที่ใหญ่ที่สุดของโลกยอมรับว่าลูกค้าใหม่ที่เพิ่มเข้ามาตัดสินใจเลื่อนการลงทุนระยะยาว เนื่องจากต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจมหภาคที่ไม่แน่นอน ซึ่งหมายความว่ามีงานน้อยลงสำหรับ Consultant ในการเข้าไปให้คำปรึกษากับบริษัท
ตัวอย่างเช่น Accenture Plc ที่เมื่อปีก่อนประกาศว่าจะลดตำแหน่งงาน 19,000 ตำแหน่ง Ernst & Young LLP ก็เพิ่งเปิดเผยเมื่อเดือนธันวาคมว่ากำลังลดตำแหน่ง และเลื่อนวันเริ่มงานสำหรับพนักงานใหม่ที่เพิ่งจ้างในสหรัฐฯ ในขณะที่ PricewaterhouseCoopers LLP ได้เปิดโปรแกรมลาออกโดยสมัครใจ
ขณะที่ด้าน McKinsey ก็มีแผนการลดพนักงานประมาณ 1,400 ตำแหน่งในปีที่แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่พนักงานที่ได้รับผลกระทบรอบนี้คือกลุ่มที่ไม่ได้ติดต่อประสานงานกับลูกค้าโดยตรง และมักจะเป็นฝ่ายสนับสนุน อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวในครั้งนี้ถือเป็นเรื่องที่ผิดปกติ เพราะ McKinsey จะไม่ค่อยปลดพนักงานที่ทำหน้าที่ให้คำปรึกษา
สำหรับ McKinsey & Company เป็นบริษัทที่ปรึกษาที่ก่อตั้งมาแล้ว 98 ปี และเติบโตจนมีผู้ให้คำปรึกษา หรือ Consultant ราว 30,000 คนทั่วโลก ซึ่งรวมถึงพันธมิตรมากกว่า 2,900 คน บริษัทมีสำนักงานมากกว่า 60 ประเทศทั่วโลก ซึ่งปีที่แล้วเพิ่งทำสถิติรายได้ 1.6 หมื่นดอลลาร์ หรือราว 5.6 แสนล้านบาท
เราได้รักษามาตรฐานการทำงานที่สูงอยู่เสมอ ตลอดจนดึงดูดและพัฒนาบุคลากรที่มีความสามารถโดดเด่น” โฆษกของ McKinsey กล่าวในแถลงการณ์ “สิ่งนี้รับประกันว่าเราสามารถให้บริการด้านการสนับสนุนที่โดดเด่นแก่ลูกค้าของเรา รวมทั้งการชี้นำแนวทางการพัฒนาความสามารถให้โดดเด่นของพนักงานของบริษัทด้วย”
อย่างไรก็ตาม มีรายงานจาก Business Insider ว่าคำเตือนหรือข้อแนะนำให้ ‘เร่งปรับปรุงการทำงาน’ นั้นไม่ใช่ความเป็นจริงทั้งหมด
“มีงานไม่เพียงพอสำหรับจำนวนผู้เชี่ยวชาญด้านการบริการลูกค้าในบริษัท” พนักงานรายหนึ่งเขียนบนเว็บไซต์เครือข่ายวิชาชีพ Fishbowl “นี่ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว ทุกคนอยู่ในโหมดการเอาตัวรอดกันทั้งนั้น”
เครดิตจาก The Standard
https://thestandard.co/mckinsey-warned-3000-employees-improve-work/